จากกระทู้ข้างล่าง..
ความคิดเห็นที่ 18-1
ไม่ใช่ครับ
จขกท ต้องการจะโยงให้กล่าวถึง นิพพานเป็นอัตตาแต่ต้นแล้ว ดูได้จากประวัติการตั้งกระทู้ ความเห็นที่แสดง
คำถาม ที่เป็นบัญญัติ ก็ต้องตอบด้วยบัญญัติ
คำว่า อัตตา คือ ตัวตน เป็นบัญญัติของสิ่งๆ หนึ่งที่เราเข้าไปยึดถือ ว่ามีจริง
แต่โดยปรมัตถ์แล้ว อัตตาไม่มีจริง ซึ่งต่างจาก อนัตตา ที่เป็นลักษณะธรรมชาติของสิ่งต่างๆ
แม้ในบัญญัติก็มีอยู่ และในปรมัตถ์ก็มีจริง ไม่ใช่สิ่งที่มีเพราะเข้าใจผิด หรือคิดไปเอง
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ว่าด้วยสัจจะธรรม
ไม่ใช่คิดว่าเป็น หรือ ไตร่ตรองด้วยเหตุผลแล้ว ควรจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
พระปัญญาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีมากกว่าปุถุชนคนธรรรมดามาก
ในพระอภิธรรมท่านทรงแสดงไว้ชัดเจนในเรื่องปรมัตถ์ รูป จิต เจตสิก นิพพาน
การศึกษา พระธรรมของพระพุทธเจ้า จึงต้องศึกษาให้ครบทั้ง 3 ปิฏก
การศึกษาแค่เล็กน้อย แล้วเอามาปะติดปะต่อ เป็นโทษอย่างมาก เพราะเป็นต้นต่อของความเข้าใจผิด
อย่างที่พวกที่ฝึกเพ่งลูกแก้ว เขาเชื่อกัน เพราะการพูดของบุคคลเพียงคนเดียว โดยไม่สืบสวนหรือไตร่ตรองก่อนเลย
ตอบกลับ
0
1
ทำหมู
15 ชั่วโมงที่แล้ว
สมาชิกหมายเลข 3344432 ถูกใจ
.................................................................................................................................................
ทำหมู ผมกำลังอธิบาย ชี้แจงตามข้อเท็จจริงว่า 2+3 = 5 หรือ 4+1 ก็ = 5
เป็นไปไม่ได้ที่ 2+3 หรือ 4+1 ที่ผลมันจะเป็น 6
ทำหมูก็เบี่ยงไปว่า 6 ไม่มี เพราะเลข 6 มันเป็นแค่บัญญัติกันขึ้นมา 6 ไม่มีอยู่จริง
ทำหมูแถง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ ? ทำหมูต้องแก้โจทย์ตามที่เขาตั้งมา
สมการ คือ..
สิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
โจทย์.
นิพพานเที่ยง ไม่มีความแปรปรวน เป็นสุขอย่างยิ่ง
ทำไมนิพพานจึงเป็นอนัตตา
สมการที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้ หรือที่ค้นพบ มันเป็นสมการที่ใช้ไม่ได้อย่างนั้นใช่มั้ย ?
นิพพานไม่อยู่ในอำนาจ บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ นิพพานจึงเป็นอนัตตา
สมการนี้มันมาจากไหน มันเป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว หรือ หรือว่าใครเป็นคนตั้ง ?
อธิบายหน่อยซิ
ทำหมูเชิญทางนี้หน่อยครับ
ความคิดเห็นที่ 18-1
ไม่ใช่ครับ
จขกท ต้องการจะโยงให้กล่าวถึง นิพพานเป็นอัตตาแต่ต้นแล้ว ดูได้จากประวัติการตั้งกระทู้ ความเห็นที่แสดง
คำถาม ที่เป็นบัญญัติ ก็ต้องตอบด้วยบัญญัติ
คำว่า อัตตา คือ ตัวตน เป็นบัญญัติของสิ่งๆ หนึ่งที่เราเข้าไปยึดถือ ว่ามีจริง
แต่โดยปรมัตถ์แล้ว อัตตาไม่มีจริง ซึ่งต่างจาก อนัตตา ที่เป็นลักษณะธรรมชาติของสิ่งต่างๆ
แม้ในบัญญัติก็มีอยู่ และในปรมัตถ์ก็มีจริง ไม่ใช่สิ่งที่มีเพราะเข้าใจผิด หรือคิดไปเอง
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ว่าด้วยสัจจะธรรม
ไม่ใช่คิดว่าเป็น หรือ ไตร่ตรองด้วยเหตุผลแล้ว ควรจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
พระปัญญาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีมากกว่าปุถุชนคนธรรรมดามาก
ในพระอภิธรรมท่านทรงแสดงไว้ชัดเจนในเรื่องปรมัตถ์ รูป จิต เจตสิก นิพพาน
การศึกษา พระธรรมของพระพุทธเจ้า จึงต้องศึกษาให้ครบทั้ง 3 ปิฏก
การศึกษาแค่เล็กน้อย แล้วเอามาปะติดปะต่อ เป็นโทษอย่างมาก เพราะเป็นต้นต่อของความเข้าใจผิด
อย่างที่พวกที่ฝึกเพ่งลูกแก้ว เขาเชื่อกัน เพราะการพูดของบุคคลเพียงคนเดียว โดยไม่สืบสวนหรือไตร่ตรองก่อนเลย
ตอบกลับ
0
1
ทำหมู
15 ชั่วโมงที่แล้ว
สมาชิกหมายเลข 3344432 ถูกใจ
.................................................................................................................................................
ทำหมู ผมกำลังอธิบาย ชี้แจงตามข้อเท็จจริงว่า 2+3 = 5 หรือ 4+1 ก็ = 5
เป็นไปไม่ได้ที่ 2+3 หรือ 4+1 ที่ผลมันจะเป็น 6
ทำหมูก็เบี่ยงไปว่า 6 ไม่มี เพราะเลข 6 มันเป็นแค่บัญญัติกันขึ้นมา 6 ไม่มีอยู่จริง
ทำหมูแถง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ ? ทำหมูต้องแก้โจทย์ตามที่เขาตั้งมา
สมการ คือ..
สิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
โจทย์.
นิพพานเที่ยง ไม่มีความแปรปรวน เป็นสุขอย่างยิ่ง
ทำไมนิพพานจึงเป็นอนัตตา
สมการที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้ หรือที่ค้นพบ มันเป็นสมการที่ใช้ไม่ได้อย่างนั้นใช่มั้ย ?
นิพพานไม่อยู่ในอำนาจ บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ นิพพานจึงเป็นอนัตตา
สมการนี้มันมาจากไหน มันเป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว หรือ หรือว่าใครเป็นคนตั้ง ?
อธิบายหน่อยซิ