ขอสอบถาม ครับ  พี่สาวโดนโกงจาก แก๊งค์ รับซื้อขายฝาก-ที่ดิน (มีประวัติ จาก สตช. ข้อหาฉ้อโกง,ปลอมแปลงเอกสาร ทั้งแก๊งค์เลย)  คือหลอกให้มาขายฝาก ต่อหน้า จนท.ที่ดิน เซ็นเอกสารก่อน แล้วจะจ่ายเงินให้ สุดท้าย จ่ายมา ราว 340,000 ที่เหลือไม่จ่าย โยกโย้ไปเรื่อย  จนกระทั่งสัญญาขาย-ฝาก ขาด (สัญญาขายฝาก 6 เดือน)  มาทำสัญญาจะซื้อจะขายต่อ โดยเพิ่มวงเงิน เพราะพี่สาวขู่ว่า จะร้องเรียน  (มูลหนี้ ขายฝากเดิม 500,000 เพิ่มเป็น 900,000)  เป็นระยะเวลา ตามสัญญาจะซื้อ-จะขาย 1 ปี  หลังจากทำสัญญาจะซื้อ-จะขาย เพียง 1 เดือน แก๊งค์ ขาย-ฝาก ก็ข่มขู่พี่สาว มาตลอด ว่าจะล๊อคบ้าน ไม่ให้อยู่บ้าง ประกอบกับพี่สาวต้องเลี้ยงดูแม่ (ซึ่งจริงแล้ว บ้านหลังนี้ แม่เก็บเงินซื้อมา เพื่อตั้งใจ ให้พี่สาวอยู่ ในบั้นปลายชีวิต เพราะพี่สาวเป็นคนไม่ค่อยปกตินัก แต่ไม่ถึงกับวิกลจริต  ยังประกอบกิจการงานได้ เป็นลูกจ้างชั่วคราว ในหน่วยราชการแห่งหนึ่ง เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว แต่ทำหน้าที่เพียง ชงกาแฟให้เจ้านายกินเท่านั้น)  ด้วยความกลุ้มใจ  เลยไปคุยให้ มอเตอร์ไซค์ รับจ้างแถวบ้านฟัง   เมื่อ มอเตอร์ไซค์ รับจ้างฟัง  ก็บอกกับพี่สาว ว่า มีคนช่วยพี่ได้  แล้วก้อเอา นายทุน ขาย-ฝาก อีกราย มาซื้อ เพราะบอกจะปลดเปลื้องความทุกข์ได้ โดยคิดค่าเช่าเป็นรายเดือน  ซึ่งพี่สาวก็เชื่อ เพราะตอนนั้น ขอให้อยู่บ้านหลังนี้ ก็พอแล้ว จนกระทั่ง มีการขาย จาก นายทุนรายที่ 1 สู่ นายทุนรายที่ 2 โดยพี่สาวผม ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการณ์นี้ ใดๆทั้งสิ้น   หลังจาก นายทุนรายที่ 2 ครอบครองแล้ว ก็ฟ้องขับไล่ เอาป้ายประกาศขาย มาติดหน้าบ้าน  ตอนนั้นล่ะ ที่บ้านทุกคนถึงได้รับรู้  และเริ่มการต่อสู้ในทางคดี   ได้จ้างทนาย และยื่นฟ้องในศาลจังหวัดนนท์ โดยทนายยื่นในสำนวนเป็น นิติกรรมอำพราง  แต่ศาลยกคำร้อง เพราะไม่เข้าข่ายที่ร้อง  ตอนนี้ยื่นฟ้องใหม่ ที่ศาลกรุงเทพฯใต้  เป็นการผิดสัญญา จะซื้อ-จะขาย  เรียกร้องเงินค่าเสียหาย ตามมูลค่าของบ้าน    ผมไม่รู้ว่า การยื่นฟ้องนี้ จะถูกต้องหรือไม่  และมีโอกาสชนะหรือไม่  เห็นทนายบอกว่า กฎหมายขายฝาก  เป็นกฎหมายปิดปาก ไม่อาจฟ้องร้อง ได้  จริงหรือเปล่า ครับ  ถ้าอย่างนั้น พวกมิจฉาชีพ ก็อาศัยช่องของกฎหมาย  ทำร้ายคนอื่นๆอีกได้ใช่มั้ย ครับ  ( ผมขอความอนุเคราะห์ จากผู้รู้ด้วยครับ  สงสารแม่ผมมาก ทุกวันนี้ แม่ยังนอนกอดโฉนดตัวจริงที่แม่ซื้อบ้านหลังนี้มา อยู่เลย )