ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศศูนย์กลางของอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นภูมิศาสตร์ของประเทศไทยโดยธรรมชาติ ที่ตั้งอยู่ตรงศูนย์กลางของภูมิภาค มีความอุดมสมบูรณ์ คนไทยมีขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมที่เปิด และเป็นมิตร เอื้อให้คนต่างชาติเข้ามาใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย มีโครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารโทรคมนาคมครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนั้น การมีศูนย์กลางด้านดิจิทัลเกิดขึ้นในประเทศไทย ภายใต้ระบบนิเวศน์ครบวงจรที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม จะทำให้เกิดการผสมผสานความรู้ มีการวิจัยพัฒนาต่อยอดในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ช่วยส่งเสริมให้กลุ่มเทคสตาร์ทอัพไทยรุ่นใหม่ๆ สามารถดึงดูดการลงทุนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
โครงการ
Digital Park Thailand จึงเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง CAT, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยจะพัฒนาขึ้นบนพื้นที่ขนาด 500 ไร่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เป็นศูนย์กลางการลงทุน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิทัล
การสร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลใหม่ (New S-Curve Digital Industry) โดยแบ่งออกเป็น
• กลุ่มผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ และชิ้นส่วนดิจิทัล อาทิ คอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ อุปกรณ์อัจฉริยะ และชิ้นส่วนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และแขนกล อุปกรณ์เก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูล อุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่ในการรับส่งข้อมูล และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัล
• กลุ่มผู้ผลิต/ให้บริการซอฟต์แวร์ อาทิ Cloud Computing, Intelligent System, Pervasive Software, Cognitive Platform IoT Platform Machine Learning แอพพลิเคชั่น และโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัลสมัยใหม่
• กลุ่มผู้ให้บริการดิจิทัล อาทิ Digital Tech Startup, Digital Managed Service, CyberPhysical Solution, Cybersecurity, Real Time Cyber Scout, Long Distance Monitoring และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ให้บริการข้อมูลดิจิทัล (Digital Content) อาทิ Data Center, Big Data Analytic, Streaming Content, Content Delivery Platform, VR Movie, Hologram, Immersive Animation ภาพยนตร์ โฆษณา และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสาร/บริการสื่อสาร อาทิ โทรคมนาคม แพร่ภาพกระจายเสียงดาวเทียม และส่วนประกอบ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ เช่น social commerce, mobile commerce, media commerce และอื่นๆ
Digital Park Thailand นอกจากจะเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านคมนาคมขนส่ง และนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางด้านการสื่อสารความเร็วสูงของไทย เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานีดาวเทียม และสถานีเคเบิลใต้น้ำ ที่เป็น
เส้นทางหลักของการเชื่อมไฟเบอร์ออปติค
ภายในประเทศกับต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกงเปรียบเสมือนศูนย์กลางอินเทอร์เน็ต (Internet Hub) ของประเทศใน AEC แต่หากพิจารณาตามสถานที่ตั้ง ประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคหากมีการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลในพื้นที่อย่างจริงจัง
นอกจากจะช่วยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลแล้ว ยังจะช่วยให้เกิดการพัฒนาบุคลากร และการพัฒนาสินค้า และบริการดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Digital Park Thailand มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 2561 ภายในจะประกอบไปด้วยโซนต่างๆ 3 โซนด้วยกัน คือ
1) University 4.0 & Digital Academy เป็นโซนสำหรับการเรียนการสอนหลักสูตรเกี่ยวกับดิจิทัลโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชน
2) Digital Innovation Space เป็นโซนหลักสำหรับการลงทุนและการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิทัล
3) Living Space คือส่วนของที่พักอาศัย โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และศูนย์กีฬา
โครงการ Digital Park Thailand จะอาศัยจุดแข็งด้านการต่อเชื่อมกับ Eastern Seaboard ดึงบริษัทไอทีระดับโลกอย่าง Google, Facebook, Amazon และมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมใช้พื้นที่นี้ เพื่อดึงดูดแรงงานด้านดิจิทัลระดับหัวกะทิมาทำงานที่นี่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มทรูที่เป็นธุรกิจเอกชนเอง ก็ให้ความสำคัญ และเพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้ประเทศไทยเป็น Thailand 4.0 ก็ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการ
“ทรู ดิจิทัล พาร์ค” (True Digital Park) เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนโดยภาคเอกชน เน้นจุดเด่นบรรยากาศ World-Class Co-Working Space เช่นเดียวกัน
สำหรับ “True Digital Park” ตั้งอยู่ในโครงการ Whizdom 101 ของทาง MQDC (แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดกับสถานีรถไฟฟ้าปุณวิถี ภายใต้พื้นที่ 43 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ใช้สอยกว่า 2 แสนตารางเมตร พร้อมกับการจัดสรรพื้นที่ 30% ให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง รองรับผู้เข้าใช้งานกว่า 20,000 คน ที่จะแล้วเสร็จในปี 2561 ภายใต้งบการลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท โดยทางกลุ่มทรู จะลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ในการวางโครงสร้างการสื่อสารภายในโครงการทั้งหมด
เชื่อมโยงกันเป็นเมืองดิจิทัลด้วยเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม 4G, บรอดแบนด์ และ WiFi สิ่งแวดล้อมด้วยระบบนิเวศน์สมบูรณ์แบบ ทั้งบรรยากาศ World-Class Co-Working Space ที่เปิดโล่ง บนพื้นที่สีเขียว ท่ามกลางธรรมชาติ (Green Area) และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล การดำเนินธุรกิจ และไลฟ์สไตล์
รวมทั้งพื้นที่แชร์ทำงานร่วมกัน (co-working space) ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้ามาตั้งสำนักงาน และตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของโลก (Multinational Tech Enterprise) เหล่าเทคสตาร์ทอัพรุ่นใหม่, กลุ่ม SME, มหาวิทยาลัย และ R&D พร้อมมีแพลตฟอร์มบริการด้านดิจิทัล (Digital Service Platform) รองรับการทำธุรกิจทั้ง Cloud, e-Commerce และ e-Payment อีกทั้งยังจะมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะสร้างบรรยากาศและมอบสิทธิประโยชน์ที่เอื้อต่อการลงทุนของบริษัทต่างชาติในประเทศไทย และมีพื้นที่ให้คำปรึกษาทางธุรกิจและเครือข่ายระดมทุนแบบ Crowd Funding เทียบระดับสากล ซึ่งนอกจากจะสร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดให้มีเงินลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้ว ยังนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆตามมาอีกมากมาย
ที่มา :
Digital Park Thailand
ที่มา :
CAT ชู Digital Park Thailand เมกะโปรเจคต่อยอดสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล
ที่มา :
True Digital Park
Edit : คำสะกดผิด
EEC : Digital Park Thailand ความฝันที่อยู่แค่เอื้อม
โครงการ Digital Park Thailand จึงเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง CAT, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยจะพัฒนาขึ้นบนพื้นที่ขนาด 500 ไร่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เป็นศูนย์กลางการลงทุน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิทัล
การสร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลใหม่ (New S-Curve Digital Industry) โดยแบ่งออกเป็น
• กลุ่มผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ และชิ้นส่วนดิจิทัล อาทิ คอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ อุปกรณ์อัจฉริยะ และชิ้นส่วนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และแขนกล อุปกรณ์เก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูล อุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่ในการรับส่งข้อมูล และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัล
• กลุ่มผู้ผลิต/ให้บริการซอฟต์แวร์ อาทิ Cloud Computing, Intelligent System, Pervasive Software, Cognitive Platform IoT Platform Machine Learning แอพพลิเคชั่น และโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัลสมัยใหม่
• กลุ่มผู้ให้บริการดิจิทัล อาทิ Digital Tech Startup, Digital Managed Service, CyberPhysical Solution, Cybersecurity, Real Time Cyber Scout, Long Distance Monitoring และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ให้บริการข้อมูลดิจิทัล (Digital Content) อาทิ Data Center, Big Data Analytic, Streaming Content, Content Delivery Platform, VR Movie, Hologram, Immersive Animation ภาพยนตร์ โฆษณา และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสาร/บริการสื่อสาร อาทิ โทรคมนาคม แพร่ภาพกระจายเสียงดาวเทียม และส่วนประกอบ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอื่นๆ
• กลุ่มผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ เช่น social commerce, mobile commerce, media commerce และอื่นๆ
Digital Park Thailand นอกจากจะเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านคมนาคมขนส่ง และนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางด้านการสื่อสารความเร็วสูงของไทย เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานีดาวเทียม และสถานีเคเบิลใต้น้ำ ที่เป็นเส้นทางหลักของการเชื่อมไฟเบอร์ออปติค
ภายในประเทศกับต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกงเปรียบเสมือนศูนย์กลางอินเทอร์เน็ต (Internet Hub) ของประเทศใน AEC แต่หากพิจารณาตามสถานที่ตั้ง ประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคหากมีการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลในพื้นที่อย่างจริงจัง
นอกจากจะช่วยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลแล้ว ยังจะช่วยให้เกิดการพัฒนาบุคลากร และการพัฒนาสินค้า และบริการดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC
โครงการ Digital Park Thailand จะอาศัยจุดแข็งด้านการต่อเชื่อมกับ Eastern Seaboard ดึงบริษัทไอทีระดับโลกอย่าง Google, Facebook, Amazon และมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมใช้พื้นที่นี้ เพื่อดึงดูดแรงงานด้านดิจิทัลระดับหัวกะทิมาทำงานที่นี่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มทรูที่เป็นธุรกิจเอกชนเอง ก็ให้ความสำคัญ และเพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้ประเทศไทยเป็น Thailand 4.0 ก็ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” (True Digital Park) เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัล (Digital Hub) ของไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงทุนโดยภาคเอกชน เน้นจุดเด่นบรรยากาศ World-Class Co-Working Space เช่นเดียวกัน
สำหรับ “True Digital Park” ตั้งอยู่ในโครงการ Whizdom 101 ของทาง MQDC (แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชื่อมโยงกันเป็นเมืองดิจิทัลด้วยเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม 4G, บรอดแบนด์ และ WiFi สิ่งแวดล้อมด้วยระบบนิเวศน์สมบูรณ์แบบ ทั้งบรรยากาศ World-Class Co-Working Space ที่เปิดโล่ง บนพื้นที่สีเขียว ท่ามกลางธรรมชาติ (Green Area) และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล การดำเนินธุรกิจ และไลฟ์สไตล์
รวมทั้งพื้นที่แชร์ทำงานร่วมกัน (co-working space) ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้ามาตั้งสำนักงาน และตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ของโลก (Multinational Tech Enterprise) เหล่าเทคสตาร์ทอัพรุ่นใหม่, กลุ่ม SME, มหาวิทยาลัย และ R&D พร้อมมีแพลตฟอร์มบริการด้านดิจิทัล (Digital Service Platform) รองรับการทำธุรกิจทั้ง Cloud, e-Commerce และ e-Payment อีกทั้งยังจะมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่จะสร้างบรรยากาศและมอบสิทธิประโยชน์ที่เอื้อต่อการลงทุนของบริษัทต่างชาติในประเทศไทย และมีพื้นที่ให้คำปรึกษาทางธุรกิจและเครือข่ายระดมทุนแบบ Crowd Funding เทียบระดับสากล ซึ่งนอกจากจะสร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดให้มีเงินลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยแล้ว ยังนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆตามมาอีกมากมาย
ที่มา : Digital Park Thailand
ที่มา : CAT ชู Digital Park Thailand เมกะโปรเจคต่อยอดสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล
ที่มา : True Digital Park
Edit : คำสะกดผิด