U.S. VISA ขอได้ ไม่ยากอย่างที่คิด (OCT 2017)

สวัสดีค่ะ เราพึ่งเรียนจบจากญี่ปุ่น แล้วมีแผนจะไปเยี่ยมคุณยายที่อเมริกา หลังกลับมาจากญี่ปุ่น ปลายเดือนกันยายน เลยเริ่มขอวีซ่า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไม่งั้นค่าตั๋วอาจจะแพง

เริ่มแรก ถ่ายรูปพื้นหลังสีขาว ขนาด 2x2 นิ้ว ดูรายละเอียดตามนี้ได้ค่ะ https://travel.state.gov/content/visas/en/visit/visitor.html#overview

ต่อมา กรอกแบบฟอร์ม DS-160 https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx ขั้นตอนนี้ต้องกรอกรายละเอียดเยอะหน่อย แนะนำให้กรอกตามความเป็นจริง และคอยเซฟเป็นระยะๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลากรอกใหม่ และแนะนำให้กรอกเอง เพราะเค้าจะดูข้อมูลเราจากตรงนี้ เค้าถามอะไรเราจะได้ตอบได้ตรงกับที่กรอกค่ะ
  เราจะไปเยี่ยมคุณยาย เลยกรอกไปว่ามีญาติอยู่ที่นั่น ซึ่งหลังจากกรอกเสร็จเรียบร้อย กด submit แล้ว พึ่งมาอ่านรีวิวตามพันทิพ บางคนบอกว่าถ้ามีญาติหรือคนรู้จักอยู่ที่อเมริกาอาจจะได้อยาก เพราะเค้ากลัวเราเป็นโรบิ้น ไม่ยอมกลับประเทศ ขุ่นพระะะ นั่งเครียดไปค่ะ
  อีกอย่าง เรายังไม่ได้ทำงานด้วย กำลังหางาน เงินในบัญชีก็มีน้อย เลยใช้ของคุณแม่ บางคนบอกว่ามีเงินเป็นแสนยังโดนปฏิเสธ แล้วเราล่ะะะ ฮืออออ จะรอดไหมแว้  

หลังจากกรอกเสร็จ ไปชำระเงิน 5,600 บาท (ตุลาคม 2560)

นัดสัมภาษณ์ เราไปจ่ายตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม แต่นัดได้เร็วสุด 16 ตุลาคม สงสัยอาจเป็นช่วงวันหยุดราชการ เลยข้ามไป 16 เลย เราเลือก 16 ตุลาคม 9.30 น. จ. เชียงใหม่

ระหว่างรอก็เตรียมเอกสารไปค่ะ เตรียมไปให้มากที่สุด เผื่อเค้าขอแล้วเราไม่มีให้ อาจเสียโอกาสดีๆ ไปได้
เอกสารเพิ่มเติมที่เราเตรียมก็มี
- bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน เราใช้ของคุณแม่ เพราะเราไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งสองปี บัญชีเลยไม่มีความเคลื่อนไหว แล้วก็เตรียมบัญชีของที่ญี่ปุ่นไปด้วย เผื่อเค้าดู เราจะได้ยื่นพร้อมกันว่าเราก็มีเงินเก็บจากทุนนะ มีพอไปเที่ยวจริงๆ น้าาา
- หลักฐานการเรียนปริญญาโท คือสำเนา certificate, transcript, และใบปริญญา
- แผนการท่องเที่ยว เขียนบอกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พักที่ไหน
- หนังสือเชิญจากคุณยาย พร้อมเอกสารยืนยันตัวตน คุณยายสแกนใบขับขี่มาให้ค่ะ
- ใบจองโรงแรม เราจองของอโกด้า เพราะมีแบบยกเลิกฟรี เผื่อไม่ได้วีซ่า จะได้ไม่เสียเงินเปล่า
- CV เผื่อเค้าอยากรู้ประวัติเรา 5555
- สำเนาต่างๆ เช่น บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, พาสปอต

พาพันดี๊ด๊าและแล้ว 16 ตุลาก็มาถึง เราเข้าไปประมาณ 9.10 ผ่านที่สแกนตัว และกระเป๋าที่ใส่เอกสาร มือถือ กระเป๋าเงิน และปากกา ไม่อยากเอาไปเยอะ กลัวจะมีปัญหา
เค้าให้เราปิดเครื่องมือถือแล้วฝากไว้พร้อมบัตรประชาชน

เดินเข้าไป เจอโต๊ะลงทะเบียน ยื่นใบนัด, แบบฟอร์ม DS-160, พาสปอต, และรูปถ่าย ให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะให้บัตรคิวมา แล้วไปนั่งรอ

รอซักพักก็มาถึงคิวเรา "หมายเลข 22 ช่อง 4 ค่ะ" เดินเข้าไป เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนไทย สอบถามรายละเอียดการเที่ยว (เป็นภาษาไทย)
เจ้าหน้าที่: ไปทำอะไรคะ
เรา: ไปหาคุณยายค่ะ
เจ้าหน้าที่: คุณยายอยู่รัฐอะไรคะ
เรา: South Carolina kaa
เจ้าหน้าที่: ไปกี่วันคะ
เรา: 16 วันค่ะ
เจ้าหน้าที่: เดินทางวันไหนคะ
เรา: 18 ธันวาค่ะ
เจ้าหน้าที่: ขอสแกนนิ้วค่ะ
เรา: ... สแกนเสร็จก็เดินออกมานั่งรอที่เดิม

รอ รอ รอ พาพันง่วง ระหว่างรอก็นั่งดูทีวีที่เค้าแสดงขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าไป มีทั้งเวอร์ชั่นไทยและอังกฤษ
ชั่วโมงครึ่งผ่านไป ก็มาถึงคิวเรา ใจเต้นแรงมากกกก นานาอุ๊ต๊ะ
เดินเข้าไป ได้สัมภาษณ์กับผู้หญิงคนไทย สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหมดเลยค่ะ

เจ้าหน้าที่: พึ่งจบปริญญาโทจากญี่ปุ่นหรอคะ
เรา: ใช่ค่ะ
เจ้าหน้าที่: แล้วจะไปทำอะไรที่อเมริกาคะ
เรา: ไปหาคุณยายค่ะ
เจ้าหน้าที่: ไปกี่วันคะ
เรา: 16 วันค่ะ
เจ้าหน้าที่: คุณยายอยู่ที่นู่นนานรึยังคะ
เรา: 40 กว่าปีแล้วค่ะ
เจ้าหน้าที่: มีญาติคนอื่นอีกไหมคะ
เรา: มีคุณตาค่ะ เป็นคนอเมริกัน
เจ้าหน้าที่: คุณยายทำงานอะไรคะ
เรา: สอนทำอาหารค่ะ
เจ้าหน้าที่: ได้งานรึยังคะ
เรา:ยังค่ะ ประกาศผลปลายเดือนตุลาค่ะ
เจ้าหน้าที่: แล้วเรียนที่ญี่ปุ่น เป็นภาษาญี่ปุ่นหรอคะ
เรา: ใช่ค่ะ
เจ้าหน้าที่: มีเอกสารอะไรไหมคะ
เรา: เราเลยเอา certificate, transcript, และใบปริญญา ให้เค้าดู
เจ้าหน้าที่: ขอบคุณค่ะ, ถ้าไม่ได้งานทำยังไงคะ
เรา: ก็รอสมัครใหม่ปีหน้า เพราะเดือนหน้าต้องไปดูแลคุณยายอีกคนที่ภาคใต้ค่ะ
เจ้าหน้าที่: กลับจากญี่ปุ่นมาเมื่อไหร่คะ
เรา: เอิ่มม 20 กันยายนค่ะ
เจ้าหน้าที่: ขอบคุณค่ะ วีซ่าผ่านแล้วค่ะ
เรา: ขอบคุณค่ะ นานาขอบคุณ
แล้วรีบเดินออก กลัวเค้าเปลี่ยนใจ 555555 กรี๊ดดดดด ขุ่นพระ เราได้วีซ่าแล้วววว ดีใจมากกกกก

ขั้นต่อไปก็รอลุ้นกันว่าได้วีซ่าระยะเวลากี่ปี
18 ตุลาคม จดหมาย EMS ก็มาถึง
TADAAA!!! คริสมาสต์จ๋าาา อเมริกาจ๋าาา ซียาาาาา


พาสปอตพร้อมวีซ่า 10 ปี ดีใจมาก อย่างกะจะมีเงินไปเที่ยว 555

จบแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนนะคะ
เป็นกำลังใจให้
จากประสบการณ์นี้เห็นชัดเลยว่า bank statement ไม่ได้มีผลอะไรเลยกับการพิจารณาวีซ่า และการใส่ว่ามีญาติอยู่ที่อเมริกา ก็ไม่มีผลเช่นกัน
เราก็ไม่รู้ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไร มันอาจจะอยู่ที่ดวงของแต่ละคนด้วย 5555

ขออภัยหากมีข้อบกพร่อง พอดีเราไม่ค่อยเขียนกระทู้
ขอบคุณค่าาา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่