สวัสดีจ้าาาา เจอกันอีกละ
ป้าแหย่หน้ามารีวิว ก็เพราะรู้ว่าปลายปีแบบนี้ แน่นอนว่าถึงเทศกาลไปส่องใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้วสินะ แล้วประเทศที่อยู่อันดับต้นๆ ในใจพี่ไทยอย่างเราๆ ก็ไม่พ้นมีญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วยแน่ๆ ซึ่งเอาจริงๆ ก็มีรีวิวให้ดูในพันทิปนี่เพียบบบ ซึ่งส่วนใหญ่ป้าก็ไม่เคยไปทั้งนั้นเลย ทีนี้ ป้าก็เลยคิดว่าถ้าหากใครอยากไปดูสีสันธรรมชาติกันแบบเต็มๆ ตา แต่ไม่อยากเดินทางไกลจากโตเกียวอันแสนสะดวกสบาย ป้าเลยอยากจะพาไปส่องเมืองเล็กใกล้โตเกียวที่ชื่อ Minakami กันดูมั่ง หลังจากที่ไปส่องๆ ของชาวบ้านมาบ้างแล้ว อยากนำเสนอเมืองนี้เพราะเท่าที่เห็นๆ มา รู้สึกว่าน่าจะยังไม่มีใครมารีวิวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองนี้กันแบบเต็มๆ ตา ป้าเลยอาสามานำเสนอเพิ่มเป็นอีกหนึ่งคอนเท้นท์ทางเลือกในตลาดข้อมูลพันทิปนี้เลยละกันเนาะ
เริ่มต้นกันก่อนตั้งแต่การเดินทาง จับจองตั๋วเรือบินกันได้ก็มาลงที่โตเกียวเลยจ้ะ จะนาริตะหรือฮาเนดะก็ได้ ตามอำเภอใจ เพราะจุดหมายของเราคือหนูมาให้ถึงสถานีรถไฟโตเกียวนะจ๊ะ จากนั้นหาขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่เขียนว่า Joetsu (ดูป้ายเขียวๆ ไว้นะ ไม่ยาก เชื่อป้า! 555) ซื้อตั๋วมาลงที่สถานี Jomokogen นะจ๊ะ จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นหรือรถบัสเลยก็ได้จ้ะ ไปลงที่สถานี Minakami เลย เท่านี้ก็เอวัง ... อ้อ แต่ถ้าใครจองเรียวกังไว้ ลองถามเค้าดูก่อนเน้อ เพราะบางที่จะมีรถรับ-ส่งจากหน้าสถานี Jomokogen เลยจ้ะ ก็สบายไป ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวก็ชั่วโมงนิดๆ เอง
คราวนี้ป้าลองจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka ดูมั่ง หลังจากที่ปกติจะใช้แค่ส่องหาที่พัก ซึ่งก็พบว่าง่ายดีนะ ไม่ต้องเสียเวลาเทียบราคาตั๋วของแต่ละสายการบิน อืมมม เหมาะกะคนอย่างป้า แต่อันที่เอารูปมาให้ดูเนี่ย เป็นแค่ตัวอย่างนะ เพราะตอนที่ป้าจองเนี่ย ล่กมากกก ไม่มีสติจะแคปหน้าจอไว้เลยจ้า
อันนี้เป็นเส้นทางรถไฟจากโตเกียวแบบคร่าวๆ เผื่อใครอยากรู้เนาะ
อ่ะ เสร็จสิ้นเรื่องราวการเดินทางกันไปแล้วก็มาว่ากันรวมๆ ถึงบรรยากาศของเมืองนี้กันเลยดีกว่า ป้ามาถึงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน เมื่อปีก่อนนะ ใบไม้แดงส่วนหนึ่งก็ถือว่าผ่านช่วงพีคไปแล้วละ แต่ก็ถือว่ายังแจ่มอยู่เลยละ อากาศอยู่ประมาณสิบกว่าองศานิดๆ สำหรับป้าก็เรียกได้ว่าหนาวแล้วละนะ
เรียกน้ำย่อยกันก่อนเลย
เอาละ เมืองนี้เค้าก็มีของดีของเด็ดอยู่หลายอย่าง ป้าขอเริ่มต้นพาไปที่โรงงานทำแก้วกันก่อนเลยแล้วกัน Tsukiyono Vidro Park คือโรงงานผลิตเครื่องแก้วเก่าแก่ของเมืองนี้ หรือจะเรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งนึงในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ที่นี่เค้ามีประวัติมากมายยาวนาน ใครอยากรู้ลองไปหาอ่านดูเอาเน้อ เอาเป็นว่าเค้าดังระดับที่สมเด็จพระจักพรรดิ์ และเจ้าชายในราชวงศ์ของญี่ปุ่น เคยเสด็จมาเยี่ยมเยือน นอกจากนั้น เครื่องแก้วจากโรงงานนี้ยังเป็นเครื่องแก้วทำมือทุกชิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานแก้วไม่กี่ที่แล้วในญี่ปุ่น ที่ยังใช้กรรมวิธีแบบนี้กันอยู่ ซึ่งความภาคภูมิใจของเค้าก็คือการที่ได้เป็นโรงงานซึ่งทำถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการแข่งขันซูโม่ อันเป็นกีฬาที่ชาวญี่ปุ่นเค้าภูมิใจนักหนากันด้วยละ ด้านในมีโรงเบียร์ มีเบียร์ให้ชิมหลายชนิดเลยนะ ถัดมาข้างกันคือพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่มีโชว์ชิ้นงานงามๆ ให้ดูกันเพียบ ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวแวะมาลองทำเวิร์คช็อปเครื่องแก้วชิ้นเล็กๆ ฝีมือตัวเองไว้เก็บกลับไปเป็นที่ระลึก เดินเลยไปอีกนิด เป็นโรงทำแก้วที่เราสามารถไปยืนเกาะดูกรรมวิธีกันได้ในระยะประชิดเลยทีเดียว สำหรับป้า ที่นี่แม้ไม่ได้ว้าวมาก แต่ก็ดูเพลินๆ ดีนะ ถ้ามีเวลาลองแวะไปเยี่ยมชมก็ถือว่าไม่เสียหายนะ
ไปดูของสำคัญกันก่อนเลย 555 แต่เป็นการดูเพื่อการศึกษาเนาะ เพราะเค้าจะมีตัวอย่างพันธุ์ข้าวที่ใช้ผลิตให้ดูอยู่ด้านหลังด้วยนาาา
อ่ะ ... ไปดูโรงงานแก้วกันได้ละ
ด้านหน้าจ้า ถ่ายเวลาห้าโมงเย็นนิดๆ มืดแล้ววววว เค้าปิดราวๆ ห้าโมงเย็นนะ ถ้าป้าจำไม่ผิด
ป้ายรถเมล์ก็กรุแก้วนะ เพื่อรักษาคอนเซ็ปท์
ราคาค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์
หัวเสาด้านนอกก็ไม่เว้น ...
อ่ะ ... ไปดูด้านในกันรัวๆ
ถ้วยซูโม่ในตำนาน
รวมฮิตแขกวีไอพีที่เคยมาเยือน
ชมกรรมวิธีกันแบบจะๆ ที่ด้านนอก
อีกที่นึงที่ป้าว่าพลาดไม่ได้ คือบริเวณหมู่บ้านรวมช่างฝีมือประดิดประดอยทั้งหลาย ซึ่งแถวนี้มีชื่อว่า Takumi no sato ซึ่งบอกได้เลยว่าใครรักงานทำมือทั้งหลาย ขอเรียนเชิญย่านนี้เลยจ้ะ เพราะเค้ารวมบ้านที่เปิดเป็นแหล่งเวิร์คช็อปงานหัตถกรรมทั้งหลายเอาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะหัดทำเส้นโซบะ หัดสานรองเท้าฟาง ทำเครื่องประดับจากโลหะและลูกปัด และอื่นๆ อีกมากมาย ใกล้ๆ กันมีซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ไว้ขายผลผลิตทางการเกษตรของละแวกนี้ และมีที่ให้เช่าจักรยานปั่นกันชิลล์ๆ ด้วยละ อ่ะ ... สายสโลว์ไลฟ์เชิญจ้ะ
ป้ายรถบัสหน้า Takumi no sato
ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ป้ายรถบัส
ด้านในซูเปอร์มาร์เก็ต น่ากวาดมาให้หมดแผง
จักรยานให้เช่า
ของเด็ดละแวกนี้ 'ยากิมันจู' ใครชอบของแปลกเชิญลอง 555
มาเยี่ยมๆ มองๆ ร้านทำเครื่องประดับด้วยโลหะและลูกปัดแก้วกันหน่อย
เลือกแบบที่อยากได้ จ่ายเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่ตอนนี้ละ
เริ่มประลองฝีมือ
เสร็จแล้วเอามาเผา ... ว่าแต่เผาแบบนี้ก็ได้เหรอ???
ถัดจากบริเวณหมู่บ้าน Takumi no sato ไปหน่อยนึง มีสวนแอปเปิ้ล เค้าก็มีหลายสวนละนะ แต่สวนที่ป้าไปชื่อ ‘พอมิเอะ’ (ไม่รู้เขียนยังไงอ่ะ นี่คือถามเพื่อนป้าที่อ่านญี่ปุ่นได้มาอีกที ใครอยากตามรอย ลองไปหาถามเอาละกันเน้อออ ซอรี่จ้า 555) ซึ่งที่สวนนี้ ป้าได้เข้าไปเก็บแอปเปิ้ลสดๆ จากต้นด้วยนะ แล้วบอกเลยว่าป้าน่ะ ไม่เคยไปสวนแอปเปิ้ลที่ไหนมาก่อนเลย เลยอเมซิ่งมากว่า ทันทีที่เดินเข้าสวนไป กลิ่นหอมของแอปเปิ้ลก็ลอยมาแตะจมูกทันที คือสดชื่นมากกกก แล้วตรงหน้าก็เต็มไปด้วยจุดแดงๆ ท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ เป็นแถวแนวอย่างมีระเบียบ คือมันดีจริงๆ อ่ะ หนู แถมอีกฝั่งของสวนนี้ เค้ายังปลูกแอปเปิ้ลสีทอง ซึ่งเป็นพันธุ์เฉพาะของเมืองนี้เท่านั้น ซึ่งจะมีกลิ่นที่หอมกว่า และรสชาติหวานอร่อยกว่าพันธุ์สีแดง แต่พูดก็พูดเหอะ ป้าว่าอันสีแดงนี่ก็เริ่ดแล้วนะ แล้วจะด้วยความสดหรือพันธุ์ที่ดีก็ไม่รู้ได้ แอปเปิ้ลลูกใหญ่สองมือกอบของสวนนี้คืออร่อยมากกกกกกกกก เนื้อกรอบ ฉ่ำน้ำ กัดเข้าไปนี่คือกลิ่นหอมเต็มปากอวลไปหมด เคี้ยวที โอ๊ยยย นึกว่ากินน้ำแอปเปิ้ลอยู่ เพราะซดได้เต็มปากดีเหลือเกิ๊นนน สรุปสั้นๆ ให้เลยว่าฟิน! … อ้อ เหมือนเพื่อนป้าที่อยู่แถวนั้นจะบอกมานะ ว่าที่สวนนี้เค้าเปิดให้พักแบบโฮมสเตย์ด้วยละ ถ้าสนใจลองไปค้นต่อกันเองน้า
ชมสวน ... อยากอยู่ทั้งงงงวัน
แอปเปิ้ลสีทองจ้าา
ด้านหน้าของร้าน สวน 'พอมิเอะ'
มุมมองช่วงปั่นจักรยานผ่านมา
ระหว่างทางกลับจากสวนแอปเปิ้ล ป้ายังเจอพิธีบูชาตะเกียบที่เค้าจัดขึ้นกลางหมู่บ้าน เท่าที่เดาๆ เอาได้ เหมือนกับการขอบคุณตะเกียบที่เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ให้ความสะดวกแก่คนเรา อะไรประมาณนี้นะ ถ้าใครรู้มาบอกป้าด้วยจ้า ถือว่าเป็นวิทยาทาน ความน่ารักคือเค้าพาเด็กอนุบาลมายืนดูและร่วมในพิธี ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นการทำให้คนรุ่นต่อใหม่คุ้นเคยกับพิธีนี้ เพื่อที่จะได้สืบสานกันต่อไป ไม่สูญหาย หรือว่าอย่างอื่นนะ แต่ป้าก็ชอบแหละ เอาจริง
แวะหน่อย อย่าให้เสียโอกาส เผือกได้เราเผือก ส่องได้เราส่อง 55555
จากหมู่บ้านช่างฝีมือ ป้ามุ่งหน้าต่อไปยังร้านพายแอปเปิ้ลชื่อดังในเมืองมินาคามิ ABE APPLES ซึ่งเพื่อนป้าซึ่งทำหน้าที่พาเที่ยวบอกมาว่าร้านนี้เด็ดมากก แล้วต้องไปให้ไวนะ เพราะบ่ายต้นๆ พายนางจะขายหมดแล้วจ้า ซึ่งคอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่า อร่อยจริง! เด็ดจริง! พายกรอบ เบา รสดี แอปเปิ้ลสด หวานธรรมชาติ ผสมกันในปากคือเพลินนนนน ด้านในมีขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ลรูปแบบอื่นๆ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันพอหอมปากหอมคอ ไม่ต้องห่วงเรื่องความสด เพราะเค้ามีสวนปลูกเองจ้าาา อยู่ข้างร้านเลย
หน้าร้าน
ข้างร้าน
รวมของเด็ด
[img]https:/
[CR] เมื่อป้าไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ Minakami บอกเลย - - เมืองนี้ต้องลงแพลนไว้!
ป้าแหย่หน้ามารีวิว ก็เพราะรู้ว่าปลายปีแบบนี้ แน่นอนว่าถึงเทศกาลไปส่องใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้วสินะ แล้วประเทศที่อยู่อันดับต้นๆ ในใจพี่ไทยอย่างเราๆ ก็ไม่พ้นมีญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วยแน่ๆ ซึ่งเอาจริงๆ ก็มีรีวิวให้ดูในพันทิปนี่เพียบบบ ซึ่งส่วนใหญ่ป้าก็ไม่เคยไปทั้งนั้นเลย ทีนี้ ป้าก็เลยคิดว่าถ้าหากใครอยากไปดูสีสันธรรมชาติกันแบบเต็มๆ ตา แต่ไม่อยากเดินทางไกลจากโตเกียวอันแสนสะดวกสบาย ป้าเลยอยากจะพาไปส่องเมืองเล็กใกล้โตเกียวที่ชื่อ Minakami กันดูมั่ง หลังจากที่ไปส่องๆ ของชาวบ้านมาบ้างแล้ว อยากนำเสนอเมืองนี้เพราะเท่าที่เห็นๆ มา รู้สึกว่าน่าจะยังไม่มีใครมารีวิวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองนี้กันแบบเต็มๆ ตา ป้าเลยอาสามานำเสนอเพิ่มเป็นอีกหนึ่งคอนเท้นท์ทางเลือกในตลาดข้อมูลพันทิปนี้เลยละกันเนาะ
เริ่มต้นกันก่อนตั้งแต่การเดินทาง จับจองตั๋วเรือบินกันได้ก็มาลงที่โตเกียวเลยจ้ะ จะนาริตะหรือฮาเนดะก็ได้ ตามอำเภอใจ เพราะจุดหมายของเราคือหนูมาให้ถึงสถานีรถไฟโตเกียวนะจ๊ะ จากนั้นหาขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่เขียนว่า Joetsu (ดูป้ายเขียวๆ ไว้นะ ไม่ยาก เชื่อป้า! 555) ซื้อตั๋วมาลงที่สถานี Jomokogen นะจ๊ะ จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นหรือรถบัสเลยก็ได้จ้ะ ไปลงที่สถานี Minakami เลย เท่านี้ก็เอวัง ... อ้อ แต่ถ้าใครจองเรียวกังไว้ ลองถามเค้าดูก่อนเน้อ เพราะบางที่จะมีรถรับ-ส่งจากหน้าสถานี Jomokogen เลยจ้ะ ก็สบายไป ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวก็ชั่วโมงนิดๆ เอง
คราวนี้ป้าลองจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka ดูมั่ง หลังจากที่ปกติจะใช้แค่ส่องหาที่พัก ซึ่งก็พบว่าง่ายดีนะ ไม่ต้องเสียเวลาเทียบราคาตั๋วของแต่ละสายการบิน อืมมม เหมาะกะคนอย่างป้า แต่อันที่เอารูปมาให้ดูเนี่ย เป็นแค่ตัวอย่างนะ เพราะตอนที่ป้าจองเนี่ย ล่กมากกก ไม่มีสติจะแคปหน้าจอไว้เลยจ้า
อันนี้เป็นเส้นทางรถไฟจากโตเกียวแบบคร่าวๆ เผื่อใครอยากรู้เนาะ
อ่ะ เสร็จสิ้นเรื่องราวการเดินทางกันไปแล้วก็มาว่ากันรวมๆ ถึงบรรยากาศของเมืองนี้กันเลยดีกว่า ป้ามาถึงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน เมื่อปีก่อนนะ ใบไม้แดงส่วนหนึ่งก็ถือว่าผ่านช่วงพีคไปแล้วละ แต่ก็ถือว่ายังแจ่มอยู่เลยละ อากาศอยู่ประมาณสิบกว่าองศานิดๆ สำหรับป้าก็เรียกได้ว่าหนาวแล้วละนะ
เรียกน้ำย่อยกันก่อนเลย
เอาละ เมืองนี้เค้าก็มีของดีของเด็ดอยู่หลายอย่าง ป้าขอเริ่มต้นพาไปที่โรงงานทำแก้วกันก่อนเลยแล้วกัน Tsukiyono Vidro Park คือโรงงานผลิตเครื่องแก้วเก่าแก่ของเมืองนี้ หรือจะเรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งนึงในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ที่นี่เค้ามีประวัติมากมายยาวนาน ใครอยากรู้ลองไปหาอ่านดูเอาเน้อ เอาเป็นว่าเค้าดังระดับที่สมเด็จพระจักพรรดิ์ และเจ้าชายในราชวงศ์ของญี่ปุ่น เคยเสด็จมาเยี่ยมเยือน นอกจากนั้น เครื่องแก้วจากโรงงานนี้ยังเป็นเครื่องแก้วทำมือทุกชิ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานแก้วไม่กี่ที่แล้วในญี่ปุ่น ที่ยังใช้กรรมวิธีแบบนี้กันอยู่ ซึ่งความภาคภูมิใจของเค้าก็คือการที่ได้เป็นโรงงานซึ่งทำถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการแข่งขันซูโม่ อันเป็นกีฬาที่ชาวญี่ปุ่นเค้าภูมิใจนักหนากันด้วยละ ด้านในมีโรงเบียร์ มีเบียร์ให้ชิมหลายชนิดเลยนะ ถัดมาข้างกันคือพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่มีโชว์ชิ้นงานงามๆ ให้ดูกันเพียบ ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวแวะมาลองทำเวิร์คช็อปเครื่องแก้วชิ้นเล็กๆ ฝีมือตัวเองไว้เก็บกลับไปเป็นที่ระลึก เดินเลยไปอีกนิด เป็นโรงทำแก้วที่เราสามารถไปยืนเกาะดูกรรมวิธีกันได้ในระยะประชิดเลยทีเดียว สำหรับป้า ที่นี่แม้ไม่ได้ว้าวมาก แต่ก็ดูเพลินๆ ดีนะ ถ้ามีเวลาลองแวะไปเยี่ยมชมก็ถือว่าไม่เสียหายนะ
ไปดูของสำคัญกันก่อนเลย 555 แต่เป็นการดูเพื่อการศึกษาเนาะ เพราะเค้าจะมีตัวอย่างพันธุ์ข้าวที่ใช้ผลิตให้ดูอยู่ด้านหลังด้วยนาาา
อ่ะ ... ไปดูโรงงานแก้วกันได้ละ
ด้านหน้าจ้า ถ่ายเวลาห้าโมงเย็นนิดๆ มืดแล้ววววว เค้าปิดราวๆ ห้าโมงเย็นนะ ถ้าป้าจำไม่ผิด
ป้ายรถเมล์ก็กรุแก้วนะ เพื่อรักษาคอนเซ็ปท์
ราคาค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์
หัวเสาด้านนอกก็ไม่เว้น ...
อ่ะ ... ไปดูด้านในกันรัวๆ
ถ้วยซูโม่ในตำนาน
รวมฮิตแขกวีไอพีที่เคยมาเยือน
ชมกรรมวิธีกันแบบจะๆ ที่ด้านนอก
อีกที่นึงที่ป้าว่าพลาดไม่ได้ คือบริเวณหมู่บ้านรวมช่างฝีมือประดิดประดอยทั้งหลาย ซึ่งแถวนี้มีชื่อว่า Takumi no sato ซึ่งบอกได้เลยว่าใครรักงานทำมือทั้งหลาย ขอเรียนเชิญย่านนี้เลยจ้ะ เพราะเค้ารวมบ้านที่เปิดเป็นแหล่งเวิร์คช็อปงานหัตถกรรมทั้งหลายเอาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะหัดทำเส้นโซบะ หัดสานรองเท้าฟาง ทำเครื่องประดับจากโลหะและลูกปัด และอื่นๆ อีกมากมาย ใกล้ๆ กันมีซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ไว้ขายผลผลิตทางการเกษตรของละแวกนี้ และมีที่ให้เช่าจักรยานปั่นกันชิลล์ๆ ด้วยละ อ่ะ ... สายสโลว์ไลฟ์เชิญจ้ะ
ป้ายรถบัสหน้า Takumi no sato
ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ป้ายรถบัส
ด้านในซูเปอร์มาร์เก็ต น่ากวาดมาให้หมดแผง
จักรยานให้เช่า
ของเด็ดละแวกนี้ 'ยากิมันจู' ใครชอบของแปลกเชิญลอง 555
มาเยี่ยมๆ มองๆ ร้านทำเครื่องประดับด้วยโลหะและลูกปัดแก้วกันหน่อย
เลือกแบบที่อยากได้ จ่ายเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่ตอนนี้ละ
เริ่มประลองฝีมือ
เสร็จแล้วเอามาเผา ... ว่าแต่เผาแบบนี้ก็ได้เหรอ???
ถัดจากบริเวณหมู่บ้าน Takumi no sato ไปหน่อยนึง มีสวนแอปเปิ้ล เค้าก็มีหลายสวนละนะ แต่สวนที่ป้าไปชื่อ ‘พอมิเอะ’ (ไม่รู้เขียนยังไงอ่ะ นี่คือถามเพื่อนป้าที่อ่านญี่ปุ่นได้มาอีกที ใครอยากตามรอย ลองไปหาถามเอาละกันเน้อออ ซอรี่จ้า 555) ซึ่งที่สวนนี้ ป้าได้เข้าไปเก็บแอปเปิ้ลสดๆ จากต้นด้วยนะ แล้วบอกเลยว่าป้าน่ะ ไม่เคยไปสวนแอปเปิ้ลที่ไหนมาก่อนเลย เลยอเมซิ่งมากว่า ทันทีที่เดินเข้าสวนไป กลิ่นหอมของแอปเปิ้ลก็ลอยมาแตะจมูกทันที คือสดชื่นมากกกก แล้วตรงหน้าก็เต็มไปด้วยจุดแดงๆ ท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ เป็นแถวแนวอย่างมีระเบียบ คือมันดีจริงๆ อ่ะ หนู แถมอีกฝั่งของสวนนี้ เค้ายังปลูกแอปเปิ้ลสีทอง ซึ่งเป็นพันธุ์เฉพาะของเมืองนี้เท่านั้น ซึ่งจะมีกลิ่นที่หอมกว่า และรสชาติหวานอร่อยกว่าพันธุ์สีแดง แต่พูดก็พูดเหอะ ป้าว่าอันสีแดงนี่ก็เริ่ดแล้วนะ แล้วจะด้วยความสดหรือพันธุ์ที่ดีก็ไม่รู้ได้ แอปเปิ้ลลูกใหญ่สองมือกอบของสวนนี้คืออร่อยมากกกกกกกกก เนื้อกรอบ ฉ่ำน้ำ กัดเข้าไปนี่คือกลิ่นหอมเต็มปากอวลไปหมด เคี้ยวที โอ๊ยยย นึกว่ากินน้ำแอปเปิ้ลอยู่ เพราะซดได้เต็มปากดีเหลือเกิ๊นนน สรุปสั้นๆ ให้เลยว่าฟิน! … อ้อ เหมือนเพื่อนป้าที่อยู่แถวนั้นจะบอกมานะ ว่าที่สวนนี้เค้าเปิดให้พักแบบโฮมสเตย์ด้วยละ ถ้าสนใจลองไปค้นต่อกันเองน้า
ชมสวน ... อยากอยู่ทั้งงงงวัน
แอปเปิ้ลสีทองจ้าา
ด้านหน้าของร้าน สวน 'พอมิเอะ'
มุมมองช่วงปั่นจักรยานผ่านมา
ระหว่างทางกลับจากสวนแอปเปิ้ล ป้ายังเจอพิธีบูชาตะเกียบที่เค้าจัดขึ้นกลางหมู่บ้าน เท่าที่เดาๆ เอาได้ เหมือนกับการขอบคุณตะเกียบที่เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ให้ความสะดวกแก่คนเรา อะไรประมาณนี้นะ ถ้าใครรู้มาบอกป้าด้วยจ้า ถือว่าเป็นวิทยาทาน ความน่ารักคือเค้าพาเด็กอนุบาลมายืนดูและร่วมในพิธี ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นการทำให้คนรุ่นต่อใหม่คุ้นเคยกับพิธีนี้ เพื่อที่จะได้สืบสานกันต่อไป ไม่สูญหาย หรือว่าอย่างอื่นนะ แต่ป้าก็ชอบแหละ เอาจริง
แวะหน่อย อย่าให้เสียโอกาส เผือกได้เราเผือก ส่องได้เราส่อง 55555
จากหมู่บ้านช่างฝีมือ ป้ามุ่งหน้าต่อไปยังร้านพายแอปเปิ้ลชื่อดังในเมืองมินาคามิ ABE APPLES ซึ่งเพื่อนป้าซึ่งทำหน้าที่พาเที่ยวบอกมาว่าร้านนี้เด็ดมากก แล้วต้องไปให้ไวนะ เพราะบ่ายต้นๆ พายนางจะขายหมดแล้วจ้า ซึ่งคอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่า อร่อยจริง! เด็ดจริง! พายกรอบ เบา รสดี แอปเปิ้ลสด หวานธรรมชาติ ผสมกันในปากคือเพลินนนนน ด้านในมีขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ลรูปแบบอื่นๆ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันพอหอมปากหอมคอ ไม่ต้องห่วงเรื่องความสด เพราะเค้ามีสวนปลูกเองจ้าาา อยู่ข้างร้านเลย
หน้าร้าน
ข้างร้าน
รวมของเด็ด