Tempy Movies Review รีวิวหนัง: A Ghost Story {David Lowery}, 2017

!SPOILER ALERT!

“ตอนเรามีชีวิตอยู่คงไม่มีเวลาได้ครุ่นคิดเท่ากับตอนเราตายไปแล้ว”

ไม่น่าเชื่อว่าเราเพิ่งคุยกับแม่เมื่อวานว่าถ้าเราตายเราก็อยากตายแบบไม่ต้องห่วงอะไร ตายแบบไม่ต้องคิดว่าจะต้องมีภารกิจอะไรที่ตกค้าง พอได้มาดูหนังนี้ มันก็เหมือนได้เห็นตัวเองเป็นผี ถ้าหากเรายังตกค้างอะไรอยู่

A Ghost Story ชื่อก็บอกว่าเป็นเรื่องของผี ผีที่พาเราไปท่องเที่ยวบนพื้นที่แห่งความทรงจำของเขา สถานที่แห่งนี้เองมันก็เต็มไปด้วยความทรงจำของผู้อื่น ประวัติศาสตร์ที่แบ่งปันร่วมกันบนพื้นที่ว่างเปล่า การรบราฆ่าฟันในยุคก่อตั้งสร้างชาติอเมริกัน แม่ใบเลี้ยงเดี่ยว (ตอนนี้ให้ความรู้สึกเห็นใจ คุณแม่มากกว่าผีนะ เหมือนว่าเธอคงเจอความรุนแรงของเพศชายมา แล้วยังต้องมาเจอผีผู้ชายเขวี้ยงจานอีก) ปาร์ตี้ที่มีชายคนหนึ่งพูดถึงความพยายามของมนุษย์ในการสร้างมรดกความทรงจำให้ตนเอง และยึดโยงหวงแหนมัน เมื่อผีได้ยินคงไปยั่วความคิดของเขา สิ่งที่เขาทำก็คือการสร้างเพลงเหมือนบีโธเฟน ที่ผ่านมาเขายึดติดกับบ้าน การทำดนตรี แฟนของเขา (เขาโกรธที่เห็นแฟนมีคนใหม่) และการสร้างประวัติศาสตร์

ไม่มีใครหน้าไหนอยู่บ้านของผีได้ ทุกคนถูกไล่ออกหมดด้วยความโกรธแค้นของผี เขาถือว่าที่แห่งนี้เขาเป็นเจ้าของ ทั้งที่จริงมันก็คือโครงไม้บนดิน วันหนึ่งหลังจากที่เขาแคะโค้งประตูไม้ เอากระดาษโน้ตของแฟน ที่ทิ้งไว้ให้เขาก่อนจากไป ก็มีรถมาทำลายบ้านที่เขาหวงแหน ผีสาวข้างบ้านที่รอมานานกว่าเขา เห็นซากบ้านบนพื้นที่ของเธอ เธอคงตระหนักได้ว่า จริงๆ บ้านที่เรายึดติดมันก็แค่เศษไม้ เธอจากไป และคิดว่าความทรงจำที่เธอยึด คงไม่หวนกลับมาแล้ว เพราะคนบนโลกก็ต้องมีชีวิตดำเนินต่อไป

หลังจากที่เขาได้โน้ตมาจากร่องประตู นั่นเองเขาและเราก็เหมือนได้ข้ามไปอีกด้านของห้อง เราได้เห็นเรื่องราวบนพื้นที่แห่งนี้ สงครามของอเมริกันกับอินเดียนแดง นั่นคือการจับจองพื้นที่ เขาได้จ้องมองซากเด็กที่ตาย ไม่ต่างอะไรจาซากบ้านของเขาที่ค่อยๆพังทลาย ผีพาเราไปถึงโลกอนาคตดิสโทเปีย ฉากกระโดดจากตึก เห็นวิวเมืองมีรูปดวงตาพระเจ้า (Eye of Providence) บนยอดตึก แสงสีลวงตาเหมือนใน Blade Runner (1982) หนังที่พูดถึงความพยายามของมนุษย์ในการสร้างภาวะอมตะ กำหนดอายุไขของมนุษย์ ทำสิ่งที่เทียบเคียงพระเจ้า สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการพยายามสร้าง แก่งแย่ง เข่นฆ่า เพื่อให้ได้มาซึ่งมรดกประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์ตนเอง

บนชั้นหนังสือในบ้านพระเอกมีชื่อนิตเช่อยู่ การทาบ้านสีขาว ผีที่มีรูปลักษณ์เหมือนเอาผ้าปูสีขาวมาคลุม และการหายตัวไปของผี เหลือเพียงผ้าคลุม นิตเช่มองความจริงว่าเป็นการประกอบสร้างเพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ไม่มีระบบใด หรือโครงสร้างใดในโลกนี้จนกระทั่งเราไปสร้างมัน ภายใต้ผ้าคลุมที่ค้ำจุนความถือดี นักสุญนิยมจะมองว่าคุณค่าทุกอย่างล้วนไม่มีมูลความจริง และเหตุผลก็ไร้กำลัง จากหนังสือ Will to Power (1883-1888) ของนิตเช่ เขาอ้างว่า ทุกความเชื่อ ทุกสิ่งที่เราเชื่อถือว่ามันจริง มันเป็นเรื่องโกหกมดเท็จ เพราะแท้จริงแล้วไม่มีความจริงใดในโลกเลย

จริงๆแล้วไม่มีอะไรเลยภายใต้ผ้าคลุมสีขาวหรือบ้านที่ถูกทาสีขาวโน้ตของเธอเป็นการปลดเปลื้องเขาออกจากโลกนี้ เช่นเดียวกับการี่เธอทาสีขาวให้กับบ้าน เธอพาเขาไปอีกมิติหนึ่ง มิติที่เขาเห็นว่าการยิดติดกับพื้นที่คือเรื่องหลอกลวง การที่ผีฆ่าตัวตาย อาจเพื่อจะได้เกิดใหม่ของเห็นแจ้งและรับรู้ (ดวงตาพระเจ้าบนยอดตึก) ถึงสื่งที่เขาทำมาตลอดตั้งแต่ก่อนตาย จนถึงในวันนี้ที่เขาไม่มีร่างกายแล้ว A Ghost Story จึงเป็นหนังเพียงแค่ก้าวสิบนาที แต่กลับเล่าความบ้าบิ่นและความทะเยอทะยานของเหล่ามนุษย์ตัวน้อยบนจักรวาลแห่งนี้ได้อย่างทรงพลัง

การที่ผีเห็นผีตอนท้ายของเรื่อง จึงเป็นการที่เราได้เห็นเราในหนัง

ปล.ชอบความวนลูปที่ทำให้นึกถึง The Unseeable (2006) ที่มีธีมของการ contemplate ของผีเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่