ต้องขอออกตัวทุกครั้งว่าไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศีกษาอะไร เเต่มี benefit ที่เรียกได้ว่าคงหาในตำราไม่ได้เเน่นอน นั้นก็คือ “กรูมีเมียจีน” ซึ่งทำให้ได้สัมผัสกับ So real culture เเละวิถีชีวิตของคนจีนใน generation ที่เรียกได้ว่าเป็นยุคของการเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี + materialism ส่วนตัวผมให้ 10.0 ไปเลย
เกริ่นมานานขอเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บอกไว้ก่อนว่า content นี้เป็นเรื่องเมาท์ๆ กันในวงการทางการเงินของ HK ที่เผอิญมีพรรคพวกอยู่ใน HK มาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าพี่น้องท่านไหนติดตามข่าวของบริษัทมดเนี่ยก็จะทราบว่ามีกระเเสมาช่วงหนึ่งละว่ากำลังจะ IPO เเต่ไม่เเน่ใจว่าจะตลาดใด จะ NASDAQ ดี หรือ HK หรือจะกลับไปตายรังที่ประเทศตัวเอง สุดท้ายก็มีข่าวออกมาว่าเลื่อนไปอีก
มาพูดเรื่องบริษัทมดก่อน เผื่อท่านใดไม่ทราบว่าบริษัทเนี่ยมันคืออะไร Ant Financial คือบริษัทลูกของ e-commerce ยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ที่ตอนเเรกขยายปีกตัวเองเปิดเป็น wallet เพื่อรองรับการชำระเงินให้กับตัวเอง นั้นก็คือ Alipay เเต่ภายหลัง อย่างที่ได้พูดไปในกระทู้เเรกของผมว่าเจ้า e-wallet มันโตมาก เงินมันเยอะ customer behavior ก็ได้รับความนิยมซะเหลือเกิน คุณ Jack Ma เลยต้องการสยายปีกตัวเองไปทำอย่างอื่นด้วย มันก็อยู่เเล้วฐานลูกค้าเยอะขนาดนี้ ไปทำธุรกิจเงินต่อเงินมันก็ย่อมกำไรดีกว่าอยู่เเล้ว คิดได้เยี่ยงนี้เเล้วพี่เเกก็ทำตัวเป็นโครตสถาบันการเงินเลย คือ มี business model อื่นๆ ตามมามากมายตั้งเเต่ ธุรกิจประกันภัย ที่ประกันตั้งเเต่สากกะเบือยันโดรนที่บินๆอยู่ก็มี รวมถึงทำเป็น Private Funds อีกด้วย โดยรับบริหารเงินที่มีอยู่ใน Wallet ของ Alipay เริ่มตั้งเเต่ 1 หยวน ถอนออกเมื่อไรก็ได้ ผลตอบเเทนจ่ายรายวัน เเม่เจ้าาาา!!! ยังงๆๆๆ ยังไม่หมด ปล่อยกู้พี่เเกก็เอา เเต่อันนี้ส่วนตัวชอบมากคือ มีคำถามในใจว่า credit มาจากไหน คำตอบก็คือ Big data ของ Alibaba นั้นเอง ซึ่งในส่วน Personal มันก็คือการใช้จ่ายหรือ transaction ของผู้ใช้ Alipay นั้นเอง ส่วน Business owner / SMEs มันก็มาจากร้านขายของใน website e-commerce ของ Alibaba ที่มีอยู่มากมายมหาศาล สุดยอด!!!
เนื่องด้วยประการฉะนี้ที่ business model มันเยอะเหลือเกิน เลยเเตกบริษัทลูกออกมาดีกว่า โดยเป้าหมายปลายทางคือ easy money อย่างตลาดหุ้น นั้นก็คือการ IPO สร้างกำไรอีกภายหลังจากประสบความสำเร็จของ Alibaba
เเต่แผนก็เริ่มชะงัก ตรงไหนนะรืออ คำตอบคือ ประกันภัย ซึ่งถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่ผิดพลาดไป ต้องขอเกริ่นเบื้องต้นก่อนว่า การดำเนินธุรกิจประกันเนี่ยมันได้ทำรายได้หรือกำไรจากตรงไหน คำตอบคือเบี้ยประกันที่คนมาซื้อประกันเเล้วไม่ได้เคลม สมมติว่า 100 คน เคลมไป 30 – 40 คน มันก็ทบกันไปกันมา บริษัทมันก็กำไร เเต่ถ้า 100 คน เคลมหมดเลย 100 ก็เจ๊งสิฮะ ซึ่งนี้คือสิ่งที่เกิดกับบริษัทนี้ โดยบริษัทได้ขายประกันให้กับผู้ซื้อบน website ของ Alibaba ทั้งเเบบ B2C (Taobao.com) เเละ B2B (Alibaba.com) ที่ครอบคลุมทุกเรื่อง เช่น ไม่พอใจสินค้าเเล้วผู้ขายไม่รับคืน ก็เอามา เดี๋ยวกรูจ่ายเอง ไม่ได้รับสินค้า ผู้ขายโกง กรูก็จ่ายให้ ป๋าสุดๆ เท่านั้นเเหละอีพวกจริงบ้าง ไม่จริงบ้างก็สนุกกันใหญ่ สุดท้าย ก็มาเคลมกันอย่างสนุกสนาน ลงเอยด้วยการขากทุนอย่างมโหฬาร ได้ข่าวเเว่วมาว่างบการเงินไตรมาสล่าสุดก็เลยไม่สวย เป็นผลให้เป็นอันต้องเลื่อน IPO ไป ขนาดที่ว่า SEC จีนยังส่ายหน้าไม่รับ case filling ของพี่เเกไป เเหม!!!!!! เล่าเรื่องธุรกิจประกันภัยก็คันปากอยากเล่าเรื่องของบริษัทยักษ์ใหญ่ number one ของจีนอย่าง Ping An Insurance ที่มีเจ้าสัว CP เข้าไปถือหุ้นกว่า 30% พอๆๆๆ ไว้ค่อยมาเล่าต่อ
ท้ายสุดกลับมาที่เจ้ามดตัวน้อยตัวนิดที่มันก็ยังถือเป็นข่าวลือออกมา แต่อย่างไรก็ดี ต้องตามกันต่อไปยาวๆครับ ว่าเจ้าพ่อ Alibaba อาจจะมีพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้
ฝากติดตามผลงานครัชช
https://pantip.com/topic/37008333 - Trip to China กับประสบการณ์มันๆ เรื่อง FinTech
เรื่องเจ็บๆ คันๆ ของ Ant Financial บริษัททางการเงินยักษ์ใหญ่ของ Alibaba
เกริ่นมานานขอเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บอกไว้ก่อนว่า content นี้เป็นเรื่องเมาท์ๆ กันในวงการทางการเงินของ HK ที่เผอิญมีพรรคพวกอยู่ใน HK มาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าพี่น้องท่านไหนติดตามข่าวของบริษัทมดเนี่ยก็จะทราบว่ามีกระเเสมาช่วงหนึ่งละว่ากำลังจะ IPO เเต่ไม่เเน่ใจว่าจะตลาดใด จะ NASDAQ ดี หรือ HK หรือจะกลับไปตายรังที่ประเทศตัวเอง สุดท้ายก็มีข่าวออกมาว่าเลื่อนไปอีก
มาพูดเรื่องบริษัทมดก่อน เผื่อท่านใดไม่ทราบว่าบริษัทเนี่ยมันคืออะไร Ant Financial คือบริษัทลูกของ e-commerce ยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ที่ตอนเเรกขยายปีกตัวเองเปิดเป็น wallet เพื่อรองรับการชำระเงินให้กับตัวเอง นั้นก็คือ Alipay เเต่ภายหลัง อย่างที่ได้พูดไปในกระทู้เเรกของผมว่าเจ้า e-wallet มันโตมาก เงินมันเยอะ customer behavior ก็ได้รับความนิยมซะเหลือเกิน คุณ Jack Ma เลยต้องการสยายปีกตัวเองไปทำอย่างอื่นด้วย มันก็อยู่เเล้วฐานลูกค้าเยอะขนาดนี้ ไปทำธุรกิจเงินต่อเงินมันก็ย่อมกำไรดีกว่าอยู่เเล้ว คิดได้เยี่ยงนี้เเล้วพี่เเกก็ทำตัวเป็นโครตสถาบันการเงินเลย คือ มี business model อื่นๆ ตามมามากมายตั้งเเต่ ธุรกิจประกันภัย ที่ประกันตั้งเเต่สากกะเบือยันโดรนที่บินๆอยู่ก็มี รวมถึงทำเป็น Private Funds อีกด้วย โดยรับบริหารเงินที่มีอยู่ใน Wallet ของ Alipay เริ่มตั้งเเต่ 1 หยวน ถอนออกเมื่อไรก็ได้ ผลตอบเเทนจ่ายรายวัน เเม่เจ้าาาา!!! ยังงๆๆๆ ยังไม่หมด ปล่อยกู้พี่เเกก็เอา เเต่อันนี้ส่วนตัวชอบมากคือ มีคำถามในใจว่า credit มาจากไหน คำตอบก็คือ Big data ของ Alibaba นั้นเอง ซึ่งในส่วน Personal มันก็คือการใช้จ่ายหรือ transaction ของผู้ใช้ Alipay นั้นเอง ส่วน Business owner / SMEs มันก็มาจากร้านขายของใน website e-commerce ของ Alibaba ที่มีอยู่มากมายมหาศาล สุดยอด!!!
เนื่องด้วยประการฉะนี้ที่ business model มันเยอะเหลือเกิน เลยเเตกบริษัทลูกออกมาดีกว่า โดยเป้าหมายปลายทางคือ easy money อย่างตลาดหุ้น นั้นก็คือการ IPO สร้างกำไรอีกภายหลังจากประสบความสำเร็จของ Alibaba
เเต่แผนก็เริ่มชะงัก ตรงไหนนะรืออ คำตอบคือ ประกันภัย ซึ่งถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่ผิดพลาดไป ต้องขอเกริ่นเบื้องต้นก่อนว่า การดำเนินธุรกิจประกันเนี่ยมันได้ทำรายได้หรือกำไรจากตรงไหน คำตอบคือเบี้ยประกันที่คนมาซื้อประกันเเล้วไม่ได้เคลม สมมติว่า 100 คน เคลมไป 30 – 40 คน มันก็ทบกันไปกันมา บริษัทมันก็กำไร เเต่ถ้า 100 คน เคลมหมดเลย 100 ก็เจ๊งสิฮะ ซึ่งนี้คือสิ่งที่เกิดกับบริษัทนี้ โดยบริษัทได้ขายประกันให้กับผู้ซื้อบน website ของ Alibaba ทั้งเเบบ B2C (Taobao.com) เเละ B2B (Alibaba.com) ที่ครอบคลุมทุกเรื่อง เช่น ไม่พอใจสินค้าเเล้วผู้ขายไม่รับคืน ก็เอามา เดี๋ยวกรูจ่ายเอง ไม่ได้รับสินค้า ผู้ขายโกง กรูก็จ่ายให้ ป๋าสุดๆ เท่านั้นเเหละอีพวกจริงบ้าง ไม่จริงบ้างก็สนุกกันใหญ่ สุดท้าย ก็มาเคลมกันอย่างสนุกสนาน ลงเอยด้วยการขากทุนอย่างมโหฬาร ได้ข่าวเเว่วมาว่างบการเงินไตรมาสล่าสุดก็เลยไม่สวย เป็นผลให้เป็นอันต้องเลื่อน IPO ไป ขนาดที่ว่า SEC จีนยังส่ายหน้าไม่รับ case filling ของพี่เเกไป เเหม!!!!!! เล่าเรื่องธุรกิจประกันภัยก็คันปากอยากเล่าเรื่องของบริษัทยักษ์ใหญ่ number one ของจีนอย่าง Ping An Insurance ที่มีเจ้าสัว CP เข้าไปถือหุ้นกว่า 30% พอๆๆๆ ไว้ค่อยมาเล่าต่อ
ท้ายสุดกลับมาที่เจ้ามดตัวน้อยตัวนิดที่มันก็ยังถือเป็นข่าวลือออกมา แต่อย่างไรก็ดี ต้องตามกันต่อไปยาวๆครับ ว่าเจ้าพ่อ Alibaba อาจจะมีพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้
ฝากติดตามผลงานครัชช
https://pantip.com/topic/37008333 - Trip to China กับประสบการณ์มันๆ เรื่อง FinTech