สวัสดีทุกท่าน
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเป็นเกย์รุกที่ไม่แสดงออกเลย มีรักก็ไม่ค่อยจะสมหวัง สักเท่าไร ด้วยความรักและความไว้ใจแฟน เลยทำให้ผมเป็นผู้ติดเชื้อ ผมเคยมีแฟน ที่คิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันดูแลกันไปจนตาย เพราะเราเป็นเกย์ทั้งคู่ โดยปกติรุก จะเป็นคนเจ้าชู้ แต่รับจะไม่เจ้าชู้ แต่ปัจจุบัน รุกแบบผมที่รักเดี่ยวใจเดี่ยว กลับถูกรับที่เป็นฝ่ายเจ้าชู้ซ่ะเอง กรรมแต่หนไหนที่ทำผมแบบนี้ ผมเคยมีแฟนคนที่ 1 เป็นโบท ตอนเราคบกันผมพบเจอเขาผ่าน เวปหาแฟน เราตกลงและสัญญาว่าเราจะอยู่ดูแลกันและกันไปตลอดหากคุณไม่คิดมีชู้และนอกใจผม ผมจะไม่ทิ้งคุณ แต่หากคุณนอกใจเมื่อใดวันนั้นแหละเป็นวันที่เราจะจบกัน เราอยู่ด้วยกันมาแบบปกติ เจอกันทุกสัปดาห์ ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ จนผ่านมาเกือบ 2 ปี ผมก็รู้อะไรบ้างอย่างว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม แฟนผมแอบมีชู้ กรรมของผมจริง แต่ผมจับไม่ได้สักครั้ง เรา 2 คน ก่อนที่จะคบกัน ผมให้เขาไปตรวจเลือดแต่เขาไม่ไปเพราะกลัว แต่ขอไปบริจาคเลือดแทน ตามกำหนดที่ โรงพยาบาลกำหนดทุกครั้งเรา 2 คนบริจาคคู่ กันมาจนถึง 5 ครั้ง ผลของผมปกติดีทุกอย่าง แต่แฟนผม ตรวจพบเจอ ตั้งแต่ครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้รับการแจ้งจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่รับเลือดของเรา แฟนผมบริจาคเลือด ต่อไปตามจนถึงครั้งที่ 5 ถึงมีการแจ้งว่าเลือดคุณมีปัญหาพบเชื้อผลเป็น บวก และในระหว่างครั้งที่ 2-4 ไม่ทำการแจ้งกรรมของผมจริง แฟนผมบริจาคครั้งที่ 4 ไปแล้ว และไม่มีการแจ้งผลผิดปติใดๆเลย ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกันเราป้องกันตลอด จนแฟนบริจาคในครั้งที่ 4 แล้วเขาขอมีอะไรกับผมแบบไม่มีอุปกรณ์ป้องกันเลย เชื่อหรือไม่การมีแบบสด ได้อารมณ์มากกว่า การใช้ถุงยางเป็นเรื่องจริง ผมจำได้วันนั้นเป็นวันเกิดผมเอง เลยจัดหนัก ไปหลายรอบ พอมารู้ในครั้งที่ 5 ห่างกันประมาณ 4 เดือน ลองคิดดูสิผมจะรอดไหม่ แต่จากครั้งนั้นมีอะไรกันผมก็ป้องกันมาโดยตลอด จนรู้ว่าเขาเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะหน่วยรับเลือดที่รับเลือดในครั้ง ที่ 5 ตรวจพบเขื้อจากเขา ส่วนของผมยังไม่พบเชื้อครับ เขาให้ผมพาไปตรวจยืนยันอีกครั้ง ทั้ง 2 คนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แฟนผมบอกว่าถ้าผมไม่ติดให้เลิกกัน ผมไม่ยอมเพราะผมรักเขาจนหมดใจแล้ว และเราสัญญาไว้ก่อนที่เราจะคบกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่ทอดทิ้งคุณ ยกเว้นแต่คุณแอบคบชู้ ผลออกมาบวกทั้งคู่ กอดคอกันร้องเลย วันนั้นเป็นวันที่ ผมและแฟนหูอื้อและตาบอดไปชั่วขนาดชีวิตและอนาคตดับลงทันที ปัญหาที่เกิดเราจะทำอย่างไร วูบแรกที่คิดเราไปตายกันไหม่ โรคนี้สังคมรังเกลียด เราคงอยู่ต่ออย่างลำบากแน่นอน ต่างคนต่างปลอบกันไป เราเข้าสู่ระบบการรักษา เขารับยาเลย แต่ผมยังก่อนเพราะเวลานั้นการที่จะรับยาได้ต้องมีภูมิที่ต่ำกว่า 300 ถึงให้รับยา ความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่ผิดจนมีผลการวิจัยออกมาผู้ที่ตรวจพบเร็วให้รับยาเลย ไม่เกิน 5 ปี เชื้อจะหมดจากร่างกายไม่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต อยู่ต่อมาจนเป็นเวลา 6 ปี แฟนผมก็เริ่มออกลายอีก เขามีอาการทางฮีททีเรีย และชอบดูหนังโป๊ ทำให้มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น และแอบมีชู้จนผมจับได้ โดยหรอกคนอื่นว่าแฟนจะมาหาเดือนละครั้ง และกำลังเลิกกัน อันที่จริงผมไปหาอาทิดย์ละ 3 วัน ต่อสัปดาห์ จัดหนักทุกสัปดาห์ แต่ไม่เพียงพอต่อคนที่เป็น ฮีททีเรีย (ความต้องการที่ไม่สิ้นสุด) จนสุดท้ายเขาทำผิดสัญญาที่ให้ไว้อีกจนได้ สาเหตุ ที่ผมบกร่อง 1.เวลาที่มีไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาต้องการทุกวัน (อันนี้ผมผิด 3 วันคงไม่พอสำหรับเขา) 2.ผมไม่รวย นอกนั้นผมไม่บกพร่องเลย สุดท้ายผมต้องยอมหักด้ามพร้าด้วยเขาแม้จะเจ็บปวดสักเท่าไร และรักจนหมดใจ แต่การทรมาณมันมากมายเกินกว่าจะทนไหว สุดท้ายผมไปเองแบบผู้แพ้
อยู่ต่อมาผมคิดว่ารักแท้ในหมู่เกย์ มันคงไม่มีจริงอีกต่อไป จนครองตัวโสดมาถึง 6 ปี จนความเหงาและเศร้าได้ครอบคลุมทุกอนูของจิตใจมีแต่ความเศร้าหมอง ทุกวันที่ออกมาทำงานก็ร้องให้จนถึงที่ทำงาน เวลากลับก็ร้องให้จนถึงบ้านเป็นอย่างนี้จนถึง 5 ปีเต็ม จนเหงาจนทนต่อไม่ได้ เลยลงประกาศในเวป หาแฟนที่ป่วยเหมือนกันและเข้าใจกันและกัน ผมก็หาจนเจอคนที่เหมือนคนนี้แหละที่ผมจะอยู่ด้วยตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ แต่พอผ่านมาประมาณจะครบ 1 ปี ออกลายอีกเหมือนเดิม ผมไม่เจ้าชู้ก็เจอเจ้าชู้เงียบจนจับได้ ได้แอบไปนอนบ้านคนอื่นมาหลายครั้งไปอยู่กับคนปกติ กรรมจริง พอผมจับได้เลยเรียกมาเคลียปัญหาทั้งหมด และให้เขาเลือกว่าจะไปต่อหรือไม่ ทุกอย่างคลบุมเคลือ แต่สุดท้าย ผมเลือกเอง ผมเลือกที่จะเป็นผู้แพ้อีกตามเคยเพราะความรักและไว้ใจ เลยทำให้เกย์ที่คิดว่ารักแท้มันยังมีอยู่จริงต้องผิดหวังอีกตามเคย แต่ถ้าหากสวรรค์ยังมีตาและคู่แท้ผมยังอยู่ ผมยังอยากที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่รักเราจริง (ความบกพร่องที่เขามีคนอื่น เพราะเวลาที่น้อยเกินไปจนทำให้เขาเหงา นี่ความผิดผม เรื่องอื่นผมไม่เคยบกพร่องเลย) แต่ที่เขาไม่ยอมทิ้งผมเพราะผมดีเกิน จนคิดว่าจะหาคนแบบนี้อีกไม่ได้แต่พอมาถึงทางแยกทุกคนต้องเลือก ผมไม่ใช่ผู้ทำผิดแต่ผมรับกรรมของการกระทำของคนอื่นเสมอ กรรมของคนแบบผมจริงๆ
ผมเป็นเกย์รุก ที่ค้นหารักแท้ แต่ด้วยเพราะรักและความไว้ใจ จึงทำให้ผมต้องเป็นผู้ติดเชื้อ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเป็นเกย์รุกที่ไม่แสดงออกเลย มีรักก็ไม่ค่อยจะสมหวัง สักเท่าไร ด้วยความรักและความไว้ใจแฟน เลยทำให้ผมเป็นผู้ติดเชื้อ ผมเคยมีแฟน ที่คิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันดูแลกันไปจนตาย เพราะเราเป็นเกย์ทั้งคู่ โดยปกติรุก จะเป็นคนเจ้าชู้ แต่รับจะไม่เจ้าชู้ แต่ปัจจุบัน รุกแบบผมที่รักเดี่ยวใจเดี่ยว กลับถูกรับที่เป็นฝ่ายเจ้าชู้ซ่ะเอง กรรมแต่หนไหนที่ทำผมแบบนี้ ผมเคยมีแฟนคนที่ 1 เป็นโบท ตอนเราคบกันผมพบเจอเขาผ่าน เวปหาแฟน เราตกลงและสัญญาว่าเราจะอยู่ดูแลกันและกันไปตลอดหากคุณไม่คิดมีชู้และนอกใจผม ผมจะไม่ทิ้งคุณ แต่หากคุณนอกใจเมื่อใดวันนั้นแหละเป็นวันที่เราจะจบกัน เราอยู่ด้วยกันมาแบบปกติ เจอกันทุกสัปดาห์ ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ จนผ่านมาเกือบ 2 ปี ผมก็รู้อะไรบ้างอย่างว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม แฟนผมแอบมีชู้ กรรมของผมจริง แต่ผมจับไม่ได้สักครั้ง เรา 2 คน ก่อนที่จะคบกัน ผมให้เขาไปตรวจเลือดแต่เขาไม่ไปเพราะกลัว แต่ขอไปบริจาคเลือดแทน ตามกำหนดที่ โรงพยาบาลกำหนดทุกครั้งเรา 2 คนบริจาคคู่ กันมาจนถึง 5 ครั้ง ผลของผมปกติดีทุกอย่าง แต่แฟนผม ตรวจพบเจอ ตั้งแต่ครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้รับการแจ้งจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่รับเลือดของเรา แฟนผมบริจาคเลือด ต่อไปตามจนถึงครั้งที่ 5 ถึงมีการแจ้งว่าเลือดคุณมีปัญหาพบเชื้อผลเป็น บวก และในระหว่างครั้งที่ 2-4 ไม่ทำการแจ้งกรรมของผมจริง แฟนผมบริจาคครั้งที่ 4 ไปแล้ว และไม่มีการแจ้งผลผิดปติใดๆเลย ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เราอยู่ด้วยกัน มีอะไรกันเราป้องกันตลอด จนแฟนบริจาคในครั้งที่ 4 แล้วเขาขอมีอะไรกับผมแบบไม่มีอุปกรณ์ป้องกันเลย เชื่อหรือไม่การมีแบบสด ได้อารมณ์มากกว่า การใช้ถุงยางเป็นเรื่องจริง ผมจำได้วันนั้นเป็นวันเกิดผมเอง เลยจัดหนัก ไปหลายรอบ พอมารู้ในครั้งที่ 5 ห่างกันประมาณ 4 เดือน ลองคิดดูสิผมจะรอดไหม่ แต่จากครั้งนั้นมีอะไรกันผมก็ป้องกันมาโดยตลอด จนรู้ว่าเขาเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะหน่วยรับเลือดที่รับเลือดในครั้ง ที่ 5 ตรวจพบเขื้อจากเขา ส่วนของผมยังไม่พบเชื้อครับ เขาให้ผมพาไปตรวจยืนยันอีกครั้ง ทั้ง 2 คนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แฟนผมบอกว่าถ้าผมไม่ติดให้เลิกกัน ผมไม่ยอมเพราะผมรักเขาจนหมดใจแล้ว และเราสัญญาไว้ก่อนที่เราจะคบกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่ทอดทิ้งคุณ ยกเว้นแต่คุณแอบคบชู้ ผลออกมาบวกทั้งคู่ กอดคอกันร้องเลย วันนั้นเป็นวันที่ ผมและแฟนหูอื้อและตาบอดไปชั่วขนาดชีวิตและอนาคตดับลงทันที ปัญหาที่เกิดเราจะทำอย่างไร วูบแรกที่คิดเราไปตายกันไหม่ โรคนี้สังคมรังเกลียด เราคงอยู่ต่ออย่างลำบากแน่นอน ต่างคนต่างปลอบกันไป เราเข้าสู่ระบบการรักษา เขารับยาเลย แต่ผมยังก่อนเพราะเวลานั้นการที่จะรับยาได้ต้องมีภูมิที่ต่ำกว่า 300 ถึงให้รับยา ความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่ผิดจนมีผลการวิจัยออกมาผู้ที่ตรวจพบเร็วให้รับยาเลย ไม่เกิน 5 ปี เชื้อจะหมดจากร่างกายไม่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต อยู่ต่อมาจนเป็นเวลา 6 ปี แฟนผมก็เริ่มออกลายอีก เขามีอาการทางฮีททีเรีย และชอบดูหนังโป๊ ทำให้มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น และแอบมีชู้จนผมจับได้ โดยหรอกคนอื่นว่าแฟนจะมาหาเดือนละครั้ง และกำลังเลิกกัน อันที่จริงผมไปหาอาทิดย์ละ 3 วัน ต่อสัปดาห์ จัดหนักทุกสัปดาห์ แต่ไม่เพียงพอต่อคนที่เป็น ฮีททีเรีย (ความต้องการที่ไม่สิ้นสุด) จนสุดท้ายเขาทำผิดสัญญาที่ให้ไว้อีกจนได้ สาเหตุ ที่ผมบกร่อง 1.เวลาที่มีไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาต้องการทุกวัน (อันนี้ผมผิด 3 วันคงไม่พอสำหรับเขา) 2.ผมไม่รวย นอกนั้นผมไม่บกพร่องเลย สุดท้ายผมต้องยอมหักด้ามพร้าด้วยเขาแม้จะเจ็บปวดสักเท่าไร และรักจนหมดใจ แต่การทรมาณมันมากมายเกินกว่าจะทนไหว สุดท้ายผมไปเองแบบผู้แพ้
อยู่ต่อมาผมคิดว่ารักแท้ในหมู่เกย์ มันคงไม่มีจริงอีกต่อไป จนครองตัวโสดมาถึง 6 ปี จนความเหงาและเศร้าได้ครอบคลุมทุกอนูของจิตใจมีแต่ความเศร้าหมอง ทุกวันที่ออกมาทำงานก็ร้องให้จนถึงที่ทำงาน เวลากลับก็ร้องให้จนถึงบ้านเป็นอย่างนี้จนถึง 5 ปีเต็ม จนเหงาจนทนต่อไม่ได้ เลยลงประกาศในเวป หาแฟนที่ป่วยเหมือนกันและเข้าใจกันและกัน ผมก็หาจนเจอคนที่เหมือนคนนี้แหละที่ผมจะอยู่ด้วยตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ แต่พอผ่านมาประมาณจะครบ 1 ปี ออกลายอีกเหมือนเดิม ผมไม่เจ้าชู้ก็เจอเจ้าชู้เงียบจนจับได้ ได้แอบไปนอนบ้านคนอื่นมาหลายครั้งไปอยู่กับคนปกติ กรรมจริง พอผมจับได้เลยเรียกมาเคลียปัญหาทั้งหมด และให้เขาเลือกว่าจะไปต่อหรือไม่ ทุกอย่างคลบุมเคลือ แต่สุดท้าย ผมเลือกเอง ผมเลือกที่จะเป็นผู้แพ้อีกตามเคยเพราะความรักและไว้ใจ เลยทำให้เกย์ที่คิดว่ารักแท้มันยังมีอยู่จริงต้องผิดหวังอีกตามเคย แต่ถ้าหากสวรรค์ยังมีตาและคู่แท้ผมยังอยู่ ผมยังอยากที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่รักเราจริง (ความบกพร่องที่เขามีคนอื่น เพราะเวลาที่น้อยเกินไปจนทำให้เขาเหงา นี่ความผิดผม เรื่องอื่นผมไม่เคยบกพร่องเลย) แต่ที่เขาไม่ยอมทิ้งผมเพราะผมดีเกิน จนคิดว่าจะหาคนแบบนี้อีกไม่ได้แต่พอมาถึงทางแยกทุกคนต้องเลือก ผมไม่ใช่ผู้ทำผิดแต่ผมรับกรรมของการกระทำของคนอื่นเสมอ กรรมของคนแบบผมจริงๆ