เป็นไปได้หรือไม่ครับ หากขณะที่เราเรียน ป.ตรี เราจะลองทำวิทยานิพนธ์ไปด้วยเพื่อนำไปใช้ใน ป.โท

ตามหัวเลยครับ ผมมีแผนว่าจะเรียนต่อโท แต่จากข้อมูลที่ได้มาจากหลายๆด้าน จะขาดก็แต่ด้านที่ตั้งกระทู้ถามนี้นี่แหละครับ พอดีตอนนี้อยู่ในช่วงว่าง และหลายๆท่านประสบปัญหาเรื่องเวลาที่บีบในช่วงการทำวิทยานิพนธ์ขณะเรียน ป.โท จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า หากเราจะหาข้อมูลและทำทุกอย่างตามขั้นตอนการทำวิทยานิพนธ์ เสมือนเรากำลังเรียนโทและทำวิทยานิพนธ์ สามารถทำได้หรือไม่ หรือถ้าทำไม่ได้สาเหตุที่ทำให้เราทำไม่ได้คืออะไรครับ การตั้งหัวข้อ ฯลฯ
รบกวนรุ่นพี่ทั้งหลายตอบทีครับ อยากทำให้ได้ตามแผนแต่ไม่รู้ว่าแผนจะใช้ได้หรือไม่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
กลับมาตอบให้อีกครั้ง เพราะเห็น จขกท.กระตือรือร้นที่จะเรียนต่อ (นี่ลงทุนเปิดคอมพิวเตอร์พิมพ์เพื่อตอบกระทู้นี้โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย)

ไม่ทราบว่า จขกท. เรียนปริญญาตรีสาขาอะไร จากมหาลัยไหนครับ เพราะมหาลัยมีผลต่อคุณภาพอาจารย์ ว่าจะเจออาจารย์ที่กระตือรือร้นต่อการเรียนรู้ของนักศึกษาหรือไม่

ต้องเข้าใจอย่างนึง ว่าการทำวิทยานิพนธ์ คือการทำวิจัย อันเป็นการแสวงหาความรู้ใหม่ที่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน คนที่ทำวิจัยจะเป็นผู้ที่รู้ดีในเรื่องนั้นมากที่สุด แม้แต่อาจารย์ที่คุมวิทยานิพนธ์เราก็รู้ดีสู้เราไม่ได้

จะ assume ว่า จขกท.กำลังเรียนปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์อยู่นะครับ

คือ จขกท.ไปดูว่าในหลักสูตรปริญญาตรีที่ จขกท.เรียน มีรายวิชา Individual Studies (ต่อจากนี้จะเรียกว่า IS) เปิดสอนเป็นวิชาเลือกหรือไม่ ถ้ามี ให้ไปขออาจารย์เปิดสอน โดยลงเรียนคนเดียว และไปขอให้อาจารย์ที่ จขกท.อยากทำงานวิจัยด้วย ช่วยคุม และตัดเกรดวิชานี้ให้หน่อย ถ้าสามารถเปิดวิชา  IS ให้ จขกท.ลงได้ และมีอาจารย์ในภาควิชาที่สนใจคุมงานให้ จขกท. จขกท.ก็ลงเรียนวิชานี้ไปตอนปีสี่

ซึ่งผมจะ assume ว่า ในหลักสูตรปริญญาตรี จขกท.ได้เรียนพวกวิชาระเบียบวิธีวิจัยมาแล้ว ก็จะไม่กล่าวถึงการทำวิจัยซ้ำ

จขกท.จะต้องกำหนดประเด็นวิจัยที่ตัวเองสนใจ ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง การทบทวนวรรณกรรมไม่ใช่การเล่าเรื่องย่อทั้งเล่มของหนังสือที่อ่าน แต่เป็นการดึงมาเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นวิจัยที่เราอยากทำ ร้อยเรียงเป็นบทสนทนาโต้แย้งกันไปมา เพื่อดูว่าในประเด็นที่ จขกท.อยากทำวิจัย มีใครทำอะไรไปแล้วบ้าง และยังขาด บกพร่อง หรือมีช่องโหว่ตรงไหน ทบทวนวรรณกรรม คือการสร้างบทสนทนาของงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำรวจว่าองค์ความรู้นั้นยังขาดอะไรไป หลงลืมประเด็นใด ถ้ามันครบสมบูรณ์หมดแล้ว ก็ไม่ต้องทำวิจัย เสร็จแล้วก็นำไปสู่การตั้งคำถามวิจัย

งานทางสังคมศาสตร์ต้องมีทฤษฎี งานของ จขกท.ใช้ทฤษฎีอะไรที่ได้เรียนมา ก็เล่าลงไปด้วย เพราะทฤษฎีบวกกับการทบทวนวรรณกรรมที่สมบูรณ์จะนำไปสู่การตั้งคำถามวิจัยที่แหลมคม

ต่อจากนั้นก็มาถึงขั้นออกแบบงานวิจัย (Research Design) ว่างานของเราจะเป็นเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ ต้องไปหาข้อมูล กลุ่มตัวอย่างที่ไหน ใช้เทคนิควิจัยอะไร การออกแบบงานวิจัย จะเหมือนพิมพ์เขียวสำหรับการสร้างบ้าน หรือลายแทงและเข็มทิศสำหรับการตามหาขุมสมบัติ ถ้าออกแบบการวิจัยดีและแน่น การลงมือทำงานวิจัยก็จะง่าย เพราะแค่ลงมือปฏิบัติไปตามพิมพ์เขียวหรือลายแทงเท่านั้น

จะไม่พูดอะไรมากนะครับ เพราะถือว่า จขกท.ได้รู้อย่างละเอียดมาจากการเรียนวิชาระเบียบวิธีวิจัยแล้ว แค่บอก จขกท.ว่า เด็กปริญญาตรี ก็สามารถผลิตงานวิจัยดีๆได้ ด้วยความรู้แค่ปริญญาตรี เด็กปริญญาตรีหลายคนในจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มีงานวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการแล้วด้วยซ้ำ โดยงานวิจัยนั้น ก็พัฒนามาจาก term paper ที่ทำส่งในรายวิชาเรียนปริญญาตรีนั่นแหละ อย่าไปเชื่อที่คนอื่นบอกว่าเด็กปริญญาตรีไม่มีน้ำยาผลิตงานวิจัยได้

ที่นี้ถ้า จขกท.เรียนจบวิชา IS แล้ว ก็จะได้งานวิจัยขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ทีนี้ตอนไปเรียนปริญญาโท ก็เอาข้อมูลจาก IS นั่นแหละ มาพัฒนาต่อให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาโท ทีนี้มันก็ง่าย เพราะเรารู้จักภูมิทัศน์ของเรื่องที่เราอยากทำแล้วนี่ รู้ว่าคำถามวิจัยคืออะไร จะต้องไปอ่านหนังสือเล่มใดบ้าง ต้องไปเก็บข้อมูลจากไหน ต้องใช้เทคนิควิจัยอะไร ฯลฯ

ไม่รู้ว่า จขกท. เรียนปริญญาตรีที่ไหน แต่ถ้าเรียนปริญญาโท แนะนำให้มาจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ นิด้า ภาคปกตินะครับ จะช่วยได้เยอะ สถาบันอื่นนอกจากนี้ไม่แนะนำเท่าไหร่

แต่การสอบเข้าเรียนปริญญาโทของทั้งสามมหาลัย จะเป็นสอบข้อเขียนในวิชา รปศ. และก็สัมภาษณ์ตามปกติ ไม่ต้องยื่นหัวข้อวิจัยหรือเค้าโครงการวิจัยตอนสมัคร อาจจะมีถามบ้างตอนสอบสัมภาษณ์ว่าสนใจอยากทำวิจัยเรื่องอะไร ถามแบบกว้างๆ เพราะอาจารย์พวกนี้ตามปกติจะไม่คาดหวังว่าเด็กสอบเข้าปริญญาโทจะคิดหัวข้อวิจัยขึ้นมาได้ตอนสมัครสอบ ร้อยทั้งร้อย ก็มาคิดหัวข้องานวิจัยเอาตอนเรียนจบคอร์สเวิร์คทั้งนั้น การเรียนปริญญาโทเมืองไทยก็เป็นการจับมือหัดทำวิจัยตั้งแต่ต้นนั่นแหละ ด้วยเหตุนี้เลยเรียนจบสี่ปีกันเป็นส่วนใหญ่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่