ความรักมาพร้อมกับความเสียใจ จากชีวิตจริง

ความรักมาพร้อมกับความเสียใจ จากชีวิตจริง
ยาวหน่อยนะคะ...
           เรื่องของเรามีอยู่ว่า เรารู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานด้านเดียวกัน จากงานที่ทำ ทำให้เราเจอกันบ่อยขึ้นจนเราได้สนิทมากขึ้น และได้เริ่มคบและรู้จักกันมากขึ้นๆ แต่ไม่กล้าเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ว่ากำลังคบกัน จนเมื่อมีงานปีใหม่ในปี2014 เราได้ไปงานเลี้ยงและเมื่องานเลี้ยงใกล้จะเลิก เราทำการขอกลับก่อนโดยให้นายก.มารับ (ขอแทนว่านายก. ละกันค่ะ) แต่พอวันต่อมา มีข่าวว่าแอบไปกับผู้ชายคนอื่นที่เขามีลูกมีเมียแล้ว (งงกันเลยยย) เราก็ต้องอธิบายพร้อมกับต้องเริ่มเปิดตัวว่าเรากำลังคบกับนายก. ความรักของเราเริ่มผลิบานไปเรื่อยๆ นายก. พยายามดูแลเอาใจใส่เรา ไปรับ-ส่ง ตลอดเวลา (และนี้เป็นข้อดีส่วนนึงที่ทำให้เรามาเสมอต้นเสมอปลายตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน) นายก. อาจไม่ใช่คนรวย ไม่ได้เป็นครอบครัวที่มีฐานะ แต่เขาเป็นคนขยัน และเราเชื่อว่าคนขยันจะไม่อดตาย เมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้นกับเขาเรื่อยๆ จนเรายอมจะไปบ้าน นายก. ทำความรู้จักกับแม่ของเขา  และเริ่มเข้ามาอยู่บ้านเขา โดยในช่วง 8 เดือนแรก มานอนเพื่อไปทำงาน ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันเลย ... นายก. มีความต้องการไหม บอกเลยว่ามีมากตามฉบับผู้ชายทั่วไป แต่เมื่อเราบอกว่าขออย่าทำ เขาก็ไม่ทำ ..จนวันนึงเราก็ใจอ่อนยอมมอบตัวและหัวใจให้กับนาย ก. และคบกันตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น 4 ปี แต่!!! ในระยะ4 ปีที่เราเรียนรู้กันมาก็ต้องทำให้เราต้องเลิกกัน เพราะช่วงระยะเวลาที่คบกัน เขาจะมีผู้หญิงอื่นๆคุยด้วยตลอด เราก็จับได้ ก็ค่อยๆเริ่มจับเช็คโทรศัพท์เขา จนมาปี 2015 เราป่วยเข้า รพ. นายก.ดีมากทำการมาเฝ้า ในคืนที่เข้ารพ. และบอกว่าตอนเช้ามีงานต้องไปทำ แล้วจะรีบกลับมาเฝ้า และพอวันรุงขึ้นเขาก็ไปทำงานและกลับมาตอนช่วงเย็น พร้อมบอกว่า ไปดูหนังกับพี่ที่ทำงานด้วยกันมาด้วย แล้วกลับมาบ้านอาบน้ำเอาเสื้อผ้ามานอนเฝ้าเรา เราแสนทราบซึ้งใจ กับนายก.มาก และรักนายก. มากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปประมาณเดือนนึง ความลับไม่มีในโลกนั้นเอง เราเห็นLineของเขา มีผู้หญิงทักเด้งขึ้นมา ตอนแรกไม่คิดอะไร  แต่พอผ่านไป 3-4 ชม. ลองดูโทรศัพท์นายก. ประโยคที่ญ คนนี้ทักมาใันLineหายไป พอถามเขาก็บอกว่าไม่รู้ เราไม่ชอบการโกหก เมื่อรู้จึกขอเลิกกัน ... นายก.ไม่ยอม แต่เราเลือกที่จะกลับบ้าน ระหว่างนั้นเขาร้องไห้เสียใจ และพยายามไลน์ง้อมาบอกว่า เขามาเดินที่สนามหลวงไม่อยากกลับบ้าน ตอนนี้จะเป็นลม เหงื่อออกมาก เขาบอกเขาเป็นความดันต่ำ และสุดท้ายเราก็เห็นใจเขา เราจึงคืนดีกับนายก. แต่พออยู่ด้วยกันไปสักพัก (คนมีคู่แปลกนะคะ เราจะมีเซนส์ถึงความไม่บริสุทธิ์) เราจึงสังเกตุสักพักเริ่มสงสัย แล้วจึงหาเบอร์จนโทรไปคุย ญ คนนั้น ซึ่งเขาทำความรู้จักกันผ่านจากงานที่ทำด้วยกัน และได้ไปดูหนังด้วยกัน กินข้าวกัน และไปสนามหลวงด้วยกัน ผ่าม!!! เราก็มาถามเรื่องราว ไปเมื่อไหร่ยังไง ชัดเลย!!! วันที่นางไปดูหนังกับนายก. คือวันที่เรานอนป่วยอยู่ รพ. และวันที่ไปสนามหลวง คือวันที่เราบอกเลิกเขาไป แล้วเขาบอกว่ามานั่งเล่นไม่อยากกลับ เป็นความดันต่ำ จะเป็นลม!! (เราสิสมองตื้อไปเลย) ทีนี้เราถามต่อแล้วมีอะไรกันรึยัง นางตอบว่า ไม่มี เราก็วางสายไป ทำการโทรหา นายก. และคุยเรื่องราวต่างๆ และเราก็ทำการถามนายก. ว่าอะไรกันรึยัง และเมื่อได้ตอบ นอกจากสมองจะตื้อแล้ว ตัวนี้ชาไปทั้งหมดเลยทีเดียว เพราะเขาบอกว่ามี ที่สำคัญคือมีที่บ้านที่เตียงที่เรานอนด้วยกันทุกคน ใจแทบสลาย!!! แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเราก็ยอมอภัยให้ เขาตัดสินใจคุยกับ ญ ทุกคน พร้อมกับเราตั้งกฏเกณฑ์ขึ้นมา ว่าห้ามโกหก ห้ามคุยกิ๊กๆกั๊กๆ กับคนอื่น และจบกับน้องคนนั้นไปในบัดดล แต่ในระยะแต่ละปี ก็จะมีการคุยกับสาวๆเวียนวนกันไปมา
         จนมาถึงเรื่องราวอีกครั้ง เราทะเลาะกันเราทำงานอีกที่ จึงมีเวลาทำงานไม่ตรงกันการเจอกันน้อยลง สุดท้ายนายก. ก็น้องอีกคนเข้ามา และมีอะไรกันด้วย บนเตียงที่เรานอนเช่นเคย เรามาจับได้ตรงที่ว่า เรามาบ้านเขาโดยที่นายก.ไม่รู้ตัว เมื่อมาถึงเขาไม่อยู่บ้าน เราจึงขึ้นไปบนห้องสิ่งที่เจอคือ ถุงยางที่ใช้แล้ว ... ทำให้ความลับไม่มีในโลกอีกเช่นเคย แต่ทีนี้น้องคนที่มามีอะไนด้วยคือน้องที่เรารู้จักเอ็นดูและสนิทกับเราและนายก. มาก ช๊อค!! ค่ะ ว่าทำไมถึงต้องเป็นคนใกล้ตัวเราขนาดนี้ถึงทำร้ายกัน สุดท้ายน้องคนนี้ก็ต้องจบไป เราก็จะเลิกกับนายก.แต่ก็ทนใจอ่อยไม่ไหว กับความรักที่มี (เข้าใจคนอ่านนะคะว่าคงคิดว่าเราโง่มาก ใช่ค่ะโง่จริงๆ แต่ณ ตอนนั้นเรายังคงอยากอยู่กับเขาจริงๆ)
     ความรักเราจึงดำเนินต่อไป เราก็ลุกล้ำความเป็นส่วนตัวเขามากขึ้น จับโทรศัพท์เขามาดูบ่อยๆ  จนผ่านไป
     มาปี 2017 เรื่องราวก็เกิดขึ้นอีก เขาทำการคุยกับลูกค้าตัวเอง คุยเรื่อยๆ จนเราไม่โอเค เขาบอกตลอดไม่มีอะไรๆ แต่ทุกครั้งก็มีอะไรตลอด จนเรากลัวปัญหาเดิมๆอีก จึงทำการให้เขาหยุดคุย สุดท้ายเขาก็แอบคุยจนเราจับได้ แต่ทีนี้ เป็นการเลิกลาโดยที่เขาไม่ง้อเลย..
     เพราะนายก.บอกว่าเราบีบบังคับเขาทุกอย่างเหมือนกับอยู่ในคุก ...
    จริงๆ ในตัวนายก. เขาก็ดีกับเราเทคแคร์ ไปรับไปส่งตลอดมาให้ความรักเรามา แต่อาจแบ่งให้คนอื่นบ่อยไปหน่อย
    ในเมื่อเขาไม่ต้องการเรา เราต้องตั้งสติแล้วถอยออกมา และพยายามยอมรับความจริง และจำในสิ่งที่มันทำร้ายตัวเราไว้เป็นบทเรียน และเก็บสิ่งดีๆเอาไว้ยิ้มในยามที่เราแข็งแรง  ตอนนี้พึ่งเลิกมาได้ 3 วัน ก็กำลังทำใจเพื่อดำเนินชีวิตของเราต่อไป...
    
    === ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ เราแค่อยากระบายเรื่องของเราที่ไม่สามารถพูดกับใครได้เลย ===
    ปล. ถ้าอ่านแล้วงงต้องขอ อภัยด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่