สวัสดีค่ะ ใกล้สิ้นปีแล้ว เก็บกระเป๋าใช้วันลาให้หมดไปกับการท่องเที่ยวดีกว่า วันนี้จะขอรีวิวทริปฮ่องกง ฉบับเร่งรัด 3 วัน 2 คืน อ่านจบแพ็คกระเป๋าบินตามได้เลย อิอิ
FB :
https://www.facebook.com/ninanstyle/
DAY 1
บินครั้งแรกกับสายการบิน Cathay Pacific
ถ้าอยากรู้ว่าถึงไหนแล้ว ก็ดูผ่านจอได้เรย และสามารถขอรหัส Wifi เล่นเน็ทได้ด้วยนะ แต่ต้องเสียเงินเพิ่ม 1 ชม.แรกประมาณ 9.95 us ซึ่งบินใกล้ๆ แค่นี้น้องขอบาย
อาหารเช้าเบาๆ บนเครื่อง
เมื่อถึง Hongkong Airport สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจาก รอรับกระเป๋าที่โหลดไว้ ก็คือการหาซื้อ บัตร Octopus หรือที่คนไทยเรียก บัตรปลาหมึก ซื้อได้ที่เคาท์เตอร์สีเขียวๆ ที่เขียนว่า Train tickets to city แบบนี้ แต่..ถ้าคนเยอะ เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ มีหลายเคาท์เตอร์ นักท่องเที่ยวบางคน อาจยังไม่รู้ และเสียเวลาต่อคิวตรงนี้
ได้มาแล้ว บัตร Octopus บัตรเดียวครบ จบ ทั้งขึ้น MRT Taxi Bus รวมทั้งซื้อของ บราๆ
ค่าเสียหาย 150 HKD แบ่งเป็นค่ามัดจำ 50 HKD ส่วนที่เหลือเป็นเงินไว้ใช้จ่าย 100 HKD (ถ้าขากลับมาแลกคืนก็ได้ค่ามัดจำคืนจ้า)
ได้บัตรแล้วก็รอขึ้น Airport Express (AE) เพื่อเข้าเมือง ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็ถึงตัวเมืองละ (รถออกทุก 10 นาที) สะดวกและประหยัดเวลามากก แต่ราคาไม่ค่อยประหยัดนะ
ค่าเสียหาย 100 HKD (นั่ง Bus จะราคาถูกกว่านี้มาก)
แวะซื้อซิม csl ใน 7-11 ในสถานีรถไฟฟ้า ราคา 88 HKD ใส่ซิมเรยจ้า
Ps.ต้องทำเองนะ พนง. ที่นี่ไม่ใจดีแบบที่ไทยเด้อ
ได้ข้อความแบบนี้เป็นอันใช้ได้
นั่ง AE มาสุดสายที่สถานี Hongkong จากนั้นเปลี่ยนสายมา MRT สายสีแดง เพื่อไปสถานี Tsim Sha Tsui ที่พักของเรา
และเมื่อมาถึงสถานี Tsim Sha Tsui นรกก็มาเยือน ทางออกเยอะและงงมาก ใครมาครั้งแรกไม่หลงนี่กราบเลย พอเดินโผล่ ร้านมะม่วงปั่นชื่อดัง ก็กะว่าจะแวะนั่งพัก แต่ทางร้านไม่ให้นั่งจ้า ต้องสั่งอาหารด้วยถึงจะนั่งได้ ซึ่งตอนนั้นเราสั่งแค่น้ำมะม่วงปั่น และกำลังจะไปหามื้อเที่ยงพอดี งั้นก็ Take home และขอบายจ้า
รสชาติใช้ได้เลยนะ น้ำมะม่วงปั่น ค่าเสียหายประมาณ 40 HKD
ได้เวลามื้อเที่ยง
ภาพไหนน่ากินก็จิ้มอันนั้น ฮ่าๆ แต่จานนี้ไม่ผ่านนะ จืดมาก ไม่น่ากินเหมือนในรูป แต่ให้เยอะมาก มากแบบจานนึงสามารถแบ่งกิน 2 คนได้เรย
ค่าเสียหาย 38 HKD
ส่วนจานนี้ผ่าน รสชาติค่อยกลมกล่อม แต่รูปในเมนูน่ากินกว่านี้มาก
ค่าเสียหาย 58 HKD
ต่อไปหาที่พักก่อน ขนาดมี Google Map ก็งงเด้ ไม่รู้งงหรือโง่ ฮ่าๆ เดินไกลเพราะเสียเวลาอ้อมด้วยความไม่รู้ สุดท้ายก็หาเจอ เชคอิน เก็บของ นอนเล่น เตรียมลุยต่อจ้า
ช่วงบ่ายนี้เราจะเดินทางไป The Peak
การเดินทางก็เริ่มจาก MRT Tsim Sha Tsui > MRT Central (Exit A) ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม เดินไปทางซ้าย ลงใต้ตึก เพื่อต่อ Bus สาย 15 15c หรือ 15x สังเกตป้าย Bus Terminal เป็นบัส 2 ชั้น แนะนำขึ้นชั้น 2 เห็นวิวชัดและครบจร้า
พอนั่ง Bus มาสุดสาย เดินมาอีกนิดก็ถึง The peak ละจ้า
ซึ่งวิวระหว่างทางบอกเลยสุดยอด เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและความเป็นเมืองอย่างลงตัว
ระหว่างทางก็มีบ้านคนอยู่ตามซอกเขา ซึ่งต้องรวยเบอร์ไหนถึงจะมีบ้านในนี้ ส่วนทางเข้าบ้านก็ตามภาพเลย ชันมากกก
ถึงแล้ว The Peak
กลับมาจุดเดิม ขากลับจะลองนั่ง Tram (เอาให้ครบไปดิ)
Ps. Tram เร็วกว่า ค่ารถแพงกว่า คนขึ้นเยอะกว่า แต่วิว จะไม่เร้าใจเท่าการนั่ง Bus
นั่ง Tram มาต่อ Bus สายเดิม เพื่อกลับที่พัก แต่... ลง Bus ผิดป้าย!! ดันมาลงตรงจุดที่อยากมาพอดี สวยงามมากเป็นการหลงที่อยากกราบในความซื่อของตัวเอง
บรรยากาศคล้าย เรือไปเอเชียทีคมาก ค่าเรือก็ถูกมากเช่นกัน (ประมาณ 3 HKD) วิธีการซื้อใช้หยอดเหรียญเอานาจา ง่ายและสะดวกมาก สำหรับบรรยากาศก็โครตดี
ถึงจุดหมายแล้ว ท่าเรือ Tsim Sha Tsui ที่พักของเรา
DAY 2 : สัมผัส (ธรรมะ+ธรรมชาติ)
เช้านี้ ลองมาชิมโจ๊ก ร้าน Hung Lee เจ้าดังสะหน่อย คนไทยเยอะมาก มีเมนูภาษาไทย เจ้าของร้านก็พูดไทยได้เป็นบางคำอีก โอ้ยย..
พิกัด : MTR Tsim Sha Shui (Exit A2)
รสชาติ OK นะ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบฟิวนี้ แบบร้านซับพอร์ทคนไทยเยอะไปหน่อย บรรยากาศเหมือนอยู่เยาวราช ซึ่งเรามาเที่ยวทั้งที ก็อยากจิสัมผัสบรรยากาศแบบ ร้านท้องถิ่นจริงๆ
โปรแกรมวันนี้เริ่ม.. Go Go วัด Chi Lin Nunnery จ้า
การเดินทาง : นั่ง MTR ลงสถานี Dimond Hill (Exit C) สายสีเขียว โผล่ออกมากจากสถานีจะเจอห้าง Plaza Hollywood มองขวาไปตามป้ายที่เป็าเสาๆ เลี้ยวซ้ายไปถึงแยกไฟแดง เดินข้ามถนนไปทางขวา
เปิดบริการ 7.00 – 21.00 น. เข้าชมฟรี
วัด Chi Lin Nunnery สร้างโดยไม่ใช้ตะปูเลย ซึ่งเป็นการสร้างในรูปแบบของราชวงศ์ถัง งดงามจริงๆ
ชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่า ต้นสน เป็นสัญลักษณ์แห่งการมีอายุวัฒนะ และความมั่นคงของชีวิต
พักเบรกของหวาน
เดินสายงานบุญต่อที่วัด Wong Tai Sin
ธูปซื้อหน้าวัดได้เลย ราคาประมาณ 12 HKD
จากนั้นไหว้ตามจุดต่างๆ ตามลำดับ (มีเลขบอก)
การเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Wong Tai Sin (Exit B3) เดินผ่านห้าง Lung Cheung Plaza ประมาณ 500 เมตร
ไฮไลท์ของวัดนี้ อยู่ตรงจุดสุดท้าย กับการไหว้เทพเจ้าหยุคโหลว (เทพแห่งความรัก)
วิธีการไหว้สำคัญมาก
ศึกษาวิธีผูกด้ายตรงป้ายด้านหน้า
ชาวจีนเชื่อว่า "ด้ายแดง" คือเส้นโยงโชคชะตาด้าน
ความรัก การขอพรเรื่อง ความรักกับเทพหยุคโหลวที่วัด Wong Tai Sin ด้วยการผูกด้ายแดง ซึ่งทำได้ทั้งคนโสด และคนมีคู่แล้ว แม่นเวอร์
เดินเล่นหาไรกินต่อที่ Mong Kok
กลับมา Shop ใกล้ที่พักในย่าน Tsim Sha Shui ก่อน Shop ขอเติมพลังด้วยทาร์ตไข่ และวาฟเฟิลร้านดังสะหน่อย
ล้มละลาย
DAY 3
ติ่มซำมื้อเช้า เบาๆ
เริ่มวันใหม่ด้วยวัด แชกง
การเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Tai Wai (Exit B) วัดอยู่ทางซ้ายฝั่งตรงข้าม สังเกตหลังคาสีเขียวๆ เดินทางลาดเพื่อลอดใต้ทาง เข้าวัด
วัดนี้จะดังเรื่องกังหัน ใครจะ Shop เครื่องลางก็ Shop ตรงนี้
ใกล้ๆ กัน มีร้านขายธูป ราคาตั้งแต่ 20 HKD แต่ชุดที่ซื้อนี้ 38 HKD ก็เหมือนเสียค่าโง่เบาๆ แต่เอาน่าคิดสะว่ามาทำบุญ
ไหว้เทวดาฟ้าดินก่อน ( จะอยู่กลางแจ้ง )
หลังจากจุดธูปไหว้ด้านนอก ให้เข้ามาสักการะท่านด้านใน พร้อมธูป 3 ดอก ให้อธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน
ไฮไลท์!!! จะต้องหมุน “กังหันนำโชค” เพื่อหมุนสิ่งไม่ดีสิ่งอัปมงคลออกไป พัดดูดเอาแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต
นั่งรถไฟ เตรียมไป Shop ต่อที่ City gate outlet และต่อรถ Bus ถึง HK Airport เชคอินเตรียมกลับ BKK อย่างปลอดภัยย จบทริป ฮ่องกง
ขอสรุปสั้นๆ
1. อาหาร ต้องดูร้านดีๆ จริงๆ ตอนไปตามรีวิวก็โอเคอยู่ เราพอไปร้านท้องถิ่น ที่จิ้มเอามั่วไม่ดูรีวิว เงิบจ้า เพราะอาหารไม่โออย่างแรง
2. MRT ที่นี่สะดวกมากก มาทุก 2 นาที แต่ทางออกสถานีใหญ่ๆ เยอะมาก ต้องสังเกตให้ดีๆ พลาดนิดเดียวชีวิตพังจ้า
3. ถ้าเจอของถูกใจ ในราคาที่รับได้รีบซื้อ เพราะผ่านแล้วผ่านเลย จะมาเสียดายทีหลังไม่ได้
4. มาที่นี่ใส่รองเท้าผ้าใบ ดีที่สุด เพราะเดินเยอะมว๊าก
5.โรงแรมแคบและราคาสูง
6. คนที่นี่เวลาเป็นเงินเป็นทอง พื้นที่เล็กๆ ก็ทำเงินได้ ถ้าโดนพ่อค้าแม่ค้าเหวี่ยง ก็ Dont care ไปจ้า
7.ข้อมูลใน Pantip บางอันก็เก่า ศึกษาพอเป็นแนวทางอ่ะพอได้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปผจญเอง
8. การเดินทางจะสนุกก็ต้องมีหลงบ้างผิดบ้าง เป็นสีสันของทริป อิอิ
[CR] ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน ฉบับมือใหม่
สวัสดีค่ะ ใกล้สิ้นปีแล้ว เก็บกระเป๋าใช้วันลาให้หมดไปกับการท่องเที่ยวดีกว่า วันนี้จะขอรีวิวทริปฮ่องกง ฉบับเร่งรัด 3 วัน 2 คืน อ่านจบแพ็คกระเป๋าบินตามได้เลย อิอิ
FB : https://www.facebook.com/ninanstyle/
DAY 1
บินครั้งแรกกับสายการบิน Cathay Pacific
ถ้าอยากรู้ว่าถึงไหนแล้ว ก็ดูผ่านจอได้เรย และสามารถขอรหัส Wifi เล่นเน็ทได้ด้วยนะ แต่ต้องเสียเงินเพิ่ม 1 ชม.แรกประมาณ 9.95 us ซึ่งบินใกล้ๆ แค่นี้น้องขอบาย
อาหารเช้าเบาๆ บนเครื่อง
เมื่อถึง Hongkong Airport สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจาก รอรับกระเป๋าที่โหลดไว้ ก็คือการหาซื้อ บัตร Octopus หรือที่คนไทยเรียก บัตรปลาหมึก ซื้อได้ที่เคาท์เตอร์สีเขียวๆ ที่เขียนว่า Train tickets to city แบบนี้ แต่..ถ้าคนเยอะ เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ มีหลายเคาท์เตอร์ นักท่องเที่ยวบางคน อาจยังไม่รู้ และเสียเวลาต่อคิวตรงนี้
ได้มาแล้ว บัตร Octopus บัตรเดียวครบ จบ ทั้งขึ้น MRT Taxi Bus รวมทั้งซื้อของ บราๆ
ค่าเสียหาย 150 HKD แบ่งเป็นค่ามัดจำ 50 HKD ส่วนที่เหลือเป็นเงินไว้ใช้จ่าย 100 HKD (ถ้าขากลับมาแลกคืนก็ได้ค่ามัดจำคืนจ้า)
ได้บัตรแล้วก็รอขึ้น Airport Express (AE) เพื่อเข้าเมือง ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็ถึงตัวเมืองละ (รถออกทุก 10 นาที) สะดวกและประหยัดเวลามากก แต่ราคาไม่ค่อยประหยัดนะ
ค่าเสียหาย 100 HKD (นั่ง Bus จะราคาถูกกว่านี้มาก)
แวะซื้อซิม csl ใน 7-11 ในสถานีรถไฟฟ้า ราคา 88 HKD ใส่ซิมเรยจ้า
Ps.ต้องทำเองนะ พนง. ที่นี่ไม่ใจดีแบบที่ไทยเด้อ
ได้ข้อความแบบนี้เป็นอันใช้ได้
นั่ง AE มาสุดสายที่สถานี Hongkong จากนั้นเปลี่ยนสายมา MRT สายสีแดง เพื่อไปสถานี Tsim Sha Tsui ที่พักของเรา
และเมื่อมาถึงสถานี Tsim Sha Tsui นรกก็มาเยือน ทางออกเยอะและงงมาก ใครมาครั้งแรกไม่หลงนี่กราบเลย พอเดินโผล่ ร้านมะม่วงปั่นชื่อดัง ก็กะว่าจะแวะนั่งพัก แต่ทางร้านไม่ให้นั่งจ้า ต้องสั่งอาหารด้วยถึงจะนั่งได้ ซึ่งตอนนั้นเราสั่งแค่น้ำมะม่วงปั่น และกำลังจะไปหามื้อเที่ยงพอดี งั้นก็ Take home และขอบายจ้า
รสชาติใช้ได้เลยนะ น้ำมะม่วงปั่น ค่าเสียหายประมาณ 40 HKD
ได้เวลามื้อเที่ยง
ภาพไหนน่ากินก็จิ้มอันนั้น ฮ่าๆ แต่จานนี้ไม่ผ่านนะ จืดมาก ไม่น่ากินเหมือนในรูป แต่ให้เยอะมาก มากแบบจานนึงสามารถแบ่งกิน 2 คนได้เรย
ค่าเสียหาย 38 HKD
ส่วนจานนี้ผ่าน รสชาติค่อยกลมกล่อม แต่รูปในเมนูน่ากินกว่านี้มาก
ค่าเสียหาย 58 HKD
ต่อไปหาที่พักก่อน ขนาดมี Google Map ก็งงเด้ ไม่รู้งงหรือโง่ ฮ่าๆ เดินไกลเพราะเสียเวลาอ้อมด้วยความไม่รู้ สุดท้ายก็หาเจอ เชคอิน เก็บของ นอนเล่น เตรียมลุยต่อจ้า
ช่วงบ่ายนี้เราจะเดินทางไป The Peak
การเดินทางก็เริ่มจาก MRT Tsim Sha Tsui > MRT Central (Exit A) ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม เดินไปทางซ้าย ลงใต้ตึก เพื่อต่อ Bus สาย 15 15c หรือ 15x สังเกตป้าย Bus Terminal เป็นบัส 2 ชั้น แนะนำขึ้นชั้น 2 เห็นวิวชัดและครบจร้า
พอนั่ง Bus มาสุดสาย เดินมาอีกนิดก็ถึง The peak ละจ้า
ซึ่งวิวระหว่างทางบอกเลยสุดยอด เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและความเป็นเมืองอย่างลงตัว
ระหว่างทางก็มีบ้านคนอยู่ตามซอกเขา ซึ่งต้องรวยเบอร์ไหนถึงจะมีบ้านในนี้ ส่วนทางเข้าบ้านก็ตามภาพเลย ชันมากกก
ถึงแล้ว The Peak
กลับมาจุดเดิม ขากลับจะลองนั่ง Tram (เอาให้ครบไปดิ)
Ps. Tram เร็วกว่า ค่ารถแพงกว่า คนขึ้นเยอะกว่า แต่วิว จะไม่เร้าใจเท่าการนั่ง Bus
นั่ง Tram มาต่อ Bus สายเดิม เพื่อกลับที่พัก แต่... ลง Bus ผิดป้าย!! ดันมาลงตรงจุดที่อยากมาพอดี สวยงามมากเป็นการหลงที่อยากกราบในความซื่อของตัวเอง
บรรยากาศคล้าย เรือไปเอเชียทีคมาก ค่าเรือก็ถูกมากเช่นกัน (ประมาณ 3 HKD) วิธีการซื้อใช้หยอดเหรียญเอานาจา ง่ายและสะดวกมาก สำหรับบรรยากาศก็โครตดี
ถึงจุดหมายแล้ว ท่าเรือ Tsim Sha Tsui ที่พักของเรา
DAY 2 : สัมผัส (ธรรมะ+ธรรมชาติ)
เช้านี้ ลองมาชิมโจ๊ก ร้าน Hung Lee เจ้าดังสะหน่อย คนไทยเยอะมาก มีเมนูภาษาไทย เจ้าของร้านก็พูดไทยได้เป็นบางคำอีก โอ้ยย..
พิกัด : MTR Tsim Sha Shui (Exit A2)
รสชาติ OK นะ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบฟิวนี้ แบบร้านซับพอร์ทคนไทยเยอะไปหน่อย บรรยากาศเหมือนอยู่เยาวราช ซึ่งเรามาเที่ยวทั้งที ก็อยากจิสัมผัสบรรยากาศแบบ ร้านท้องถิ่นจริงๆ
โปรแกรมวันนี้เริ่ม.. Go Go วัด Chi Lin Nunnery จ้า
การเดินทาง : นั่ง MTR ลงสถานี Dimond Hill (Exit C) สายสีเขียว โผล่ออกมากจากสถานีจะเจอห้าง Plaza Hollywood มองขวาไปตามป้ายที่เป็าเสาๆ เลี้ยวซ้ายไปถึงแยกไฟแดง เดินข้ามถนนไปทางขวา
เปิดบริการ 7.00 – 21.00 น. เข้าชมฟรี
วัด Chi Lin Nunnery สร้างโดยไม่ใช้ตะปูเลย ซึ่งเป็นการสร้างในรูปแบบของราชวงศ์ถัง งดงามจริงๆ
ชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่า ต้นสน เป็นสัญลักษณ์แห่งการมีอายุวัฒนะ และความมั่นคงของชีวิต
พักเบรกของหวาน
เดินสายงานบุญต่อที่วัด Wong Tai Sin
ธูปซื้อหน้าวัดได้เลย ราคาประมาณ 12 HKD
จากนั้นไหว้ตามจุดต่างๆ ตามลำดับ (มีเลขบอก)
การเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Wong Tai Sin (Exit B3) เดินผ่านห้าง Lung Cheung Plaza ประมาณ 500 เมตร
ไฮไลท์ของวัดนี้ อยู่ตรงจุดสุดท้าย กับการไหว้เทพเจ้าหยุคโหลว (เทพแห่งความรัก)
วิธีการไหว้สำคัญมาก
ศึกษาวิธีผูกด้ายตรงป้ายด้านหน้า
ชาวจีนเชื่อว่า "ด้ายแดง" คือเส้นโยงโชคชะตาด้าน
ความรัก การขอพรเรื่อง ความรักกับเทพหยุคโหลวที่วัด Wong Tai Sin ด้วยการผูกด้ายแดง ซึ่งทำได้ทั้งคนโสด และคนมีคู่แล้ว แม่นเวอร์
เดินเล่นหาไรกินต่อที่ Mong Kok
กลับมา Shop ใกล้ที่พักในย่าน Tsim Sha Shui ก่อน Shop ขอเติมพลังด้วยทาร์ตไข่ และวาฟเฟิลร้านดังสะหน่อย
ล้มละลาย
DAY 3
ติ่มซำมื้อเช้า เบาๆ
เริ่มวันใหม่ด้วยวัด แชกง
การเดินทาง : นั่ง MRT ลงสถานี Tai Wai (Exit B) วัดอยู่ทางซ้ายฝั่งตรงข้าม สังเกตหลังคาสีเขียวๆ เดินทางลาดเพื่อลอดใต้ทาง เข้าวัด
วัดนี้จะดังเรื่องกังหัน ใครจะ Shop เครื่องลางก็ Shop ตรงนี้
ใกล้ๆ กัน มีร้านขายธูป ราคาตั้งแต่ 20 HKD แต่ชุดที่ซื้อนี้ 38 HKD ก็เหมือนเสียค่าโง่เบาๆ แต่เอาน่าคิดสะว่ามาทำบุญ
ไหว้เทวดาฟ้าดินก่อน ( จะอยู่กลางแจ้ง )
หลังจากจุดธูปไหว้ด้านนอก ให้เข้ามาสักการะท่านด้านใน พร้อมธูป 3 ดอก ให้อธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน
ไฮไลท์!!! จะต้องหมุน “กังหันนำโชค” เพื่อหมุนสิ่งไม่ดีสิ่งอัปมงคลออกไป พัดดูดเอาแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต
นั่งรถไฟ เตรียมไป Shop ต่อที่ City gate outlet และต่อรถ Bus ถึง HK Airport เชคอินเตรียมกลับ BKK อย่างปลอดภัยย จบทริป ฮ่องกง
ขอสรุปสั้นๆ
1. อาหาร ต้องดูร้านดีๆ จริงๆ ตอนไปตามรีวิวก็โอเคอยู่ เราพอไปร้านท้องถิ่น ที่จิ้มเอามั่วไม่ดูรีวิว เงิบจ้า เพราะอาหารไม่โออย่างแรง
2. MRT ที่นี่สะดวกมากก มาทุก 2 นาที แต่ทางออกสถานีใหญ่ๆ เยอะมาก ต้องสังเกตให้ดีๆ พลาดนิดเดียวชีวิตพังจ้า
3. ถ้าเจอของถูกใจ ในราคาที่รับได้รีบซื้อ เพราะผ่านแล้วผ่านเลย จะมาเสียดายทีหลังไม่ได้
4. มาที่นี่ใส่รองเท้าผ้าใบ ดีที่สุด เพราะเดินเยอะมว๊าก
5.โรงแรมแคบและราคาสูง
6. คนที่นี่เวลาเป็นเงินเป็นทอง พื้นที่เล็กๆ ก็ทำเงินได้ ถ้าโดนพ่อค้าแม่ค้าเหวี่ยง ก็ Dont care ไปจ้า
7.ข้อมูลใน Pantip บางอันก็เก่า ศึกษาพอเป็นแนวทางอ่ะพอได้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปผจญเอง
8. การเดินทางจะสนุกก็ต้องมีหลงบ้างผิดบ้าง เป็นสีสันของทริป อิอิ