รายการทีวีต่างประเทศใช้กล้องอะไรถ่ายค่ะ ทำไมภาพสวยกว่าของไทย

ปัจจัยหลายอย่างเยอะครับ

อุปกรณ์กล้อง ไฟ สตูดิโอถ่ายรายการทีวีหลายๆที่ก็ใช้อุปกรณ์ เหมือนที่เมืองนอกใช้นั่นแหละครับ
กล้องในสตูดิโอจะใช้แบบ Studio/Broadcast Camera

ต่อเรื่องในโดยกล้องหลักมักใช้ขนาดใหญ่ (ถ้ามี) เพราะซูมได้มาก เซนเซอร์ใหญ่ ติดตั้ง Autoscript (สคริปอ่าน) ได้ที่ตัวเลนส์ ซึ่งราคากล้องแบบนี้จะแพงกว่า ของไทยก็ใช้แบบที่เมืองนอกใช้นั่นแหละครับ รวมเลนส์ก็หลักล้านเช่นกัน ถ้ามีถ่ายกีฬา ก็จะเอากล้องพวกนี้ไปถ่ายด้วย กล้องประเภทนี้มีไม่กี่ยี่ห้อครับ Ikegami, Sony, Hitachi เลนส์ก็ Fujinon, Canon

* กล้องประเภทใช้ในสตูดิโอ บางช่องที่พึ่งมีมาไม่กี่ปี ก็อาจจะจัดซื้อใหม่ หรือหาเช่า ถ้าฟรีทีวีเดิมบ้านเรา มักจะมีกล้องพวกนี้แบบ HD ติดสถานีอยู่ก่อนทีวีดิจิตอล HD ออกอากาศซะอีก แต่คุณภาพของภาพและเลนส์ก็อาจจะคมหรืองัดรายละเอียดสู้รุ่นใหม่ไม่ได้ (อยู่ที่ว่าจะมองออกไหม) อย่างช่อง9 MCOT มีมาน่าจะเกือบๆ 10ปีแล้วครับ ช่องเมืองนอกที่รวยๆก็อาจจะใช้กล้อง Studio แบบเลนส์กระบอกใหญ่ทั้งชุดไปเลยก็มี ชอบขาตั้งมัน ดึงขึ้นลง ขยับไปมา สมูทมาก

ของเมืองนอก บางรายการก็จะอาจจะนำกล้องตระกูลถ่ายหนัง เอาไปเสริมก็มี แต่ผมก็ไม่รู้ว่ารายการอะไรมั่ง บางสตูดิโอของต่างประเทศ อาจจะเริ่มมีการนำกล้อง 4K มาใช้ร่วมบ้างแล้ว แต่ยังตัดต่อและแปลงออกมาเป็นแบบ 1080i/p อยู่ (ตัวกล้องกับเลนส์ แยกกัน ถ้าเอาเลนส์เก่า ไปใส่ตัวกล้อง ที่เป็นรุ่นใหม่ 4K ก็อาจจะใส่ได้ [ถ้ากะจะลดค่าใช้จ่าย] แต่ความคม ขอบดำ อะไรพวกนี้ คงไม่ได้ดีตามสเปคกล้อง เพราะเลนส์มีการออกแบบว่าสุดได้ที่เท่าไหร่ ประมาณไหน)


(อันนี้จะเป็นกล้องจำพวก XDCAM รูปร่างคล้ายๆ Studio Camera แต่เล็กกว่า ถือหิ้วได้)


(กล้อง Studio Camera ผมเรียกว่า กล้องบ้องบาซูก้า 555 เลนส์ซูม Optical 95x ซูมสุดในไม่กี่วิ ภาพไม่แตก มีระบบ Auto Focus ติดตาม จับโฟกัสได้ในเสี้ยววินาที ในรูปจะเป็นรุ่น Canon Digisuper 95 รุ่นปี 2011 แต่ตัวกล้องนั้นเป็น Sony HDC1000 ปี 2005
กล้องระดับนี้จำเป็นต้องใช้เซนเซอร์ CCD โดยเฉพาะเรื่องของสีสัน, รายละเอียดภาพ, Rolling Shutter [ซึ่งในกล้องถ่ายรูปไปใช้ CMOS กันหมดแล้ว เนื่องจากเม็ดเซ็นเซอร์ใหญ่ มีราคาแพง ร้อนง่าย กินแบต])

ส่วนนอกสถานที่ ก็แล้วแต่รายการ มีใช้ปนทั้น Studio Camera (แบกไหล่เอา), XDCAM/NXCAM (คล้ายๆ Studio Camera แต่เล็กกว่า ถือได้), กล้องวิดีโอพกพา หรือกล้อง DSLR, Mirrorless (ของไทยชอบใช้กล้องประเภทนี้ถ่ายนอกสถานที่ เพราะมีราคาถูก พกพาง่าย เอาแบบมาสายนี้เลยก็พวกตระกูล Canon ตระกูล 5D, 70D, 80D งี้ กับ Panasonic ตระกูล GH รวมเลนส์เทพๆก็ไม่เกิน 2แสน)
* DSLR, Mirrorless รวมเลนส์เทพ ถูกกว่ากล้องประเภทอื่นสำหรับงานโทรทัศน์จริง แต่ถ้า

ผมว่าสีของบ้านเค้าสวย ก็เพราะการตัดต่อ Post-Production ด้วยละครับ เอามาปรับโทนสี ปรับแสงได้

การปรับกล้อง ค่าต่างๆ อยากให้ดูกระตุกนิดๆแบบหนัง อยากให้ดูสมูทแม้เฟรมเรตไม่สูง ตั้งได้

ที่สำคัญอีกมากๆ คือ การจัดแสง อุณหภูมิแสงทั้งของกล้อง ของไฟ ในสตูดิโอ จะตั้งเท่าไหร่ จะให้เห็นเป็นขาวเลยไหม หรือตั้งใจติดเหลือง ก็เซ็ตไป ของไทยที่เห็นบ่อยเลยคือ สีผิวติดสีฟ้า สีม่วง การจัดแสงส่วนตัวผมคิดว่าจัดกันไม่โอเคเลยในหลายๆรายการ


รายการสด ก็ทำได้พอๆกับรายการเทปที่เอาไปตัดต่อเอาไปปรุง ก็เซ็ตล่วงหน้าครับ อยากได้แบบไหนก็เซ็ตเอาไว้ก่อน ถ่ายจริงก็สวยได้ไม่แพ้ไปปรุงทีหลัง

ผมสังเกตจากรายการทีวีหลายๆประเทศ แนวภาพ มุมกล้อง สีภาพ การจัดแสง จะมีเอกลักษณ์เลย ญี่ปุ่น ชอบแบบนี้ เกาหลีใต้ ชอบแบบนี้ อเมริกา ชอบแบบนี้ (เท่าที่สังเกต อเมริกา อังกฤษ ออส ชอบทำออกมาคล้ายๆกัน) เหมือนเรียนหลักสูตรเดียวกันทั้งประเทศยังไงยังงั้น


(ต่อให้มาถ่ายทำที่ไทย ตากล้องญี่ปุ่น ก็จะถ่ายออกมาเป็นรายการญี่ปุ่นออกมาได้เองแหละครับ สภาพแสงบ้านเรากับบ้านเค้าไม่เหมือนกันก็จริงอยู่)

ถ้าแคปมาจาก Youtube บิทเรตภาพก็มีผลอีก ของ Youtube มันจะมีค่ากลางอยู่ 1080p จะใช้ที่ 4-6Mbps H.264 แต่ต้นฉบับที่ช่องหรือสตูดิโออัพละ ตั้งอย่างไรมา

ตอนออกอากาศ ถ้าเอาไฟล์ .ts พวกที่บันทึกจากสัญญาณทีวีมาเทียบ ถ้าบ้านเค้า บิทเรตสูงกว่า ภาพมาดีกว่า ภาพก็จะรายละเอียดดีกว่า ดูคมกว่า ถ้าตามหลัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง โดยเฉพาะจากต้นทาง(เทปที่ถ่ายทำหรือรายการสด) นี่แหละเรื่องใหญ่ไม่แพ้กัน
ระบบออกอากาศ ระบบ Encode ก็สำคัญอีก เอาเข้าไป การส่งสัญญาณต้นทางปลายทาง ทั้งรายการเทป (ถ่ายทำ->ตัดต่อ->ออกอากาศจากสถานี->เข้าระบบส่งสัญญาณ) และรายการสด (ถ่ายสด->ตัดต่ออาจจะในสตูหรือรถOB->ส่งสัญญาณไปสถานี[ถ้าเป็นนอกสถานที่]->ออกอากาศจากสถานี->เข้าระบบส่งสัญญาณ)

เช่น เทปรายการทีวีเดียวกัน ออกอากาศทั้งทีวีดิจิตอลของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ของเกาหลีใต้ สเปคสูงกว่า ความละเอียดเยอะกว่า (ญี่ปุ่น 14 vs เกาหลี 17) ภาพจึงคมกว่า และดูดีกว่า โดยรวมๆ (แต่ก็อาจจะไม่ต่างกันในหลายจุด อธิบายยาวครับ)

ตอนที่ถ่ายทำ บันทึกออกมา ตั้งบิทเรตเท่าไหร่ แต่อันนี้ไม่ค่อยห่วงถ้าเป็นงานสตูดิโอ ปกติจากกล้องจะออกมาเป็น RAW 4:4:4 (1.5Gbps สำหรับ 1080i) พอทำการแปลง ทำการตัดต่อ ถ้าเอาแบบคุณภาพระดับโฆษณาจะนิยมพวก ProRes 100 ไม่ก็ชนิดอื่นๆอีก ขึ้นอยู่กับสเปคที่ช่องรองรับด้วยว่าเอายังไง

กล้อง DSLR, Mirrorless สายวิดีโอ ก็ถ่าย Log หรือถ่ายพวกบิทเรตสูง 50-100Mbps เพื่อคุณภาพสูงสุด พวกกล้อง Studio หรือ XDCAM แบกหิ้วนอกสถานที่ พวกนี้จะมีรูปแบบการบันทึกโดยเฉพาะ ใส่การ์ดเฉพาะ เช่น การ์ด P2 หรือ XDCAM Disc ซึ่งจะกำหนดเป็น นาที แทนความจุ เพราะสเปคการบันทึกออกแบบมารองรับอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว

----------

สรุปรวมๆคือ ปัจจัยเยอะมาก

ผมว่าหลักๆก็การเซ็ตกล้อง กับการจัดแสง นั่นแหละครับ ตัวการใหญ่

อุปกรณ์ถ่ายทำรายการของไทย ก็เหมือนๆกับเมืองนอกประเทศใหญ่ๆ (ผมว่าดีไม่แพ้สิงคโปร์ ถ้าเทียบในภูมิภาคนี้ เผลอๆดีกว่าเค้าอีก) นั่นแหละครับ แต่เค้าจะปรับหรือไม่นี่แหละ หลายๆรายการของไทย ทำละเมียดก็มีครับ แต่สีเพี้ยนๆก็เยอะ รู้สึกขัตตาเช่นกัน แสงลงหน้า สีฟ้า สีม่วง ขาวไม่จริงเงี้ย คนดูทั่วๆไปอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับสีภาพ เพราะอาจจะชินแบบนี้มานานแล้วหรือเปล่า?

ปล. หนึ่งในคลิปที่ จขกท. ลงไว้ที่หัวกระทู้อย่าง Miss Universe ซึ่งจะชอบจัดที่ต่างประเทศ (แต่ก็จัดในอเมริกาก็บ่อย) เค้าจะยกทีมกล้อง ทีมงานถ่ายทำทั้งหมดจากอเมริกาไปด้วย ที่ผมเคยดูก็เช่น Miss Universe 2008 ที่เวียดนาม, 2009 ที่บาฮามาส แนวภาพ มุมกล้อง ชัดเจนมาก เมื่อก่อนจะถ่ายดิบๆหน่อย (ลูกเล่นตอนนั้นยังไม่เยอะ) ปีหลังๆมีการปรับภาพให้ดูดำเงา มุมกล้องลื่น ดูหรู ถ้าภาพเทพก็โชว์ประจำปีของ Victoria Secret แต่รายการนั้นเป็นเทปไม่ได้สด