เรามีพี่สาวคนหนึ่ง เป็นลูกคนละพ่อแต่พ่อเขาประสบอุบัติเหตุ เสียไปตั้งแต่เด็ก
เรากับพี่สาวไม่ได้เกลียดกัน แต่ว่าแกชอบเอาเราไปเททิ้งหลายครั้ง
ปกติเราอยู่กับพ่อแม่ พี่สาวแต่งงานแล้ว มีร้านขายของ แกจะชอบขอให้เราไปช่วยขาย
แต่ไปแล้วไม่ไหวคะ พี่สาวจะเที่ยวบ่อยมากจนคนแถวนั้นบอกว่า ทำไมพี่ไม่อยู่ร้านบ้าง
ปกติสามีแกจะดู แต่พี่สาวให้สามีออกทัวร์รถตู้ เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยได้อยู่ร้าน
เวลาชีวิตได้ดีมีความสุขไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมครอบครัวเลย ล่าสุดป่วย พ่อแม่เราช่วยออกเงินให้ไปรักษา
โดนคนโกง พ่อแม่เราก็ไปเคลียร์ให้ พอหายสบายดีก็เงียบไป วันหนึ่งแม่โทรไปถามว่าสบายดีไหม
แกบอกว่าไม่ต้องห่วง นั่งจิบกาแฟที่ลำปาง คือแกชอบเที่ยวอ่ะค่ะ กินของหรูทั้งที่ไม่ได้รวยมาก
แม่เราโทรหาแต่ละทีคือเสียความรู้สึก เวลาลูกมีความสุขแล้วไม่เคยนึกถึงแม่ เรากับพี่ชายก็เลยไม่ค่อยอะไรกับแก
ช่วงที่ไปอยู่กับพี่สาว
- เอาเราไปทำงาน บอกงานโรงเรียนนานาชาติ ไปกับรถตู้รับส่งนักเรียน คืองานไม่ได้ลำบากแต่เราบอกแล้วว่าเราไม่มีรถ
พี่ก็บอกพ่อแม่เราว่าจะดูแลให้ไม่ต้องห่วง เรากำลังรอเรียนต่อ พ่อแม่ก็เห็นว่าเป็นงานในโรงเรียนเลยให้ทำ
พอทำจริงคือต้องไปที่โรงเรียนตีห้าส่งนักเรียนเสร็จ แปดโมงกลับมาช่วยงานที่ร้าน สี่โมงไปที่โรงเรียนอีกเพื่อไปส่งนักเรียนกลับบ้าน
จนวันหนึ่งคนที่แกวานไปส่งเราลืมตื่นค่ะ เลยโทรหาพี่ว่าติดต่อให้หน่อย แกบอกไปเปิดเอาจักรยานที่ร้านไม่ก็เดินไป
เราก็บอกตีห้ามันมืดแล้วทางไปโรงเรียนมันเปลี่ยวมาก ต้องผ่านหมู่บ้านหนึ่ง ผ่านใต้สะพานลอย พี่ก็ตอบมาว่าแล้วจะให้พี่ช่วยยังไง ตอนนี้มาเที่ยวกรุงเทพ หลังจากนั้นเราเลยได้ออกจากงาน โดนพี่เจ้าของรถตู้ว่าอีก สรุปเป็นลูกจ้างของรถตู้ที่ได้สัมปทานรับ-ส่งจากโรงเรียน ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียน
- พอไม่ได้ทำงาน เราเลยจะกลับไปอยู่บ้านเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเช่าหอ พี่บอกให้เราเช่าหอต่อและให้เราช่วยงานที่ร้าน
ไปๆ มาๆ พ่อแม่ได้จ่ายค่าหอ ค่ากิน ค่าอยู่ แล้วกลายเป็นว่าเราต้องจ่ายเพื่อไปช่วยงานแกที่ร้าน แกไปเที่ยว
- สุดท้ายพี่สาวออกความคิดให้เราไปเรียนภาษา บอกว่าจะออกให้ทุกอย่าง ตอนแรกเราจะไม่เรียนเพราะมันเปลืองเงิน
พอไปเรียนจริง แกจ่าย 2,000 สุดท้ายเทเราอีกแล้วค่ะ พ่อแม่เราได้จ่ายที่เหลือให้ซึ่งมันหลายเท่าของที่แกจ่าย เพราะครั้งแรกเป็นเงินมัดจำ
หลังจากนั้น พ่อแม่ให้กลับบ้านค่ะ เรากับพี่สาวไม่ค่อยติดต่อกัน นอกจากแกจะขอให้เราไปอยู่ร้านให้
อย่างไปเที่ยวเกาหลี เราไปขายของให้เป็นอาทิตย์ สามีแกไปออกทัวร์ ก่อนไปพากันกับเพื่อนไปซื้อเสื้อผ้ากรุงเทพ
เล่นแชร์ไปเที่ยว กลับมาต้องใช้เงินคืน พ่อแม่ก็บอกว่าจะไปทำไม ไปแล้วต้องกลับมาใช้เงินคืน
สามีแกก็ว่าอะไรไม่ได้ ว่าแล้วจะโกรธ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่จำเรื่องที่แกทำไว้เหมือนกัน
แล้วมีที่พี่สาวให้เราไปทำกระทงขาย เรานั่งตั้งแต่เช้าจนถึงดึก ตอนแรกเราไปช่วยเฉยๆ แต่แกบอกเองว่าเสร็จแล้วแบ่งกัน
เราเป็นคนทำแต่แกขายเอาเงินไปหมด จนพ่อแม่ไปถามว่าทำไมไม่ให้น้อง บอกน้องไปทำแล้วไม่ให้ได้ไง
จนหลังๆมา ถ้าแกชวนทำกระทงขาย เราบอกไม่ว่าง เหนื่อยเปล่าหลายครั้งแล้ว
ปีนี้ชวนเราทำอีก เราเลยบอกว่าจะไปลอยกระทง พี่สาวเลยรู้ว่าเราคุยกับพี่คนหนึ่ง ที่ทางเพื่อนแม่แนะนำมา
พอแกรู้เลยบอกให้เราเล่าให้ฟัง เราไม่ได้อยากเล่า แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เราก็บอกพี่เขาก็ดี แกกว่าเราสิบกว่าปี
กลายเป็นว่าแกยุ่งเลยค่ะ ถามเราต่างๆ นานาว่าทำไมอายุขนาดนี้ไม่มีแฟน เป็นเกย์ เป็นลูกแหง่หรือเปล่า
เราบอกแล้วว่าคุยแล้วสบายใจ พ่อแม่ก็สบายใจที่คุยกับคนนี้ คือก่อนหน้าเราคบคนหนึ่ง หล่อมาก แต่ปรากฏว่าพอคบแล้ว
ฝ่ายชายมีปัญหาเรื่องเงิน หลายอย่าง เราเลยเลิก แล้วพอจะเลิก ผู้ชายไม่ยอม กว่าจะหลุดมาได้
เราบอกพี่เขาชวนไปเที่ยวเกาหลีกับญี่ปุ่น พี่สาวบอกพี่จะไปด้วย เราก็คิดในใจว่าจะไปทำไม
วันต่อมา แกโทรประมาณสิบกว่าสาย ทั้งไลน์ ทั้งโทรจนเราคิดว่ามีใครเป็นอะไร เราเลยโทรกลับไป
ปรากฏว่า เรื่องผู้ชายค่ะ บอกมีฝรั่งจะแนะนำให้คุย เราก็ถามว่ารู้จักได้ไง แกบอกว่าไปถามจากพวกทัวร์มาว่ามีฝรั่งหาคู่ไหม
เขาก็ให้เลือกประเทศมา พี่สาวเราก็อะไรไม่รู้ แกบอกเราตลอดว่าให้เราหาแฟนต่างชาติ อย่าไปเอาคนไทย พี่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ มีหลานลูกครึ่ง
เราก็เฉยๆค่ะ ปรากฏว่าโทรมา บอกเราว่าอย่าเพิ่งคบพี่คนนี้ มีคนจะให้คุยด้วย หล่อมาก เป็นคนอังกฤษ
ขอรูป ขอเฟส ขอไลน์เรา จะส่งให้ฝรั่ง เราเลยบอกยุ่งอยู่เลยวางสายไป วางสายเสร็จไลน์มาขออีก เราไม่เปิดอ่านไลน์
ลำบากใจมาก เราอุตส่าห์คุยกับคนนี้ดีๆแล้ว จะมายุ่งอะไร ที่หนีมาแทบตายก็หล่อนั่นแหละ
แล้วมายุ่งกับคนที่เราคุยด้วย บอกต้องให้พี่สัมภาษณ์ก่อนนะว่าเป็นยังไง มีเงินหรือเปล่า ไปเที่ยวได้แค่เกาหลีไม่มีเงินเยอะหรอกมั้ง
เราไม่ได้แอนตี้ฝรั่งนะคะ ถ้ารู้จักกันมาจริงๆ ใช้เวลาในชีวิตร่วมกันก็ว่าไปอย่าง คือช่วงหลังเห็นหลอกผู้หญิงไทยเยอะมาก
ตอนนี้เราเลยไม่ตอบไลน์ ไม่พูดอะไรกับแกเลย ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะคนนี้ที่โอเคคือเขามาเจอพ่อแม่เราแล้วไม่มีปัญหา
มีการบอกด้วยนะ ถ้าชีวิตนี้ไม่ได้แต่งงาน อยู่กับพี่ก็ได้ เราแบบแล้วแกมายุ่งอะไร สามีแกก็มีแล้ว
อีกอย่างเรายี่สิบกว่าเองค่ะ กับคนนี้ก็ยังไม่ได้คิดจะแต่งงาน แค่คุยไปก่อน
เราโดนพี่สาวเราเทหลายครั้งจนจำแล้ว เวลามีคนบอกเราสวยกว่าพี่สาว ก็ไม่รู้แกคิดอะไรไหมแต่ก็เห็นยิ้มอยู่
แต่การบอกจะดูแลแต่ที่เห็นคือเอาเราไปรับใช้เพื่อความสบายของตัวเอง เราเสียความรู้สึกหลายครั้งแล้วค่ะ
อยากบอกแกมาก ว่ามาเยี่ยมครอบครัวบ้าง พี่ชายเราผ่าตัดยังไม่เคยมาเยี่ยม กับลูกป้า กับเพื่อน เวลาเขาเป็นอะไรไปเยี่ยมหมด
เรื่องจะมาเลี้ยงพ่อแม่ พ่อแม่บอกไม่เป็นไร พ่อเราเป็นข้าราชการไม่มีวันลำบากแต่แกไม่เคยมาเลย
มาเฉพาะเวลาเดือดร้อน คราวก่อนจะขอแม่ช่วยเรื่องกู้เงิน มาบ้านเราเกือบทุกวัน พอได้เสร็จ หายไปเลย
เราไม่รู้ว่าแกติดใจเรื่องแม่มาแต่งงานใหม่มั้ย แต่ยายบอกอยู่ตลอด ว่าพ่อของพี่สาวเสียไป เป็นเหตุสุดวิสัย
ยายบอกตลอดว่าพ่อเรา อาบน้ำให้พี่สาวเราตั้งแต่เด็ก ยายกลับจากทำไร่ พี่อาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยแล้ว
เรื่องพ่อแม่มันก็ผ่านมาแล้วนะคะ เราไม่ได้คิดอะไรเลย
แต่ตอนนี้แกยุ่งเรื่องคนที่เราจะคุยด้วยมาก จนเราไม่บอกแล้วว่าจะไปไหน ไม่งั้นจะไปด้วย
คือคนที่จะเป็นสามีเราคงไม่ต้องเลี้ยงพี่สาวมั้ง ถ้าเลี้ยงแล้วแกจะมีสามีของแกทำไม
เราเลยไม่ตอบไปแต่แกก็น่าจะรู้แล้วว่าการที่เราเงียบ คือเราไม่ต้องการคุยกับใคร
แต่เมื่อกี้ ยังไลน์เข้ามา เราไม่รู้จะทำยังไงดี จะพูดแรงไปก็พี่น้องกัน อยากให้แกอยู่เฉยๆ อ่ะค่ะ เฮ้อ...
พี่สาวยุ่งมากค่ะ ทำไงดี
เรากับพี่สาวไม่ได้เกลียดกัน แต่ว่าแกชอบเอาเราไปเททิ้งหลายครั้ง
ปกติเราอยู่กับพ่อแม่ พี่สาวแต่งงานแล้ว มีร้านขายของ แกจะชอบขอให้เราไปช่วยขาย
แต่ไปแล้วไม่ไหวคะ พี่สาวจะเที่ยวบ่อยมากจนคนแถวนั้นบอกว่า ทำไมพี่ไม่อยู่ร้านบ้าง
ปกติสามีแกจะดู แต่พี่สาวให้สามีออกทัวร์รถตู้ เดี๋ยวนี้เลยไม่ค่อยได้อยู่ร้าน
เวลาชีวิตได้ดีมีความสุขไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมครอบครัวเลย ล่าสุดป่วย พ่อแม่เราช่วยออกเงินให้ไปรักษา
โดนคนโกง พ่อแม่เราก็ไปเคลียร์ให้ พอหายสบายดีก็เงียบไป วันหนึ่งแม่โทรไปถามว่าสบายดีไหม
แกบอกว่าไม่ต้องห่วง นั่งจิบกาแฟที่ลำปาง คือแกชอบเที่ยวอ่ะค่ะ กินของหรูทั้งที่ไม่ได้รวยมาก
แม่เราโทรหาแต่ละทีคือเสียความรู้สึก เวลาลูกมีความสุขแล้วไม่เคยนึกถึงแม่ เรากับพี่ชายก็เลยไม่ค่อยอะไรกับแก
ช่วงที่ไปอยู่กับพี่สาว
- เอาเราไปทำงาน บอกงานโรงเรียนนานาชาติ ไปกับรถตู้รับส่งนักเรียน คืองานไม่ได้ลำบากแต่เราบอกแล้วว่าเราไม่มีรถ
พี่ก็บอกพ่อแม่เราว่าจะดูแลให้ไม่ต้องห่วง เรากำลังรอเรียนต่อ พ่อแม่ก็เห็นว่าเป็นงานในโรงเรียนเลยให้ทำ
พอทำจริงคือต้องไปที่โรงเรียนตีห้าส่งนักเรียนเสร็จ แปดโมงกลับมาช่วยงานที่ร้าน สี่โมงไปที่โรงเรียนอีกเพื่อไปส่งนักเรียนกลับบ้าน
จนวันหนึ่งคนที่แกวานไปส่งเราลืมตื่นค่ะ เลยโทรหาพี่ว่าติดต่อให้หน่อย แกบอกไปเปิดเอาจักรยานที่ร้านไม่ก็เดินไป
เราก็บอกตีห้ามันมืดแล้วทางไปโรงเรียนมันเปลี่ยวมาก ต้องผ่านหมู่บ้านหนึ่ง ผ่านใต้สะพานลอย พี่ก็ตอบมาว่าแล้วจะให้พี่ช่วยยังไง ตอนนี้มาเที่ยวกรุงเทพ หลังจากนั้นเราเลยได้ออกจากงาน โดนพี่เจ้าของรถตู้ว่าอีก สรุปเป็นลูกจ้างของรถตู้ที่ได้สัมปทานรับ-ส่งจากโรงเรียน ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียน
- พอไม่ได้ทำงาน เราเลยจะกลับไปอยู่บ้านเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเช่าหอ พี่บอกให้เราเช่าหอต่อและให้เราช่วยงานที่ร้าน
ไปๆ มาๆ พ่อแม่ได้จ่ายค่าหอ ค่ากิน ค่าอยู่ แล้วกลายเป็นว่าเราต้องจ่ายเพื่อไปช่วยงานแกที่ร้าน แกไปเที่ยว
- สุดท้ายพี่สาวออกความคิดให้เราไปเรียนภาษา บอกว่าจะออกให้ทุกอย่าง ตอนแรกเราจะไม่เรียนเพราะมันเปลืองเงิน
พอไปเรียนจริง แกจ่าย 2,000 สุดท้ายเทเราอีกแล้วค่ะ พ่อแม่เราได้จ่ายที่เหลือให้ซึ่งมันหลายเท่าของที่แกจ่าย เพราะครั้งแรกเป็นเงินมัดจำ
หลังจากนั้น พ่อแม่ให้กลับบ้านค่ะ เรากับพี่สาวไม่ค่อยติดต่อกัน นอกจากแกจะขอให้เราไปอยู่ร้านให้
อย่างไปเที่ยวเกาหลี เราไปขายของให้เป็นอาทิตย์ สามีแกไปออกทัวร์ ก่อนไปพากันกับเพื่อนไปซื้อเสื้อผ้ากรุงเทพ
เล่นแชร์ไปเที่ยว กลับมาต้องใช้เงินคืน พ่อแม่ก็บอกว่าจะไปทำไม ไปแล้วต้องกลับมาใช้เงินคืน
สามีแกก็ว่าอะไรไม่ได้ ว่าแล้วจะโกรธ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่จำเรื่องที่แกทำไว้เหมือนกัน
แล้วมีที่พี่สาวให้เราไปทำกระทงขาย เรานั่งตั้งแต่เช้าจนถึงดึก ตอนแรกเราไปช่วยเฉยๆ แต่แกบอกเองว่าเสร็จแล้วแบ่งกัน
เราเป็นคนทำแต่แกขายเอาเงินไปหมด จนพ่อแม่ไปถามว่าทำไมไม่ให้น้อง บอกน้องไปทำแล้วไม่ให้ได้ไง
จนหลังๆมา ถ้าแกชวนทำกระทงขาย เราบอกไม่ว่าง เหนื่อยเปล่าหลายครั้งแล้ว
ปีนี้ชวนเราทำอีก เราเลยบอกว่าจะไปลอยกระทง พี่สาวเลยรู้ว่าเราคุยกับพี่คนหนึ่ง ที่ทางเพื่อนแม่แนะนำมา
พอแกรู้เลยบอกให้เราเล่าให้ฟัง เราไม่ได้อยากเล่า แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เราก็บอกพี่เขาก็ดี แกกว่าเราสิบกว่าปี
กลายเป็นว่าแกยุ่งเลยค่ะ ถามเราต่างๆ นานาว่าทำไมอายุขนาดนี้ไม่มีแฟน เป็นเกย์ เป็นลูกแหง่หรือเปล่า
เราบอกแล้วว่าคุยแล้วสบายใจ พ่อแม่ก็สบายใจที่คุยกับคนนี้ คือก่อนหน้าเราคบคนหนึ่ง หล่อมาก แต่ปรากฏว่าพอคบแล้ว
ฝ่ายชายมีปัญหาเรื่องเงิน หลายอย่าง เราเลยเลิก แล้วพอจะเลิก ผู้ชายไม่ยอม กว่าจะหลุดมาได้
เราบอกพี่เขาชวนไปเที่ยวเกาหลีกับญี่ปุ่น พี่สาวบอกพี่จะไปด้วย เราก็คิดในใจว่าจะไปทำไม
วันต่อมา แกโทรประมาณสิบกว่าสาย ทั้งไลน์ ทั้งโทรจนเราคิดว่ามีใครเป็นอะไร เราเลยโทรกลับไป
ปรากฏว่า เรื่องผู้ชายค่ะ บอกมีฝรั่งจะแนะนำให้คุย เราก็ถามว่ารู้จักได้ไง แกบอกว่าไปถามจากพวกทัวร์มาว่ามีฝรั่งหาคู่ไหม
เขาก็ให้เลือกประเทศมา พี่สาวเราก็อะไรไม่รู้ แกบอกเราตลอดว่าให้เราหาแฟนต่างชาติ อย่าไปเอาคนไทย พี่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ มีหลานลูกครึ่ง
เราก็เฉยๆค่ะ ปรากฏว่าโทรมา บอกเราว่าอย่าเพิ่งคบพี่คนนี้ มีคนจะให้คุยด้วย หล่อมาก เป็นคนอังกฤษ
ขอรูป ขอเฟส ขอไลน์เรา จะส่งให้ฝรั่ง เราเลยบอกยุ่งอยู่เลยวางสายไป วางสายเสร็จไลน์มาขออีก เราไม่เปิดอ่านไลน์
ลำบากใจมาก เราอุตส่าห์คุยกับคนนี้ดีๆแล้ว จะมายุ่งอะไร ที่หนีมาแทบตายก็หล่อนั่นแหละ
แล้วมายุ่งกับคนที่เราคุยด้วย บอกต้องให้พี่สัมภาษณ์ก่อนนะว่าเป็นยังไง มีเงินหรือเปล่า ไปเที่ยวได้แค่เกาหลีไม่มีเงินเยอะหรอกมั้ง
เราไม่ได้แอนตี้ฝรั่งนะคะ ถ้ารู้จักกันมาจริงๆ ใช้เวลาในชีวิตร่วมกันก็ว่าไปอย่าง คือช่วงหลังเห็นหลอกผู้หญิงไทยเยอะมาก
ตอนนี้เราเลยไม่ตอบไลน์ ไม่พูดอะไรกับแกเลย ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะคนนี้ที่โอเคคือเขามาเจอพ่อแม่เราแล้วไม่มีปัญหา
มีการบอกด้วยนะ ถ้าชีวิตนี้ไม่ได้แต่งงาน อยู่กับพี่ก็ได้ เราแบบแล้วแกมายุ่งอะไร สามีแกก็มีแล้ว
อีกอย่างเรายี่สิบกว่าเองค่ะ กับคนนี้ก็ยังไม่ได้คิดจะแต่งงาน แค่คุยไปก่อน
เราโดนพี่สาวเราเทหลายครั้งจนจำแล้ว เวลามีคนบอกเราสวยกว่าพี่สาว ก็ไม่รู้แกคิดอะไรไหมแต่ก็เห็นยิ้มอยู่
แต่การบอกจะดูแลแต่ที่เห็นคือเอาเราไปรับใช้เพื่อความสบายของตัวเอง เราเสียความรู้สึกหลายครั้งแล้วค่ะ
อยากบอกแกมาก ว่ามาเยี่ยมครอบครัวบ้าง พี่ชายเราผ่าตัดยังไม่เคยมาเยี่ยม กับลูกป้า กับเพื่อน เวลาเขาเป็นอะไรไปเยี่ยมหมด
เรื่องจะมาเลี้ยงพ่อแม่ พ่อแม่บอกไม่เป็นไร พ่อเราเป็นข้าราชการไม่มีวันลำบากแต่แกไม่เคยมาเลย
มาเฉพาะเวลาเดือดร้อน คราวก่อนจะขอแม่ช่วยเรื่องกู้เงิน มาบ้านเราเกือบทุกวัน พอได้เสร็จ หายไปเลย
เราไม่รู้ว่าแกติดใจเรื่องแม่มาแต่งงานใหม่มั้ย แต่ยายบอกอยู่ตลอด ว่าพ่อของพี่สาวเสียไป เป็นเหตุสุดวิสัย
ยายบอกตลอดว่าพ่อเรา อาบน้ำให้พี่สาวเราตั้งแต่เด็ก ยายกลับจากทำไร่ พี่อาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยแล้ว
เรื่องพ่อแม่มันก็ผ่านมาแล้วนะคะ เราไม่ได้คิดอะไรเลย
แต่ตอนนี้แกยุ่งเรื่องคนที่เราจะคุยด้วยมาก จนเราไม่บอกแล้วว่าจะไปไหน ไม่งั้นจะไปด้วย
คือคนที่จะเป็นสามีเราคงไม่ต้องเลี้ยงพี่สาวมั้ง ถ้าเลี้ยงแล้วแกจะมีสามีของแกทำไม
เราเลยไม่ตอบไปแต่แกก็น่าจะรู้แล้วว่าการที่เราเงียบ คือเราไม่ต้องการคุยกับใคร
แต่เมื่อกี้ ยังไลน์เข้ามา เราไม่รู้จะทำยังไงดี จะพูดแรงไปก็พี่น้องกัน อยากให้แกอยู่เฉยๆ อ่ะค่ะ เฮ้อ...