ปอลิ่ง.1 ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 59 ก็คือปีที่แล้วในช่วงเวลานี้ (ปลายฝนต้นหนาว) แต่ช่วงนั้นผมยังเป็นเด็กน้อยพึ่งหัดเที่ยว และพึ่งหัดถ่ายภาพใหม่ ๆ เลยยังถ่ายภาพได้ไม่สื่อกับการรีวิวเท่าไหร่ พอดีเขียนรีวิวเป็น Draft ไว้เมื่อปีที่แล้ว และมาเขียนต่อให้จบครับผม ซึ่งรายละเอียดหลายอย่างอาจขาดหายไป เพราะมันค่อนข้างนานแล้ว แต่อยากเขียนย้อนไปเพราะมันเป็นความทรงจำครั้งแรกของการผจญภัยเลยล่ะ
ปอลิ่ง.2 หนึ่งปีที่ผ่านมา ผมก็ยังไม่เคยเจทริปที่โหดเท่านี้มาก่อนเลย เพราะมันเป็นการเดินป่าเต็มรูปแบบ ไม่มีน้ำไฟ ไม่มีหมู่บ้านบนนั้นครับ แถมไปหน้าฝน เละเทะมาก ทากก็เยอะครบสูตรเลย 555+
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ นี่เป็นทริปแรกสำหรับการเดินป่าของผมเลย เป็นเหมือนรีวิวเล็ก ๆ สำหรับการเดินป่าในช่วงหน้าฝน กับภูบักได ผมเคยเห็นรีวิวของคนอื่น ๆ แล้วจะเป็นในช่วงหน้าร้อนหรือการขึ้นในช่วงหน้าหนาวเป็นส่วนใหญ่ ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของผมบ้าง ในแบบฉบับของมือใหม่นะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ ^ ^
สำหรับคนไม่เคยเดินป่า แต่อยากหาอะไรแปลกใหม่ให้กับชีวิตก็มาลองดูกันได้ครับ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดน้านนน.. เพราะฉะนั้นมือใหม่ แนะนำว่าควรมาหัดเดินเก็บเลเวลที่นี่เป็นที่แรก ๆ เลยครับ
สำหรับภูบักไดนั้น ถ้าเกิดถามพวกนักเดินทางประสบการณ์สูงแล้วมักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยู่ในระดับที่ง่าย แต่เนื่องจากตอนที่ผมไปนั้นเป็นช่วงหน้าฝน และวันที่ไปก็มีฝนตกบ้างพอสมควรจึงทำให้พื้นดินค่อนข้างแฉะ การเดินทางจึงเพิ่มเลเวลความลำบำขึ้นมาในระดับปานกลาง บวกกับไฮไลท์ของงานเลยนั่นคือทากดูดเลือดซึ่งจะมีเยอะเป็นพิเศษในช่วงนี้ แต่นั่นก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับทริปในครั้งในครับผม
เอาล่ะ ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดนึง แรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผมตัดสินในมาออกทริปนี้คือผมอยากลองเดินป่าใช้ชีวิต Adventure ดูซักครั้ง ด้วยความที่ผมเป็นเด็ก กทม. ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองตั้งแต่เกิด ในชีวิตนี่เคยไปเที่ยว ตจว. นับครั้งได้เลย เพราะครอบครัว ญาติพี่น้องอยู่ กทม. กันหมดเลย
แต่ผมก็เคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน แต่ก็แค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 6 เดือน และที่สำคัญคือได้เกณฑ์อยู่ใน กทม. อีกด้วย (ที่จริงผมสามารถเลือกไป ตจว. ได้ แต่ก็เป็นห่วงที่บ้าน อยากกลับบ้านได้ในวันหยุด จึงเลือกลงใกล้บ้านดีกว่า) แต่... การฝึกในค่าย กทม. สำหรับทหารใหม่นั้นก็จะเป็นการฝึกแบบอยู่ในค่ายอยู่ในรั้วกรม ไม่มีการเดินป่า หรือฝึกนอกสถานที่ ๆ เป็นสนามรบจริง ๆ แบบในหนังซะเท่าไหร่ ตอนเดินทางไกลก็แค่ได้เดินอยู่ที่ค่าย เดินวนรอบกรม กางเต็นท์บนสนามหญ้าหน้าหน่วยฝึก แถมกางไว้ก็ไม่ได้นอนอีก เพราะอะไรถามคนที่เคยเกณฑ์ดูนะครับ 555+
และตอนที่ผมเรียนอยู่ตอนประถม มัธยมตอนวิชาลูกเสือก็ไม่ต่างกันครับ ได้เดินทางไกลอยู่ใน ร.ร. แถมไม่ได้กางเต็นท์ด้วย นอนที่บนห้องเรียนที่จัดไว้ ก็เป็นแบบนี้แหละครับ ชีวิตเด็กกรุงเทพ ผมจึงไม่ได้สัมผัสชีวิตแบบ Adventure จริง ๆ ซักที
ทริปนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ปกติผมจะไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่ชอบเที่ยวแบบผมซักเท่าไหร่ การจะหาเพื่อนมาออกทริปแบบนี้ จึงไม่รู้จะหาจากไหน ก็เลยลองเสิร์จใน Internet ดู ปรากฏว่ามีเพจ Facebook สำหรับคนชอบท่องเที่ยว แบบหารเฉลี่ย จะมีคนมาโพสหาคนไปออกทริปเรื่อย ๆ และก็หารตังค่าทริปเอา ผมก็เลยจัดไป!! หาทริปอยู่ซักพัก ก็เลยเจอกับทริปเดินป่า ซึ่งผมก็ไม่รู้มันคือที่ไหนอะไรยังไง แต่เห็นปุ้บ ผมรีบโพสจองที่ก่อนเลย เรื่องเตรียมตัวไว้จัดที่หลัง 555+ ทริปนี้ไปกัน 10 คนครับ ผมไปคนเดียวเลย ไม่รู้จักใครสักคนเลย *0*
[CR] เมื่อหนุ่มเมืองกรุง ต้องออกทริปเดินป่าเป็นครั้งแรกในชีวิต กับภูบักได ตะลุยดงทาก 2 วัน 1 คืน @เลย
ปอลิ่ง.1 ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 59 ก็คือปีที่แล้วในช่วงเวลานี้ (ปลายฝนต้นหนาว) แต่ช่วงนั้นผมยังเป็นเด็กน้อยพึ่งหัดเที่ยว และพึ่งหัดถ่ายภาพใหม่ ๆ เลยยังถ่ายภาพได้ไม่สื่อกับการรีวิวเท่าไหร่ พอดีเขียนรีวิวเป็น Draft ไว้เมื่อปีที่แล้ว และมาเขียนต่อให้จบครับผม ซึ่งรายละเอียดหลายอย่างอาจขาดหายไป เพราะมันค่อนข้างนานแล้ว แต่อยากเขียนย้อนไปเพราะมันเป็นความทรงจำครั้งแรกของการผจญภัยเลยล่ะ
ปอลิ่ง.2 หนึ่งปีที่ผ่านมา ผมก็ยังไม่เคยเจทริปที่โหดเท่านี้มาก่อนเลย เพราะมันเป็นการเดินป่าเต็มรูปแบบ ไม่มีน้ำไฟ ไม่มีหมู่บ้านบนนั้นครับ แถมไปหน้าฝน เละเทะมาก ทากก็เยอะครบสูตรเลย 555+
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ นี่เป็นทริปแรกสำหรับการเดินป่าของผมเลย เป็นเหมือนรีวิวเล็ก ๆ สำหรับการเดินป่าในช่วงหน้าฝน กับภูบักได ผมเคยเห็นรีวิวของคนอื่น ๆ แล้วจะเป็นในช่วงหน้าร้อนหรือการขึ้นในช่วงหน้าหนาวเป็นส่วนใหญ่ ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของผมบ้าง ในแบบฉบับของมือใหม่นะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ ^ ^
สำหรับคนไม่เคยเดินป่า แต่อยากหาอะไรแปลกใหม่ให้กับชีวิตก็มาลองดูกันได้ครับ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดน้านนน.. เพราะฉะนั้นมือใหม่ แนะนำว่าควรมาหัดเดินเก็บเลเวลที่นี่เป็นที่แรก ๆ เลยครับ
สำหรับภูบักไดนั้น ถ้าเกิดถามพวกนักเดินทางประสบการณ์สูงแล้วมักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยู่ในระดับที่ง่าย แต่เนื่องจากตอนที่ผมไปนั้นเป็นช่วงหน้าฝน และวันที่ไปก็มีฝนตกบ้างพอสมควรจึงทำให้พื้นดินค่อนข้างแฉะ การเดินทางจึงเพิ่มเลเวลความลำบำขึ้นมาในระดับปานกลาง บวกกับไฮไลท์ของงานเลยนั่นคือทากดูดเลือดซึ่งจะมีเยอะเป็นพิเศษในช่วงนี้ แต่นั่นก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับทริปในครั้งในครับผม
เอาล่ะ ขอเล่าเรื่องตัวเองนิดนึง แรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผมตัดสินในมาออกทริปนี้คือผมอยากลองเดินป่าใช้ชีวิต Adventure ดูซักครั้ง ด้วยความที่ผมเป็นเด็ก กทม. ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองตั้งแต่เกิด ในชีวิตนี่เคยไปเที่ยว ตจว. นับครั้งได้เลย เพราะครอบครัว ญาติพี่น้องอยู่ กทม. กันหมดเลย
แต่ผมก็เคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน แต่ก็แค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 6 เดือน และที่สำคัญคือได้เกณฑ์อยู่ใน กทม. อีกด้วย (ที่จริงผมสามารถเลือกไป ตจว. ได้ แต่ก็เป็นห่วงที่บ้าน อยากกลับบ้านได้ในวันหยุด จึงเลือกลงใกล้บ้านดีกว่า) แต่... การฝึกในค่าย กทม. สำหรับทหารใหม่นั้นก็จะเป็นการฝึกแบบอยู่ในค่ายอยู่ในรั้วกรม ไม่มีการเดินป่า หรือฝึกนอกสถานที่ ๆ เป็นสนามรบจริง ๆ แบบในหนังซะเท่าไหร่ ตอนเดินทางไกลก็แค่ได้เดินอยู่ที่ค่าย เดินวนรอบกรม กางเต็นท์บนสนามหญ้าหน้าหน่วยฝึก แถมกางไว้ก็ไม่ได้นอนอีก เพราะอะไรถามคนที่เคยเกณฑ์ดูนะครับ 555+
และตอนที่ผมเรียนอยู่ตอนประถม มัธยมตอนวิชาลูกเสือก็ไม่ต่างกันครับ ได้เดินทางไกลอยู่ใน ร.ร. แถมไม่ได้กางเต็นท์ด้วย นอนที่บนห้องเรียนที่จัดไว้ ก็เป็นแบบนี้แหละครับ ชีวิตเด็กกรุงเทพ ผมจึงไม่ได้สัมผัสชีวิตแบบ Adventure จริง ๆ ซักที
ทริปนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ปกติผมจะไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่มีเพื่อนที่ชอบเที่ยวแบบผมซักเท่าไหร่ การจะหาเพื่อนมาออกทริปแบบนี้ จึงไม่รู้จะหาจากไหน ก็เลยลองเสิร์จใน Internet ดู ปรากฏว่ามีเพจ Facebook สำหรับคนชอบท่องเที่ยว แบบหารเฉลี่ย จะมีคนมาโพสหาคนไปออกทริปเรื่อย ๆ และก็หารตังค่าทริปเอา ผมก็เลยจัดไป!! หาทริปอยู่ซักพัก ก็เลยเจอกับทริปเดินป่า ซึ่งผมก็ไม่รู้มันคือที่ไหนอะไรยังไง แต่เห็นปุ้บ ผมรีบโพสจองที่ก่อนเลย เรื่องเตรียมตัวไว้จัดที่หลัง 555+ ทริปนี้ไปกัน 10 คนครับ ผมไปคนเดียวเลย ไม่รู้จักใครสักคนเลย *0*