แพลนไกด์เที่ยวมาดีแค่ไหน ก็ยังตกเครื่อง(ครั้งแรก)ที่โอซาก้าาาาาาา

สวัสดีครับ หลังจากเหตุการณ์ตกเครื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(09.10.17) ก็มีพี่น้องให้ความสนใจมากมาย(ในเพจกลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น) ถึงเหตุการณ์ว่า ตกได้ยังงัย ทำมัยไปไม่ทัน วางแผนการเดินทางยังงัย แล้วหลังจากตกเครื่องเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ผมจะมาแชร์ภาพ(จากกล้องผมซะส่วนใหญ่) และประสบการณ์ของทริปนี้นะครับ มาเริ่มกันเลย!!! ปล. คำไหนสะกดผิดขออภัย อ่านแล้วงงๆ สงสัยตรงไหนถามได้ครับ ผมเขียนเอง งง เอง เหมือนกัน ไม่เก่งเรียงความ 5555 ปล. จะทำยังงัยให้ไม่ลายตาและน่าอ่าน คอมเมนต์ได้ครับ

Day1  05.10.17 (โอยะสุมิคันไซ)
    วันแรกของการเดินทาง โดยผมไปขึ้นเครื่องบินสายการบิน AirAsiaX เที่ยวบิน XJ 610 ไฟลท์ 14.15 และมาลงที่สนามบิน คันไซ เวลา(JP) 22.00 ครับ โดยทริปนี้ประกอบไปด้วย ตัวผม น้องสาว น้า และหลานครับ ทั้งหมด 4 ชีวิต โดย จองตั๋วไว้ตั้งแต่ กุมภา 17 โดยงานนี้น้องสาวเป็นแม่งานครับ แล้วทีนี้น้องสาว ได้ซื้อตั๋ว Kansai Thru Pass ไว้สามใบ โดยที่ไม่มีของผม เพราะคิดว่าผมคงซื้อเอง

      ทีนี้ความพีคแรกอยู่ตรงแพลน ซึ่งน้องจองที่พักที่คิโนซากิไว้ เพื่อจะไปแช่ออนเซน แต่....น้องสาวผมคิดว่า พาสนี้ ใช้ได้ทุกหนแห่งทั่วคันไซทั้งซับเวย์และบัส ยกเว้นรถไฟ JR ซึ่งก็เกือบถูกครับ ถ้าอยู่แค่ในโอซาก้าก็ยังเลี่ยงๆใช้แค่ KTP ได้แต่ถ้าข้ามจังหวัดแล้ว ยังงัยก็ไม่พ้น JR และถ้าจะไป คิโนซากิเนี่ยยังงัยก็ต้องใช้ Kansai Wide Area Pass  อยู่ดี เพราะราคาตั๋วไปกลับก็ 8000+ Yen ต่อคนละครับ (ตั้งกระทู้ถามคนในนี้มา 555) ซึ่งทีนี้ ตัวผมเลยซื้อ Kansai Wide Area Pass ซึ่งใช้ของสาย JR ได้และยังนั่ง ชินคันเซนได้อีก(ได้สายนึงจากชินโอซาก้าไปโอกายาม่า)  โดยการจองผ่าน App KLOOK โดยผม คิดว่าต้องไปรับที่ JR office ที่สนามบิน ซึ่งมันปิด 5 ทุ่ม โดยไฟลท์ผมเนี่ยลง 4 ทุ่มซึ่งก็ลุ้นพอสมควรว่าจะทันมั้ย สรุปว่าทันครับ วิ่งผ่าน ตม โดยสปีคอิงลิชรัวๆใส่ไป แล้วก็บอกว่าผมรีบต้องไปแลกพาสเค้าก็รีบๆทำให้ ผมก็วิ่งรัวๆไป T2 เพื่อไป JR office ชั้น 2 ปรากฏว่า ไม่ใช่จ้า ต้องไปรับที่เคาท์เตอร์ HIS ที่ T1 ชั้น 1 ซึ่งปิด 4ทุ่ม อ้าวแล้วววววววว สรุปแลกตั๋วไม่ทัน แต่อีก 3คนมี KTP ซึ่งนั่งรถไฟไปลงนัมบะได้เลย ตัวผมตัดสินใจว่าจะนอนสนามบินเพื่อรอแลกตั๋วครับ(ไม่อยากเสียตังและเวลาไปๆกลับๆ) ก็เลยไปนอนเล้าจ์ที่สนามบินครับ
ปล.(แก้ไขข้อมูลครับ KTP ทั้งสามใบที่น้องซื้อมาเป็นแบบ 3days วันแรกที่ไปจ่ายกันเองครับไปลงนัมบะ)
DAY2 06.10.17 (It rainy day)

       หลังจากนอนเล้าจ์ได้สองชั่วโมงนั้น(ใช้บัตร JCB นอนได้แค่นั้น ที่เหลือออกมานั่งๆนอนๆข้างนอกเล่นเกมส์ ROV กับคนญี่ปุ่นไปครับ)ตื่นเช้ามาผมก็ไปรอที่เคาท์เตอร์ HIS  ซึ่งเปิด 8.30 พอเคาท์เตอร์เปิด ก็รีบไปแลกแล้วรีบนั่งรถไฟ JR ไปรวมกลุ่มกันที่สถานีนัมบะ เพราะที่พักอยู่แถวนัมบะครับ(อยากจะรีวิวที่พักแต่ไม่ได้ถ่ายมาเลย) โดยแพลน วันแรกจะไป มีดังนี้
วัดเทนโนจิ (ไกลสุดจากแพลน)
หอคอยซึเทงคาคุ (เดินขึ้นมาจากวัดได้)
ตลาดคุโรมง (นั่งซับเวย์ขึ้นมาไม่กี่สถานี)
นับบะวอล์ค (ทางผ่านไปขึ้นสถานี)
อุเมดะสกายบิวดิ้ง(ขึ้นต่อไปไม่กี่สถานี)
ปราสาทโอซาก้า (ซิกเนเจอร์ที่ต้องไป)
หมู่บ้านอเมริกา (กลับมาแวะก่อนไปโดทง)
โดทงบุริ /ซินไชบาชิ (กลับมาไกล้ชอปไกล้บ้าน)
โดยเป็นการไล่จากสถานที่เที่ยวจากตอนใต้ขึ้นมาบนซึ่งจะได้ไม่ต้องนั่งรถวนไปวนมาครับ (ตามที่คิดไว้นะครับ)

      จุดพีคของวันนี้คือ เช้ามาฝนตกพรำๆครับ พรำแบบเดินตากฝนสัก 10 นาทีก็จะรู้สึกเสื้อเปียก ถ้าน้อยกว่านั้นพอลุยไหว โดยที่ผมนั่งรถไฟซึ่งตอนแรกจะไปลงนัมบะ แต่น้องๆได้ออกมาวัดกันแล้ว ทำให้ผมต้องลงสถานี เทนโนจิ เพื่อจะไปรวมกลุ่มกันก่อน ซึ่งต้องแบกกระเป๋ากล้อง(เป้สะพายหลัง) กับ กระเป๋าเดินทาง 24 นิ้วไปด้วยตลอดทั้งทริป แต่เนื่องด้วย ความงงๆและใจลอยกับบรรยากาศรอบๆ ผมดันเดินเลยมาถึงหอคอย ซึเทงคาคุเลย 5555 ก็เลยต้องนัดกันที่หอคอยแทน ซึ่งขณะนั้นก็ล่วงเลยมาเป็นเวลา 10.30 แล้วครับ(แพลนจิงๆที่จะมาหอคอยคือ 9.30) หลังจากเจอกันที่หอคอยก็แวะเข้าไปชมหอคอยซะหน่อย ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่าที่คิด(เจอทัวร์นักเรียนกับทัวร์ผู้บริหารรึอย่างไร คนแก่ใส่สูทผูกไทด์มากัน 7-8คน) เสียเวลาต่อคิวนานอยู่ ข้างบนเท่าที่ดูแล้วไม่มีไรมากครับ เน้นไปเกี่ยวกับ บิลลิเคนซะส่วนใหญ่ครับ แล้วก็มีวิวให้ชมกันนิดหน่อย แต่กว่าจะลงมาก็ 11.30 แล้ว

     ซึ่งสถานที่ต่อไปคือตลาดคุโรมง แต่ก็ต้องตัดออกไปเพราะฝนตกหนักขึ้นและอยากไปจะไปกินโอโคโนมิยากิที่ Umeda Sky Building และแวะไปถ่ายรูป ก็เลยต้องตัดนัมบะวอล์คไปด้วยเลย(ยังงัยเด่วค่อยเดินผ่านทีหลัง) ซึ่งมุ่งหน้าไปยังอุเมดะเลย ปรากฏว่าฝนและลมเริ่มหนักกว่าเดิม เลยทำให้ไม่ได้ถ่ายรูปที่อุเมดะ แต่ก็ไปกินโอโคโนมิยากิมาครับ ถือว่าเป้าหมายสำเร็จ

      สถานที่ต่อไปคือปราสาทโอซาก้าครับ โดยกลุ่มเราคันไซแก๊งเตอร์(ตั้งขึ้นมาเอง) ลุยฝนเดินตัวเปียก คสอ หลุด กันไปตัวผมยังคงสะพายเป้และกระเป๋าเดินทางมาด้วย เพื่อไปชมความงามของ ปราสาทโอซาก้า(จุดนี้ผมรีเควสเอง จิงๆผมก็เป็นคนทำไกด์ทั้งหมดเองอยู่แล้วนะ 5555 แค่เอามาเสนอ แลนด์มาร์คไหนไม่เวิร์คก็ตัดออกเพื่อความคล่องตัว) ซึ่งตอนนี้ก็ปาไป 15.00 แล้ว จุดนี้เราได้ถ่ายรูปและ เดินเล่นหาของกินกันและนั่งพักกันอยู่นานจน 17.00 จึงออกเดินทางต่อ เพื่อจะไปทานข้าวเย็นที่ โดทงบุริ โดยแพลนว่าจะไปกินบุฟเฟต์ปูสักที่นึงในย่านนี้ พอลงรถไฟที่สถานีนัมบะแล้วก็ไปฝากของสัมภาระต่างไว้ที่ลอคเกอร์(ไม่ฝากตั้งแต่อยู่อุเมดะละเนี่ย) ซึ่งพอไปถึงร้านดัง คิวยาวแน่นมาก จึงไปกินร้านสำรองที่แพลนไว้ รสชาติกลางๆทั่วไป ไลน์อาหารมีน้อย เน้นปูมากกว่า แต่ก็แพงอยู่ครับ หมดไป เกือบ 25,000 yen สำหรับสี่คน หลังจากกินเสร็จแล้วก็ไปเดินชอปปิ้งกันครับ ตั้งแต่โดทงบุริ ไปจนชินไซบาชิ เลย จากนั้นก็กลับมาเอาของจากลอคเกอร์ที่นัมบะแล้วเดินกลับบ้านนน พักผ่อน อ่อ ฝนหยุดตอนทานปูเสร็จ แต่มาตกพรำๆอีกตอนเดินกลับบ้าน ซึ่งเดินแบกของมากมายตากฝน มาทั้งวัน เลยจัดน้ำวิตตามินกับ ยาพาราไปสักเม็ดดักไว้ก่อนครับ

โปรแกรมวันนี้ก็จบเท่านี้ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ ขอทำงานแปปครับ โดนเร่งมาแล้ว 555
ปล. แก้ไขข้อมูลเพิ่มครับ วันนี้ตอนที่ไปลงสถานีนับะช่วงเย็น ทั้งสามคนก็ตัดสินใจไปซื้อ Kansai Wide Area Pass ครับ เพราะมีบางจุดที่ต้องต่อสาย JR เพื่อความสะดวกและยังสามารถใช้ไป Kinosaki onsen ได้ด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่