- South Vietnam - ฉบับ "ลุยๆ" แต่ "ไม่ลำบาก"

ติดตามพวกเราได้ที่เพจ http://www.facebook.com/everywherecango

จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่รถติด ผมก็หยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นเฟสบุ๊ค ก็เจอเพื่อนแชร์ทริปไปเวียดนาม หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าต้องไปแล้วล่ะ ไอ้ประเทศนี่ พอกลับถึงบ้านก็เลยรีบหาเพื่อนร่วมทริป ก็มีเพื่อนสองคนที่จองตั๋วไปแล้ว เลยขอจอยทริปแล้วก็จองตั๋วในวันนั้นเลยพร้อมกับเพื่อนอีกคนนึง ไปๆมาๆกลายเป็นว่าผมเป็นผู้ชายคนเดียวซะงั้น

เราได้ตั๋วถูกกว่าเพื่อนเกือบพันทั้งๆที่จองทีหลัง โดนขาไปเป็น Lion Air ไฟล์ทตี 5 ส่วนขากลับเป็น Air Asia ไฟล์ท 6 โมงเย็น ตกประมาณคนละ 2200 บาท


Day 1

วันแรก ขึ้นเครื่องจากดอนเมืองไปถึงโฮจิมินห์ประมาน 7 โมงเช้า เราเดินออกจากตม.มา ก็ต้องซื้อซิมก่อน เพราะเรามาคนละไฟล์ทกับเพื่อนที่จองมาก่อน จะได้ติดต่อกันได้ แต่ซิมน่าจะเป็นอะไรที่จำเป็นสำหรับทุกคน เดินออกมาเลี้ยวซ้ายสุด จะเจอเคาเตอร์สีฟ้า vinaphone เราซื้อซิมไป 175.000 VND ใช้ได้ 5 GB พอได้ซิมแล้วก็เดินออกมาข้างนอกเพื่อจะเข้าเมืองไปตลาดเบนถัน การเข้าเมืองมี 2 วิธี วิธีแรกคือรถบัส  มีรถบัส 2 สาย รถบัสสีเขียว 152 จะอยู่หลัง Burger King ราคา 5.000 VND แต่ว่าต้องระวังอย่าไปวางกระเป๋าที่พื้นไม่งั้นเค้าจะคิดเงินเพิ่ม ให้วางไว้บนตักจะดีที่สุด ส่วนอีกสายคือ บีสสีเหลืองเลข 109 ราคา 20.000 VND คันนี้จะแพงกว่าแต่สบายกว่าจะวางของอะไรยังไงก็ได้ นั่งรถไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงวงเวียนหน้าตลาด อย่างแรกคือเราต้องไปจองรถบัสที่จะเดินทางไปดาลัทคืนนี้ เราก็เดินไปที่ฟามงูเหลา ซึ่งเป็นแหล่งรวมรถบัสและที่พัก ประมาน 5 นาทีจะเจอกับ vietsea ที่มีไฟกระพริบยั่วยวนให้เข้าไปมั่กๆ แสดงว่าคุณถึงฟามงูเหลาแล้ว คุณจะซื้อที่นี่เลยก็ได้ แต่สำหรับสายประหยัดอย่างพวกเรา ต้องตรงไปอีกครับ ไปซื้อที่บริษัทรถโดยตรงชื่อ FUTA BUS ซึ่งราคาจะถูกว่า vietsea แต่จะฝากกระเป๋าไม่ได้ เราได้ตั๋วมาในราคา 130.000VND ต่อคน ทีนี้รถเราออก 5 ทุ่ม เพราะฉนั้นกระเป๋าที่มีอยู่น่าจะเป็นปัญหามาก ในการเดินเที่ยววันนี้ พวกเราสองคนเลยตัดสินใจไปหาโรงแรมที่จะเก็บกระเป๋าและอาบน้ำคืนนี้ เราเดินหาอยู่สักพัก ก็ไปเจอที่นึงที่ราคาโอเคและไม่ไกลมากจากท่ารถ ซึ่งถัดไปอีก 2 ซอย ชื่อ Saigon Hotel โดยราคาอยู่ที่ 20 USD เรท half day จริงเราสามารถต่อรองกับพนักงานได้นะครับ 4 คนตกอยู่ที่คนละ 5 USD ซึ่งถือว่าถูกมากๆ เพราะได้เป็นห้องที่เก็บของ มีเตียง และห้องน้ำสะอาด เอาหละหลังจากที่เราเก็บของทำธุระส่วนตัวกันเสร็จกันประมาณ 10 โมงเช้า ก็ถึงเวลาออกเดินทาง

อย่างแรกที่เราคิดกันคือเราจะไม่ใช้ขนส่งสาธารณะใดๆทั้งสิน ด้วยการศึกษามาอย่างดีว่าคุณมีโอกาสโดนโกงสูง เพราะฉนั้นเราจึงตัดสินใจว่าจะใช้สองเท้าของเราเป็นยานพาหนะ ยังเดินออกมาไม่ถึงไหน ก็มีสามล้อเดินมาถามว่าจะไปมั้ย คำตอบมีอยู่ในใจแล้วครับ No No No! พร้อมกับส่ายหัวแล้วเดินหนีไป จุดหมายแรกของเราในวันนี้คือร้านทองที่เราจะเอาเงินไปแลกนั้นเอง อย่างที่บอกไปข้างบนว่าร้านทองจะให้เรทที่ดีที่สุด เดินไปทางตลาดเบนถัน จะเจอร้าน Pho 2000 ให้เดินตรงมาเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมตรงข้ามทางเข้าตลาด สังเกตุง่ายๆจะมีคนยืนรอบร้านเต็มไปหมด หลังจากที่แรกเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะไม่ใช้ USD แล้ว จะใช้แต่ VND เพราะว่าเรทจะดีที่สุด จุดหมายถัดไปของเราคือ ดูจากแผนแล้วเราตัดสินใจจะเดินเป็นวงกลมเพื่อให้กลับมาที่เดิม เราเดินตาม maps ไปเรื่อยๆตามรูปครับ









จนมาถึง Notre Dame เราเริ่มรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว หิวมากกกก พร้อมกับขาสองข้างที่ลากกับพื้น เราจึงตัดสินใจเดินไปหาอะไรกิน สุดท้ายหลังจากเรื่องร้านอยู่นานก็จบลงที่ร้าน Pho 2000 ที่ผ่านมาตอนเช้านั่นเอง ส่วนเมนูที่กินก็มีตามนี้นะครับ ในราคา หลังจากที่กินเสร็จพร้อมกับความเหน็จเหนื่อย เราคิดว่าจะไปที่สุดท้ายก่อนที่จะเข้าโรงแรมไปพัก ก็คิดว่าน่าจะเป็น Ho Chi Minh Fine Art Museum เพราะว่าใกล้โรงแรมมากที่สุด พอเดินไปถึง ก็ต้องจ่ายค่าเข้า 16.000 VND ที่นี่ไม่ผิดหวังจริงๆครับสำหรับคนชอบถ่ายรูปอย่างพวกเรา ทุกมุมที่นี่แค่หยิบกล้องขึ้นมาก็สวยแล้ว





หลังจากที่เดินถ่ายรูปกันอยู่นาน ฟ้าฝนก็เริ่มทำท่าจะตก พวกเราเลยตัดสินใจเดินกลับโรงแรม ระหว่างทางกลับฝนก็ตกจริงๆ พอมาถึงโรงแรมพวกเราก็รีบอาบน้ำ ด้วยความ เหนื่อยที่สะสมมาแค่ครึ่งวันพวกเราก็สลบไปเกือบ 2 ชั่วโมง จนกระทั่งถึงเวลาที่เพื่อนของเราควรจะถึงเวียดนามแล้ว แต่ก็พบกับเรื่องที่ซวยตั้งแต่ต้นทริปครับ สายการบินเจ็ทสตาร์ที่เพื่อนนั่งมานั้น ดีเลย์ไป 3 ชั่วโมง จริงๆต้องออกบ่ายโมงครับแต่นี่สี่โมงแล้วยังไม่ออกจากไทย พวกเราก็เลยนอนต่อรออยู่ในห้อง จนหกโมง สองคนนั้นก็มาถึง ความซวยยังไม่หมดเท่านี้ครับ เพื่อนสองคนที่ตามมานั้นถูก Jetstar เทครับ ต้องเลื่อนวันกลับไปอีกหนึ่งวัน แล้วก็ออกไปหาข้าวกินใกล้ๆ โดยสองคนที่มาถึงให้โจทย์พวกเราว่า กูจนขอร้านที่ประหยัดที่สุด เพราะต้องอยู่ต่ออีกหนึ่งวัน ยากเลยล่ะครับทีนี้ หลังจากที่กินข้าวเสร็จก็พาเพื่อนสองคนกลับไปที่ห้องพร้อมกับอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางคืนนี้ หลังจากผลัดกันอาบน้ำก็เก็บของเช็กเอาท์แล้วก็ไปนั่งรอที่ท่ารถ โดยที่พวกเราถึงที่ท่ารถประมาณสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่เค้าเขียนไว้ในตั๋ว โดยเร็วกว่าเวลารถออก 1 ชั่วโมง ซักประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็มีรถตู้มารับ ตกใจกันยกใหญ่เพราะคิดว่าจะเดินทาง 6 ชั่วโมงด้วยรถคันนี้ แต่ว่ารถตู้พาไปที่ท่ารถอีกทีครับเพื่อพาไปขึ้นรถบัสนอน หน้าตาแบบนี้ ที่ขึ้นรถบาสพวกเราก็ถอดรองเท้าใส่ถุงพร้อมกับเดินไปที่เตียงของตัวเองที่ระบุเลขเอาไว้ พอรถออกพวกเราก็หลับเตรียมพร้อมสำหรับเช้าวันถัดไป


แต่หลับไปไม่ทันไรความซวยก็มาเยือนอีกแล้วครับ รถเสียครับ แต่คนขับรถดูจะเย็นมากและไม่ตกใจเดินไปหยิบกล่องเครื่องมือไปซ่อมรถได้ความเชี่ยวชาญ ส้มไปอยู่ประมาณชั่วโมงรถออกไม่ได้ครับ เวลาประมาณตีสองรถก็ออกเดินทางต่อ เราก็รับกันต่อ สำหรับวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ครับ เพียงแค่วันแรกก็มีความซวยถึง 3 เรื่องเข้ามาแล้ว วันที่เหลือจะรอดไหมเนี่ย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่