
สำหรับทริปยอดฮิตช่วงนี้สำหรับคนรักทะเล คงจะหนีไม่พ้น
“มัลดีฟ” อย่างแน่นอน สถานที่ในฝันของใครหลายคนที่อยากจะไปสักครั้งในชีวิต เจ้าของกระทู้ก็หนึ่งในนั้น แต่หลายคนคงคิดว่า “มัลดีฟ” แค่ค่าตั๋วไปกลับก็แพงแล้ว นอกจากจะแลกไมล์หรือคะแนนไป ผมอยากบอกว่า ไม่จริงนะเออ สารภาพเลยละกันทริปนี้ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจไปเลย จริง จริ้ง (เสียงสูง) แต่ด้วยความเป็นคนชอบเที่ยว บวกกับบังเอิ้ญบังเอิญ ผมได้มีโอกาสกลับไทยช่วงเดือนกันยายนพอดี เลยลองนั่งเปิด sky scanner เช็คราคาตั๋วเครื่องบินที่ออกจากไทยเล่นๆ ว่าที่ไหนน่าสนราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามั่งน้า...
แท่นแท้น....และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างคนงกสิ เอ้ย คนชอบเที่ยวรักทะเลอย่างผมเข้าให้ ในตอนนั้นเองมีสายการบินหางแดงเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่บินตรง DMK-MLE เริ่มต้นที่ 1,990 บาท ตาลุกวาวสิครับท่าน รีบสาละวนเลือกวันรีเฟรชไปเรื่อยๆ จนเจอราคาที่ถูกใจกับวันที่ใช่เลย ไงล่ะทีนี้ มือไม้สั่นริกๆ ลั่นกดจองไปเลยสิทีนี้ ไม่คิดไรเลยจ้า กะว่าเหลือแค่โรงแรมเดี๋ยวค่อยว่ากันเนอะ คิดว่ากะสักคืนละสามสี่พันต่อห้องก็น่าจะหรูแล้วล่ะ เคาะราคาค่าตั๋วเครื่องบินมาได้ที่ราคา 5,160 บาทครับท่าน ดีงามไปอีกนึกว่าบิน Full service ในประเทศ ช่างกล้า...(และนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่แสนเจ็บปวดรวดร้าว เพราะ โรงแรมที่มัลดีฟ คืนนึงราคาแพงกว่าค่าเครื่องหลายเท่าตัวยิ่งนัก ป๊าด ทำไมถึงทำกับข่อยได้น้อ เวรกรรมล่ะทีนี้ งานเข้า คิดจะถอนตัวยากเสียแล้ว ฮ่าๆ)

ไหนๆ ก็ไหนๆละ พอตัดสินใจไปมัลดีฟแล้ว มาลิสเป้าหมายที่อยากได้ คืออะไร เค้าไปทำอะไรกันบ้าง ก็ต้องมาศึกษาหาข้อมูล นั่งอ่านรีวิววนไปเล้ย ศึกษาสภาพภูมิประเทศกับสภาพภูมิอากาศกันก่อนดีกว่า
หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศศรีลังกาทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 700 กม. เกิดจากการทับถมของหินและปะการัง เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย กระจายกันประมาณ พันกว่าเกาะแน่ะ ที่นี่จะมีการควบคุมทัศนียภาพของเกาะ ให้ดำรงความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด ดังนั้น มัลดีฟส์จึงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและอากาศแสนบริสุทธิ์ อีกทั้งโลกใต้ทะเลที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยปลาและปะการังหลากชนิดเลยแหละ
กิจกรรมที่น่าสนใจ
1.
นั่ง Sea plane ใครอยากสัมผัสการนั่งเรือบิน รวดเร็วกว่าเรือหลายเท่านัก แต่ราคานี่แพงหูฉีกมาก แพงกว่าค่าตั๋วมามัลดีฟ หรือค่าโรงแรมซะอีก ชนิดแวกซ์ขนหน้าแข้งจนโล่งเตียนยังไม่เจ็บเท่าเห็นราคา Sea plane เลย (ไป-กลับต่อคนเริ่มต้นเฉียดหมื่นบาทเลยนะครับท่าน ยิ่งไกลก็ยิ่งแพงไปอี้ก...กราบ ทริปนี้แค่พูดว่า บ๊ายย...)
2.
นอนวิลล่ากลางน้ำ แน่นอนสิครับ เมื่อมโนภาพกระต๊อบไม้ ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ใครๆก็ต้องนึกถึงมัลดีฟใช่ไหมครับ ข้อดีก็คือ มีความเป็นส่วนตัว วิวสวยจากห้อง มีบันไดลงทะเลได้เลย สามารถดำน้ำดูกุ้งหอยปูปลาเอย ปะการังเอยจากหน้าห้องได้เลย แหม่ จะพูดแต่ข้อดีก็ยังไงอยู่ ก็ต้องมีข้อเสียด้วยสิ เนื่องจากความเป็นส่วนตัวนั่นเอง และวิวดีงาม เค้าก็ต้องเอาไปตั้งไกลๆใช่ม๊า ทีนี้ก็ต้องเดินไกลสินะ อีกอย่างอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเสียงดัง เพราะจะได้ยินเสียงคลื่นซัดทั้งคืนเลยแหละ ท้ายสุดน่ะหรอ...ถามได้ก็ต้องราคาสินะ แพงกว่าห้องธรรมดาหลายขุมนัก 555+
3.
ดำน้ำดูปะการัง บางรีสอร์ท ที่เป็นลักษณะ House reef จะมีปะการังสมบูรณ์ สามารถดำน้ำจากตัววิลล่าได้เลย บางรีสอร์ทต้องซื้อทัวร์เพิ่มเพื่อออกไปเกาะต่างๆ สามารถเช็ครายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นของรีสอร์ท และ Reef type ของแต่ละรีสอร์ทว่าเป็นแบบไหนได้ จากวาร์ปนี้ได้เลยครับท่าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.mondomaldive.com/ (4 คือระดับปะการังที่มีล้อมรอบเกาะแบบ House reef, 0 คือแทบใม่มีปะการัง หรือแทบเป็นหาดทราย) อันนี้ก็สุดแล้วแต่สไตล์ความชอบของแต่ละคนเลยนะครับ ว่าชอบกิจกรรมแบบไหน ชอบหาดทรายน้ำใส หรือดำน้ำดูปะการังครับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งปาดน้ำตาผิดหวังในภายหลังนะคร้าบ ส่วนที่ผมจองไปในครั้งนี้ ทั้ง Baros และ Thulhagiri นั้น Reef type อยู่ที่ 3 ทั้งสองที่ครับ
4.
ว่ายน้ำกับปลากระเบน Manta ซึ่งที่ผมหาข้อมูลมา จะมีแหล่งชมปลากระเบน Manta ที่สมบูรณ์ อยู่บริเวณ Hanifaru bay ซึ่งแน่นอนครับ ต้องนั่งเครื่องบินหรือ Sea plane ไปลงเครื่องที่ Dharavandhoo airport แล้วซื้อทัวร์ต่างหากเพื่อไปชมครับ ผมนี่อยากไปมาก แต่ติดที่ไม่อยากสิ้นเปลืองค่าเครื่องบิน และอีกอย่างช่วงที่ไปเป็นช่วง Low season อาจดวงไม่ดี สภาพอากาศอาจไม่เอื้ออำนวย เลยต้องพับโครงการไปก่อนนะครับ
5.
ดูแพลงตอนเรืองแสง (Sea of stars) ผมเห็นมีเพื่อน Tag มาในเฟสบุค OMG มันอเมซิ่งมากๆ อยากไปทันที ซึ่งมีอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น Vaadhoo, Kuredu, Vilamendhoo แต่ละที่นั้นล้วนแต่ห่างไกล ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องนั่งเครื่องบินไปเท่านั้น โอกาสที่จะได้เจอค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน จึงจะเกิดปรากฎการณ์นี้ได้ ซึ่งผมเกรงว่าไปแล้ว กลัวผิดหวัง เสียตังแล้วไม่ได้เห็น ก็เลยต้องล้มพับโครงการไปอีกตามระเบียบครับ
โรงแรมที่พัก กระท่อมกลางน้ำ
Baros Resort Maldives
Thulhagiri Resort Maldives

เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ก็หาโรงแรมโลด.....
ผมวุ่นหา รร. หลายทางมาก เช็คภาพจากทั้งใน Instagram ที่คนถ่ายเอง อ้างอิงจากหลายๆที่ เทียบภาพว่าสวยจริง หรือคุณจะหลอกดาวกันแน่ สาละวนวุ่นหาโรงแรมเกือบ 2 เดือนเลยเชียวแหละ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก (นี่คือข้อดีของการจองแบบจองก่อนจ่ายทีหลัง ยกเลิกได้ เจอถูกกว่าก็เปลี่ยน อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกดจองกันนะคร้าบ เอาที่แบบยกเลิกได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมครับ)
ส่วนขั้นตอนการหาโรงแรมของคนอยากได้ความคุ้มค่าอย่างผม ลองทำแบบนี้ดูนะครับ
1. ก่อนอื่นเลย เราต้องมาตั้งงบกันก่อนว่าต้องการห้องแบบไหน? งบค่าที่พักอยู่ที่เท่าไร? พักที่เดียวหรือย้ายที่พัก?
(ถ้าเน้นความคุ้มค่า ไม่สิ้นเปลืองเวลา และค่าเดินทางไปยังเกาะส่วนตัว แนะนำให้พักที่เดียวไปเลยครับ แต่ผมอยากกระจายความเสี่ยง เผื่อตัดสินใจเลือกโรงแรมผิดพลาดจะได้ไม่ต้องมานั่งเซง ติดเกาะไปไหนไม่ได้ ก็เลยลุยคืนละที่ไปเลย 2 คืน 2 รีสอร์ท อันนี้ผมไม่แนะนำสำหรับคนอยากเซฟค่าใช้จ่ายนะครับ งบจะบานเอาได้ 555+)
2. หาโรงแรมคร่าวๆจากเว็บที่คุ้นเคย เช่น Agoda, Booking, Expedia บลาๆ
3. พอได้โรงแรมที่โดนใจแล้ว ก็มาไล่หามันทุกเว็บไปเลย ว่าอันไหนคุ้มสุด เช็คราคาทั้ง Agoda, Booking, Expedia, Agency และเว็บโรงแรมโดยตรงไปเลย ว่าที่ไหน Offer ราคาให้เราได้ถูกที่สุด ดูความพยายามบวกความงกของผมสิ แต่ไม่สิเราเป็นลูกค้าต้องเลือกในสิ่งที่คุ้มค่าให้กับตัวเอง แน่ะ แถแก้ตัวน้ำขุ่นๆวนไป ฮ่าๆ
อย่าลืมนะครับว่า มัลดีฟเป็นเกาะเล็กๆ กระจัดกระจายเต็มไปหมด ฉะนั้น การเดินทางก็ย่อมไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เช่ารถแล้วจะขับไปไหนก็ได้นะเออ ทั้งนี้ หากลงเครื่องที่สนามบินเมืองมาเล่ การเดินทางในมัลดีฟ มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น Seaplane, Domestic plane, Speedboat, Public boat ไล่ตามความแพง ขึ้นอยู่กับรีสอร์ทหรือโรงแรมที่เข้าพัก ว่าเหมาะกับการเดินทางแบบไหนครับ บางที่ก็รวมค่าเดินทางหรือมีบริการรับส่งฟรี แต่บางที่ก็ไม่มี และแน่นอนส่วนใหญ่ 99% จะไม่รวมนะจ้า และเนื่องจากโรงแรมส่วนมากเป็นเกาะส่วนตัว ก็จะไม่อนุญาตให้เรือนอกรับส่ง ผูกขาดไปอีก นักท่องเที่ยวตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างเราก็ต้องก้มหน้าก้มตาจ่ายเพิ่มสินะ มันมีทางเลือกอื่นด้วยหรอ ว่าไปก็น้ำตาไหลพรั่กๆ กลับไปขนแข้งขนขาโล้นเตียนไปเลย
เนื่องจากมัลดีฟเป็นเกาะส่วนตัว อาหารการกินแน่นอน ก็ต้องทานที่ห้องอาหารของโรงแรมนี่แหละ แต่ทั้งนี้ ใครชอบกินจุบกินจิบ แต่ไม่อยากเสียเล็กเสียน้อยอีก ทางโรงแรมที่มัลดีฟก็จะมีคอร์สมื้ออาหารแบบรวมอยู่ในค่าห้องด้วยเป็น Package ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรมว่ามีแบบไหนบ้าง เลือกได้ตาม Lifestyle การกินกันได้เลย
Bed&Breakfast – รวมอาหารเช้า
Half board – รวมอาหารเช้า+เย็น
Full board – รวมอาหารเช้า+กลางวัน+เย็น
All inclusive - รวมอาหารเช้า+กลางวัน+เย็น+ค่าเครื่องดื่ม (Soft drink หรือ Alcohol รวมถึงอุปกรณ์ดำน้ำเบื้องต้น แล้วแต่โรงแรม)
ใครสะดวกประเภทไหนก็เลือกให้ตรงตามที่สะดวกได้เลยนะคร้าบ บางครั้งจองแบบHalf board หรือ Full board ไปพอไปถึงโรงแรม เค้าก็จะมี Option ให้เราเลือกว่าจะ Upgrade เป็นแบบ Full board หรือ All inclusive ไหม ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปครับ
ตัวอย่างของ Thulhagiri นั้น ตอนจอง ผมจองแบบ Half board ไป ซึ่งเป็นราคารวมอาหารเช้า และอาหารเย็น ซึ่งถ้าจะอัพเกรดเป็น Full board คือเพิ่มอาหารกลางวันเข้ามา ต้องจ่ายเพิ่ม 25 USD หรือแบบ All inclusive คือรวมทุกอย่างทั้งอุปกรณ์ดำน้ำตื้นพื้นฐาน ต้องจ่ายเพิ่ม 65 USD ซึ่งทางผมเองไม่ได้อัพเกรดใดๆ เพราะไลน์อาหารกลางวันไม่ค่อยเยอะเท่าไร และเครื่องดื่มคงดื่มไม่คุ้มแน่ๆ ยุงที่ห้องอาหารเยอะอีกต่างหาก คงไม่มานั่งสั่งดื่ม ไปทำกิจกรรมอื่นก็เวลาก็ไม่พอแล้ว จึงสั่งทานเป็นจานเอา ซึ่งราคาก็อยู่ที่จานละ 10-20 USD ครับ นี่เลย ผมสั่งแกงกะหรี่เนื้อ จานละ 12 USD ครับ แต่ข้าวนี่คือแบบกินได้ทั้งครอบครัว บิ๊กบึ้มมากครับ
ว่าแล้วก็เดินทางไปมัลดีฟด้วยกันเลย
กลางเวหา เครื่องกำลังจะแลนด์แล้วนะ เห็นเหล่า Atoll เล็กใหญ่เต็มไปหมด เตรียมตัวฟินตั้งแต่บนเครื่องเลยแหละ




ส่วนของท่าเรือกันบ้าง ที่เราจะต้องเดินทางไปยังเกาะต่างๆ จะมีเรือรับส่งจอดเต็มไปหมดเลยครับ ขนาดน้ำที่ท่าเรือสนามบินยังฟ้าขนาดนี้ เกาะต่างๆ จะขนาดไหนกันนะ แดดกำลังดี

ไปเข้าห้องน้ำ ออกมาอีกที เอ๋า ดำคุมมุม คึมมึมมาหั้นละบ๋อ!! เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด ซ่า... ฝนลงห่าใหญ่ แล้วห้านาทีก็หยุด แดดออกคือเก่า เอ้อ งงเด้ นึกว่า อังกอร์จะกลางร่างซะแล้ว 555+


สภาพอากาศที่นี่ก็จะเป็นแบบนี้นะครับ ถึงแม้ว่ามาในช่วงมรสุม แต่ฝนก็จะตกไม่นานครับ อาจครึ้มๆบ้าง ฝนก็จะตกๆ หยุดๆ เมื่อเห็นแดด เราต้องอย่ากลัวดำ รีบหยิบกล้อง โพสท่าวนไป อย่าได้อาย ก่อนที่ฝนจะตกแล้วอดเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ นะค้าบ ด้วยความปรารถนาดีครับผม
เดี๋ยวต่อไป มาชมรีวิวของการไปพักรีสอร์ท 2 แห่ง พร้อมภาพเต็มๆแบบจุใจ ได้ในคอมเม้นถัดไปนะครับ
ในส่วนของทริคต่างๆ และค่าเสียหาย เดี๋ยวผมจะสรุปแจกแจงค่าเสียหายทั้งหมดให้ในตอนท้ายนะครับ
[CR] เที่ยว “มัลดีฟ 3 วัน 2 คืน” นอนกลางน้ำ Water Villa 2 รีสอร์ท 2 สไตล์ หรูหราอย่างประหยัด งบ 28K
สำหรับทริปยอดฮิตช่วงนี้สำหรับคนรักทะเล คงจะหนีไม่พ้น “มัลดีฟ” อย่างแน่นอน สถานที่ในฝันของใครหลายคนที่อยากจะไปสักครั้งในชีวิต เจ้าของกระทู้ก็หนึ่งในนั้น แต่หลายคนคงคิดว่า “มัลดีฟ” แค่ค่าตั๋วไปกลับก็แพงแล้ว นอกจากจะแลกไมล์หรือคะแนนไป ผมอยากบอกว่า ไม่จริงนะเออ สารภาพเลยละกันทริปนี้ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจไปเลย จริง จริ้ง (เสียงสูง) แต่ด้วยความเป็นคนชอบเที่ยว บวกกับบังเอิ้ญบังเอิญ ผมได้มีโอกาสกลับไทยช่วงเดือนกันยายนพอดี เลยลองนั่งเปิด sky scanner เช็คราคาตั๋วเครื่องบินที่ออกจากไทยเล่นๆ ว่าที่ไหนน่าสนราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามั่งน้า...
แท่นแท้น....และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างคนงกสิ เอ้ย คนชอบเที่ยวรักทะเลอย่างผมเข้าให้ ในตอนนั้นเองมีสายการบินหางแดงเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่บินตรง DMK-MLE เริ่มต้นที่ 1,990 บาท ตาลุกวาวสิครับท่าน รีบสาละวนเลือกวันรีเฟรชไปเรื่อยๆ จนเจอราคาที่ถูกใจกับวันที่ใช่เลย ไงล่ะทีนี้ มือไม้สั่นริกๆ ลั่นกดจองไปเลยสิทีนี้ ไม่คิดไรเลยจ้า กะว่าเหลือแค่โรงแรมเดี๋ยวค่อยว่ากันเนอะ คิดว่ากะสักคืนละสามสี่พันต่อห้องก็น่าจะหรูแล้วล่ะ เคาะราคาค่าตั๋วเครื่องบินมาได้ที่ราคา 5,160 บาทครับท่าน ดีงามไปอีกนึกว่าบิน Full service ในประเทศ ช่างกล้า...(และนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่แสนเจ็บปวดรวดร้าว เพราะ โรงแรมที่มัลดีฟ คืนนึงราคาแพงกว่าค่าเครื่องหลายเท่าตัวยิ่งนัก ป๊าด ทำไมถึงทำกับข่อยได้น้อ เวรกรรมล่ะทีนี้ งานเข้า คิดจะถอนตัวยากเสียแล้ว ฮ่าๆ)
ไหนๆ ก็ไหนๆละ พอตัดสินใจไปมัลดีฟแล้ว มาลิสเป้าหมายที่อยากได้ คืออะไร เค้าไปทำอะไรกันบ้าง ก็ต้องมาศึกษาหาข้อมูล นั่งอ่านรีวิววนไปเล้ย ศึกษาสภาพภูมิประเทศกับสภาพภูมิอากาศกันก่อนดีกว่า
หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศศรีลังกาทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 700 กม. เกิดจากการทับถมของหินและปะการัง เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย กระจายกันประมาณ พันกว่าเกาะแน่ะ ที่นี่จะมีการควบคุมทัศนียภาพของเกาะ ให้ดำรงความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด ดังนั้น มัลดีฟส์จึงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและอากาศแสนบริสุทธิ์ อีกทั้งโลกใต้ทะเลที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยปลาและปะการังหลากชนิดเลยแหละ
กิจกรรมที่น่าสนใจ
1. นั่ง Sea plane ใครอยากสัมผัสการนั่งเรือบิน รวดเร็วกว่าเรือหลายเท่านัก แต่ราคานี่แพงหูฉีกมาก แพงกว่าค่าตั๋วมามัลดีฟ หรือค่าโรงแรมซะอีก ชนิดแวกซ์ขนหน้าแข้งจนโล่งเตียนยังไม่เจ็บเท่าเห็นราคา Sea plane เลย (ไป-กลับต่อคนเริ่มต้นเฉียดหมื่นบาทเลยนะครับท่าน ยิ่งไกลก็ยิ่งแพงไปอี้ก...กราบ ทริปนี้แค่พูดว่า บ๊ายย...)
2. นอนวิลล่ากลางน้ำ แน่นอนสิครับ เมื่อมโนภาพกระต๊อบไม้ ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ใครๆก็ต้องนึกถึงมัลดีฟใช่ไหมครับ ข้อดีก็คือ มีความเป็นส่วนตัว วิวสวยจากห้อง มีบันไดลงทะเลได้เลย สามารถดำน้ำดูกุ้งหอยปูปลาเอย ปะการังเอยจากหน้าห้องได้เลย แหม่ จะพูดแต่ข้อดีก็ยังไงอยู่ ก็ต้องมีข้อเสียด้วยสิ เนื่องจากความเป็นส่วนตัวนั่นเอง และวิวดีงาม เค้าก็ต้องเอาไปตั้งไกลๆใช่ม๊า ทีนี้ก็ต้องเดินไกลสินะ อีกอย่างอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบเสียงดัง เพราะจะได้ยินเสียงคลื่นซัดทั้งคืนเลยแหละ ท้ายสุดน่ะหรอ...ถามได้ก็ต้องราคาสินะ แพงกว่าห้องธรรมดาหลายขุมนัก 555+
3. ดำน้ำดูปะการัง บางรีสอร์ท ที่เป็นลักษณะ House reef จะมีปะการังสมบูรณ์ สามารถดำน้ำจากตัววิลล่าได้เลย บางรีสอร์ทต้องซื้อทัวร์เพิ่มเพื่อออกไปเกาะต่างๆ สามารถเช็ครายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นของรีสอร์ท และ Reef type ของแต่ละรีสอร์ทว่าเป็นแบบไหนได้ จากวาร์ปนี้ได้เลยครับท่าน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (4 คือระดับปะการังที่มีล้อมรอบเกาะแบบ House reef, 0 คือแทบใม่มีปะการัง หรือแทบเป็นหาดทราย) อันนี้ก็สุดแล้วแต่สไตล์ความชอบของแต่ละคนเลยนะครับ ว่าชอบกิจกรรมแบบไหน ชอบหาดทรายน้ำใส หรือดำน้ำดูปะการังครับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งปาดน้ำตาผิดหวังในภายหลังนะคร้าบ ส่วนที่ผมจองไปในครั้งนี้ ทั้ง Baros และ Thulhagiri นั้น Reef type อยู่ที่ 3 ทั้งสองที่ครับ
4. ว่ายน้ำกับปลากระเบน Manta ซึ่งที่ผมหาข้อมูลมา จะมีแหล่งชมปลากระเบน Manta ที่สมบูรณ์ อยู่บริเวณ Hanifaru bay ซึ่งแน่นอนครับ ต้องนั่งเครื่องบินหรือ Sea plane ไปลงเครื่องที่ Dharavandhoo airport แล้วซื้อทัวร์ต่างหากเพื่อไปชมครับ ผมนี่อยากไปมาก แต่ติดที่ไม่อยากสิ้นเปลืองค่าเครื่องบิน และอีกอย่างช่วงที่ไปเป็นช่วง Low season อาจดวงไม่ดี สภาพอากาศอาจไม่เอื้ออำนวย เลยต้องพับโครงการไปก่อนนะครับ
5. ดูแพลงตอนเรืองแสง (Sea of stars) ผมเห็นมีเพื่อน Tag มาในเฟสบุค OMG มันอเมซิ่งมากๆ อยากไปทันที ซึ่งมีอยู่หลายที่ด้วยกัน เช่น Vaadhoo, Kuredu, Vilamendhoo แต่ละที่นั้นล้วนแต่ห่างไกล ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องนั่งเครื่องบินไปเท่านั้น โอกาสที่จะได้เจอค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน จึงจะเกิดปรากฎการณ์นี้ได้ ซึ่งผมเกรงว่าไปแล้ว กลัวผิดหวัง เสียตังแล้วไม่ได้เห็น ก็เลยต้องล้มพับโครงการไปอีกตามระเบียบครับ
โรงแรมที่พัก กระท่อมกลางน้ำ
Baros Resort Maldives
Thulhagiri Resort Maldives
เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ก็หาโรงแรมโลด.....
ผมวุ่นหา รร. หลายทางมาก เช็คภาพจากทั้งใน Instagram ที่คนถ่ายเอง อ้างอิงจากหลายๆที่ เทียบภาพว่าสวยจริง หรือคุณจะหลอกดาวกันแน่ สาละวนวุ่นหาโรงแรมเกือบ 2 เดือนเลยเชียวแหละ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก (นี่คือข้อดีของการจองแบบจองก่อนจ่ายทีหลัง ยกเลิกได้ เจอถูกกว่าก็เปลี่ยน อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกดจองกันนะคร้าบ เอาที่แบบยกเลิกได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมครับ)
ส่วนขั้นตอนการหาโรงแรมของคนอยากได้ความคุ้มค่าอย่างผม ลองทำแบบนี้ดูนะครับ
1. ก่อนอื่นเลย เราต้องมาตั้งงบกันก่อนว่าต้องการห้องแบบไหน? งบค่าที่พักอยู่ที่เท่าไร? พักที่เดียวหรือย้ายที่พัก?
(ถ้าเน้นความคุ้มค่า ไม่สิ้นเปลืองเวลา และค่าเดินทางไปยังเกาะส่วนตัว แนะนำให้พักที่เดียวไปเลยครับ แต่ผมอยากกระจายความเสี่ยง เผื่อตัดสินใจเลือกโรงแรมผิดพลาดจะได้ไม่ต้องมานั่งเซง ติดเกาะไปไหนไม่ได้ ก็เลยลุยคืนละที่ไปเลย 2 คืน 2 รีสอร์ท อันนี้ผมไม่แนะนำสำหรับคนอยากเซฟค่าใช้จ่ายนะครับ งบจะบานเอาได้ 555+)
2. หาโรงแรมคร่าวๆจากเว็บที่คุ้นเคย เช่น Agoda, Booking, Expedia บลาๆ
3. พอได้โรงแรมที่โดนใจแล้ว ก็มาไล่หามันทุกเว็บไปเลย ว่าอันไหนคุ้มสุด เช็คราคาทั้ง Agoda, Booking, Expedia, Agency และเว็บโรงแรมโดยตรงไปเลย ว่าที่ไหน Offer ราคาให้เราได้ถูกที่สุด ดูความพยายามบวกความงกของผมสิ แต่ไม่สิเราเป็นลูกค้าต้องเลือกในสิ่งที่คุ้มค่าให้กับตัวเอง แน่ะ แถแก้ตัวน้ำขุ่นๆวนไป ฮ่าๆ
อย่าลืมนะครับว่า มัลดีฟเป็นเกาะเล็กๆ กระจัดกระจายเต็มไปหมด ฉะนั้น การเดินทางก็ย่อมไม่ง่ายเลย ไม่ใช่เช่ารถแล้วจะขับไปไหนก็ได้นะเออ ทั้งนี้ หากลงเครื่องที่สนามบินเมืองมาเล่ การเดินทางในมัลดีฟ มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น Seaplane, Domestic plane, Speedboat, Public boat ไล่ตามความแพง ขึ้นอยู่กับรีสอร์ทหรือโรงแรมที่เข้าพัก ว่าเหมาะกับการเดินทางแบบไหนครับ บางที่ก็รวมค่าเดินทางหรือมีบริการรับส่งฟรี แต่บางที่ก็ไม่มี และแน่นอนส่วนใหญ่ 99% จะไม่รวมนะจ้า และเนื่องจากโรงแรมส่วนมากเป็นเกาะส่วนตัว ก็จะไม่อนุญาตให้เรือนอกรับส่ง ผูกขาดไปอีก นักท่องเที่ยวตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างเราก็ต้องก้มหน้าก้มตาจ่ายเพิ่มสินะ มันมีทางเลือกอื่นด้วยหรอ ว่าไปก็น้ำตาไหลพรั่กๆ กลับไปขนแข้งขนขาโล้นเตียนไปเลย
เนื่องจากมัลดีฟเป็นเกาะส่วนตัว อาหารการกินแน่นอน ก็ต้องทานที่ห้องอาหารของโรงแรมนี่แหละ แต่ทั้งนี้ ใครชอบกินจุบกินจิบ แต่ไม่อยากเสียเล็กเสียน้อยอีก ทางโรงแรมที่มัลดีฟก็จะมีคอร์สมื้ออาหารแบบรวมอยู่ในค่าห้องด้วยเป็น Package ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรมว่ามีแบบไหนบ้าง เลือกได้ตาม Lifestyle การกินกันได้เลย
Bed&Breakfast – รวมอาหารเช้า
Half board – รวมอาหารเช้า+เย็น
Full board – รวมอาหารเช้า+กลางวัน+เย็น
All inclusive - รวมอาหารเช้า+กลางวัน+เย็น+ค่าเครื่องดื่ม (Soft drink หรือ Alcohol รวมถึงอุปกรณ์ดำน้ำเบื้องต้น แล้วแต่โรงแรม)
ใครสะดวกประเภทไหนก็เลือกให้ตรงตามที่สะดวกได้เลยนะคร้าบ บางครั้งจองแบบHalf board หรือ Full board ไปพอไปถึงโรงแรม เค้าก็จะมี Option ให้เราเลือกว่าจะ Upgrade เป็นแบบ Full board หรือ All inclusive ไหม ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปครับ
ตัวอย่างของ Thulhagiri นั้น ตอนจอง ผมจองแบบ Half board ไป ซึ่งเป็นราคารวมอาหารเช้า และอาหารเย็น ซึ่งถ้าจะอัพเกรดเป็น Full board คือเพิ่มอาหารกลางวันเข้ามา ต้องจ่ายเพิ่ม 25 USD หรือแบบ All inclusive คือรวมทุกอย่างทั้งอุปกรณ์ดำน้ำตื้นพื้นฐาน ต้องจ่ายเพิ่ม 65 USD ซึ่งทางผมเองไม่ได้อัพเกรดใดๆ เพราะไลน์อาหารกลางวันไม่ค่อยเยอะเท่าไร และเครื่องดื่มคงดื่มไม่คุ้มแน่ๆ ยุงที่ห้องอาหารเยอะอีกต่างหาก คงไม่มานั่งสั่งดื่ม ไปทำกิจกรรมอื่นก็เวลาก็ไม่พอแล้ว จึงสั่งทานเป็นจานเอา ซึ่งราคาก็อยู่ที่จานละ 10-20 USD ครับ นี่เลย ผมสั่งแกงกะหรี่เนื้อ จานละ 12 USD ครับ แต่ข้าวนี่คือแบบกินได้ทั้งครอบครัว บิ๊กบึ้มมากครับ
ว่าแล้วก็เดินทางไปมัลดีฟด้วยกันเลย
กลางเวหา เครื่องกำลังจะแลนด์แล้วนะ เห็นเหล่า Atoll เล็กใหญ่เต็มไปหมด เตรียมตัวฟินตั้งแต่บนเครื่องเลยแหละ
ส่วนของท่าเรือกันบ้าง ที่เราจะต้องเดินทางไปยังเกาะต่างๆ จะมีเรือรับส่งจอดเต็มไปหมดเลยครับ ขนาดน้ำที่ท่าเรือสนามบินยังฟ้าขนาดนี้ เกาะต่างๆ จะขนาดไหนกันนะ แดดกำลังดี
ไปเข้าห้องน้ำ ออกมาอีกที เอ๋า ดำคุมมุม คึมมึมมาหั้นละบ๋อ!! เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด ซ่า... ฝนลงห่าใหญ่ แล้วห้านาทีก็หยุด แดดออกคือเก่า เอ้อ งงเด้ นึกว่า อังกอร์จะกลางร่างซะแล้ว 555+
สภาพอากาศที่นี่ก็จะเป็นแบบนี้นะครับ ถึงแม้ว่ามาในช่วงมรสุม แต่ฝนก็จะตกไม่นานครับ อาจครึ้มๆบ้าง ฝนก็จะตกๆ หยุดๆ เมื่อเห็นแดด เราต้องอย่ากลัวดำ รีบหยิบกล้อง โพสท่าวนไป อย่าได้อาย ก่อนที่ฝนจะตกแล้วอดเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ นะค้าบ ด้วยความปรารถนาดีครับผม
เดี๋ยวต่อไป มาชมรีวิวของการไปพักรีสอร์ท 2 แห่ง พร้อมภาพเต็มๆแบบจุใจ ได้ในคอมเม้นถัดไปนะครับ
ในส่วนของทริคต่างๆ และค่าเสียหาย เดี๋ยวผมจะสรุปแจกแจงค่าเสียหายทั้งหมดให้ในตอนท้ายนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น