สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลย เราชื่อจูนนะคะ ตอนนี้เราอาศัยอยู่ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา มาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 2 เดือนแล้วคะ (ปลื้มปลิ่ม ^ ^) ก่อนที่จูนจะมาถึงจุดนี้ได้ จูนใช้เวลาในการศึกษาหาหนทางในการมาเรียนภาษาที่นี่อยู่นานเลยคะ ทั้งปรึกษาคนที่เคยไปมาแล้ว เอเจนซี่ อินเทอร์เนต กูเกิล พันทิป เด็กดี เพจเฟสบุค เรียกได้ว่าท่องโลกไซเบอร์มาจนชำนาญคะ แต่สิ่งที่สำคัญเลยในช่วงเริ่มแรกของการเริ่มต้นคือ ไม่รู้จะเลือกว่าไปที่ไหน เรียนโปรแกรมอะไร สมัครยังไง และจะอยู่รอดมั้ย ???
วันนี้เลยอยากมาเล่าประสบการณ์การตัดสินใจเลือกวิธีการที่จะไปเรียนต่อให้ฟังคะ (เรียนภาษา)
ขออภัย หากใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง กระทู้นี้เพื่อคนคิดบวก ไม่งอแงกันนะคะ
กระทู้นี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของจูน หากมีข้อผิดพลาดที่ไม่ถูกหลักการดำเนินการ ขออภัยล่วงหน้านะคะ

จริงๆแล้วนั้น วิธีดำเนินการในการมาเรียนภาษาที่อเมริกามีหลักดำเนินการคือ สมัครเรียน -> ได้รับ i-20 จากโรงเรียน -> นำ i-20 ไปยื่นขอวีซ่าในเว็ปไซต์ + นัดวันสัมภาษณ์ -> ไปสัมภาษณ์ -> (ถ้าผ่าน) รอวีซ่าส่งมาบ้าน -> จองตั๋วเครื่องบิน -> เก็บกระเป๋า -> เตรียมบิน
ฟังดูยุ่งยากมากเลยใช่ไหมคะ แอ๊ดดดดดด ผิดคะ !!! เพราะจริงๆแล้วขั้นตอนที่จูนพูดมาทั้งหมด มีผู้ที่มีประสบการณ์คอยช่วยเหลือและดูแลจูนทั้งหมดคะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆคนคงคิดว่าจูนกำลังจะแนะนำเอเจนซี่ใช่ไหมคะ แอ๊ดดดดดดด เกือบถูกคะ !!! แต่ยังผิดในจุดที่เอเจนซี่ที่จูนติดต่อนั้นมาในรูปแบบของนักเรียนไทยที่จบการศึกษาจากโรงเรียนภาษาที่จูนอยากจะไปเรียนต่อและยังจบปริญญาโทในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าประสบการณ์เทอสูงมากจนน่าจะช่วยชีวิตจูนได้แน่ๆ จะเรียกง่ายๆว่าเป็น ambassador ของทางโรงเรียนที่อยู่ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้นะคะ ในความรู้สึกของจูน เทอไม่ได้ทำงานในเชิงการค้าแต่เหมือนกับพี่สาวที่ให้ความช่วยเหลือน้องมากกว่าคะ ในการดำเนินการทุกขั้นตอนนั้น จะมีการอธิบายเพื่อความเข้าใจและดำเนินการพร้อมกันกับจูนทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่จูนว่าดีมากนะคะ เพราะมันเหมือนกับการฝึกความเตรียมพร้อมทางด้านภาษาและเอกสารทางราชการให้กับจูนด้วย
ก่อนที่จูนจะเล่าขั้นตอนการสมัครเรียนและดำเนินการทั้งหมดนั้น จูนขอแนะนำโรงเรียนที่จูนมาเรียนก่อนดีกว่าคะ เพื่อความน่าอิจฉาให้แก่คนที่อยากจะมาเรียนคะ 5555
GT Education Center คือโรงเรียนสอนภาษาที่จูนมาเรียนคะ ซึ่งสถาบันนี้อยู่ใจกลางเมืองชิคาโก มีรถไฟฟ้าผ่าน เดินทางสะดวกคะ

ในห้องเรียนแต่ละห้องจะมีเพื่อนร่วมห้องไม่เยอะมากนะคะ เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึงของอาจารย์คะ

บริเวณรอบๆ ดูสะอาดและอบอุ่นมากคะ มีส่วนกลางให้นักเรียนพักผ่อนก่อน/หลังเข้าเรียนด้วย


เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้ว วันแรกทุกคนจะได้ทำการสอบคะ เป็นพรีเทสเพื่อวัดระดับความรู้ความสามารถของเราคะ อันนี้ไม่ต้องเครียดนะคะ ใครมีแค่ไหนเอาแค่นั้นคะ ง่ายๆคือ ไม่รู้ก็ส่งกระดาษเปล่าเลยคะ ทางโรงเรียนจะประเมินเราแล้วจับเราเข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมที่สุดคะ
มาคะ มาเริ่มขั้นตอนในการสมัครเรียนกันเลยดีกว่า (จูนไม่ขอลงรายละเอียดลึกมากนะคะ เพราะขั้นตอนการเตรียมเอกสารของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันคะ)
1. สมัครเรียนและขอ i20
เอกสารที่ใช้สมัครเรียนค่ะ ก็มี bank statement , transcript , พาสปอร์ต , หนังสือสปอนเซอร์ (ในกรณีของผู้ที่ใช้ bank statement ที่ไม่ใช่ชื่อตัวเอง) หลังจากเตรียมเอกสารครบแล้วก็นัดกันเพื่อกรอกใบสมัครพร้อมกัน หลังจากนั้นพี่เขาจะดำเนินการจัดส่งเอกสารไปยังโรงเรียน (ซึ่งมีที่ปรึกษาคนไทยเป็นพาร์ทเนอร์กับทางโรงเรียนนั้นโดยตรง) ดำเนินการต่อให้ ประมาณ 2 อาทิตย์ i-20 ก็ส่งมาที่บ้านค่ะ
2. นัดสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่า
เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อมระหว่างรอ i20 (พอได้รับ i20 ส่งกลับมาจากทางโรงเรียนแล้ว จะได้ลงทะเบียนนัดสัมภาษขอวีซ่าได้ทันทีเลยคะ)
- พาสปอร์ต
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นสีขาว เปิดใบหน้า เห็นหู
- ใบรับรองวุฒิการศึกษาภาษาอังกฤษ
- Transcript / ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
- หนังสือสปอนเซอร์
- เอกสาร i-20 ที่ส่งมาจากโรงเรียน
หลังจากเตรียมเอกสารเบื้องต้นครบแล้ว ก็นัดกับพี่เขาอีกรอบเพื่อมาดำเนินการพร้อมกันคะ (อันนี้ดีมาก เพราะในเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยากและงง ได้พี่เขามาช่วยก็ดีขึ้นเยอะเลยคะ) จำได้คร่าวๆว่า ต้องเข้าไปจ่ายค่าธรรมเนียม SEVIS ก่อนที่
https://www.fmjfee.com/ โดยกรอกข้อมูล SEVIS อ้างอิงจาก i20 ที่ส่งกลับมาจากทางโรงเรียน ชำระเงินแล้วปริ้นใบเสร็จเพื่อนำไปกรอกข้อมูลวีซ่า และถือไปในวันสัมภาษณ์ด้วยคะ
ในการกรอกข้อมูลวีซ่าให้ไปที่
https://ceac.state.gov/genniv/default.aspx หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จก็อัพโหลดรูปและปริ้นใบ Confirmation นำไปในวันสัมภาษณ์
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย นัดคิวสัมภาษณ์ที่
https://cgifederal.secure.force.com/ ปริ้นเอกสารที่มีหมายเลขใบเสร็จเพื่อใช้ชำระเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาค่ะ (U.S. Visa fee deposit slip) สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการชำระเงินของธนาคารที่
http://www.ustraveldocs.com/th_th/BAYDepositSlip.pdf หลังจากนั้นนำจะได้ใบเสร็จจากธนาคารมาเก็บไว้ และยืนยันการจองในวันถัดไปคะ
3. วันสัมภาษณ์
วันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต วันที่รู้สึกเหมือนกับวันคัดตัวนางงาม จูนไปต่อแถวแต่เช้าตรู่คะ หลังจากผ่านกระบวนการมหาโหดตรงช่วงรักษาความปลอดในขาเข้าแล้วนั้น จูนสัมภาษเป็นภาษาอังกฤษคะ ด้วยความที่เราไม่เก่งแต่มีความพยายามมาก อยากให้เขารู้ว่า เราตั้งใจไปเรียนจริงๆนะ จึงขอให้เขาพูดช้าๆ และตอบคำถามทุกอย่างด้วยความมั่นใจ พูดภาษาอังกฤษแบบไม่สนใจแกรมม่า มีตอบสลับกับภาษาไทยด้วย แต่จูนเชื่อว่าจูนผ่านเพราะจูนตั้งใจว่าจะไปเรียนจริงๆ ไม่ได้กะจะไปทำงานหรือต้องการหาสามีคะ จูนโดนถามไม่เยอะคะ โดนคำถามทั่วไป ชื่อ/สกุล อายุ ไปทำอะไร ที่ไหน รู้จักใครที่นั่นไหม ทำไมอยากเรียนภาษาอังกฤษ มั่นใจขนาดนี้ก็ผ่านสิคะ รออะไรรรรรร
4. จองตั๋วเครื่องบิน
ขั้นตอนนี้จูนขอออกตัวก่อนเลยว่าจูนไม่ได้จัดการเองเลย เนื่องจากจูนซื้อแพคเกจกับทางโรงเรียนไป ซึ่งในแพคเกจจะคลอบคลุมเรื่องค่าเทอม 1 ปี ค่าดำเนินการด้านเอกสารทั้งหมด ค่าเครื่องบิน และบริการรับส่งในประเทศอเมริกา รวมทั้งบริการจิปาทะอื่นๆ อย่างเช่น บริการจัดหาที่พัก เปิดบัญชี เบอร์โทรศัพท์ พาเที่ยวชมรอบเมือง แนะนำสถานที่ และแนะนำกลุ่มเพื่อนคนไทยเพื่อช่วยเหลือและติดตามคะ
หลังจากรู้ว่าวีซ่าผ่านแล้ว พี่เขาจะนำตารางรางคาตั๋วเครื่องบินมาให้จูนเลือกคะ ว่าจูนต้องการเดินทางวันไหน สายการบินอะไร มีแวะพักที่ไหน และข้อเสนอในราคาพิเศษต่างๆ พอตกลงเลือกได้ที่ถูกใจแล้ว พี่เขาจำดำเนินการซื้อตั๋วเครื่องบินให้ทั้งหมดคะ
5. เก็บกระเป๋า เตรียมบิน
จริงๆแล้วขั้นตอนนี้สำคัญมากเลยนะคะ จูนได้รับคำแนะนำหลายอย่างจากพี่เขาในเรื่องของการเตรียมตัว ว่าอะไรที่ควรนำไปหรือไปจัดหาซื้อที่นู่นได้ที่ไหนอย่างไร สภาพอากาศ ย่านต่างๆในเมืองว่าที่ไหนอันตรายหรือควรต้องระวังตัว มีวีดีโอคอลให้รู้จักพูดคุยกับที่ปรึกษาคนไทยที่จะดูแลเราทั้งเรื่องการเรียนและรับส่งและเพื่อนๆคนไทยที่จะสามารถช่วยเหลือและติดต่อกับเราได้ที่นั่นด้วย แนะนำให้รู้จักกับสถานที่ต่างๆในเมือง ทั้งร้านอาหารไทยและเทศ ผับ แหล่งชอปปิ้งทุกซอกทุกมุม สอนเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถเมย์ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราจะไม่ตื่นเต้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์จริง
6. วันเดินทางมาถึง จูนเดินทางช่วงอากาศเริ่มเย็นคะ แต่งตัวพร้อมจากเมืองไทยเลย

เมื่อเดินทางมาถึงชิคาโก จะมีพี่ที่เป็นที่ปรึกษาคนไทยมารับที่สนามบินและพาไปเปิดเบอร์โทรศัพท์และพาจัดการเรื่องการเช่าที่พักคะ วันรุ่งขึ้นพี่เขาก็พาไปเปิดบัญชี ทำธุระที่สำคัญ ซื้อของใช้ที่จำเป็น และพาเที่ยวรอบๆเมืองด้วยคะ


วันที่เข้าไปสอบวัดระดับวันแรก ก็ได้กำลังใจจากพี่สาวคนสวยที่คอยเทคแคร์เราที่นี่อย่างเป็นกันเอง พาไปกินของอร่อยๆ สอนการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียนด้วยรถไฟฟ้า และพาเที่ยวใกล้ๆโรงเรียน เพื่อทำให้เราสบายใจก่อนเข้าสอบอีกด้วยคะ เอาซะหายเครียดเลยยย


เรามาถึงชิคาโกก่อนถึงวันเปิดเทอมจริงเกือบเดือนค่ะ เลยมีเวลาเที่ยวและศึกษาการใช้ชีวิตรอบๆเมืองด้วย ทำให้รู้เลยว่าการมาเมืองนอกคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คนไทยไม่เคยทิ้งกันคะ ทุกที่ในโลกใบนี้จูนเชื่อว่าถ้าเป็นคนไทยด้วยกันเองแล้ว รับรองว่าต้องดูแลกันเหมือนครอบครัวแน่นอน คนไทยโชคดีนะคะ มีพี่มีน้อง ไปไหนก็ไม่ต้องกลัวคะ เชื่อจูนนะ
สำหรับใครที่อยากมาเรียนภาษาแบบจูน ครอบครัวชิคาโกยินดีต้อนรับนะคะ เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่เหงา ไม่โดดเดี่ยว แต่จะได้รับความรู้ ความสุข ประสบการณ์ มิตรภาพดีๆในต่างแดน และช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดกลับไปเล่าต่อให้คนอื่นๆฟังแบบจูนอย่างแน่นอนคะ



เรียนภาษาที่อเมริกาไม่ใช่เรื่องยาก ชิคาโกไม่ไกลเกินฝัน ตามรอยกันได้ง่ายๆเลย !!!!
วันนี้เลยอยากมาเล่าประสบการณ์การตัดสินใจเลือกวิธีการที่จะไปเรียนต่อให้ฟังคะ (เรียนภาษา)
จริงๆแล้วนั้น วิธีดำเนินการในการมาเรียนภาษาที่อเมริกามีหลักดำเนินการคือ สมัครเรียน -> ได้รับ i-20 จากโรงเรียน -> นำ i-20 ไปยื่นขอวีซ่าในเว็ปไซต์ + นัดวันสัมภาษณ์ -> ไปสัมภาษณ์ -> (ถ้าผ่าน) รอวีซ่าส่งมาบ้าน -> จองตั๋วเครื่องบิน -> เก็บกระเป๋า -> เตรียมบิน
ฟังดูยุ่งยากมากเลยใช่ไหมคะ แอ๊ดดดดดด ผิดคะ !!! เพราะจริงๆแล้วขั้นตอนที่จูนพูดมาทั้งหมด มีผู้ที่มีประสบการณ์คอยช่วยเหลือและดูแลจูนทั้งหมดคะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆคนคงคิดว่าจูนกำลังจะแนะนำเอเจนซี่ใช่ไหมคะ แอ๊ดดดดดดด เกือบถูกคะ !!! แต่ยังผิดในจุดที่เอเจนซี่ที่จูนติดต่อนั้นมาในรูปแบบของนักเรียนไทยที่จบการศึกษาจากโรงเรียนภาษาที่จูนอยากจะไปเรียนต่อและยังจบปริญญาโทในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าประสบการณ์เทอสูงมากจนน่าจะช่วยชีวิตจูนได้แน่ๆ จะเรียกง่ายๆว่าเป็น ambassador ของทางโรงเรียนที่อยู่ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้นะคะ ในความรู้สึกของจูน เทอไม่ได้ทำงานในเชิงการค้าแต่เหมือนกับพี่สาวที่ให้ความช่วยเหลือน้องมากกว่าคะ ในการดำเนินการทุกขั้นตอนนั้น จะมีการอธิบายเพื่อความเข้าใจและดำเนินการพร้อมกันกับจูนทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่จูนว่าดีมากนะคะ เพราะมันเหมือนกับการฝึกความเตรียมพร้อมทางด้านภาษาและเอกสารทางราชการให้กับจูนด้วย
ก่อนที่จูนจะเล่าขั้นตอนการสมัครเรียนและดำเนินการทั้งหมดนั้น จูนขอแนะนำโรงเรียนที่จูนมาเรียนก่อนดีกว่าคะ เพื่อความน่าอิจฉาให้แก่คนที่อยากจะมาเรียนคะ 5555
GT Education Center คือโรงเรียนสอนภาษาที่จูนมาเรียนคะ ซึ่งสถาบันนี้อยู่ใจกลางเมืองชิคาโก มีรถไฟฟ้าผ่าน เดินทางสะดวกคะ
ในห้องเรียนแต่ละห้องจะมีเพื่อนร่วมห้องไม่เยอะมากนะคะ เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึงของอาจารย์คะ
บริเวณรอบๆ ดูสะอาดและอบอุ่นมากคะ มีส่วนกลางให้นักเรียนพักผ่อนก่อน/หลังเข้าเรียนด้วย
เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้ว วันแรกทุกคนจะได้ทำการสอบคะ เป็นพรีเทสเพื่อวัดระดับความรู้ความสามารถของเราคะ อันนี้ไม่ต้องเครียดนะคะ ใครมีแค่ไหนเอาแค่นั้นคะ ง่ายๆคือ ไม่รู้ก็ส่งกระดาษเปล่าเลยคะ ทางโรงเรียนจะประเมินเราแล้วจับเราเข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมที่สุดคะ
มาคะ มาเริ่มขั้นตอนในการสมัครเรียนกันเลยดีกว่า (จูนไม่ขอลงรายละเอียดลึกมากนะคะ เพราะขั้นตอนการเตรียมเอกสารของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันคะ)
1. สมัครเรียนและขอ i20
เอกสารที่ใช้สมัครเรียนค่ะ ก็มี bank statement , transcript , พาสปอร์ต , หนังสือสปอนเซอร์ (ในกรณีของผู้ที่ใช้ bank statement ที่ไม่ใช่ชื่อตัวเอง) หลังจากเตรียมเอกสารครบแล้วก็นัดกันเพื่อกรอกใบสมัครพร้อมกัน หลังจากนั้นพี่เขาจะดำเนินการจัดส่งเอกสารไปยังโรงเรียน (ซึ่งมีที่ปรึกษาคนไทยเป็นพาร์ทเนอร์กับทางโรงเรียนนั้นโดยตรง) ดำเนินการต่อให้ ประมาณ 2 อาทิตย์ i-20 ก็ส่งมาที่บ้านค่ะ
2. นัดสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่า
เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อมระหว่างรอ i20 (พอได้รับ i20 ส่งกลับมาจากทางโรงเรียนแล้ว จะได้ลงทะเบียนนัดสัมภาษขอวีซ่าได้ทันทีเลยคะ)
- พาสปอร์ต
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นสีขาว เปิดใบหน้า เห็นหู
- ใบรับรองวุฒิการศึกษาภาษาอังกฤษ
- Transcript / ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
- หนังสือสปอนเซอร์
- เอกสาร i-20 ที่ส่งมาจากโรงเรียน
หลังจากเตรียมเอกสารเบื้องต้นครบแล้ว ก็นัดกับพี่เขาอีกรอบเพื่อมาดำเนินการพร้อมกันคะ (อันนี้ดีมาก เพราะในเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยากและงง ได้พี่เขามาช่วยก็ดีขึ้นเยอะเลยคะ) จำได้คร่าวๆว่า ต้องเข้าไปจ่ายค่าธรรมเนียม SEVIS ก่อนที่ https://www.fmjfee.com/ โดยกรอกข้อมูล SEVIS อ้างอิงจาก i20 ที่ส่งกลับมาจากทางโรงเรียน ชำระเงินแล้วปริ้นใบเสร็จเพื่อนำไปกรอกข้อมูลวีซ่า และถือไปในวันสัมภาษณ์ด้วยคะ
ในการกรอกข้อมูลวีซ่าให้ไปที่ https://ceac.state.gov/genniv/default.aspx หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จก็อัพโหลดรูปและปริ้นใบ Confirmation นำไปในวันสัมภาษณ์
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย นัดคิวสัมภาษณ์ที่ https://cgifederal.secure.force.com/ ปริ้นเอกสารที่มีหมายเลขใบเสร็จเพื่อใช้ชำระเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาค่ะ (U.S. Visa fee deposit slip) สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการชำระเงินของธนาคารที่ http://www.ustraveldocs.com/th_th/BAYDepositSlip.pdf หลังจากนั้นนำจะได้ใบเสร็จจากธนาคารมาเก็บไว้ และยืนยันการจองในวันถัดไปคะ
3. วันสัมภาษณ์
วันที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต วันที่รู้สึกเหมือนกับวันคัดตัวนางงาม จูนไปต่อแถวแต่เช้าตรู่คะ หลังจากผ่านกระบวนการมหาโหดตรงช่วงรักษาความปลอดในขาเข้าแล้วนั้น จูนสัมภาษเป็นภาษาอังกฤษคะ ด้วยความที่เราไม่เก่งแต่มีความพยายามมาก อยากให้เขารู้ว่า เราตั้งใจไปเรียนจริงๆนะ จึงขอให้เขาพูดช้าๆ และตอบคำถามทุกอย่างด้วยความมั่นใจ พูดภาษาอังกฤษแบบไม่สนใจแกรมม่า มีตอบสลับกับภาษาไทยด้วย แต่จูนเชื่อว่าจูนผ่านเพราะจูนตั้งใจว่าจะไปเรียนจริงๆ ไม่ได้กะจะไปทำงานหรือต้องการหาสามีคะ จูนโดนถามไม่เยอะคะ โดนคำถามทั่วไป ชื่อ/สกุล อายุ ไปทำอะไร ที่ไหน รู้จักใครที่นั่นไหม ทำไมอยากเรียนภาษาอังกฤษ มั่นใจขนาดนี้ก็ผ่านสิคะ รออะไรรรรรร
4. จองตั๋วเครื่องบิน
ขั้นตอนนี้จูนขอออกตัวก่อนเลยว่าจูนไม่ได้จัดการเองเลย เนื่องจากจูนซื้อแพคเกจกับทางโรงเรียนไป ซึ่งในแพคเกจจะคลอบคลุมเรื่องค่าเทอม 1 ปี ค่าดำเนินการด้านเอกสารทั้งหมด ค่าเครื่องบิน และบริการรับส่งในประเทศอเมริกา รวมทั้งบริการจิปาทะอื่นๆ อย่างเช่น บริการจัดหาที่พัก เปิดบัญชี เบอร์โทรศัพท์ พาเที่ยวชมรอบเมือง แนะนำสถานที่ และแนะนำกลุ่มเพื่อนคนไทยเพื่อช่วยเหลือและติดตามคะ
หลังจากรู้ว่าวีซ่าผ่านแล้ว พี่เขาจะนำตารางรางคาตั๋วเครื่องบินมาให้จูนเลือกคะ ว่าจูนต้องการเดินทางวันไหน สายการบินอะไร มีแวะพักที่ไหน และข้อเสนอในราคาพิเศษต่างๆ พอตกลงเลือกได้ที่ถูกใจแล้ว พี่เขาจำดำเนินการซื้อตั๋วเครื่องบินให้ทั้งหมดคะ
5. เก็บกระเป๋า เตรียมบิน
จริงๆแล้วขั้นตอนนี้สำคัญมากเลยนะคะ จูนได้รับคำแนะนำหลายอย่างจากพี่เขาในเรื่องของการเตรียมตัว ว่าอะไรที่ควรนำไปหรือไปจัดหาซื้อที่นู่นได้ที่ไหนอย่างไร สภาพอากาศ ย่านต่างๆในเมืองว่าที่ไหนอันตรายหรือควรต้องระวังตัว มีวีดีโอคอลให้รู้จักพูดคุยกับที่ปรึกษาคนไทยที่จะดูแลเราทั้งเรื่องการเรียนและรับส่งและเพื่อนๆคนไทยที่จะสามารถช่วยเหลือและติดต่อกับเราได้ที่นั่นด้วย แนะนำให้รู้จักกับสถานที่ต่างๆในเมือง ทั้งร้านอาหารไทยและเทศ ผับ แหล่งชอปปิ้งทุกซอกทุกมุม สอนเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถเมย์ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราจะไม่ตื่นเต้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์จริง
6. วันเดินทางมาถึง จูนเดินทางช่วงอากาศเริ่มเย็นคะ แต่งตัวพร้อมจากเมืองไทยเลย
เมื่อเดินทางมาถึงชิคาโก จะมีพี่ที่เป็นที่ปรึกษาคนไทยมารับที่สนามบินและพาไปเปิดเบอร์โทรศัพท์และพาจัดการเรื่องการเช่าที่พักคะ วันรุ่งขึ้นพี่เขาก็พาไปเปิดบัญชี ทำธุระที่สำคัญ ซื้อของใช้ที่จำเป็น และพาเที่ยวรอบๆเมืองด้วยคะ
วันที่เข้าไปสอบวัดระดับวันแรก ก็ได้กำลังใจจากพี่สาวคนสวยที่คอยเทคแคร์เราที่นี่อย่างเป็นกันเอง พาไปกินของอร่อยๆ สอนการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียนด้วยรถไฟฟ้า และพาเที่ยวใกล้ๆโรงเรียน เพื่อทำให้เราสบายใจก่อนเข้าสอบอีกด้วยคะ เอาซะหายเครียดเลยยย
เรามาถึงชิคาโกก่อนถึงวันเปิดเทอมจริงเกือบเดือนค่ะ เลยมีเวลาเที่ยวและศึกษาการใช้ชีวิตรอบๆเมืองด้วย ทำให้รู้เลยว่าการมาเมืองนอกคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คนไทยไม่เคยทิ้งกันคะ ทุกที่ในโลกใบนี้จูนเชื่อว่าถ้าเป็นคนไทยด้วยกันเองแล้ว รับรองว่าต้องดูแลกันเหมือนครอบครัวแน่นอน คนไทยโชคดีนะคะ มีพี่มีน้อง ไปไหนก็ไม่ต้องกลัวคะ เชื่อจูนนะ
สำหรับใครที่อยากมาเรียนภาษาแบบจูน ครอบครัวชิคาโกยินดีต้อนรับนะคะ เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่เหงา ไม่โดดเดี่ยว แต่จะได้รับความรู้ ความสุข ประสบการณ์ มิตรภาพดีๆในต่างแดน และช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดกลับไปเล่าต่อให้คนอื่นๆฟังแบบจูนอย่างแน่นอนคะ