จากความวุ่นวายส่วนตัวที่ต้องไปยื่นวีซ่าถึงสี่รอบ
ขนาดว่าเตรียมเอกสารตามหน้าเว็บหลักครบถ้วน
แต่สุดท้าย โดนให้มาเอาเอกสารเพิ่ม 2 อย่าง
เพราะบริษัททำงานเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์
รอบแรกเราคิดว่าตัวเองเตรียมตัวดีมาก
อ่านรายละเอียดตั่งต่างจากทางเว็บแทบทุกตัวอักษร
แต่สุดท้ายโดนไล่กลับมาขอใบรับรองการทำงาน
รอบสองได้ใบรับรองการทำงานมาเรียบร้อย
แต่กว่าเอชอาร์จะเอาเอกสาร
ที่เราขอล่วงหน้าเป็นอาทิตย์มาให้
ก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงแล้ว คิวเป็นร้อย
เลยต้องยอมถอยทัพอย่างเลี่ยงไม่ได้
รอบที่สามคิดว่า ...เออ รอบนี้แหละ จบสิ้น
แต่พอไปถึงกลับพบว่าใบรับรองการทำงานที่ได้มา
ขาดคีย์เวิร์ดสำคัญไปสองประโยค (แง)
ต้องรีบนั่งพี่วินกลับไปบริษัท
ยังดีที่บริษัทเราอยู่ใกล้ๆ ที่ยื่นวีซ่า ไม่งั้นล่ะ...
นั่งจี้เอชอาร์ให้แก้เอกสารให้หน่อย
จนได้กลับไปเป็นรอบที่สี่ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
เหนื่อยมากถึงมากที่สุดเลยค่า
อะ บ่นเสร็จแล้ว
สำหรับใครที่ทำงานด้านสื่อเหมือนกัน
ไม่ว่าจะสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ต่างๆ
ถ้าชื่อบริษัทไม่ได้โจ่งแจ้งมากก็แล้วไป
แต่ถ้าบริษัทไหนชื่อเขียนว่า Publications เหมือนเรา
คอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่ายังไงก็ไม่ผ่าน
ต้องกลับมาเตรียมเอกสารเพิ่มเติมแน่นอน
ปกติเอกสารที่คนทั่วไปใช้ขอวีซ่าจีนมี 5 อย่าง
1. แบบฟอร์มขอวีซ่าจากเว็บไซต์
http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/bgxz/
กรอกทุกช่องที่มีให้กรอกนะคะ อันไหนจะไม่ตอบ
ให้เขียนลงไปว่า N/A (ตามที่เขาเขียนไว้เลย)
2. พาสปอร์ตและสำเนา 1 ชุด
กรณีที่เคยทำวีซ่าจีนมาแล้ว
ให้ถ่ายเอกสารหน้านั้นไปด้วยนะคะ
3. ตั๋วเครื่องบิน
4. ใบจองโรงแรม
5. รูปขนาด 48x33 มม. จำนวน 2 ใบ
ต้องเป็นพื้นหลังขาว ถ่ายเห็นหู
และห้ามใส่เสื้อสีขาวกลืนกับพื้นหลังค่ะ
ส่วนเอกสารเพิ่มเติมสำหรับคนที่ทำงานสื่อคือ
1. ใบรับรองการทำงาน
อันนี้บอกกับเอชอาร์ของแต่ละบริษัทได้เลย
ว่าขอใบรับรองงานเป็นภาษาอังกฤษไปจีน
ต้องมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
- ประเทศที่ไป เมืองที่ไป
- ระยะเวลาที่ไป
- เงินเดือน
- *คีย์เวิร์ดว่าไปเพื่อท่องเที่ยว ไม่ได้ไปทำงาน
ตัว * นี่สำคัญมากค่ะ รอบที่สามเราขาดสิ่งนี้แล
เราใช้เป็นคำว่า ...not going to do any media work
2. ใบรับรองตัวเอง
อันนี้พิมพ์เอาเองได้เลยง่ายๆ (เป็นภาษาอังกฤษ)
แต่ขอให้มีรายละเอียดครบถ้วน ดังนี้
- วันที่เขียน
- จ่าหน้าถึงสถานทูตจีน
- ระบุเมืองที่ไป
- ระยะเวลาที่ไป
- *คีย์เวิร์ดสำคัญแบบเดียวกับ 1.
ว่าเราไปเที่ยวส่วนตัวเฉยๆ ไม่ได้ไปทำงาน
เตรียมทุกอย่างได้ครบตามนี้
และพยายามไปยื่นให้ทันก่อนสิบโมง
ก็จะไม่ต้องวุ่นวายและปวดหัวเหมือนกับเราค่ะ
เรายื่นเป็นแบบปกตินะคะ
เป็นวีซ่าท่องเที่ยว (เข้าครั้งเดียว) อยู่ได้ 7 วัน
ราคาเบ็ดเสร็จแล้ว 1,500 บาท
จ่ายวันที่มารับวีซ่าเลย ไม่ใช่วันยื่น
ใช้ระยะเวลาทำประมาณ 4 วันทำการ
ไม่นับวันหยุดต่างๆ นะคะ เช็กให้ดีก่อน
สถานที่ยื่นอยู่ที่อาคารธนภูมิ
แถวสถานี MRT เพชรบุรี (ออกประตู 2)
รับยื่นวีซ่าแบบปกติตั้งแต่ 09:00-15:00 น.
แต่ถ้าอยากทำแบบด่วนต้องไปก่อน 11 โมงค่ะ
...หรือถ้าใครอยากจะทำง่ายกว่านั้น
แนะนำทำผ่านเอเจนซี่ได้เลยค่ะ สะดวกมาก
ไม่ต้องวุ่นวายเตรียมนู่นเตรียมนี่เหมือนกับเรา
เสียเพิ่มอีกนิดนึงเพื่อชีวิตที่สบายกว่า (ฮ่า)
[CR] อัปเดตการขอวีซ่าจีน (ตุลาคม 2560) สำหรับคนที่ทำงานด้านสื่อสารมวลชน
จากความวุ่นวายส่วนตัวที่ต้องไปยื่นวีซ่าถึงสี่รอบ
ขนาดว่าเตรียมเอกสารตามหน้าเว็บหลักครบถ้วน
แต่สุดท้าย โดนให้มาเอาเอกสารเพิ่ม 2 อย่าง
เพราะบริษัททำงานเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์
รอบแรกเราคิดว่าตัวเองเตรียมตัวดีมาก
อ่านรายละเอียดตั่งต่างจากทางเว็บแทบทุกตัวอักษร
แต่สุดท้ายโดนไล่กลับมาขอใบรับรองการทำงาน
รอบสองได้ใบรับรองการทำงานมาเรียบร้อย
แต่กว่าเอชอาร์จะเอาเอกสาร
ที่เราขอล่วงหน้าเป็นอาทิตย์มาให้
ก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงแล้ว คิวเป็นร้อย
เลยต้องยอมถอยทัพอย่างเลี่ยงไม่ได้
รอบที่สามคิดว่า ...เออ รอบนี้แหละ จบสิ้น
แต่พอไปถึงกลับพบว่าใบรับรองการทำงานที่ได้มา
ขาดคีย์เวิร์ดสำคัญไปสองประโยค (แง)
ต้องรีบนั่งพี่วินกลับไปบริษัท
ยังดีที่บริษัทเราอยู่ใกล้ๆ ที่ยื่นวีซ่า ไม่งั้นล่ะ...
นั่งจี้เอชอาร์ให้แก้เอกสารให้หน่อย
จนได้กลับไปเป็นรอบที่สี่ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
เหนื่อยมากถึงมากที่สุดเลยค่า
อะ บ่นเสร็จแล้ว
สำหรับใครที่ทำงานด้านสื่อเหมือนกัน
ไม่ว่าจะสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ต่างๆ
ถ้าชื่อบริษัทไม่ได้โจ่งแจ้งมากก็แล้วไป
แต่ถ้าบริษัทไหนชื่อเขียนว่า Publications เหมือนเรา
คอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่ายังไงก็ไม่ผ่าน
ต้องกลับมาเตรียมเอกสารเพิ่มเติมแน่นอน
ปกติเอกสารที่คนทั่วไปใช้ขอวีซ่าจีนมี 5 อย่าง
1. แบบฟอร์มขอวีซ่าจากเว็บไซต์
http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/bgxz/
กรอกทุกช่องที่มีให้กรอกนะคะ อันไหนจะไม่ตอบ
ให้เขียนลงไปว่า N/A (ตามที่เขาเขียนไว้เลย)
2. พาสปอร์ตและสำเนา 1 ชุด
กรณีที่เคยทำวีซ่าจีนมาแล้ว
ให้ถ่ายเอกสารหน้านั้นไปด้วยนะคะ
3. ตั๋วเครื่องบิน
4. ใบจองโรงแรม
5. รูปขนาด 48x33 มม. จำนวน 2 ใบ
ต้องเป็นพื้นหลังขาว ถ่ายเห็นหู
และห้ามใส่เสื้อสีขาวกลืนกับพื้นหลังค่ะ
ส่วนเอกสารเพิ่มเติมสำหรับคนที่ทำงานสื่อคือ
1. ใบรับรองการทำงาน
อันนี้บอกกับเอชอาร์ของแต่ละบริษัทได้เลย
ว่าขอใบรับรองงานเป็นภาษาอังกฤษไปจีน
ต้องมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
- ประเทศที่ไป เมืองที่ไป
- ระยะเวลาที่ไป
- เงินเดือน
- *คีย์เวิร์ดว่าไปเพื่อท่องเที่ยว ไม่ได้ไปทำงาน
ตัว * นี่สำคัญมากค่ะ รอบที่สามเราขาดสิ่งนี้แล
เราใช้เป็นคำว่า ...not going to do any media work
2. ใบรับรองตัวเอง
อันนี้พิมพ์เอาเองได้เลยง่ายๆ (เป็นภาษาอังกฤษ)
แต่ขอให้มีรายละเอียดครบถ้วน ดังนี้
- วันที่เขียน
- จ่าหน้าถึงสถานทูตจีน
- ระบุเมืองที่ไป
- ระยะเวลาที่ไป
- *คีย์เวิร์ดสำคัญแบบเดียวกับ 1.
ว่าเราไปเที่ยวส่วนตัวเฉยๆ ไม่ได้ไปทำงาน
เตรียมทุกอย่างได้ครบตามนี้
และพยายามไปยื่นให้ทันก่อนสิบโมง
ก็จะไม่ต้องวุ่นวายและปวดหัวเหมือนกับเราค่ะ
เรายื่นเป็นแบบปกตินะคะ
เป็นวีซ่าท่องเที่ยว (เข้าครั้งเดียว) อยู่ได้ 7 วัน
ราคาเบ็ดเสร็จแล้ว 1,500 บาท
จ่ายวันที่มารับวีซ่าเลย ไม่ใช่วันยื่น
ใช้ระยะเวลาทำประมาณ 4 วันทำการ
ไม่นับวันหยุดต่างๆ นะคะ เช็กให้ดีก่อน
สถานที่ยื่นอยู่ที่อาคารธนภูมิ
แถวสถานี MRT เพชรบุรี (ออกประตู 2)
รับยื่นวีซ่าแบบปกติตั้งแต่ 09:00-15:00 น.
แต่ถ้าอยากทำแบบด่วนต้องไปก่อน 11 โมงค่ะ
...หรือถ้าใครอยากจะทำง่ายกว่านั้น
แนะนำทำผ่านเอเจนซี่ได้เลยค่ะ สะดวกมาก
ไม่ต้องวุ่นวายเตรียมนู่นเตรียมนี่เหมือนกับเรา
เสียเพิ่มอีกนิดนึงเพื่อชีวิตที่สบายกว่า (ฮ่า)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น