ข่าวคราวเรื่องช่างภาพถูกละเมิดลิขสิทธิ์ หรือถูกขโมยภาพไปใช้งาน เป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ช่างภาพหน้าแหก กล่าวหาว่าสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งขโมยภาพที่เขาถ่ายบรรยากาศการซ้อมงานพระราชพิธี ไปโพสต์ลงในแฟนเพจของช่อง โดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งก็ตามมาด้วยเหล่าบรรดาผู้ที่รักลิขสิทธิ์ทั้งหลายแต่ขาดสติ ที่ช่วยกันแชร์และช่วยกันด่าสถานีโทรทัศน์ว่า ไร้ความรับผิดชอบมั่ง เลวมั่ง ไร้ยางอายมั่ง ขี้ขโมยมั่ง และอื่นๆ

แต่เหตุการณ์ กลับพลิกผัน เมื่อสถานีโทรทัศน์ออกมาอธิบายว่า รูปภาพทั้งหมดที่นำไปใช้นั้น เป็นภาพที่ทางสถานีซื้อมาจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่างถูกต้อง ซึ่งความจริงก็คือ ตากล้องคนนี้ได้ขายภาพเหล่านี้ให้สำนักข่าวต่างประเทศนั้น และสถานีทีวีช่องนั้นของไทยก็ซื้อภาพจากสำนักข่าวต่างประเทศนั้นมาใช้งานอีกที ซึ่งเป็นการซื้อมาใช้งานอย่างถูกต้อง แต่ช่างภาพนึกว่าถูกกอปภาพไปจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเอง และถูกสถานีทีวีลบลายน้ำทิ้งเพื่อขโมยภาพไปใช้งาน

ช่างภาพคนดังกล่าวจึงได้รีบลบโพสต์ที่ด่าสถานีโทรทัศน์ช่องนั้นทันที ก่อนที่จะโพสต์ขอโทษที่เข้าใจผิดและได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าว

ช่างภาพคนดังกล่าวยังถือว่ามีความรับผิดชอบที่ออกมายอมรับความผิดพลาดของตัวเอง และได้โพสต์ขอโทษสถานีโทรทัศน์ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเองเพื่อความกระจ่าง แต่เรื่องตลกก็คือ เหล่าผู้ใช้งานเฟซบุ๊กซึ่งส่วนใหญ่เป็นทั้งตากล้องมืออาชีพและมือสมัครเล่น ที่รักความถูกต้องและปกป้องลิขสิทธิ์ทั้งหลาย ที่ได้ร่วมด่าสถานีโทรทัศน์ว่าขโมยรูปภาพช่างภาพมาใช้ กลับตีเนียน นิ่งเงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

การปกป้องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่ดีและควรส่งเสริมนะครับ แต่อย่าคลั่งลิขสิทธิ์ให้มันมากไปจนขาดสติ