เกือบเสียสาวตอนอายุ 15 เพราะรุ่นพี่ที่แอบปลื้ม

เกือบเสียสาวตอนอายุ 15 เพราะรุ่นพี่ที่แอบปลื้ม ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้

ก่อนอื่นเราต้องเล่าก่อนว่า เหตุการณ์นี้ฝังใจเรามานานกว่า 12 ปี จนตอนนี้เราอายุ 27 ปีแล้ว เหตุการณ์นั้นทำให้เราไม่กล้ามีแฟน มักจะกลัวผู้ชายที่มาชอบเราก่อน จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่เคยมีแฟนสักคนและยังบริสุทธิ์อยู่

***โปรดอ่านให้จบเพื่อเตือนสติน้องๆวัยรุ่นผู้หญิงให้รู้ทันกลลวงของพวกผู้ชาย

             เมื่อ 12 ปีก่อน ตอนช่วงปิดเทอมของม.3 เรากับญาติผู้หญิงซึ่งอายุแก่กว่าเรา 2 ปี ขอครอบครัวออกไปเที่ยวงานประจำปีของหมู่บ้านข้างๆ(ซึ่งปกติแล้วครอบครัวจะหวงเรามากและเราก็ไม่เคยออกไปไหนดึกๆเลย) วันนั้นเรากับญาติขับมอไซค์กันไป 2 คน พอถึงที่งานก็เจอรุ่นพี่คนหนึ่งที่เราแอบปลื้มมาเที่ยวงานกับพี่ชายของเขา(รุ่นพี่คนนี้หน้าตาดี หุ่นดีในระดับนึง แก่กว่าเรา 3 ปี ตอนนั้นเค้าจบ ม. 6 พอดี เค้าเป็นทั้งนักบอลโรงเรียน เป็นผู้ชายที่สาวๆกรี๊ด เป็นแฟนของเพื่อนเรา และเป็นผู้ชายเจ้าชู้) ระหว่างนั้นเราก็เดินเที่ยวงานไปจนมาถึงตอนกลับ เราเพิ่งมาสังเกตได้ว่าญาติผู้หญิงของเราเป็นแฟนกับพี่ชายของรุ่นพี่ และเค้าทั้งสองก็ขอนั่งรถกลับคันเดียวเค้ากัน ปล่อยให้เราต้องกลับกับรุ่นพี่คนนี้ จนระหว่างทางเราปวดฉี่แล้วพี่เค้าบอกว่าเมื่อกี๋ไปห้องน้ำสาธารณะคิวยาวมาก พี่เค้าก็เลยพามาที่บ้านของเค้าพร้อมบอกว่า “ ฉี่ที่นี่แหละ พ่อแม่พี่เค้าก็นอนหลับอยู่ในห้อง ไม่ต้องกลัว ส่วนพี่ๆพร้อมญาติเรากำลังขับตามมา เดี๋ยวมานั่งตั้งวงกินเบียร์กันต่อที่บ้าน” ด้วยความที่เราไว้ใจ(เพราะพี่เค้าเป็นแฟนกับเพื่อนสนิทเราและตัวเราก็คุยๆกับเพื่อนห้องเดียวกับพี่เค้า ซึ่งรุ่นพี่นักบอลคนนี้เค้าก็เป็นพ่อสื่อให้เพื่อนเค้ามาจีบเรามาโดยตลอด เราเลยไม่คิดเอะใจอะไร) พอเราฉี่เสร็จก็ไม่อยากออกไปกินเบียร์ เพราะเราไม่ดื่มและตอนนั้นเริ่มง่วงแล้ว เราเลยขอนั่งดูทีวีตรงโซฟาห้องรับแขก จากนั้นเราก็หลับไปตอนไหนไม่รู้……จุดเริ่มต้นเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้น
    เราหลับไปสักพักก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกแปลกๆ พอลืมตามาก็เห็นรุ่นพี่นั่งคร่อมบนตัวเราพร้อมโน้มตัวมาไซร้คอเราอย่างดูดดื่ม เราขยับตัวไม่ได้เลยเค้าล็อคตัวเราไว้บนโซฟาพร้อมเอามือไขว้หลังอย่างชำนาญ เราตกใจพร้อมพูดไปว่า.”ทำอะไรหน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ เราจะกลับบ้าน” เค้าก็พลิกตัวเรานั่งหลังชนพนักพิงโซฟา จับมือเราขึงพืด เราทั้งดิ้นจนสุดแรง ทำท่าจะกรี๊ดและเรียกคนช่วยเค้าก็อามือมาปิดปากพร้อมบอกว่า “ คิดดีๆนะถ้าจะโวยวาย เกิดพ่อแม่เค้าตื่นมาเห็นเราสองคนในท่านี้ เราโดนจับแต่งงานแน่ และผู้ใหญ่ก็คงไม่เชื่อว่าเธอจะโดนปล้ำหรอก ดูสิเธอมานอนอนยู่ในบ้านผู้ชายนะ เธอไม่กลัวข่าวลือเสียๆหายๆเหรอ” เราหยุดคิดแป็ปนึง อยู่ดีๆเค้าก็โน้มตัวเอาปากมาประกบปากเรา ด้วยสัญชาตญาณเราปิดตา ปิดปาก กัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้มีอะไรเข้ามา แต่รุ่นพี่เค้าทั้งบดขยี้ปาก เอาลิ้นดันเข้ามาในปาก และจูบเราอย่างดูดดื่มจนเรารับรู้ถึงรสชาดเบียร์จากปากเค้า ในใจตอนนั้นเราทั้งกลัว ทั้งคิดไปต่างๆนาๆว่า “นี่เราเสียจูบแรกให้กับคนที่เราไม่ได้รักเหรอ นั่นเค้าเป็นแฟนของเพื่อนสนิทเรานะ ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้ทั้งๆที่เค้าเป็นพ่อสื่อเราให้เพื่อนเค้าเอง เค้ามีใจให้เรารึป่าว ถ้าเค้ามีใจจริงก็ไม่ควรวู่ว่ามจู่โจมเราแบบนี้ ถึงแม้เราจะเคยแอบปลื้มๆเค้าอยู่แต่มันก็ไม่ถูกต้องนะ “ เราทั้งดิ้น ทั้งส่ายหน้าไปมาเพื่อให้หลุดพร้อมบอกเค้าไปแบบเสียงแข็งว่า “ อย่า อย่าทำแบบนี้ ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนี้ “ แล้วพี่เค้าก็เริ่มอ่อนลงและปล่อย จากนั้นเราก็รีบเดินเร็วๆไปที่ประตูบ้านที่ล็อกกลอนอย่างแน่นหนาพร้อมหยิบโทรศัพท์หาคนที่เราคบอยู่เพื่อให้มารับ เมื่อรุ่นพี่เค้ารู้ก็ดันกระชากโทรศัพท์ออกจากมือเรา ลากเราไปที่ซาแล้วกระโจนเข้ามาจูบเราดูดดื่มหนักกว่าเดิม เราดิ้น ดิ้นอยู่พักใหญ่ ดิ้นจนแรงหมด อยู่ดีๆร่างกายเราก็ตัวอ่อนไปเอง จากนั้นพี่เค้าก็เริ่มรุกหนักขึ้น ไซร้คอเราลงมาเรื่อยๆ เอามือล้วงเข้ามาปลดตะขอเสื้อในเรา ลูบหน้าอกเรา อยู่ในท่าที่มือนึงล็อกแขนทั้งสองข้างเราไว้ด้านหลังแล้วนั่งคร่อมบนตัวเราซึ่งนอนติดแนบอยู่บนโซฟาจนไม่มีทางขยับไปไหน พี่เค้ารุกหนักขึ้นเรื่อยๆจนกำลังปลดกระดมกางเกงเรา ตอนนั้นเราทั้งอ้อนวอน ทั้งพูดขอร้องต่างๆนาๆ แต่พี่เค้าก็ไม่ฟัง เรากลัวจนใจสั่น สมองเราคิดไปว่า “หรือคืนนี้เราจะเสียบริสุทธิ์ครั้งแรกให้ผู้ชายคนนี้เหรอ เวรกรรมอะไรของเรา ปกติเราเป็นผู้หญิงรักนวลสงวนตัวมาโดยตลอด ผู้ชายน้อยคนนักจะได้จับมือเราแม้แต่เพื่อนก็ตาม” เราคิดไปเรื่อยจนอยู่ดีๆตาใส่ๆของเราก็ไปสบตาพี่เค้าแล้วน้ำตาเราไหลออกมา คงเปรียบเหมือนน้ำตาของวัวที่กำลังถูกเชือดมั้ง เมื่อพี่เค้าเห็นก็หยุดทุกอย่างทันที พร้อมเอามือมาปาดน้ำตาเราแล้วบอกว่า “อย่าร้องเลย พี่ปล่อยแล้ว พี่ไม่ทำแล้ว “  จากนั้นเราก็ปาดน้ำตาทั้งๆที่สะอื้นอยู่ ลุกรี้ลุกรนใส่ตะขอเสื้อใน จัดแต่งทรงผมอย่างรวดเร็ว พี่เค้าก็โน้มตัวมาหอมแก้มซ้ายขวาเราเบาๆอีกประมาณ 6 ครั้ง พร้อมบอกว่า “พี่ขอโทษนะ พี่แอบชอบน้องมานานแล้ว “ เราไม่พูดอะไร พร้อมลุกขึ้นเดินอย่างเร็วไปเปิดประตู และวิ่งออกไปที่ถนนทั้งๆที่ไม่ได้ใส่รองเท้าเพื่อจะกลับบ้าน จนเจอญาติเราและแฟนกลับมาจากขับรถเล่นกันพอดี ตอนนั้นเราไม่บอกอะไรใครทั้งสิ้น ได้แต่ร้องไห้และบอกว่าอยากกลับบ้านๆอย่างเดียว  
         เหตุการณ์นั้นสอนให้เราไม่ไว้ใจผู้ชายอีกเลย ยังดีที่โชคชะตายังปราณีให้เรารอดจากเหตุการณ์ถูกข่มขืนครั้งนั้นมาได้ และเหตุการณ์นั้นยังคงเป็นความลับของเราตลอดมา แต่เหตุการณ์ยังไม่จบเพียงแค่นี้…..
    หลังจากวันนั้นประมาณเกือบเดือน รุ่นพี่คนนี้ก็ยังไม่จบยิ่งรุกหนักขึ้นเรื่อยๆจากปกติที่คุยกับเราเป็นพี่น้องธรรมดาก็จีบเราหนักขึ้น เวลาขับรถผ่านหน้าบ้านเราตอนดึกๆ(บ้านเราอยู่ติดถนน)ก็ตะโกนเรียกชื่อเราพร้อมบอกว่าคิดถึงเกือบทุกคืน โทรมาหาเราถี่ขึ้นจนเราต้องบล็อกเบอร์ พอมาซื้อของที่บ้านเรา(บ้านเราเป็นร้านขายของชำ)ก็ชอบมาหลอกจับมือตอนที่เรายื่นของให้หรือรับเงินเอามือไปดมเหมือนคนเป็นโรคจิต หนักๆเข้าเวลาเราขับมอไซค์ออกไปข้างนอก พี่เค้าก็ขับมาดักข้างหน้าเพื่อให้เราหยุดรถพร้อมยึดกุญแจรถเพื่อขอคุย เพราะเราไม่ยอมเจอพี่เค้าเลย เอาแต่หลบหน้า พี่เค้าให้เหตุผลว่า “ ที่เค้าทำไปคืนนั้น เพราะเค้าแอบชอบเรามานานแล้ว ที่ผ่านรู้ว่าเราจีบยากเหลือเกิน เข้าถึงตัวยาก เจอตัวเรายากถ้าไม่ใช่ที่โรงเรียน จึงเข้าหาตัวเราโดยผ่านทางเพื่อน ตีเนียนๆเข้าไปคุยแบบพี่น้อง และคิดว่าวิธีเดียวที่จะได้ครอบครองเราก็คือการปล้ำ บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอร์จึงทำให้ทำบ้าลงไป” พี่เค้าตื้อเราแบบนี้อยู่นานหลายปี แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเรารู้ดีว่าพี่เค้าแค่อยากแบบใคร่ๆไม่ได้รักเราจริง เหตุการณ์นั้นทำให้เราเสียใจที่สุด เราหวาดกลัวมาก ใจเรามีมันเสียไปแล้ว ถึงแม้ว่าพี่เค้าจะเป็นคนที่เราแอบปลื้มเมื่อก่อนก็ตาม เราจะไม่มีวันลงเอยกับคนแบบนี้  จนเราเรียนจบแล้วได้เข้ามหาลัยชื่อดังต่างจังหวัด เราก็ได้แยกกับพี่เค้าอย่างถาวร จะมาได้ข่าวว่าพี่เค้ายังไม่เลิกเจ้าชู้ แอบคบคนนู้นคนนี้อีกหลายคน ขนาดแต่งงานแล้วก็ยังไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องจนต้องหย่ากันแล้วไปแต่งงานใหม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่