กสทช.กางแผนประมูลคลื่น900-1800
กสทช.กางแผนประมูลคลื่น 900-1800 เคาะราคาเริ่มต้นใบละ 3.8 หมื่นล.เริ่มประมูลพ.ค.ปีหน้า เปิดทาง “แจส” เข้าประมูลได้ อ้างแม้เคยเบี้ยวไม่จ่ายค่าไลเซ่น แต่เมื่อจ่ายค่าปรับแล้ว ก็มีสิทธิเข้ามาใหม่ได้อีกครั้ง แต่หากทำแบบเดิมอีก เจอค่าปรับงวดนี้ทะลุ 7,000 ล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงแนวทางการจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) จะสิ้นสุดสัญญาสัปทานลงกับบมจ.กสท โทรคมนาคม ในวันที่ 15 ก.ย. 2561 นี้ว่า กสทช.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดการประมูลคลื่นความถี่ทั้งสองย่านเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการประมูล การโอนย้ายคลื่นความถี่เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.-ส.ค. 2561 และจัดจัดให้มีการประมูลในช่วงเดือนพ.ค. 2561 และในเดือนมิ.ย.จะสามารถออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ชนะการประมูลได้ ซึ่งการประมูลดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนจะสิ้นสุดสัมปทาน
โดยความตั้งใจของสำนักงานกสทช.ไม่ต้องการให้เกิดการเข้าสู่มาตรการเยียวยาเหมือนที่ผ่านมา โดยไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับการโอนย้ายลูกค้าไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ สำนักงานกสทช. ได้จัดทำร่างประกาศหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่เสร็จแล้ว โดยร่างฯได้ยึดหลักเกณฑ์เดิมของกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้กำหนดไว้ สำหรับผู้มีสิทธิจะเข้าร่วมการประมูลนั้น ในส่วนของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ที่เคยทิ้งใบอนุญาตเมื่อการประมูลครั้งที่แล้ว แต่เมื่อแจสฯได้ชำระค่าปรับไปครบแล้วจำนวน 800 ล้านบาท ในครั้งนี้สำนักงานกสทช.ก็ไม่ได้ปิดโอกาสก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้
นายฐากร กล่าววว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างหลักเกณฑ์การประมูลได้กำหนดราคาขั้นต่ำของคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จัดประมูลจำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 1 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้น 37,988 ล้านบาท ราคาประมูลเพิ่มในแต่ละรอบอยู่ที่รอบละ 76 ล้านบาท หลักประกันการประมูล 1,900 ล้านบาท ระยะเวลาใบอนุญาต 15 ปี ค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เมื่อประมูลได้แล้วจำนวน 5,699 ล้านบาท (ร้อยละ 15 ของราคาขั้นต่ำ) แบ่งการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็น 4 งวด งวดแรกชำระภายใน 90 วัน ขั้นต่ำ 4,020 ล้านบาท ปีที่สองขั้นต่ำ 2,010 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 2,010 ล้านบาท ปีที่ 4 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด ความครอบคลุมของโครงข่าย 40% ภายใน 4 ปี และ 50% ภายใน 8 ปี
ส่วนคลื่นย่าน 1800 เมกกะเฮิรตซ์ นำมาประมูลจำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 15 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้นที่ 37,457 ล้านบาท โดยให้ราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบรอบละ 75 ล้านบาท ระยะเวลาใบอนุญาต 15 ปี หลักประกัน 1,873 ล้านบาท ค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประมูล 5,619 ล้าบาท (ร้อยละ 15 ของราคาขั้นต่ำ) แบ่งการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็น 3 งวด งวดแรกชำระภายใน 90 วัน ขั้นต่ำร้อยละ 50 ของราคาที่ประมูลได้ งวดที่สองร้อยละ 25 งวดที่ 3 ร้อยละ 25 ทั้งสองย่านความถี่ผู้ชนะประมูลต้องขยายโครงข่ายการให้บริการครอบคลุมร้อยละ 50 ภายใน 4 ปี ร้อยละ 80 ภายใน 8 ปี
ทั้งนี้ การประมูลผู้เข้าประมูลจะต้องมีการเคาะราคาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง การเคาะราคาจะต้องมีจำนวนผู้เข้าประมูลมากว่าจำนวนใบอนุญาต ผู้ชนะคือผู้ให้ราคาสูงสุดเมื่อสิ้นสุดการเคาะราคา กรณีคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ หากมีผู้เข้าประมูล 3 รายจะมีการเคาะราคา 2 ใบอนุญาต หากมีผู้เข้าประมูล 2 รายจะมีการเคาะราคา1 ใบอนุญาต และหากมีผู้เข้าประมูล 1 รายจะขยายเวลาการประมูลออกไป 30 วันจนกว่าจะมีผู้เข้าประมูลเพิ่มขึ้น
เขา กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปกสทช.จะนำร่างหลักเกณฑ์ เข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการด้านโทรคมนาคมภายในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ก่อนจะนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยคาดว่าจะออกประกาศหลักเกณฑ์การประมูลได้ในเดือนม.ค.ทั้งนี้หากการสรรหาคณะกรรมการกสทช.ชุดใหม่เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2561 สำนักงานฯจะนำร่างหลักเกณฑ์เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดก่อนนำไปประกาศในราชกิจการนุเบกษา
"การเคาะราคาน่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.2561 เพื่อให้ได้ข้อสรุปในเดือน มิ.ย. 2561 จากนั้นจะมีการชำระเงินและส่งมอบคลื่นความถี่ กสทช.ประเมินว่ายังไงก็ต้องมีคนเข้าประมูล จากการประเมินความต้องการใช้คลื่นความถี่ของสหภาพโทรคมนาคม (ไอทียู) อย่างไรมีความจำเป็นที่ผู้ให้บริการต้องการใช้คลื่นความถี่ ส่วนหากใครที่ประมูลได้แล้วจะทิ้งใบอนุญาตจะโดยยึดเงินประกันและเสียค่าปรับรวมกว่า 7,000 ล้านบาท ” นายฐากร กล่าว
แหล่งข่าว
เวปไซต์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/779369
"กสทช" กวักมือเรียก "แจส" ร่วมชิงคลื่น 900 - 1800 อ้างแม้เคยเบี้ยวค่าไลเซ่น แต่เมื่อจ่ายค่าปรับแล้วก็มีสิทธิ์
กสทช.กางแผนประมูลคลื่น900-1800
กสทช.กางแผนประมูลคลื่น 900-1800 เคาะราคาเริ่มต้นใบละ 3.8 หมื่นล.เริ่มประมูลพ.ค.ปีหน้า เปิดทาง “แจส” เข้าประมูลได้ อ้างแม้เคยเบี้ยวไม่จ่ายค่าไลเซ่น แต่เมื่อจ่ายค่าปรับแล้ว ก็มีสิทธิเข้ามาใหม่ได้อีกครั้ง แต่หากทำแบบเดิมอีก เจอค่าปรับงวดนี้ทะลุ 7,000 ล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงแนวทางการจัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) จะสิ้นสุดสัญญาสัปทานลงกับบมจ.กสท โทรคมนาคม ในวันที่ 15 ก.ย. 2561 นี้ว่า กสทช.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดการประมูลคลื่นความถี่ทั้งสองย่านเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการประมูล การโอนย้ายคลื่นความถี่เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.-ส.ค. 2561 และจัดจัดให้มีการประมูลในช่วงเดือนพ.ค. 2561 และในเดือนมิ.ย.จะสามารถออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ชนะการประมูลได้ ซึ่งการประมูลดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนจะสิ้นสุดสัมปทาน
โดยความตั้งใจของสำนักงานกสทช.ไม่ต้องการให้เกิดการเข้าสู่มาตรการเยียวยาเหมือนที่ผ่านมา โดยไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับการโอนย้ายลูกค้าไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ สำนักงานกสทช. ได้จัดทำร่างประกาศหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่เสร็จแล้ว โดยร่างฯได้ยึดหลักเกณฑ์เดิมของกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้กำหนดไว้ สำหรับผู้มีสิทธิจะเข้าร่วมการประมูลนั้น ในส่วนของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ที่เคยทิ้งใบอนุญาตเมื่อการประมูลครั้งที่แล้ว แต่เมื่อแจสฯได้ชำระค่าปรับไปครบแล้วจำนวน 800 ล้านบาท ในครั้งนี้สำนักงานกสทช.ก็ไม่ได้ปิดโอกาสก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้
นายฐากร กล่าววว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างหลักเกณฑ์การประมูลได้กำหนดราคาขั้นต่ำของคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จัดประมูลจำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 1 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้น 37,988 ล้านบาท ราคาประมูลเพิ่มในแต่ละรอบอยู่ที่รอบละ 76 ล้านบาท หลักประกันการประมูล 1,900 ล้านบาท ระยะเวลาใบอนุญาต 15 ปี ค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เมื่อประมูลได้แล้วจำนวน 5,699 ล้านบาท (ร้อยละ 15 ของราคาขั้นต่ำ) แบ่งการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็น 4 งวด งวดแรกชำระภายใน 90 วัน ขั้นต่ำ 4,020 ล้านบาท ปีที่สองขั้นต่ำ 2,010 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 2,010 ล้านบาท ปีที่ 4 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด ความครอบคลุมของโครงข่าย 40% ภายใน 4 ปี และ 50% ภายใน 8 ปี
ส่วนคลื่นย่าน 1800 เมกกะเฮิรตซ์ นำมาประมูลจำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 15 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้นที่ 37,457 ล้านบาท โดยให้ราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบรอบละ 75 ล้านบาท ระยะเวลาใบอนุญาต 15 ปี หลักประกัน 1,873 ล้านบาท ค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประมูล 5,619 ล้าบาท (ร้อยละ 15 ของราคาขั้นต่ำ) แบ่งการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็น 3 งวด งวดแรกชำระภายใน 90 วัน ขั้นต่ำร้อยละ 50 ของราคาที่ประมูลได้ งวดที่สองร้อยละ 25 งวดที่ 3 ร้อยละ 25 ทั้งสองย่านความถี่ผู้ชนะประมูลต้องขยายโครงข่ายการให้บริการครอบคลุมร้อยละ 50 ภายใน 4 ปี ร้อยละ 80 ภายใน 8 ปี
ทั้งนี้ การประมูลผู้เข้าประมูลจะต้องมีการเคาะราคาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง การเคาะราคาจะต้องมีจำนวนผู้เข้าประมูลมากว่าจำนวนใบอนุญาต ผู้ชนะคือผู้ให้ราคาสูงสุดเมื่อสิ้นสุดการเคาะราคา กรณีคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ หากมีผู้เข้าประมูล 3 รายจะมีการเคาะราคา 2 ใบอนุญาต หากมีผู้เข้าประมูล 2 รายจะมีการเคาะราคา1 ใบอนุญาต และหากมีผู้เข้าประมูล 1 รายจะขยายเวลาการประมูลออกไป 30 วันจนกว่าจะมีผู้เข้าประมูลเพิ่มขึ้น
เขา กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปกสทช.จะนำร่างหลักเกณฑ์ เข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการด้านโทรคมนาคมภายในวันที่ 6 พ.ย.นี้ ก่อนจะนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยคาดว่าจะออกประกาศหลักเกณฑ์การประมูลได้ในเดือนม.ค.ทั้งนี้หากการสรรหาคณะกรรมการกสทช.ชุดใหม่เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2561 สำนักงานฯจะนำร่างหลักเกณฑ์เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดก่อนนำไปประกาศในราชกิจการนุเบกษา
"การเคาะราคาน่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.2561 เพื่อให้ได้ข้อสรุปในเดือน มิ.ย. 2561 จากนั้นจะมีการชำระเงินและส่งมอบคลื่นความถี่ กสทช.ประเมินว่ายังไงก็ต้องมีคนเข้าประมูล จากการประเมินความต้องการใช้คลื่นความถี่ของสหภาพโทรคมนาคม (ไอทียู) อย่างไรมีความจำเป็นที่ผู้ให้บริการต้องการใช้คลื่นความถี่ ส่วนหากใครที่ประมูลได้แล้วจะทิ้งใบอนุญาตจะโดยยึดเงินประกันและเสียค่าปรับรวมกว่า 7,000 ล้านบาท ” นายฐากร กล่าว
แหล่งข่าว
เวปไซต์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/779369