แชร์ประสบการณ์และรายละเอียดขอวีซ่าเยี่ยมเยียนเดนมาร์ก 2017

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ  หัวใจ

วันนี้จขกท.ขอมาแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าแชงเก้น ประเภทเยี่ยมเยียนประเทศเดนมาร์กค่ะ (Visiting Visa)
สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวและเตรียมเอกสารอยู่ บอกได้เลยว่า การเตรียมตัวล่วงหน้าให้เป๊ะ จะมีส่วนช่วยให้วีซ่าของเพื่อนๆผ่านได้ง่ายขึ้น
เนื่องจากว่าอย่างที่ทราบๆกัน การขอวีซ่าเชงเก้นแบบนักท่องเที่ยวปกติก็มีขั้นตอนหลายอย่างอยู่แล้ว การขอวีซ่าในกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียจะมีความเข้มงวดมากขึ้น แล้วถ้ายิ่งขอเป็นประเภทเยี่ยมเยียนนี่ยิ่งต้องมีเอกสารที่ต้องเตรียมซับซ้อนขึ้นไปอีกล่ะค่ะคุณขา
แต่อย่าได้กลัวค่ะ ใจพร้อม กายพร้อม เตรียมตัวมาพร้อม เอกสารพร้อม แล้วลุยหน้ากันเลย!!!

โดยจขกท.เองครั้งนี้ตั้งใจจะไปเยี่ยมแฟนที่เป็นคนเดนมาร์กสิ้นปีนี้ค่ะ
ยื่นขอวีซ่าไปในวันที่ 2 ต.ค. และเพิ่งได้รับวีซ่ามาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. นี้เอง
1 เดือนเต็มๆ ที่เราทำใจดีสู้เสือ รอ รอ รอ และรออย่างใจจดใจจ่อ คอยเข้าไปดูความคืบหน้าผ่าน website ที่ใช้ track Visa Status อยู่เรื่อยๆ

แต่ก็เจอแต่ข้อความที่ว่า "ใบคำขอของท่านถูกส่งไปยังสถานฑูตเดนมาร์กแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2560"
... เอิ่ม... ก็กุไปยื่นเอง... อันนี้กุก็รู้ละมั้ย... 555  ร้องไห้

เราเคยโทรไปสอบถามที่ call center ของ VFS ครั้งนึง หลังจากที่ยื่นไปได้ 1 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่ในสายก็น่ารักนะ พูดจาดี บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงพีคของทางโซนสแกน แต่ละเคสจึงใช้เวลาพิจารณาเกิน 15 วันทั้งนั้น ขอให้เราใจเย็นรอก่อน เราก็ค่ะๆ รับคำมา แต่ในใจก็ยังกังวลมากๆอยู่ดี


อ่ะที่นี้... มาดูเอกสารที่เราต้องเตรียมไปนะคะ
เราจะแบ่งเอกสารออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งเรา และเอกสารที่แฟนต้องเป็นคนเตรียม

เอกสารฝั่งเรา
•    รูปถ่ายติดใบคำร้อง 2 ใบ ขนาด 3.5 x 4.5 เซนติเมตร (ฉากหลังสีขาวเท่านั้น) โดยเราเลือกไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูปในวันที่ไปยื่นวีซ่าเลย ตรงชั้น 1 ใต้ตึก Trendy ที่ทำการ VFS 6 รูป 250 บาทค่ะ เพราะเห็นคนบ่นเรื่องความเข้มงวดของรูป ว่าเข้มงวดถึงขนาดมีการเอาไม้บรรทัดมาวัดขนาดศรีษะ เราเลย make sure ด้วยการไปถ่ายรูปที่หน้างาน คิดว่าอยู่ตรงนั้นเค้าน่าจะรู้เรื่องสุด หรือถ้าไม่รู้เรื่อง เราก็สามารถเดินลงไปด่าได้ทันควันเลย 555
•    หนังสือเดินทางตัวจริงทุกเล่ม (เล่มปัจจุบันต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือนจนถึงวันที่เดินทางกลับประเทศไทย และมีหน้าหนังสือเดินทางว่างอย่างน้อย 2 หน้าสำหรับสติ๊กเกอร์วีซ่า)
•    สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรกของทั้งเล่มปัจจุบันและเล่มเก่าทุกหน้า ขอย้ำว่าทุกหน้าที่มีรอยประทับทุกชนิดนะคะ เค้าจะได้เห็นว่าเราเคยเดินทางไปไหนมาบ้าง
•    สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรกเล่มปัจจุบันเพิ่มอีก 1หน้า
•    สำเนาทะเบียนบ้าน - สุดท้ายเค้าไม่เอา
•    สำเนาบัตรประชาชน  
•    หนังสือรับรองการทำงานตัวจริงและสำเนา ของเราให้บริษัทระบุช่วงวันที่ลางาน วันที่จะกลับมาทำงาน ตำแหน่งและเงินเดือนลงไปในจดหมายด้วย
•    สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด - สุดท้ายเค้าไม่เอา
•    สำเนา Bookbank อัพก่อนไป 1 วัน ของเราเอาเล่มที่เป็นบัญชีเงินเดือนไป และติดเล่มจริงไปด้วย ส่วนตัวเรา play safe ด้วยการมีเงินในบัญชีให้เห็นอยู่ประมาณ 50-60K ได้ค่ะ
•      Bank Statement ตัวจริง อันนี้ไปขอมาจากธนาคารโดยตรง เอาบัญชี่ที่มีเงินมากสุด ขอเราของจากธนาคารที่เป็นบัญชี่เงินเดือนไป ขอล่วงหน้าก่อนไปยื่นเอกสารประมาณ 4 วัน
•    สำเนาใบทวิ 50 ของปีที่แล้ว เพราะเราอยากแสดงให้เค้าเห็นว่าเรามีรายได้ประจำ - สุดท้ายเค้าไม่เอา
•    หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ โดยเราทำเป็น Powerpoint ประมาณ 10 หน้า ใส่ภาพถ่ายคู่กับแฟน ภาพจากทริปต่างๆ แล้วปริ้นใส่ A4 ไป
•    หลักฐานการติดต่อ โดยเราทำเป็น Powerpoint แปะรูปที่แคปเจอร์สกรีนเวลาแชต Line และโทร Line คุยกัน เอาแค่ตัวอย่างพอนะคะ เช่นแคปมาเดือนละรูปสองรูป ให้เห็นว่าเรามีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
•    จดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษ  อธิบายว่าเราเป็นใคร ตอนนี้ประกอบอาชีพอะไร เจอแฟนได้ยังไง จะไปกี่วัน และระบุสาเหตุว่าทำใมจะต้องกลับมาเมืองไทย โดยเราให้เหตุผลว่า เราต้องกลับมาดูแลแม่ มาทำงาน และผ่อนรถต่อ 555
•    สำเนาใบเสร็จผ่อนรถ 3 เดือนล่าสุด
•    เอกสารยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน แบบที่ยังไม่ได้จ่ายเงินนะคะ เอาแค่ใบจองไปยื่น โดยจะต้องเดินทางให้ตรงกับวันที่เรายื่นขอวีซ่า อันนี้เราให้ agency ที่สนิทกันออกให้ พอวีซ่าผ่าน เราก็หาโปรแล้วจองตั๋วจริงกับเค้าทีหลังค่ะ
•    เอกสารประกันสุขภาพการเดินทางที่ครอบคลุมการเดินทางในกลุ่มประเทศเชงเก้นจนถึงวันที่กลับประเทศไทย ตัวจริงและสำเนา 1 ชุด (ประกันต้องมีวงเงินคุ้มครองในกลุ่มประเทศเชงเก้นอย่างน้อย 30,000 ยูโร) เราใช้ของ Cigna ค่ะ
•    แบบฟอร์มคำขอ Schengen-Application-Form อันนี้ download มาจากเว็บไซด์แล้วกรอกไปให้เรียบร้อย
http://www.vfsglobal-denmark.com/thailand/iceland_boyfriendgirlfriend_visaapplicationform.html

*เอกสารของเราอย่าลืมเซ็นรับรองไปด้วยทุกอย่างทุกหน้านะคะ เขียนเลยว่า certified true copy แล้วเซ็นลายเซ็นกำกับด้วย


ทีนี้มาในฝั่งของผู้ชายกันบ้าง ทางแฟนเราได้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ค่ะ...

เอกสารฝั่งแฟนเตรียม
•    แฟนเราเลือกกรอกแบบฟอร์ม VU2 ผ่านทางระบบ online (ต้องให้เค้ากรอกค่ะ เพราะเป็นภาษาเดนมาร์ก)
https://www.nyidanmark.dk/en-us/forms/guide_to_online_application.htm

โดยเมื่อเค้ากรอกเสร็จ เค้าจะได้ code 8 หลักมาเป็น reference และเค้าจะต้องบอก code นี้กับเรา เพื่อในวันที่เราไปยื่นเอกสารกับ VFS เราจะต้องแจ้งเจ้าตัว code นี้ให้กับ VFS เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ของสถานฑูตเค้าไปเช็คข้อมูลของแฟนเราผ่านระบบ online บ้านเค้าอีกที  ในกรณีของเรา ตรงนี้พลาดไปนิดนึง คือเราทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะต้องมี code reference ตัวนี้ แฟนเราก็ยื่นแบบฟอร์ม online ไปตามเรื่อง แล้วปรินท์หน้าเอกสาร VU2 นี้ส่งเป็นไปรษณีย์มา สุดท้ายเอกสารนั้นก็ใช้ไม่ได้ เพราะไม่มี code มายืนยันการกรอกแบบ online อยู่ดี ในวันที่เราไปยื่นเอกสาร เราเลยต้องให้แฟนกรอกแบบฟอร์ม online ใหม่ เพื่อจะให้ได้ code reference มาค่ะ เสียเวลามากเลย
•      สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก และทุกหน้าที่เคยเดินทางเข้าประเทศไทย - เซ็นรับรองแล้วส่งตัวจริงมาทางไปรษณีย์เท่านั้น    
•    จดหมายเชิญภาษาอังกฤษ ที่เขียนระบุความสัมพันธ์ของเราและเค้า รู้จักกันได้ยังไง พบกันครั้งสุดท้ายที่ไหน แพลนคร่าวๆที่จะพาเราเที่ยว
และสำหรับของเรา แฟนเขียนในจดหมายเลยว่าจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องที่พัก และค่าใช้จ่ายระหว่างการอยู่ในเดนมาร์กให้กับเรา เรื่องราวในจดหมายนี้ เวลาเขียน อย่าลืม cross check ข้อมูลให้ตรงกันทั้ง 2 ฝ่ายด้วยนะคะ - เซ็นรับรองแล้วส่งตัวจริงมาทางไปรษณีย์เท่านั้น
•    สำเนา Tax summary 2016 ของเค้า เพื่อระบุรายได้ของเค้าค่ะ - เซ็นรับรองแล้วส่งตัวจริงมาทางไปรษณีย์เท่านั้น
•    หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ คุณแฟนเราก็อุตส่าห์แปะรูปคู่ใน word มาให้ 1 หน้า ซึ่งก็มีอยู่แค่ 3 รูป!!! 555อมยิ้ม17
พอเราบอกว่าเราทำ powerpoint ไปแล้ว 10 หน้า นางตกใจใหญ่ จริงๆส่วนนี้เราคิดว่าไม่จำเป็นนะ คิดว่ามีของเราก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ไหนๆ ก็ส่งไปรษณีย์มาแล้ว ก็เลยยื่นแนบไปด้วย - เซ็นรับรองแล้วส่งตัวจริงมาทางไปรษณีย์

**เอกสารของแฟน อย่าลืมให้เค้าเซ็นรับรองทุกหน้า และส่งมาทางไปรณีย์เท่านั้น ของเราใช้เวลาประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ในการเดินทางมาของจดหมายจากเดนมาร์กถึงกรุงเทพค่ะ (เราเลือกส่งปกติ ไม่ได้ส่งด่วน)


เมื่อได้เอกสารครบ ปักหมุดวันไปยื่นเอกสารแล้วก็มุ่งหน้าโลด โดยเราเลือกไปในวันจันทร์ช่วงเช้าและเป็นวันจากที่เงินเดือนเพิ่งเข้าไม่กี่วัน
เพื่อจะได้เห็นยอดเงินใน bank statement เต็มเม็ดเต็มหน่วยค่ะ

สำนักงาน VFS สำหรับประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ตั้งอยู่ชั้น 8 อาคาร Trendy แถวนานา
เราเลือกนั่ง BTS ไปลงสถานีนานา แล้วเดินไปเข้าซอย 13 อีกไม่ไกลค่ะ
วันนั้นเราไปถึงตอน 10.30 น. ได้ พอถ่ายรูปชั้นล่างเสร็จ ขึ้นไปถึง ก็ถือว่าคนไม่เยอะ รอคิวไม่นานเลย
ไปเสียเวลาเพราะเรื่อง Code VU2 ตามที่เล่าไปเมื่อกี้ ถ้าไม่ติดตรงนั้น เราว่าน่าจะใช้เวลาไม่ถึงชม.ก็น่าจะเรียบร้อยละค่ะ


อยากชมเชยน้องเจ้าหน้าที่คนนึงที่ VFS เป็นขุ่นน้องผช. ที่ช่วยเหลือเรา ให้ข้อมูลได้ดีมาก สุภาพเรียบร้อย และเป็นกันเอง
เนื่องจากในเคสเรา เราขาดแค่ code reference แต่น้องเห็นว่าเอกสารเราครบถ้วน เค้าไม่อยากให้มีจุดบกพร่องถ้าฝืนยื่นไปโดยไม่มี code
เพื่อที่วีซ่าจะได้ผ่านการพิจารณาได้ง่าย เลยบอกให้เราพยายามติดต่อแฟน เพื่อเอา code มาให้ได้ในวันนั้น จะได้ยื่นพร้องเอกสารทั้งหมดไปทีเดียว
โดยเค้าได้รับเรื่องของเราและทำเอกสารให้เราจนเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่เราเดินออกมาเจรจากับแฟนให้นางยื่นเอกสาร online ใหม่
ก่อนเดินกลับไปบอก code กับน้องเค้า ยังไงก็ต้องขอบคุณน้องเค้าจริงๆ ที่อธิบายชัดเจนและให้ความช่วยเหลือจนทำให้เราสามารถยื่นเอกสารทุกอย่างเสร็จได้ภายในวันเดียวกัน ถ้าน้องได้มาอ่านตรงนี้ พี่ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ อมยิ้ม36

สุดท้ายเราใช้เวลาเกือบ 2 ชม.ในการยื่นเอกสารตั้งแต่ต้นจนจบ เราเลือกให้เค้าส่ง EMS passport และวีซ่ากลับมาที่บ้าน
และสมัครรับ SMS เตือน status ด้วยว่าตอนนี้วีซ่าเราเสร็จรึยัง

แนะนำอีกอย่างเรื่องการแต่งตัวไปยื่นเอกสาร ส่วนตัวเราว่าภาพลักษณ์มีส่วนนะ จริงอยู่ว่าวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เจอกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตโดยตรง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ของ VFS เค้าอาจจะสามารถ note ได้ ว่าเรามาในสภาพแบบไหน น่าเชื่อถือรึเปล่า ก็ไม่ต้องถึงกับจัดเต็มประโคม brandname หรือแต่งตัวโชว์ฐานะหรือเรียบร้อยจนเว่อร์ไปหรอก แค่แต่งกายสุภาพและให้เกียรติสถานก็ดีที่สุดละค่ะ สำหรับเราตอนที่ไป เจ้าหน้าที่ทุกคนก็น่ารักและดูแลตามปกติ ก็ผ่านแต่ละคนแต่ละเสต็ปไปได้เรียบร้อย ตอนแรกเราเข้าใจว่าทุกคนน่าจะรู้ แต่วันนั้นไป เห็นบางคนแต่งตัวมาแบบไม่ให้เกียรติสถานที่เลย โป๊มาบ้าง นุ่งสั้นมาบ้าง หนีบอีแตะมาบ้าง เจ้าหน้าที่ก็เสียงเข้มใส่ตั้งแต่หน้าประตูเลยนะ ยังไงฝากไว้ด้วยนะคะ  

ตอนนี้เราได้วีซ่ามาแล้ว ก็ได้ตามที่ขอคือ 15 วันเป๊ะ แต่ขยายเวลาให้เราขยับเพื่อไปจองไฟลท์บินได้เกือบ 1 เดือน ก็ถือว่าโอเคนะคะ
ยังไงขอให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะเตรียมตัวไปขอวีซ่าโชคดีทุกคน ขอให้ผ่านและได้ไปหาคนที่รักได้สมใจค่ะ หลิ่วตา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่