ในงาน
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใน
วันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๖๐
ในขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ริ้วขบวนที่ ๒ อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพขึ้นประดิษฐาน
บนพระมหาพิชัยราชรถ
จะใช้เพลงๆหนึ่งเป็นหลัก โดยทหารทั้งหมดจะก้าวเท้าตามจังหวะเพลง
เพลงนี้มีชื่อว่า
"พญาโศกลอยลม"
ประวัติความเป็นมาของเพลง พญาโศกลอยลม
พญาโศก เป็นเพลงอัตราจังหวะ 2 ชั้น มี
ทำนองเก่าสมัยอยุธยา เป็นเพลงที่ใช้ประกอบการแสดงโขนละครบทโศก
จะใช้ร้องในบทที่
ตัวละครโศกเศร้าอยู่กับที่จะใช้ในบทที่เดินเคลื่อนที่ไม่ได้ นอกจากนี้ บทที่ร้องด้วยเพลงพญาโศก
โดยมากจะเป็นตัวละคร
กษัตริย์ เจ้านาย หรือผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง

ต่อมา
พระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้แต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น เมื่อปลายรัชกาลที่ 4
เพื่อใช้เป็นเพลงบรรเลงและขับร้องในวงมโหรีและวงปี่พาทย์ รวมทั้งนำมาประดิษฐ์เป็นเพลงทางเดี่ยว
ซึ่งนักดนตรีสมัยต่อมายึดเป็นแบบฉบับในการเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น
พระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตรเสวิน) แต่งสำหรับเดี่ยวซอสามสาย

จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอก,

จ่าเอกมล (เจียน) มาลัยมาลย์ ได้แต่งทำนองสำหรับเดี่ยวระนาดเอกโดยขยายเป็นสี่ชั้น
ในปี พ.ศ. 2462 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(คุณปู่ ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ บริพัตร)พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า
สมัยนั้นไทยยังใช้เพลงต่างชาติในการเคลื่อนพระบรมศพหรือพระศพพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง
จึงทรงพระนิพนธ์เพลงพญาโศก สำหรับวงดุริยางค์ใช้บรรเลงถวายในงานพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์
โดย
ดัดแปลงเพลงพญาโศกที่เป็นดนตรีไทยให้เป็นตัวโน้ตดุริยางค์สากล

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฟังแล้ว เห็นว่าเหมาะสมกับงาน
อวมงคล
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ครั้งแรกในงาน
พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศให้เป็น
"เพลงโศกประจำชาติ" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
และยังทรงให้ใช้ได้ตั้งแต่การพระราชพิธีพระบรมศพ, พระศพเจ้านาย แม้กระทั่งงานศพสามัญชน
ป.ล เนื้อหากระทู้บางส่วนจาก ไทยพีบีเอส
ป.ล 2 เมื่อคราวเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน พ.ศ 2475 เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์
อยู่ในตำแหน่งผู้รักษาพระนคร จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ฝ่ายคณะราษฎรต้องควบคุมตัวให้ได้
เมื่อคณะราษฎรทำการสำเร็จ ก็บังคับให้เจ้าฟ้าสุขุมพันธุ์ออกนอกประเทศ
สุดท้ายก็ไปสิ้นพระชนม์ที่เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาพระศพได้นำกลับมาประเทศไทย
และมีการพระราชทานเพลิงพระศพที่พระเมรุท้องสนามหลวง ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ 2493
ป.ล 3 ส่วนของ ป.ล 2 นำมาใส่ไว้เพื่อจะ Tag ห้องการเมืองได้
เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล ... ข้าพระพุทธเจ้า *ห้องเพลงคนรากหญ้า* 20/10/2560 พญาโศกลอยลม
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๖๐
ในขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ ๒ อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพขึ้นประดิษฐาน
บนพระมหาพิชัยราชรถ
จะใช้เพลงๆหนึ่งเป็นหลัก โดยทหารทั้งหมดจะก้าวเท้าตามจังหวะเพลง
เพลงนี้มีชื่อว่า "พญาโศกลอยลม"
ประวัติความเป็นมาของเพลง พญาโศกลอยลม
พญาโศก เป็นเพลงอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีทำนองเก่าสมัยอยุธยา เป็นเพลงที่ใช้ประกอบการแสดงโขนละครบทโศก
จะใช้ร้องในบทที่ตัวละครโศกเศร้าอยู่กับที่จะใช้ในบทที่เดินเคลื่อนที่ไม่ได้ นอกจากนี้ บทที่ร้องด้วยเพลงพญาโศก
โดยมากจะเป็นตัวละครกษัตริย์ เจ้านาย หรือผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง
ต่อมา พระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้แต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น เมื่อปลายรัชกาลที่ 4
เพื่อใช้เป็นเพลงบรรเลงและขับร้องในวงมโหรีและวงปี่พาทย์ รวมทั้งนำมาประดิษฐ์เป็นเพลงทางเดี่ยว
ซึ่งนักดนตรีสมัยต่อมายึดเป็นแบบฉบับในการเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น
พระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตรเสวิน) แต่งสำหรับเดี่ยวซอสามสาย
จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอก,
จ่าเอกมล (เจียน) มาลัยมาลย์ ได้แต่งทำนองสำหรับเดี่ยวระนาดเอกโดยขยายเป็นสี่ชั้น
ในปี พ.ศ. 2462 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
(คุณปู่ ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ บริพัตร)พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า
สมัยนั้นไทยยังใช้เพลงต่างชาติในการเคลื่อนพระบรมศพหรือพระศพพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง
จึงทรงพระนิพนธ์เพลงพญาโศก สำหรับวงดุริยางค์ใช้บรรเลงถวายในงานพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์
โดยดัดแปลงเพลงพญาโศกที่เป็นดนตรีไทยให้เป็นตัวโน้ตดุริยางค์สากล
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฟังแล้ว เห็นว่าเหมาะสมกับงาน อวมงคล
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ครั้งแรกในงาน
พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศให้เป็น "เพลงโศกประจำชาติ" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
และยังทรงให้ใช้ได้ตั้งแต่การพระราชพิธีพระบรมศพ, พระศพเจ้านาย แม้กระทั่งงานศพสามัญชน
ป.ล เนื้อหากระทู้บางส่วนจาก ไทยพีบีเอส
ป.ล 2 เมื่อคราวเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน พ.ศ 2475 เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์
อยู่ในตำแหน่งผู้รักษาพระนคร จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ฝ่ายคณะราษฎรต้องควบคุมตัวให้ได้
เมื่อคณะราษฎรทำการสำเร็จ ก็บังคับให้เจ้าฟ้าสุขุมพันธุ์ออกนอกประเทศ
สุดท้ายก็ไปสิ้นพระชนม์ที่เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาพระศพได้นำกลับมาประเทศไทย
และมีการพระราชทานเพลิงพระศพที่พระเมรุท้องสนามหลวง ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ 2493
ป.ล 3 ส่วนของ ป.ล 2 นำมาใส่ไว้เพื่อจะ Tag ห้องการเมืองได้