
หลังจากนักแสดงรุ่นใหญ่
“นึกคิด บุญทอง”
หรือ “คุณพ่อ” ของนางเอกสาววิกหมอชิต
“กุญแจซอล ป่านทอทอง”
ได้ยอมรับว่าลูกสาวตั้งครรภ์กับ
“นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย”
แฟนหนุ่มนอกวงการจริง แต่ทางครอบครัวยังไม่ได้เจอหน้าลูกสาว
มาเป็นเวลากว่า 8 เดือน และในความรู้สึกของคนเป็น “พ่อแม่” คือเจ็บจนจุกอก
โดยคุณแม่มุกดา เผยว่าทางลูกสาวคนกลางอย่าง “แจกัน”
ได้พยายามที่จะติดต่อกับ “กุญแจซอล” ด้วยการไลน์ไปหา ซึ่งฝั่งกุญแจซอล
ได้มีการเปิดอ่านข้อความในไลน์ แต่ไม่มีการตอบกลับ ขณะนี้
ทางครอบครัวทราบแต่เพียงว่าลูกสาวใกล้คลอดแล้ว และเดาว่า
น่าจะได้หลานเป็น “ผู้ชาย” เพราะสังเกตุจากในไอจีของลูกสาวที่มีการขึ้นรูปตุ๊กตาหมีผู้ชาย
“ถามว่าลูกสาวใกล้คลอดแล้วเป็นห่วงมั้ย
เป็นธรรมดาที่คนเป็นพ่อแม่ต้องเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว เพราะซอลจะเป็นคนขี้กลัว
เขาจะกลัวเลือด กลัวเข็ม กลัวน็อต เรากลัวว่าเขาจะต้องไปคลอดลูกเองแบบธรรมชาติ
เพราะตัวแม่ลูกสาว 3 คนแม่ผ่าคลอดทั้งหมด แม่เคยปวดท้องคลอด มันรู้สึกทรมาณมาก”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ครอบครัวยังคิดที่จะตามหาลูกสาวอยู่หรือไม่
ทางคุณพ่อนึกคิดตอบว่า ผ่านมาจนถึง 8 เดือน ตนคิดว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว
ช่วงแรกครอบครัวเครียดและเป็นห่วงลูกมาก ถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ซึ่งต่อให้จะหาตัวลูกสาวเจอ แต่ตนเชื่อว่าคงจะย้ายที่อยู่หนีไปอยู่ดี
เพราะตัวลูกสาวกับแฟนหนุ่ม ไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในกรุงเทพฯ
ส่วนทางพ่อแม่ของฝ่ายชาย ทางครอบครัวเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาเป็น 100 ครั้ง
แต่คำพูดเดียวที่ได้รับกลับมาคือ “เกิดอะไรขึ้น”
“เขาทำเหมือนไม่รับรู้เรื่องราว ทางครอบครัวผู้ชายเขาบอกว่าพ่อแม่ไม่ทราบ
ทั้งๆ ที่ทางครอบครัวนั้นเขารู้เรื่องตั้งแต่ต้นเลย ถามว่าจะเอาผิดทางกฏหมายได้หรือไม่
คือต้องบอกอย่างนี้ว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับหลายครอบครัว
แต่บังเอิญว่าครอบครัวของผมมีคนรู้จักเยอะ
เพราะเป็นคนของประชาชนทำให้เป็นกระแสขึ้นมา”
ก่อนที่คุณแม่มุกดาจะเสริมต่อว่า
“พอได้ออกข่าวให้สังคมรับรู้ว่าลูกเราไปอยู่กับใคร ก็รู้สึกสบายใจขึ้น
เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นทางสื่อจะได้รับรู้และช่วยกันสอดส่อง
เพราะช่วงหลังๆ อาจจะมีกระแสข่าวเรื่องการชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง
ซึ่งแม่เป็นห่วงลูกและคิดมากพอสมควร”

จากนั้นคุณแม่มุกดา ยอมรับว่าที่ผ่านมาทางฝ่ายชายทำให้ครอบครัวตายใจ
คิดว่าเป็นคนดี แต่มาฉุกคิดได้เมื่อตอนที่ไปพูดคุยเรื่องสินสอด
กับทางครอบครัวของผู้ชาย ซึ่งตนไม่ได้คิดจะเรียกสินสอดอะไรมากมาย
แต่มาติดตรงคำพูดของแม่ฝ่ายชาย ที่บอกว่าบางครอบครัวไม่เอาสินสอดเลย
ทำให้ตนรู้สึกจุกอกว่า ทำไมทางครอบครัวผู้ชายถึงไม่ให้เกียรติครอบครัวตน
และยังบอกด้วยว่างานหมั้นให้ฝ่ายหญิงจัดการ ส่วนงานแต่งฝ่ายผู้ชายจะจัดการเอง
ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวเปิดรับฝ่ายชายมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดไปหมด
“น้องยังไม่เคยมีแฟน และเขาคงคิดว่าถ้ามีน้องขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงพ่อแม่คงต้องให้อภัยเขา แต่ว่าเราไม่รู้ว่าทางผู้ชายไปขู่ลูกสาวเราหรือเปล่าว่า
ถ้ามาเจอพ่อแม่แล้วจะเป็นยังไง เพราะผู้ชายไม่ให้น้องทำงานเลย
ไม่ให้คุยกับใครทั้งสิ้นเลย ซึ่งเดี๋ยวนี้สังคมมันเปิดแล้วนะ
ต่อให้ตั้งท้องก็ยังทำงานได้ เรายังงงอยู่เลยว่าทำไมผู้ชายไม่ยอมให้ลูกสาวเราทำงาน
ที่สำคัญคือไม่ให้คุยกับครอบครัวและเพื่อนฝูงเลย”
พร้อมกับการที่คุณแม่มุกดากับคุณพ่อนึกคิดยืนยันว่า หากลูกสาวคลอดหลานแล้ว
คงจะให้เลี้ยงกันเอาเอง เพราะทางลูกสาวและแฟนหนุ่ม
น่าจะไม่อยากให้ทางครอบครัวเข้าไปยุ่ง รวมถึงการจะอุ้มหลานมาขอขมา
ที่คุณพ่อนึกคิดย้ำว่า คงต้องแล้วแต่ว่าทั้งสองคนจะสึกนึกได้เมื่อไหร่
และเชื่อว่าถ้าฝั่งลูกสาวมีผู้ใหญ่ที่ดีคอยแนะนำ สุดท้ายน่าจะคิดได้
“ถามว่ารู้สึกโกรธมั้ย เป็นธรรมดานะ ต้องมีรู้สึกแบบนี้บ้าง
แต่เราปล่อยวาง เพราะเรายังมีลูกอีก 2 คน ที่เราต้องดูแล”
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คงเป็นเวรเป็นกรรมด้วยนะ ผมว่าทุกคนต้องมีกรรม
ต้องมีความทุกข์ แต่ความทุกข์ของคนเราคงไม่เหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ
เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นในวันก่อนที่เขาจะกำลังจะหมั้น
และจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ทำไมต้องชิงหนีกันไปก่อน และทำไมไม่ส่งข่าวบอกครอบครัว”
“แม่อยากให้เขาออกมาพูดกันเองมากกว่า ว่ายังอยากจะเจอพ่อแม่มั้ย
อยากจะมาเผาศพพ่อกับแม่มั้ย เขาใจร้ายกับเราเกินไป และถ้าเขากลับมาแล้วอยู่ดีๆ
วันหนึ่งเขาไม่พอใจเรา แล้วมาทำอย่างนี้อีกล่ะ ถามว่าผิดหวังมั้ย
ผิดหวังมากค่ะ ส่วนลูกสาวอีก 2 คนเป็นเด็กดี
ต่อไปเราก็คงดูคนที่จะเข้ามาหาลูกเราให้ดีกว่านี้”
คุณพ่อนึกคิดกล่าวทิ้งท้ายว่า
“จะให้อภัยหรือไม่นั้น เดี๋ยวค่อยมาคุยกันครับ
ถ้าผมตอบว่าพร้อมให้อภัย แต่ถ้าทางเขาเกิดไม่พร้อมมาขอขมา
หรือเข้ามาแล้วมาดุผมอีก ผมก็เสียสิ ผมจะไม่พูดอะไรในสิ่งที่ผมยังไม่เห็นกับตา
แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของผมแข็งแรงดี สนุกกับการทำงานเพื่อให้ลืมๆ ไป
แต่ถ้าไม่ได้ทำงานอาจจะมีแว้บๆ ที่ไปคิดถึงบ้างเป็นช่วงๆ”
“พ่อ-แม่กุญแจซอล” ฝากถามลูกสาว จะกลับมา “เผาศพ” บุพการีไหม?
หลังจากนักแสดงรุ่นใหญ่ “นึกคิด บุญทอง”
หรือ “คุณพ่อ” ของนางเอกสาววิกหมอชิต “กุญแจซอล ป่านทอทอง”
ได้ยอมรับว่าลูกสาวตั้งครรภ์กับ “นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย”
แฟนหนุ่มนอกวงการจริง แต่ทางครอบครัวยังไม่ได้เจอหน้าลูกสาว
มาเป็นเวลากว่า 8 เดือน และในความรู้สึกของคนเป็น “พ่อแม่” คือเจ็บจนจุกอก
โดยคุณแม่มุกดา เผยว่าทางลูกสาวคนกลางอย่าง “แจกัน”
ได้พยายามที่จะติดต่อกับ “กุญแจซอล” ด้วยการไลน์ไปหา ซึ่งฝั่งกุญแจซอล
ได้มีการเปิดอ่านข้อความในไลน์ แต่ไม่มีการตอบกลับ ขณะนี้
ทางครอบครัวทราบแต่เพียงว่าลูกสาวใกล้คลอดแล้ว และเดาว่า
น่าจะได้หลานเป็น “ผู้ชาย” เพราะสังเกตุจากในไอจีของลูกสาวที่มีการขึ้นรูปตุ๊กตาหมีผู้ชาย
“ถามว่าลูกสาวใกล้คลอดแล้วเป็นห่วงมั้ย
เป็นธรรมดาที่คนเป็นพ่อแม่ต้องเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว เพราะซอลจะเป็นคนขี้กลัว
เขาจะกลัวเลือด กลัวเข็ม กลัวน็อต เรากลัวว่าเขาจะต้องไปคลอดลูกเองแบบธรรมชาติ
เพราะตัวแม่ลูกสาว 3 คนแม่ผ่าคลอดทั้งหมด แม่เคยปวดท้องคลอด มันรู้สึกทรมาณมาก”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ครอบครัวยังคิดที่จะตามหาลูกสาวอยู่หรือไม่
ทางคุณพ่อนึกคิดตอบว่า ผ่านมาจนถึง 8 เดือน ตนคิดว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว
ช่วงแรกครอบครัวเครียดและเป็นห่วงลูกมาก ถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ซึ่งต่อให้จะหาตัวลูกสาวเจอ แต่ตนเชื่อว่าคงจะย้ายที่อยู่หนีไปอยู่ดี
เพราะตัวลูกสาวกับแฟนหนุ่ม ไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในกรุงเทพฯ
ส่วนทางพ่อแม่ของฝ่ายชาย ทางครอบครัวเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาเป็น 100 ครั้ง
แต่คำพูดเดียวที่ได้รับกลับมาคือ “เกิดอะไรขึ้น”
“เขาทำเหมือนไม่รับรู้เรื่องราว ทางครอบครัวผู้ชายเขาบอกว่าพ่อแม่ไม่ทราบ
ทั้งๆ ที่ทางครอบครัวนั้นเขารู้เรื่องตั้งแต่ต้นเลย ถามว่าจะเอาผิดทางกฏหมายได้หรือไม่
คือต้องบอกอย่างนี้ว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับหลายครอบครัว
แต่บังเอิญว่าครอบครัวของผมมีคนรู้จักเยอะ
เพราะเป็นคนของประชาชนทำให้เป็นกระแสขึ้นมา”
ก่อนที่คุณแม่มุกดาจะเสริมต่อว่า
“พอได้ออกข่าวให้สังคมรับรู้ว่าลูกเราไปอยู่กับใคร ก็รู้สึกสบายใจขึ้น
เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นทางสื่อจะได้รับรู้และช่วยกันสอดส่อง
เพราะช่วงหลังๆ อาจจะมีกระแสข่าวเรื่องการชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง
ซึ่งแม่เป็นห่วงลูกและคิดมากพอสมควร”
จากนั้นคุณแม่มุกดา ยอมรับว่าที่ผ่านมาทางฝ่ายชายทำให้ครอบครัวตายใจ
คิดว่าเป็นคนดี แต่มาฉุกคิดได้เมื่อตอนที่ไปพูดคุยเรื่องสินสอด
กับทางครอบครัวของผู้ชาย ซึ่งตนไม่ได้คิดจะเรียกสินสอดอะไรมากมาย
แต่มาติดตรงคำพูดของแม่ฝ่ายชาย ที่บอกว่าบางครอบครัวไม่เอาสินสอดเลย
ทำให้ตนรู้สึกจุกอกว่า ทำไมทางครอบครัวผู้ชายถึงไม่ให้เกียรติครอบครัวตน
และยังบอกด้วยว่างานหมั้นให้ฝ่ายหญิงจัดการ ส่วนงานแต่งฝ่ายผู้ชายจะจัดการเอง
ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวเปิดรับฝ่ายชายมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างกลับผิดคาดไปหมด
“น้องยังไม่เคยมีแฟน และเขาคงคิดว่าถ้ามีน้องขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงพ่อแม่คงต้องให้อภัยเขา แต่ว่าเราไม่รู้ว่าทางผู้ชายไปขู่ลูกสาวเราหรือเปล่าว่า
ถ้ามาเจอพ่อแม่แล้วจะเป็นยังไง เพราะผู้ชายไม่ให้น้องทำงานเลย
ไม่ให้คุยกับใครทั้งสิ้นเลย ซึ่งเดี๋ยวนี้สังคมมันเปิดแล้วนะ
ต่อให้ตั้งท้องก็ยังทำงานได้ เรายังงงอยู่เลยว่าทำไมผู้ชายไม่ยอมให้ลูกสาวเราทำงาน
ที่สำคัญคือไม่ให้คุยกับครอบครัวและเพื่อนฝูงเลย”
พร้อมกับการที่คุณแม่มุกดากับคุณพ่อนึกคิดยืนยันว่า หากลูกสาวคลอดหลานแล้ว
คงจะให้เลี้ยงกันเอาเอง เพราะทางลูกสาวและแฟนหนุ่ม
น่าจะไม่อยากให้ทางครอบครัวเข้าไปยุ่ง รวมถึงการจะอุ้มหลานมาขอขมา
ที่คุณพ่อนึกคิดย้ำว่า คงต้องแล้วแต่ว่าทั้งสองคนจะสึกนึกได้เมื่อไหร่
และเชื่อว่าถ้าฝั่งลูกสาวมีผู้ใหญ่ที่ดีคอยแนะนำ สุดท้ายน่าจะคิดได้
“ถามว่ารู้สึกโกรธมั้ย เป็นธรรมดานะ ต้องมีรู้สึกแบบนี้บ้าง
แต่เราปล่อยวาง เพราะเรายังมีลูกอีก 2 คน ที่เราต้องดูแล”
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คงเป็นเวรเป็นกรรมด้วยนะ ผมว่าทุกคนต้องมีกรรม
ต้องมีความทุกข์ แต่ความทุกข์ของคนเราคงไม่เหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ
เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นในวันก่อนที่เขาจะกำลังจะหมั้น
และจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ทำไมต้องชิงหนีกันไปก่อน และทำไมไม่ส่งข่าวบอกครอบครัว”
“แม่อยากให้เขาออกมาพูดกันเองมากกว่า ว่ายังอยากจะเจอพ่อแม่มั้ย
อยากจะมาเผาศพพ่อกับแม่มั้ย เขาใจร้ายกับเราเกินไป และถ้าเขากลับมาแล้วอยู่ดีๆ
วันหนึ่งเขาไม่พอใจเรา แล้วมาทำอย่างนี้อีกล่ะ ถามว่าผิดหวังมั้ย
ผิดหวังมากค่ะ ส่วนลูกสาวอีก 2 คนเป็นเด็กดี
ต่อไปเราก็คงดูคนที่จะเข้ามาหาลูกเราให้ดีกว่านี้”
คุณพ่อนึกคิดกล่าวทิ้งท้ายว่า
“จะให้อภัยหรือไม่นั้น เดี๋ยวค่อยมาคุยกันครับ
ถ้าผมตอบว่าพร้อมให้อภัย แต่ถ้าทางเขาเกิดไม่พร้อมมาขอขมา
หรือเข้ามาแล้วมาดุผมอีก ผมก็เสียสิ ผมจะไม่พูดอะไรในสิ่งที่ผมยังไม่เห็นกับตา
แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของผมแข็งแรงดี สนุกกับการทำงานเพื่อให้ลืมๆ ไป
แต่ถ้าไม่ได้ทำงานอาจจะมีแว้บๆ ที่ไปคิดถึงบ้างเป็นช่วงๆ”
Source : http://nineentertain.tv/view/59e7066fe3f8e40adb8e4d6d