สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าเราดันทนกับผู้ชายคนนี้มาได้ขนาดนี้ ด้วยกรรมเก่า หรืออะไรก็ตาม
พอถึงท่อนที่สี่ปุ๊บ เราเลิกปั๊บเลย ไม่จำเป็นต้องรอดูใจตอนมีเงินแล้วค่ะ
เขาแสดงออกชัดเจนแล้วว่า เขาจะตอบแทนความดีเราอย่างไร ?
เขาจะเมินเฉย และ เห็นว่า ธุระไม่ใช่ น่ะสิ
คุณช่วยเหลือเขามาตลอด
ในวันที่คุณขอความช่วยเหลือจากเขาบ้าง เขาปฏิเสธอย่างไม่ไยดีเลย
ตรงนี้แหละ น่าถือสาที่สุดค่ะ
ผู้ชายจนเงินกว่าเราน่ะ ไม่เป็นไร ยังพอทนให้โอกาสเขาพัฒนาตัวเอง และประคับประคองกันไปก่อนได้
ผู้ชายจนน้ำใจต่อเรานี่สิ ขนาดพึ่งพาเรามาตลอด ยังไม่คิดตอบแทนแม้แต่น้อย
หากวันหนึ่งต้องฝากผีฝากไข้ เราจะหวังอะไรได้ ?
อย่าได้แคร์ตามคำญาติเขาประนาม ที่หาว่าเราไม่สวย หรือ อ้วนไป ไม่เหมาะกับเขา
เราเหมาะกับคนดีค่ะ อย่าจมปลักกับใครเพียงเพราะเขาหน้าตาดี
ที่เคยเลี้ยงดูเขามา ถือซะว่าใช้หนี้ไป เขาอาจจะเคยเลี้ยงดูเรามาเมื่อชาติที่แล้ว
จะได้ไม่ต้องมีอะไรยืดเยื้อเป็นเยื่อใยต่อกันว่าจะรอให้เขาใช้หนี้เราก่อนยังเลิกไม่ได้
ทำตามที่สมองสั่งการ หลังจากพิจารณามาอย่างดีแล้ว
แต่หากหัวใจจะเล่นกล บอกเราว่า เสียดายเวลาที่คบกันมานาน
ให้ตอบตัวเองว่า "ยิ่งเสียดายเวลา ยิ่งเสียเวลา"
ถ้าคุณยังไม่อยากเลิกกับเขา อยากให้โอกาสเขาอีกครั้ง ก็ให้คุยกับเขาจริงจัง
บอกให้เขารู้ว่าคุณคิดอย่างไร ถามเขาด้วยว่าเขาคิดอย่างไร
และลองตั้งกฏเหล็กขึ้นมา ว่าเขาต้องช่วยค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันเท่าไหร่ (เพราะเขามีเงินเดือนแล้ว)
ดูสิว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร
ขอให้พบทางออกที่ดีที่สุดนะคะ
พอถึงท่อนที่สี่ปุ๊บ เราเลิกปั๊บเลย ไม่จำเป็นต้องรอดูใจตอนมีเงินแล้วค่ะ
เขาแสดงออกชัดเจนแล้วว่า เขาจะตอบแทนความดีเราอย่างไร ?
เขาจะเมินเฉย และ เห็นว่า ธุระไม่ใช่ น่ะสิ
คุณช่วยเหลือเขามาตลอด
ในวันที่คุณขอความช่วยเหลือจากเขาบ้าง เขาปฏิเสธอย่างไม่ไยดีเลย
ตรงนี้แหละ น่าถือสาที่สุดค่ะ
ผู้ชายจนเงินกว่าเราน่ะ ไม่เป็นไร ยังพอทนให้โอกาสเขาพัฒนาตัวเอง และประคับประคองกันไปก่อนได้
ผู้ชายจนน้ำใจต่อเรานี่สิ ขนาดพึ่งพาเรามาตลอด ยังไม่คิดตอบแทนแม้แต่น้อย
หากวันหนึ่งต้องฝากผีฝากไข้ เราจะหวังอะไรได้ ?
อย่าได้แคร์ตามคำญาติเขาประนาม ที่หาว่าเราไม่สวย หรือ อ้วนไป ไม่เหมาะกับเขา
เราเหมาะกับคนดีค่ะ อย่าจมปลักกับใครเพียงเพราะเขาหน้าตาดี
ที่เคยเลี้ยงดูเขามา ถือซะว่าใช้หนี้ไป เขาอาจจะเคยเลี้ยงดูเรามาเมื่อชาติที่แล้ว
จะได้ไม่ต้องมีอะไรยืดเยื้อเป็นเยื่อใยต่อกันว่าจะรอให้เขาใช้หนี้เราก่อนยังเลิกไม่ได้
ทำตามที่สมองสั่งการ หลังจากพิจารณามาอย่างดีแล้ว
แต่หากหัวใจจะเล่นกล บอกเราว่า เสียดายเวลาที่คบกันมานาน
ให้ตอบตัวเองว่า "ยิ่งเสียดายเวลา ยิ่งเสียเวลา"
ถ้าคุณยังไม่อยากเลิกกับเขา อยากให้โอกาสเขาอีกครั้ง ก็ให้คุยกับเขาจริงจัง
บอกให้เขารู้ว่าคุณคิดอย่างไร ถามเขาด้วยว่าเขาคิดอย่างไร
และลองตั้งกฏเหล็กขึ้นมา ว่าเขาต้องช่วยค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันเท่าไหร่ (เพราะเขามีเงินเดือนแล้ว)
ดูสิว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร
ขอให้พบทางออกที่ดีที่สุดนะคะ

แสดงความคิดเห็น
อยากรบกวนขอคำปรึกษาความรัก12 ปี ของเราหน่อยค่ะ
ตลอดระยะเวลาที่คบกัน แฟนของดิฉันฐานะไม่ค่อยดี ทำงานหาเงินเลี้ยงตัว้องมาตลอด ตั้งแต่เดผ้ก สมัยเรียนมัธยมต้องทำงาน PT ที่ห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียนทุกวัน จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ช่วงเวลาที่คบกันมา ดิฉันจะเป็นคนเลี้ยงค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นส่วนใหญ่ เช่น ทานข้าว หรือทำกิจกรรมต่างๆ ตามวัยรุ่นทั่วไป เนื่องจากเงินที่ได้จากทำงานหลังเลิกเรียนก็ไม่มากและต้องจ่ายค่าเทอมเองด้วย (เขามีพ่อแม่อยู่ครบ แต่พ่อแม่ไม่ให้ค่าขนมและมียืมเงินเขาอยูาเรื่อยๆ) ในขณะที่ฐานะดิฉันค่อนข้างดีกว่ามาก จึงไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น เพราะเห็นว่าเขาก็จะมีเลี้ยงฉันบ้างเล็กน้อยตามความเหมาะสม (นานๆที) เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ จนเรียนจบปริญญาตรี เขาได้งานที่หนึ่งเงินเดือนตามค่าแรงขั้นต่ำ เขาทำงานนี้1 ปีกว่าก็ถูกจ้างออก เนื่องจากตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นมากนักสำหรับบริษัทที่เขาทำ และได้เงินค่าจ้างออกมาก้อนใหญ่ หลังจากนั้นเขาตกงานเกือบ 2 ปี
ฉันสังเกตเห็นว่าเขาไม่พยายามที่จะหางานมากนัก เนื่องจากความสามารถของเขาไม่ค่อยมี ที่เรียนจบมาดิฉันเป็นคนช่วยเหลือ ทำงานให้ทุกชิ้นเพื่อให้เรียนจบ เขาเรียนคณะนี้เพราะตามๆ เพื่อนไป ไม่ได้ชอบอะไร จึงทำให้จบมาอย่างไม่มีความรุ้ ช่วงเวลาที่ทำงานปีกว่าทำให้พอได้ความรู้ในสายงานมาบ้างแต่ก็ปไม่มากนัก จึงทำให้ไม่สามารถต่อยอดได้ กอปรกับไม่ขวนขวายทำใบสมัคร หรือพรีเซ็นต์ตัวเองเท่าไรนัก
ช่วงเวลาหลังจากว่างงาน เขาจะไปส่งและไปรับฉันไปทำงาน โดยรถของฉัน และฉันเป็นคนออกค่าน้ำมัน เนื่องจากเขาไม่มีเงินแล้ว (เงินค่าจ้างออก หมดไปในช่วงปีแรก มีใช้จ่ายส่วนตัวของเขา ไปเที่ยวกันบ้าง และเขาทำธุรกิจเล็กๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่สำเร็จอะไร) หลังจากส่งฉันเสร็จ ก็จะกลับไปทำงานบ้าน และนั่งๆ นอนๆ ดูหนังฟังเพลง และหางาน เป็นแบบนี้มาเป็นปี จนพักหลังมีบางวันฉันหยุดงาน จึงได้เห็นว่าเขาไม่มีความพยายามตั้งใจจริงจะหางาน จึงมีการพูดบอกบ่อยๆ และเขามักพูดว่าสมัครไปกี่ที่ก็ไม่มีที่ไหนเรียกไปทำงาน ช่วง1 ปีหลังนี้ ดิฉันเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างอย่างเต็มตัว และให้เงินไว้พกด้วย เพราะกลัวจะมีอะไรฉุกเฉิน เวลาที่ไปสมัครงานก็จะให้เผื่อตลอด
ในเรื่องของความรักการดูแลเอาใจใส่ ก็ดีบ้าง ร้ายบ้างปะปนกัน เขาไม่เคยง้อดิฉัน แต่ช่วงที่ตกงาน ฉันบอกเลิก เขาไม่ยอมเลิก บอกรักดิฉันมากมาย แต่ก่อนหน้านี้เคยบอกเลิกฉันอยู่เรื่อยๆ เมื่อสมัยก่อน สมัยที่ทำงาน เ้วยเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน เพราะเขาไม่เคยง้อดิฉันทุกๆ เรื่อง ..
เิฉันไม่เคยได้ของขวัญชิ้นใหญ่ หรือของขวัญที่เป็นแบบซื้อมาให้เลยสักชิ้นตลอดเวลาที่คบกัน มากสุดคือดอกไม้ที่เป็นคนบอกว่าอยากได้สมัยวัยรุ่น ในวันสำคัญ
ความสัมพันธ์กับครอบครัวเขา ค่อนข้างไม่ดี เนื่องจากดิฉันไม่ค่อยเข้าหา เพราะไม่ค่อยชอบ ทางบ้านเขามีญาตเยอะและชอบยืมเงิน ชอบพูดจาเสียงดัง ไม่สุภาพ ดิฉันจึงไม่ค่อยไปมาหาสู่เท่าไหร่ และทราบมาว่า เขาก็ไม่ชอบฉันเพราะไม่เข้าหาผู้ใหญ่ เขาชอบพูดกันว่าดิฉันน่าเกลียด ระวังลูกหลานเขาจะไปมีคนอื่น(พูดต่อหน้าเลย แบบว่าถ้าดิฉันไม่ทำตัวให้สวย หลานชายเค้าจะนอกใจได้ เพราะดิฉันหุ่นไม่ดี) และมีอีกหลายๆ เรื่อง ที่ไม่ขอเอ่ย แต่สรุปได้ว่า ความสัมพันธ์ไม่ดีเท่าไร
ปัจจุบันนี้เขาได้งานเป็นรปภ. ฉันรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป ฉันแกล้งถามว่าได้เงินเดือนมาแบ่งเค้าเท่าไร เขาไม่พอใจและบอกเอาไปให้หมดเลย และถ้าให้ช่วยงานบ้านก็จะไม่อยากทำแล้ว และล่าสุด ดิฉันมีปัญหาต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ชวนเขามานอนเป็นเพื่อน เพราะอยู่คนเดียวกลัว แต่เขาไม่มา อ้างว่ากลัวตื่นไปทำงานไม่ทัน(ตจวใช้เวลา 1 ชม ไปถึงบ้านที่กทม และดิฉันบอกจะเป็นคนขับรถเองให้เขานอน)
ดิฉันเลยรู้สึกว่าเวลาที่เราลำบาก หรือต้องการความช่วยเหลือ ทำไมถึงไม่คิดเป็นห่วงเราเลย และคิดถึงเรื่องที่คอยสนับสนุนการเงินเขามาตลอด มันไม่เหมือนคู่รักคนอื่นๆ เราเป็นผู้หญิงแต่ต้องมาเลี้ยงดูเค้าตลอด และคิดว่าถ้าวันที่เขามีเงิน เขาจะปฏิบัติกับเราอย่างไร ถ้าเขาเป็นอย่างที่คิดไว้คงอยู่กันไม่ได้ ถ้าเขามีเงินแล้วเป็นอีกคน ก็คงทำใจลำบาก แต่คงไม่ขอร่วมทาง
แต่ตอนนี้ยังไม่รู้นะคะ ว่าถ้าเจามีเงินจะเป็นอย่างไร เขาเพิ่งไปทำงาน ยังไม่ได้รับเงินเดือน
ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ บางทีก็รู้สึกอายที่ชีวิตเป็นแบบนี้ อายมาก ไม่กล้าปรึกษาใคร ไม่มีเพื่อนสนิท มีแต่เขาคนเดียวมาตลอดสิบกว่าปี ที่เป็นคนคู่คิด ถึงแม้จะเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดีบ้าง แต่ส่วนมากเขาก็อยู่เคียงข้าง เหนื่อยใจมากเลยค่ะ ไม่ค่อยมีความสุขในชีงิตเลย เหมือนอยู่ไปวันๆ จริงๆ เรื่องราวก็เยอะกว่านี้แต่เล่าไม่ถูก จับใจความมาเล่าไม่หมด แต่ก็จะประมาณนี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ