ฉันเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเจอแต่เรื่องอัปปรีย์

กระทู้สนทนา
สำหรับเรื่องโรคๆนึงที่แค่ชื่อคนก็ไม่ค่อยเชื่อกันแล้ว ชอบบอกว่าเรียกร้องความสนใจมั่ง ส่วนคนที่เขาเป็นกันจริงจัง คนที่เขาต้องได้รับการเยียวยาทางจิตใจ คนที่เขาต้องคอยปรับกับความรู้สึกตัวเอง และโรคๆนี้ไม่มีใครอยากเป็น รวมถึงตัวกรีนเองด้วย ต้องขอเท้าความก่อนเลยน่ะค้ะว่าเราเจออะไรร้ายๆมาบ้าง

**ชีวิตวัยเด็กของเราตอนแรกเราคิดว่ามันแย่มากเลยน่ะ แต่พอเริ่มโตขึ้นเราก็เพิ่งจะรู้ว่าบนโลกนี้มีคนอีกหลายคนที่น่าสงสารมากกว่า เราเป็นลูกคนแรกของป๊ากับแม่ แม่เลิกกับป๊าไปตั้งแต่เราเกิดได้7เดือน เราเลยได้อยู่กับป๊าโดยที่ย่าเป็นคนเลี้ยง เราดูดเต้านมคนแก่คนนึงที่ไม่มีน้ำนมออกมาหรอก (ย่าจะเล่าให้ฟังบ่อยๆ) เราโตมาได้เพราะผู้หญิงคนนี้แหล่ะค้ะ ส่วนแม่ย่าบอกโทรมานัดเจอ พอไปหาแล้วไม่มา ย่าบอกเขาก็เป็นแบบนี้ประจำ รู้ว่าเราเรียนอนุบาลที่ไหนแต่ไม่เคยไปหา จนเราย้ายโรงเรียนมาเรียนที่ต่างจังหวัด แล้วแม่ก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย เราเริ่มจำความได้ตอนนั้นเราอยู่อนุบาล2 เราจะโดนปู่เราลวมลามตลอดทุกครั้งที่ย่าเผลอ หรือย่าไม่อยู่ เราจะโดนทั้งจับอวัยวะเพศ โดนเลียตรงนั้น ปู่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองโดยการชัก ..ว (เข้าใจน่ะ)ไม่มีการสอดใส่ แล้วเราจำได้ติดตาเลยคือไอ้น้ำใสๆข้นๆมันคือภาพติดตา ~ถามว่าตอนนั้นเรารู้ไหมว่าปู่ทำอะไรเรา เราไม่รู้หรอก เด็กแค่อนุบาล2จะรู้ได้ไง ที่เราพิมไปตรงๆเพราะเราเจอกับเรื่องแย่ๆนี้จริงๆค่ะเราก็เพิ่งจะมาบรรลุตอนเราโตนี่แหล่ะ~ พอสบโอกาสปูก็จะทำแบบนี้ เป็นประจำจนกะทั้งเราเริ่มโต เราจะนอนห้องย่าตลอด แต่ย่าเราต้องกลับไปทำงานกรุงเทพ เรารู้เลยว่าเราจะต้องเจอกับอะไร เมื่อวันที่ย่าไม่อยู่ ขนาดวันที่ย่าอยู่เขายังเลี้ยงต้อยเราเลย ย่ากับปู่แยกห้องนอนกันตั้งแต่สมัยยังไม่มีเราอีก (ย่าบอก) ย่าจะไม่ค่อยถูกกันกับปู่ จะมีปากเสียงกันเรื่องการกินการอยู่ตลอด ส่วนป๊าทำแต่งานๆ ตั้งแต่เราไปอยู่ต่างจังหวัดไปหาเราแค่ตอนเราอยู่ป.6 ส่วนมากอา(น้องชายพ่อเรา)จะมาหาเราบ่อย มาก็ทะเลาะกับปู่ประจำเพราะปู่ชอบหาว่าอาจะไปเอาทรัพย์สมบัติเขา (ปุ่เป็นคนมีตังจัดได้ว่ามีในระดับนึง เพราะแกขยันทำงานและงกมากแกมีเงินเก็บส่วนนึงอยุ่แล้ว และมาขายบ้านที่กม.8รามอินทราได้หลังนึงเป็นล้านมีที่ดินอยู่ต่างจังหวัด100กว่าไร่) แต่ลูกหลานกลับบ้านไปไม่เคยให้ตังค์เลย พอวันที่ย่าไปเราก็เริ่มโตประมานป.2-3มั้ง เราก้นอนห้องย่านั่นแหล่ะ แต่บ้านเรามันแค่เป็นกำแพงปูนกันแค่กลางบ้าน ไม่มีประตูห้องจ้า ตกดึกไม่ต้องสืบ คืนไหนที่เราต้องเจอกับพฤติกรรมเดิมๆ ทั้งๆที่เลี่ยงจนแบบเรารู้สึกขยะแขยงตัวเอง พอขึ้นป.5เหมือนเราเริ่มจะรู้แล้วว่าสิ่งที่เจอมันคืออะไร เรารู้สึกไม่อยากอยู่ เริ่มทำร้ายตัวเอง กรีดแขน ต่อยกำแพง เราชอบทำเพื่อลดความเจ็บปวดใจในตัวเอง เราขอย่าว่าเราจะไปอยู่ด้วยได้ไหม ย่าบอกว่าต้องรอขึ้นม.1 เราก็อดทนเจอกับความอัปปรีย์ในชีวิตมาตลอดจนเราได้ไปจากที่นี่สักที แต่ใครจะไปรุ้ว่าสิ่งที่กำลังจะหนีไป จะวนกลับมาเจออีก เหมือนดังสุภาษิตที่ว่า หนีเสือปากจระเข้ เรามาอยุ่กรุงเทพแล้วค่ะ ขึ้นม.1ที่นี่ มาอยุ่กับแม่เลี้ยงกับป๊า ตอนนั้นย่าขายของอยู่อีกที่นึง เราเลยต้องมาอยู่กับป๊า แม่เลี้ยงอายุมากกว่าป๊า3ปีแต่ยังสวยมาก ผิวขาวตัวเล็กๆ เราเคยอาบน้ำกับแม่เลี้ยงแกขัดตัวให้แบบดีมากอ้ะ เราไม่เคยมีใครทำให้แบบนี้ เรารักแม่เลี้ยงมาก อยู่มาไม่นานป๊ากับแม่เลี้ยงก็เลิกกัน ทะเลาะกันเพราะป๊าเราเวลาเมาแล้วร่างปีศาจ เราเห็นเหตุการณ์แบบนี้จนชินชา แม่เลี้ยงไม่อยุ่แล้วเราก็อยู่กับป๊า2คน แล้วสิ่งที่เจอเราโดนอีกแล้ว เราไม่คิดว่าพ่อแท้ๆเราจะทำแบบนี้กับเรา และนั่นคือครั้งแรกของเรา จะขอไม่จี้จุดหรือขยี้ตรงเนือหาตรงนี้มาก เราอยากลืม แต่ทุกวันนี้ยังไม่ลืม ไม่เคยลืม เราก็ทดความเจ็บปวดตัวเองเหมือนเดิม ทำร้ายตัวเอง ตบตีทะเลาะวิวาท เรากลายเป็นคนเสพติดการทำร้ายตัวเองขั้นหนัก และมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวมันหลายครั้ง ปฏิเสธทุกครั้งก็โดนทุกครั้ง ที่หนักที่สุดและ ยิ้มที่สุดคือ เรา .... โปรดติดตาม จะมาเล่าความยิ้มในชีวิตให้ได้อ่านกัน **
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่