ผมขอเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ของผม และขอคำปรึกษาเพื่อนๆด้วยนะคับ
ผมอายุ 37 แฟนอายุ 41 เราทั้งคู่มีหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคง รายได้ต่อเดือนกินเหลือใช้เหลือ เรารู้จักผ่านเพื่อน และคบกันได้ปีเดียวก็แต่งเลย แต่งงานจนถึงตอนนี้ก็เข้าปีที่ 5 แล้ว .... ก่อนแต่งงานเรามีสัญญาก่อนแต่งงานกันว่า เรื่องของเงินผมขอเป็นคนเก็บและบริหารเงินทั้งหมดนะ ถ้ามีการทะเลาะกันต้องไม่ปล่อยให้ข้ามคืนนะ แล้วช่วยมาง้อเราก่อนนะ เราจะหายเร็วๆแล้วมาค่อยพูดคุยด้วยเหตุผลกัน เรื่องหลังแต่งงานขออยู่บ้านเดียวกับพ่อและแม่นะ อยากดูแลเค้า และขอมีลูกสักสามคนนะ
ผมและแฟนเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวกับเพื่อน ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่เล่นพนัน เหมือนอุปนิสัยคล้ายกัน ตอนคบกันอะไรๆก็ดีไปหมด เราไปเที่ยวกัน ผมไม่เคยปล่อยมือเค้าเลย เราดูแลกันและกันดีมากคับ ปัญหาเริ่มมาตอนหลังแต่งงาน เค้าเข้ากับพ่อแม่และน้องของผมไม่ได้ มีเรื่องให้ผมกลุ้มใจบ่อยมาก ด้วยเหตุที่ผมรักเธอมาก เลยยอมซื้อบ้านอีกหลัง ให้พ่อแม่และน้องแยกออกไปอยู่ (ตอนนั้นถ้าผมและแฟนจะเป็นคนย้ายไปบ้านหลังใหม่ แต่พ่อแม่ของไปเองดีกว่า) ยอมทำเพราะอยากหยุดปัญหา แล้วทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น นานวันเข้าแฟนกับพ่อแม่และน้องก็เริ่มกลับมาคุยกัน ซึ่งผมต้องใช้ความอดทนและพยายามมากกว่าจะได้วันแบบนี้มา
หลังแต่งงานมาได้สองปี เราทั้งคู่พยายามมีลูกด้วยกันมาก ทุกวิธีจนมาถึงวิธีทางวิทยาศาสตร์ คืออิ๊กซี่ ถึงได้ลูกมาคนนึง หมดเงินเยอะมากหลักล้านได้เลย แฟนผมรักลูกมาก เพราะตอนคลอด แฟนเกือบเสียชีวิตจากครรภ์เป็นพิษรุนแรง และลูกต้องอยู่ตู้อบในโรงพยาบาลเป็นเดือน ผมก็ทุ่มเทดูแลแฟนและลูกทุกอย่างตั้งแต่เริ่มท้องจนคลอด อะไรที่ไม่เคยทำให้ใครเราก็ทำ เช่น นวดเท้าให้แฟนก่อนนอน สรรหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายในการนอนของแฟนมาให้ พยายามศึกษาวิธีการดูแลแม่และลูกระหว่างตั้งครรภ์ ทำอาหารให้แฟนทาน และตอนนี้เราทั้งคู่เลี้ยงดูลูกจนตอนนี้ได้สองขวบแล้ว
ปัญหาในชีวิตคู่ของผม เริ่มตั้งแต่หลังแต่งงาน ทุกอย่างที่เคยสัญญากันไว้ก่อนแต่งงาน แฟนผมทำไม่ได้เลยสักข้อ ด้วยเหตุผลที่แฟนผมให้คือแบบนี้ดีอยู่แล้ว เงินทองเก็บแยกกระเป๋ากัน ไม่มีเก็บกองกลาง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านรวมถึงไปเที่ยวไปกินข้าวผมออก แฟนจะช่วยออกเรื่องค่าอาหารลูกเท่านั้น ของใช้จุกจิกของลูกเช่น นม แพมเพิส พี่เลี้ยงลูก(12000/เดือน) ผมอดทนยอมเป็นแบบนี้มาสองปีกว่า ส่วนเรื่องอื่นคือคำพูดคำจา เวลามีเพื่อนหรือคนรู้จักอยู่ด้วย แฟนจะพูดหวาน น้ำเสียงดี แต่พออยู่กันสองคน น้ำเสียงตึงๆหน้าบึ้งๆ เคยคุยกันเค้าบอกก็ทำหน้าเฉยของเขาเป็นแบบนี้ เรื่องบนเตียงทุกวันนี้ได้สัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าสัปดาห์ไหนเมนส์มาก็อดไป เคยคุยเค้าก็บอกว่าเหนื่อยจากงานแล้ว เร็วนี้เคยคุยอีกทีเค้าบอกให้ผมไปหาซื้อกินข้างนอกได้ไหม ผมโกรธมากแต่เค้าทำเหมือนไม่มีอะไร ยังอีกหลายเรื่องที่ผมรับไม่ได้ และคิดว่าทนต่อไปไม่ได้แล้ว
ช่วงนี้ผมพอจะเริ่มมีเพื่อน (คนแรกในรอบสี่ปี) กินข้าวเที่ยงกันบ้าง สัปดาห์นึงครั้งสองครั้ง ผมสนิทกับเพื่อนและครอบครัวเพื่อน ผมมองว่าไว้ใจและเชื่อใจกันได้ เพื่อนเล่นแชร์ ผมก็ขอเล่นตามเพื่อนไป เพื่อนชวนปล่อยเงินกู้ ผมก็ลองทำแต่ไม่ออกตัวว่าเป็นของเรา ให้เพื่อนจัดการทุกอย่างให้เรา แล้วแบ่งกันไปตามตกลง เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่เล่าให้แฟนฟัง เพราะเคยเกริ่นๆแล้วแฟนออกตัวว่าไม่ชอบ .... แต่แฟนมาเล่นคอมผมเลยได้อ่านไลน์ที่คุยกับเพื่อนแล้วรู้เรื่องเข้า เลยทะเลาะกัน ผมก็บอกไปว่าที่ไม่บอกก็แค่ไม่อยากให้ไม่สบายใจ อีกอย่างเราไม่ได้ทำเอง แต่ถ้าแฟนไม่ชอบก็จะหยุดให้ก็ได้ ... แต่สุดท้ายก็เหมือนพยายามไม่เข้าใจกันอยู่ดี มาทำสงครามจิตวิทยากับผมซะอีก ผมยอมอ่อนโทรหาก่อนคุยดีๆก่อน แต่เค้าก็ได้แค่ถามคำตอบคำ แบบไม่อยากคุย ... ผมเบื่อมากที่อดทนจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมองหน้าลูก เลยยอมๆไป แต่นี่มันเหลือเกินความอดทนผมไปแล้วครับ
มันอัดอั้นจริงๆ อยากขอระบายและขอความเห็นเพื่อนๆด้วยคับ
อดทนหรือปล่อยวาง
ผมอายุ 37 แฟนอายุ 41 เราทั้งคู่มีหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคง รายได้ต่อเดือนกินเหลือใช้เหลือ เรารู้จักผ่านเพื่อน และคบกันได้ปีเดียวก็แต่งเลย แต่งงานจนถึงตอนนี้ก็เข้าปีที่ 5 แล้ว .... ก่อนแต่งงานเรามีสัญญาก่อนแต่งงานกันว่า เรื่องของเงินผมขอเป็นคนเก็บและบริหารเงินทั้งหมดนะ ถ้ามีการทะเลาะกันต้องไม่ปล่อยให้ข้ามคืนนะ แล้วช่วยมาง้อเราก่อนนะ เราจะหายเร็วๆแล้วมาค่อยพูดคุยด้วยเหตุผลกัน เรื่องหลังแต่งงานขออยู่บ้านเดียวกับพ่อและแม่นะ อยากดูแลเค้า และขอมีลูกสักสามคนนะ
ผมและแฟนเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวกับเพื่อน ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่เล่นพนัน เหมือนอุปนิสัยคล้ายกัน ตอนคบกันอะไรๆก็ดีไปหมด เราไปเที่ยวกัน ผมไม่เคยปล่อยมือเค้าเลย เราดูแลกันและกันดีมากคับ ปัญหาเริ่มมาตอนหลังแต่งงาน เค้าเข้ากับพ่อแม่และน้องของผมไม่ได้ มีเรื่องให้ผมกลุ้มใจบ่อยมาก ด้วยเหตุที่ผมรักเธอมาก เลยยอมซื้อบ้านอีกหลัง ให้พ่อแม่และน้องแยกออกไปอยู่ (ตอนนั้นถ้าผมและแฟนจะเป็นคนย้ายไปบ้านหลังใหม่ แต่พ่อแม่ของไปเองดีกว่า) ยอมทำเพราะอยากหยุดปัญหา แล้วทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น นานวันเข้าแฟนกับพ่อแม่และน้องก็เริ่มกลับมาคุยกัน ซึ่งผมต้องใช้ความอดทนและพยายามมากกว่าจะได้วันแบบนี้มา
หลังแต่งงานมาได้สองปี เราทั้งคู่พยายามมีลูกด้วยกันมาก ทุกวิธีจนมาถึงวิธีทางวิทยาศาสตร์ คืออิ๊กซี่ ถึงได้ลูกมาคนนึง หมดเงินเยอะมากหลักล้านได้เลย แฟนผมรักลูกมาก เพราะตอนคลอด แฟนเกือบเสียชีวิตจากครรภ์เป็นพิษรุนแรง และลูกต้องอยู่ตู้อบในโรงพยาบาลเป็นเดือน ผมก็ทุ่มเทดูแลแฟนและลูกทุกอย่างตั้งแต่เริ่มท้องจนคลอด อะไรที่ไม่เคยทำให้ใครเราก็ทำ เช่น นวดเท้าให้แฟนก่อนนอน สรรหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายในการนอนของแฟนมาให้ พยายามศึกษาวิธีการดูแลแม่และลูกระหว่างตั้งครรภ์ ทำอาหารให้แฟนทาน และตอนนี้เราทั้งคู่เลี้ยงดูลูกจนตอนนี้ได้สองขวบแล้ว
ปัญหาในชีวิตคู่ของผม เริ่มตั้งแต่หลังแต่งงาน ทุกอย่างที่เคยสัญญากันไว้ก่อนแต่งงาน แฟนผมทำไม่ได้เลยสักข้อ ด้วยเหตุผลที่แฟนผมให้คือแบบนี้ดีอยู่แล้ว เงินทองเก็บแยกกระเป๋ากัน ไม่มีเก็บกองกลาง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านรวมถึงไปเที่ยวไปกินข้าวผมออก แฟนจะช่วยออกเรื่องค่าอาหารลูกเท่านั้น ของใช้จุกจิกของลูกเช่น นม แพมเพิส พี่เลี้ยงลูก(12000/เดือน) ผมอดทนยอมเป็นแบบนี้มาสองปีกว่า ส่วนเรื่องอื่นคือคำพูดคำจา เวลามีเพื่อนหรือคนรู้จักอยู่ด้วย แฟนจะพูดหวาน น้ำเสียงดี แต่พออยู่กันสองคน น้ำเสียงตึงๆหน้าบึ้งๆ เคยคุยกันเค้าบอกก็ทำหน้าเฉยของเขาเป็นแบบนี้ เรื่องบนเตียงทุกวันนี้ได้สัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าสัปดาห์ไหนเมนส์มาก็อดไป เคยคุยเค้าก็บอกว่าเหนื่อยจากงานแล้ว เร็วนี้เคยคุยอีกทีเค้าบอกให้ผมไปหาซื้อกินข้างนอกได้ไหม ผมโกรธมากแต่เค้าทำเหมือนไม่มีอะไร ยังอีกหลายเรื่องที่ผมรับไม่ได้ และคิดว่าทนต่อไปไม่ได้แล้ว
ช่วงนี้ผมพอจะเริ่มมีเพื่อน (คนแรกในรอบสี่ปี) กินข้าวเที่ยงกันบ้าง สัปดาห์นึงครั้งสองครั้ง ผมสนิทกับเพื่อนและครอบครัวเพื่อน ผมมองว่าไว้ใจและเชื่อใจกันได้ เพื่อนเล่นแชร์ ผมก็ขอเล่นตามเพื่อนไป เพื่อนชวนปล่อยเงินกู้ ผมก็ลองทำแต่ไม่ออกตัวว่าเป็นของเรา ให้เพื่อนจัดการทุกอย่างให้เรา แล้วแบ่งกันไปตามตกลง เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่เล่าให้แฟนฟัง เพราะเคยเกริ่นๆแล้วแฟนออกตัวว่าไม่ชอบ .... แต่แฟนมาเล่นคอมผมเลยได้อ่านไลน์ที่คุยกับเพื่อนแล้วรู้เรื่องเข้า เลยทะเลาะกัน ผมก็บอกไปว่าที่ไม่บอกก็แค่ไม่อยากให้ไม่สบายใจ อีกอย่างเราไม่ได้ทำเอง แต่ถ้าแฟนไม่ชอบก็จะหยุดให้ก็ได้ ... แต่สุดท้ายก็เหมือนพยายามไม่เข้าใจกันอยู่ดี มาทำสงครามจิตวิทยากับผมซะอีก ผมยอมอ่อนโทรหาก่อนคุยดีๆก่อน แต่เค้าก็ได้แค่ถามคำตอบคำ แบบไม่อยากคุย ... ผมเบื่อมากที่อดทนจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมองหน้าลูก เลยยอมๆไป แต่นี่มันเหลือเกินความอดทนผมไปแล้วครับ
มันอัดอั้นจริงๆ อยากขอระบายและขอความเห็นเพื่อนๆด้วยคับ