แชร์ประสบการณ์ บริจาคเลือดครั้งแรกที่ต่างประเทศค่ะ (เนเธอร์แลนด์)

สวัสดีค่ะ วันนี้ไปทำความดีมาเลยอยากเอาประสบการณ์และเกร็ดความรู้มาแชร์ ยาวหน่อยนะคะ

สมัยอยู่เมืองไทยเราบริจาคเลือดประจำค่ะ นี่ก็ได้ 20ครั้งแล้ว แต่ช่วง5ปีหลังมานี่ เราไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วอะค่ะ

ย้ายมาอยู่ต่างประเทศก็เลยลืมคิดเรื่องนี้ไป คราวนี้นึกขึ้นได้ เลยไปลองหาที่บริจาคเลือดที่ประเทศที่เราอยู่ค่ะ

โดยที่ประเทศนี้ การรับบริจาคโลหิตไม่ได้ทำโดย สภากาชาด(Red Cross) แต่เป็นอีกองค์กรนึงที่ชื่อว่า Sanquin ค่ะ

ซึ่งการรับบริจาคเลือดของที่นี่ เริ่มต้นจากการที่คุณต้องมีวีซ่าระยะยาวอยู่ในประเทศ หรืออาศัยอยู่ที่ประเทศนี้ค่ะ

มาเที่ยวหรือมาอยู่ระยะยาว แต่ไม่มีวีซ่าพำนักไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ

ก่อนไปที่สถานบริจาคเลือดครั้งแรกต้องทำการนัดหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูลและเจาะเลือดทดสอบเบื้องต้นค่ะ (อยู่ประเทศนี้ทุกอย่างต้องทำการนัดหมายค่ะ)

ก็จะมีพวกคำถามเจาะลึกเรื่อง สุขภาพ ยา รอยสัก เจาะร่างกาย ตั้งครรภ์ เพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง และโรคติดต่อทั้งหลายเหมือนแบบฟอร์มที่เมืองไทยค่ะ

ข้อแตกต่างก็คือ คำถามเรื่องการออกนอกประเทศ ที่นี่จะถามละเอียดกว่า ว่าออกนอกไปไหนมาบ้าง ในระยะเวลาเท่าไหร่

การพบครั้งแรกจะยังไม่มีการให้เลือดค่ะ เพียงแต่ตรวจสอบ หากไม่มีปัญหาอะไร ภายใน1เดือน เราจะได้รับจดหมายส่งมาที่บ้าน ให้ไปบริจาคเลือดภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์หลังจากได้จดหมาย เราจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ ภายในสองอาทิตย์ อันนี้ไม่ต้องนัดหมาย แต่ต้องไปเวลาที่เค้าเปิดทำการนะคะ

รอจนได้จดหมายมาแล้ว เราก็ไปบริจาคเลือดกันค่ะ


สถานที่รับบริจาคเลือดที่นี่มีอยู่เกือบทุกเมืองค่ะ เดินเข้ามาก็จะเจอแบบนี้


โต๊ะที่ให้กรอกเอกสารและนั่งพักผ่อนอยู่ที่เดียวกันค่ะ แบบสอบถามมีทั้งภาษาดัชท์และภาษาอังกฤษ


พบหมอค่ะ วัดความดัน ตรวจความหนาแน่นเม็ดเลือด สอบถามข้อมูลต่างๆ
ซึ่งที่นี่ใช้หน่วยซึ่งแตกต่างจากเมืองไทยในการวัดค่าความเข้มข้นของเลือดค่ะ ที่นี่ใช้หน่วย mmol/l (มิลลิโมล/ลิตร)
ผู้ชายต้องอยู่ระหว่าง 8.4 -12 ในการบริจาค และสำหรับผู้หญิงระหว่าง 7.8 -11  

โดยที่เมืองไทยและสภากาชาดใช้หลักการตรวจค่าความเข้มข้นเลือดเป็น g/dL (กรัม/เดซิลิตร)
ซึ่งผู้ชายต้องมีมากกว่า 13 และผู้หญิงมากกว่า 12


ตรวจความเข้มข้นเลือดครั้งแรกเราไม่ผ่าน ได้แค่7 เจ้าหน้าที่ลองตรวจให้อีกครั้งได้ 7.8 พอดี คาบเส้น บริจาคได้ค่ะ

สำหรับการบริจาคเลือดที่นี่ ผู้บริจาคต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 65 ปี และมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม

โดยทุกครั้งจะบริจาคเป็นปริมาณ 500 ml ซึ่งปริมาณมากกว่าการจัดเก็บโดยสภากาชาดในเมืองไทยค่ะ
(เราว่าก็มีถุงเล็กสำหรับคนหนักน้อยนะ แต่ที่นี่ถุง500mlเป็นมาตรฐาน)

ผู้หญิงบริจาคได้ 3ครั้งต่อปี และผู้ชายได้ 4ครั้งต่อปีค่ะ


เสาสีดำที่เห็นนี่มีหลอดไฟอยู่ด้านบน ถ้าเลือดไหลออกมาน้อยๆ หรือช้าไป ไฟจะกะพริบเป็นสีแดงและส่งเสียงเตือนค่ะ

ที่นี่มีคนบริจาคพลาสมาเฉยๆเยอะกว่าคนบริจาคเลือดค่ะ บริจาคพลาสมาทำได้ทุกเดือนค่ะ


บริจาคเสร็จได้พวงกุญแจที่ระลึกมาด้วยค่ะ เป็นสัญลักษณ์กรุ๊ปเลือดเรา

เสร็จแล้วก็ออกไปกินขนม ขอซุปถ้วย ชา กาแฟและน้ำผลไม้ต่างๆได้ตามชอบค่ะ ขนมเยอะมากๆที่นี่

ปล. วันนี้เราไปบริจาคโดยที่ร่างกายไม่พร้อม เป็นลมเลยค่ะ ทั้งเวียนหัว ทั้งร้อนเหงื่อออกมากทั้งที่ในห้องกาศเย็น โดนเข็นเข้าห้องหมอ นอนพักอยู่ชั่วโมงนึงถึงได้รับอนุญาติให้กลับบ้านอะค่ะ

ปล.2 ข้อแตกต่างระหว่างกรุ๊ปเลือดกับจำนวนประชากรนะคะ

กรุ๊ปเลือด    O+        A+         B+         AB+         O-         A-         B-        AB-
ไทย        40.8%    16.9%    36.8%     4.97%     0.2%     0.1%     0.2%   0.03%
NL         39.5%    35.0%     6.7%     2.5%        7.5%    7.0%     1.3%   0.5%
*wikipedia

สุดท้าย อยากจะฝากว่า ใครอยู่ต่างประเทศเห็นความสำคัญของการบริจาคเลือดก็ลองหาข้อมูลในประเทศของคุณๆดูนะคะ
เราเชื่อว่าการให้นี้มีต่อชีวิตคนได้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่