ลาออกจากงานเพื่อมาค้นหาชีวิต ค้นหาสิ่งที่ชอบ คุ้มไหม (นักศึกษาจบใหม่)

สวัสดีค่ะ เราไม่รู้ว่าเราจะถามหรือบอกเล่าเรื่องดี

ก่อนอื่นเราขอเล่าประวัติตัวเองนิดหนึ่ง เราเป็นนักศึกษาจบใหม่ค่ะ เรียนนิติศาสตร์มา จบด้วยเกรดนิยมค่ะ 2.5
จากมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของประเทศ

หลังเราสอบตัวสุดท้ายของการเรียนจบ ไม่กี่วันเราก็เริ่มทำงานเลยค่ะ งานที่ทำใช้วุฒิ ม.6 เป็นงานโรงงาน
โดยเรากะจะทำรอเวลาได้รับใบจบ ค่อยหางานใหม่ ซึ่งสถานที่ทำงานก็เป็นต่างจังหวัดค่ะ เรามากับเพื่อน
โดยลงทุนการขนของย้ายของมาเพื่ออยู่ที่ต่างจังหวัด โดยงานที่ทำค่าตอบแทนสูงเลยลงทุนมาค่ะ
ระหว่างนั้นคิดว่าจะได้ค้นหาตัวเองไปด้วยค่ะ เพราะตั้งแต่เรียนยันเรียนจบ ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร

จนถึงวันนี้ทำงานได้เกือบ 3 เดือนแล้วค่ะ โดยสิ่งที่ค้นพบคือ คำถามค่ะ ว่าเราได้อะไรจากการทำงานที่ผ่านมา
สิ่งที่เราได้ หากไม่นับเรื่องสังคม คือทักษะการทำงานเฉพาะ และเงินค่ะ ซึ่งจริงๆ เรารู้สึกไม่ได้อะไรเลยค่ะ
ในตัวงานเราไม่มีปัญหาค่ะ สามารถทำได้เรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้อึดอัดใจ คือ
1. สังคมโรงงาน คนเยอะ แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งกันเข้า แย่งกันออก
2. การใช้เสียงดัง ของผู้บังคับบัญชา ทำให้สภาพแวดล้อมไม่น่าอยู่ และสภาพจิตใจย่ำแย่
3. เพื่อนร่วมงานค่ะ ทุกสังคมล้วนมีการนินทาค่ะ ไม่ใช่เราไม่เคยนินทา แต่สิ่งที่เจอรู้สึกว่า มันมากไปค่ะ
4. งาน อย่างที่บอกตัวงานไม่ใช่ปัญหาค่ะ แต่เวลาที่เราทำงานเสร็จแล้วหรือไม่มีงานอะไรทำ สิ่งที่เราต้องทำคือ แกล้งทำว่ามีงานค่ะ แกล้งทำตัวว่าเรายุ่ง
ลองคิดตามนะคะ เราไปทำงาน ไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน ถ้าเป็นงาน เราก็ทำไป แต่พอเราเสร็จจากการทำงาน เราอาจจะต้องการนิ่งๆสักแปปเพื่อพัก แต่นี่
ต้องแกล้งว่าทำงาน ทรมานแค่ไหนสำหรับการหลอกคนอื่นว่าเรายุ่งมากๆ ทำงานอยู่

เราคิดอยู่นาน ก่อนตัดสินใจลาออกในวันนี้ เราให้เหตุผลการลาออกของตัวเองคือ
1. สภาพแวดล้อม และสิ่งตอบแทน จากข้างบนค่ะ
2. เราอยากพัฒนาทักษะด้านภาษา และเรียนต่อ เป็นการเรียนเพื่อเสริมสกิลตัวเองค่ะ ไม่ได้เป็นสิ่งหลักที่อยากทำ(เราไม่เก่งค่ะ ได้แบบงูๆปลาๆ)
3. เพื่อใช้เวลาปีนี้ (1-2เดือน) ค้นหาตัวเองว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร จะได้วางแผนเดินต่อ
4. การทำงานที่นี่ ทำให้เราไม่มีเวลาทบทวนตัวเอง วันหนึ่งทำงาน 8-12ชั่วโมง (แล้วแต่วัน) หลายคนคงเข้าใจ ชีวิตที่ทำงานเสร็จกลับบ้านนอน

และหลายครั้งเราก็มีวินัยไม่พอที่จะรักษาเวลา นอนและทำกิจกรรมอื่น เช่นบางวันทำ 12 ชั่วโมง ก่อนไปทำงานก็เผื่อเวลา 30นาทีถึง1ชั่วโมง เลิกงานกว่าจะถึงที่พักก็เกือบ 1 ชั่วโมง รวมเวลานอกที่พักก็ราวๆ 14 ชั่วโมง พักผ่อนให้เพียงพอ 8 ชั่วโมง(ไม่งั้นเวลาทำงานจะง่วงสุดๆ) รวม 22 ชั่วโมง อีก 2 ชั่วโมงทำอะไรได้บ้าง ซักผ้ารีดผ้า อาบน้ำแต่งตัว แปปๆก็หมด บางทีการจะหาเวลาอ่านหนังสือวันละ 30 นาทียังยากเลยค่ะ
บางวันที่ทำงาน 8 ชั่วโมง มีเวลามากขึ้น เราก็ชิวค่ะ ทำทุกอย่างช้าลง แปปๆหมดวัน 5555555 ต้องมีกันบ้างค่ะ และก็มีบ่อยๆ
หลายครั้งที่เราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่อดทนพอ เราคิดว่าถ้าเราทำงานที่เราชอบ ไม่ว่าจะทำกี่ชั่วโมงมันอาจจะไม่เหนื่อยแบบนี้

เคยเป็นไหมคะ ทำงานวันๆหนึ่งให้หมดไปเพื่อรอวันหยุด เราจะได้พักบ้าง การทำงานแล้วรู้สึกทมาน ทำให้พ้นๆ ทำรอวันหยุด มันรู้สึกไม่ใช่

เหตุผลที่เราให้ เหตุผลที่ลาออกครั้งนี้คือ
เราไม่รู้จักตัวเองค่ะ ว่าเราอยากได้อะไร อยากทำงานอะไร จะวางแผนชีวิตอย่างไง จะทำอะไรในอนาคต
ช่วงเวลาชีวิตที่ผ่านมา เราไม่ใช่คนเก่งค่ะ เรารู้สึกว่า เราจะทำอะไรก็ทำได้ เหมือนเป็ดอะค่ะ ทำได้หมด แต่ทำได้ไม่ดีที่สุด
การเป็นเป็ดบางครั้งมันก็ไม่ดีเสมอไปค่ะ

เรามองดูเพื่อนๆ อย่างเพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน
เพื่อนเรามีเป้าหมายชัดเจนในการทำงานครั้งนี้ค่ะ คือทำเวลาสมัครเรียนต่อ ป.โท จนถึงสิ้นปีนี้
เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าพอถึงเวลานี้เขาจะทำอะไรต่อ
บางคนเรียนจบ รู้ว่าตัวเองอยากทำธุรกิจ ก็เรียนต่อธุรกิจเลย

อีกอย่างถ้าพูดเรื่องสถานะทางบ้าน ค่อนข้างไม่ค่อยดีค่ะ แต่ไม่ได้แย่มาก
1-2เดือนที่ออกมา เราจะใช้เงินเก็บค่ะ พอปีใหม่หางานใหม่ อาจไม่ได้ในทันที เราพร้อมรับความเสี่ยงตรงนี้ค่ะ
และการที่เราลงทุนเพื่อลาออกจากงาน มาค้นหาตัวเองค่ะ เจอไม่เจอไม่รู้ แต่เราคิดว่า เราพึ่งเรียนจบ อยากหยุดพักเพื่อวางแผนต่อ
กลัวจะหลงทาง แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองหลงทางไหม

ที่ผ่านมาเวลา 4 ปีในมหาลัย เราก็จับฉ่ายมาเรียนค่ะ พอเรียนก็ชอบนะคะ ตั้งใจ อ่านหนังสือ เกเรบ้าง แต่พยายามเรียนให้จบ พอจบก็รู้สึกว่าพอแล้ว มันไม่ใช่ เราอยู่มาได้ไงจบจน เคยจะซิ่วจะลาออกหลายครั้ง
ในชีวิตมหาลัยเราพบตัวเองบ้างไหม อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ เราชอบทำกิจกรรม ออกค่ายอาสา ทำกิจกรรมหลายอย่างในมหาลัยจนถึงปี4 เลยค่ะ
ตามช่วงเวลาค่ะ ปี3ปี4 ก็จะลดๆลงหน่อย เราชอบงานอาสาค่ะ เวลาออกค่าย ทำโน้นนี่นั่น สร้างอาคารทำอาหารพบปะชาวบ้านอยู่แบบข้าวกับผัก พอจบค่าย ได้ยินคำขอบคุณได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ ชาวบ้าน รู้สึกตื้นตัน ตอนรถกำลังออกจากตรงนั้น เด็กวิ่งร้องไห้ตาม ไอ้เราก็น้ำตาไหล เรารู้สึกมีความสุขมากๆ มันคิดถึง

เราชอบค่ะ นี่อาจเป็นตัวตนอีกมุมของเรา(หรือเปล่า) แต่เรายังรู้สึกไม่สุด และอุดมการณ์กับชีวิตจริงๆ ครอบครัว มันยังคงไปด้วยกันได้ยากค่ะ
สิ่งสำคัญคือเงินๆ สังคมสอนให้เราหาเงินเยอะๆ เพื่อเลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดค่ะ
เฉกเช่นเดียวกับการทำธุรกิจ เราต้องเห็นแก่ตัวก่อน เพื่อให้มั่งให้มี ทำเพื่อตัวเองล้วนๆ บางคนพอมีพอได้ก็แบ่งปันค่ะ แต่บางคนการแบ่งปันก็เป็นเพียงการสร้างภาพ สังคมสอนเราแบบนั้น

เราไม่อยากไปตายเอาดาบหน้า ไม่อยากเจอทางแยกและเลือกตอนนั้นว่าจะไปทางไหน  เราอยากชัดเจนกับชีวิตว่าจะเดินทางไหนและไปแบบไม่ลังเล วางแผนและไปให้สุด จะพังหรือปัง ก็ต้องลองดู
และ 1-2 เดือนที่เราหยุดนี้ มันจะคุ้มไหม เราจะเจอตัวเองไหม เราไม่รู้ แต่เราอยากลองเสี่ยง

ในเวลา 1-2 เดือนนี้เราก็ไม่อยู่เฉยนะคะ
ฝึกอ่านหนังสือ เรียนขับรถ(พ่อบอก อยากให้ขับรถให้เป็น) เรียนภาษาด้วยตัวเองก่อน 1เดือนและเดือนที่ 2 ไปที่สถาบัน
หางานไปเรื่อยๆ เผื่อเจอที่รู้สึกชอบ ปลิวใบสมัครไว้  หลักก็ใช้เวลาทบทวนตัวเองค่ะ

วันนี้เช้า เราไปเซ็นใบลาออกมาแล้วค่ะ
เราอาจจะไม่ถามว่าคุ้มไหมเมื่อเราตัดสินใจแล้ว แต่เราอยากได้คำแนะนำค่ะ
เพื่อนที่จบใหม่ ที่ยังไม่พบตัวเองหรือพบตัวเองแล้ว มีวิธียังไง ทำอะไรบ้าง แนะนำด้วยนะคะ

ปล.
ที่แท็ก ปัญหาชีวิต เพราะมันเป็นปัญหาชีวิตเราอยู่ตอนนี้ค่ะ
สุขภาพจิต เพราะเราไม่รู้ว่าจะคิดบวกคิดลบ ยังไงให้ก้าวไปให้ได้ ให้มั่นใจในตัวเอง
นักศึกษา เพราะเราเป็นนักศึกษาจบไหม อยากได้คำแนะนำจากเพื่อนที่อยู่วัยเดียวกันด้วย
การบริหารจัดการ เพราะอยากได้คำแนะนำการบริหารจัดการชีวิต อย่างเป็นระบบที่เหมาะสม
ครอบครัว อยากถามคนเป็นพ่อแม่ ถ้าลูกพบปัญหาแบบนี้ จะให้คำแนะนำแบบไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่