[CR] เลห์จริงๆ เหนื่อยวิ้งๆ ลอยตุ๊บๆ (โลกไม่สวย ทริปไม่สวย แต่ Leh สวย)

เลห์สวย เราประทับใจ และเป็นทริปที่สนุกมาก...แต่ถ้าให้ไปอีก คงไม่เอาแล้ว
(ระหว่างทางไป nubra valley) (ถ่ายด้วยกล้องไอโฟนหกค่ะ)

เรามีเวลาจำกัด 5 วัน (เลือกได้อย่าทำตาม)
จันทร์ ถึง ศุกร์ ที่ 2-6 ตุลา 2017
1. ถึงอินเดียเที่ยง - เที่ยวใน new delhi
2. บินไปเลห์ตอนเช้า - นอนกลางวัน - เที่ยวในเลห์ตอนบ่ายถึงเย็น
3. ออกเช้านั่งรถ - Kradungla pass - Nubra valley (hundar) นอนที่ sand dunes
4. ออกเช้าาา - Pangong lake - leh
5. กลับจ้ะ...บินจากเลห์ ดูเวลาดีๆ (เดี๋ยวจะแถลงให้ฟัง, ถ้าออกจากสนามบินเลห์ให้มาก่อนเวลาประมาณ 120 นาที)

ปล. หัวข้อที่หลายคนอยากรู้ (เพราะตอนแรกกลัวมาก) “เหม็นมากมั้ย?”
      ตอบ ไม่เหม็น ซึ่งก็แปลกใจมากเช่นกันค่ะ ขนาดขึ้นรถไฟฟ้าคนแน่นๆ ยังโอเคเลย

ปล2. เงินอินเดียรูปี x0.55 ง่ายๆตลอดทริปก็คือ หาร 2 ค่ะ

ค่าใช้จ่าย - ไม่รวมค่าเครื่องบินและช็อปปิ้ง
    ค่าที่พัก + ค่าเดินทาง + ค่ากิน = 5-6พันบาท
    (พักปานกลาง, เดินทางตามปกติ, กิน สั่งทุกอย่างที่ขวางหน้า)

สิ่งที่เลห์มี

- วิว ที่ถ่ายรูปยังงัยก็สวย เพราะฟ้ามันฟ้าจริงๆ ภูเขาสีน้ำตาล วิวโล่งๆ แค่หยิบมือถือออกมาถ่าย ก็สวยแล้ว
- ฝุ่น ... เลห์มีฝุ่น เยอะด้วย ใครเป็นภูมิแพ้ mask ปิดปาก สำคัญมาก
- คนน่ารัก (มั้งนะ)
- กาแฟ อยู่ในเขาก็จริง แต่กาแฟอร่อยหากินได้
- อาหาร... ก็ถือว่ามีกินได้อ่ะ (ในตัวเมืองเลห์นะ)
- ที่เสียตังค์ ... คุณเอ๋ยยยยย เสียค่าทริปไป 5-6พัน แต่เสียไปกับผ้าแคชเมียร์ และ himalaya bauty thingsss เป็นหมื่นๆค่ะ (อย่าคิดพึ่งบัตรเครดิตนะ บางทีก็รูดไม่ได้ ถ้าไม่มีสัญญาณ)
- มีแดดร้อน และ มีหิมะ
- อันนี้ประทับใจมาก คือ ตลอดทางจะมีป้ายจาก BRO ติดอยู่ตลอดทาง พวกเราก็ออกเสียงกัน โย่ว! โบรรร! 5555555 จนรู้ความหมายว่าคือ  "Border Roads Organisation" ประมาณกรมการทางชนบทบ้านเรา เค้าจะติดป้ายคำคม เตือนสติการขับรถตลอดทางค่ะ copy writer คูลมากกก นี่ถ้าไม่ติดว่าเมารถอยู่จะถ่ายมาให้ครบทุกป้ายเลย (ใครกำลังจะไป ฝากถ่ายมาด้วยนะคะ >< )
       ตัวอย่างที่ประทับใจ เท่าที่จำได้
       "Drive SafeTy to have Safe Tea at home"
       "Life is like a photograph, you need negative to develop"
       "Drive slow today, arrive soon. Drive fast, never alive"

สิ่งที่เลห์ไม่มี

- ออกซิเจน 555555 คือ มี แต่น้อย เพราะฉะนั้นกิน diamox เข้าไปเหอะ อย่าดื้อเลย เรื่องความสูง altitude sickness ไม่ใช่เล่นๆ (ออกซิเจนกระป๋องมีขาย กระป๋องละประมาณ 650 รูปี)
- ความเจริญอาหาร (appetizer) ... แกรรรร คือเข้าใจป่ะ ว่ามันมีของกินเว้ย แต่ความอยากอาหารจะลดลงไปเรื่อยๆๆๆๆ
- สัญญาณโทรศัพท์ ... ซื้อซิม หรือ เปิดเน็ตไป บายยยยย ไม่มีจ้ะ (นี่ไปเจอวันที่สายสัญญาณโดนตัดซัมธิงด้วย,, ทำให้ขนาดที่พักยังไม่มี wifi)

ความสูง สูงจริงๆค่ะทริปนี้
(คิดว่าเลห์น่าจะเป็นส่วนนึงของ Plateau of Tibet)
เตยเคยไปแชงกรีลา ยอดเขาจุงเฟรา >> เด็กๆไปเลย
กรุงเทพ อยู่ระดับน้ำทะเล (ค่ะ บ้านเราน้ำท่วม)
แชงกรีลา สูง 3,160 เมตรเหนือน้ำทะเล
ยอดเขาจุงเฟรา ในสวิส (ยอดเขาที่สูงสุดในยุโรป) สูง 4,157 เมตร

- เลห์ สูง 3,500 เมตร (อันนี้คือตัวเมือง base ของพวกเรา)
- Kradungla pass สูง 5,359 เมตร
- Nubra Valley สูง 3,048 เมตร
- Pangong lake สูง 4,350 เมตร

เพราะฉะนั้นเตยว่ากิน diamox เตรียมไว้เลยก็ดีค่ะ
(ตอนแรกเพื่อนๆไม่กินค่ะจะลองดู แต่ก็ไม่ไหวค่ะ ตุ๊บๆ วิ้งๆ เหมือนเมารถขั้นรุนแรงตลอดเวลา เหนื่อยง่ายมาก นอนพักแล้วก็ไม่ค่อยช่วย)

.............start…………..

เริ่มทริปด้วยการที่เพื่อนคนนึงโทรมาชวนก่อนทริปประมาณ 2 สัปดาห์!!!
แล้วเราก็ใช้เวลารวบรวมคนอย่างรวดเร็วภายใน 2 วัน ได้ถึง 5 คน (ซึ่งประหลาดใจมาก) (เพื่อนที่น่ารัก ให้เหตุผลว่าตั้งแต่เรียนจบมาหลายปียังไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันอีกเลย คิดถึง <3 และเพื่อนอีกคน ก็ตกลงทั้งที่ยังเข้าใจว่า “เล” คือ ชื่อเกาะๆหนึ่งทางใต้ 555555)

Condition ของทริปนี้ คือ เตย (จขกท.) ไปเที่ยวได้แค่ จันทร์ - ศุกร์ เพราะต้องกลับมาทำงานเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเพื่อนๆที่น่ารัก ก็ตกลง <3

ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด และ เวลาที่ฟิกซ์มาก ทำให้จองค่าเครื่องบินได้ค่อนข้างแพง (เมื่อเทียบกับกระทู้อื่นๆ) (19,950 บาท)
แต่เวลาบินค่อนข้างดีมากๆเลยทีเดียวค่ะ

“Air india” ทุกไฟลท์ค่ะ ต่อเครื่อง transit transfer ง่ายดี
(ซึ่งถ้าใครได้ไปแล้วเจอระบบ security check ขออินเดียวแล้วคงเห็นด้วยว่าขอยังงัยก็ได้ ให้มันง่ายและเร็วที่สุดได้มั้ย เดี๋ยวตกเครื่อง)

ออกจากสุวรรณภูมิ ตอนประมาณ 8 โมงเช้าวันจันทร์
ถึง New Delhi ประมาณเที่ยง
เช้าวันรุ่งขึ้น ออกจาก เดลี ประมาณ 6 โมงเช้า
ถึง เลห์ 7-8 โมง
ขากลับ ออกจากเลห์ ไฟลท์ 11 โมง แล้วก็เปลี่ยนเครื่องที่ new delhi ถึง สุวรรรภูมิ ประมาณหนึ่งทุ่มค่ะ

: : วันแรก :  วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2017 : :

แลนด์ดิ้งที่สนามบิน Indhira Gandhi - New Delhi Airport ตอน 11.30 น. (ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการครึ่งชั่วโมง)

แล้วเราก็ลั้นลา ลงจากเครื่องแวะเข้าห้องน้ำ ต่อคิวตามปกติ และก็โดนแซงคิวเรื่อย ตามปกติอินเดียยยย =_=

เดินตามทางกันไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังจุด ตม. (พวกเราทำ e-Visa กันมาค่ะ)
การทำ วีซ่าอินเดียนั้น ง่ายมากค่ะ เข้าไปทำ online ในเว็บได้เลย ใช้เวลาแค่ 2-3 วัน ก็ได้วีซ่ามาครอบครองไว้ในมือ...อย่าลืมปริ้นท์ออกมานะคะ หลังจากที่ได้วีซ่า จะได้อีเมลตอบกลับมา เอารหัสที่ได้เข้าไปในเว็บเพื่อปริ้นเอกสารวีซ่าออกมาค่ะ...เพราะวีซ่านี้ ต้องใช้ตั้งแต่ตอนเช็คอินที่สุวรรณภูมิเลย (เตยลืมปริ้นมาค่ะ 55555 ก็เลยปริ้นที่สุวรรณภูมิ ใกล้เคาน์เตอร์ โดนไปหน้าละ 10 บาทค่ะ)

มาต่อกันที่ ตม. สนามบิน New Delhi ค่ะ
คู้ณณณณณณผู้ชมคะ!!! พวกเราต่อแถวรอตม. อยู่ 90 นาทีค่ะ … บร้าาาาาไปแล้ววววว
ไม่รู้จะเรียกว่าความโชคร้าย หรือ ความโง่ เพราะแถวที่ต่อ พนักงงานตม.เหลือแค่ 2 คน และหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง คนนึงก็ลุกหายยยยไป!!!
และหนึ่งคนที่เหลือนั้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ต่อ หนึ่งคน!
นาทีที่ 75 คุณป้าต่างชาติหน้าแขกที่เข้าแถวอยู่หลังพวกเราเริ่มโวยวายค่ะ
“ทำไมมันช้าอย่างงี้ นี่ชั้นไม่ไหวแล้วนะ … แล้วทำไมพนักงานช่องชั้นเหลือคนเดียว...ระบบแย่มากๆ...บลาๆๆ”
ทีนี้คุณพี่ตม.ช่องข้างๆเริ่มไม่อยู่เฉยค่ะ กวักมือเรียกป้าไปเลย (อูยยยย...นึกว่าเอาแล้ววว ตม.หน้าโหดมากด้วย ป้าแกจะโดนอะไรมั้ยเนี่ย)
ปรากฎว่า...พี่ตม. แกเรียกป้าให้แซงคิวไปทำก่อนเลย!!
เราและฝรั่งทั้งหลายที่โดนแซงคิวได้แต่ตะโกนออกมาพร้อมกัน “Shit! this is unfair!!!!” แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ากันไป

หลังจากผ่านตม.กันมาได้ก็มารับกระเป๋าค่ะ แอบใจตุ้มๆต่อมๆกันว่า เกือบ 2 ชั่วโมงนี้ กระเป๋าเราจะยังอยู่กันดีมั้ย...แล้วก็ยังอยู่ดีค่ะ มีคนยกลงมาจากสายพานเรียงไว้ให้อย่างดี ตอนที่ไปถึงยังมีกระเป่าวางอยู่กว่า 20-30 ใบ (แสดงว่ายังมีคนที่โดนช้ากว่าเราอยู่อีก TT)

ออกมาที่หน้าสนามบินค่ะ (พวกเราจองโรงแรมคืนแรกกันเอาไว้ที่ “IBIS airport” ค่ะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีจากสนามบิน)
(พวกเราเอากระเป่าลากใบใหญ่กันทุกคนค่ะ)
ต้องนั้งแท็กซี่ไปที่โรงแรม เพื่อนให้เตยเป็นคนไปต่อราคาแท็กซี่ค่ะ (ซึ่ง mission fail ค่ะ 555555 )

แท็กซี่บอกว่า “พวกยูกระเป๋าใหญ่ ต้องใช้คันนี้”
เราถาม   “เท่าไหร่?”
แท็กซี่    “ 1,000 rp”
….เห้ยยย เราอ่านมากระทู้อื่นเข้าบอกว่า 500-600 ได้
เรา        “600 รูปีละกัน”
แท็กซี่    “ 900”
เรา        “ 800 deal”
แท็กซี่…ส่ายหน้าค่ะ....แล้วก็บอกว่า “โอเคๆ ตามมา”
…ยัง…ยังไม่จบค่ะ
เดินมาถึงรถฮี ฮีพยักหน้าให้เด็กมายกกระเป๋าพวกเราขึ้นรถค่ะ
…และก็โดนบังคับให้ทิปไปอีก 50 rp.
พอขึ้นไปนั่งบนรถ ก็มีคนโผล่หน้าเข้ามา เก็บ 800 rp ไปค่ะ และบอกว่า
“จ่ายที่ไอ 800 รู และยูต้องจ่ายให้คนขับอีก 100 rp ต่างหากนะ”

OH SHIT! แพ้พ่ายอย่างงงงงสมบูรณ์แบบกันปายยยยย (ในใจนี่กลัวมาก จะไม่จ่ายก็กลัวโดนพาไปไหนก็ไม่รู้)

แม่จ๋า!!!! ทริปอินเดียนี้หนูจะรอดมั้ยเนี่ย!!!
ชื่อสินค้า:   Leh Ladakh, Delhi, India, Traveling, Backpack
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่