การที่ลูกจ้างมาสารภาพผิดเรื่องขโมยเงิน แต่บริษัทกลับยังดำเนินคดีถือว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

เป็นเรื่องของคนใกล้ตัวของผมเอง คือ เธอได้ยอมรับกับผมเองว่า
เมื่อ 1 เดือนครึ่งก่อน เธอได้ไปสารภาพผิดกับบริษัทที่เธอโกงเงินไปเป็นจำนวน 3 แสนกว่าบาท
เนื่องจากหมดปัญญาหาวิธีปกปิดและเงินมาชดใช้คืน แล้วกลัวว่าวันหนึ่งจะถูกจับได้เลยชิงสารภาพผิดก่อน
และขอให้บริษัทอย่าดำเนินคดีเนื่องจากเธอสำนึกผิดแล้วและมาสารภาพผิดด้วยตัวเองแล้ว

แต่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปได้ 1 เดือนครึ่ง มีโทรศัพท์จากสถานีตำรวจเรียกเธอไปสอบปากคำ
และเธอสารภาพทุกข้อกล่าวหาที่เธอได้ยักยอกทรัพย์ไปจริง ตอนนี้เตรียมเจรจากับบริษัทที่เธอยักยอกทรัพย์
อยากสอบถามว่า การที่เราได้ไปสารภาพความผิดเองด้วยความสำนึกผิด โดยไม่รอให้สืบสวนเจอนั้น
แต่บริษัทกลับไม่เห็นใจยังคงดำเนินคดีต่อ ถือว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ยังถามไม่เลิก

แฟนคุณ ปลอมเอกสาร ยักยอกเงินบริษัท ทีละเล็กละน้อย  เอาไปแทงหวย(จนหมดตูดทุกงวด)
บริษัทจับได้ตั้งแต่หกหมื่นแรก ถึงสารภาพรับผิด
เขาสาวต่อไป เจอรวมๆตามหลักฐาน สามแสนกว่า (ที่ไม่มีหลักฐาน ไม่รู้อีกเท่าไหร่)
ให้เวลา 1 เดือน เอาเงินมาคืน จะไม่เอาความ
1 เดือนครึ่งผ่านไป บอกจะจ่ายคืนให้เดือนละ 2 พันกว่า 12 ปี (ไม่มีดอกเบี้ยซะด้วย)

บริษัทไม่ได้ โง่ หรือ บ้า นี่
เขาก็แจ้งความดำเนินคดีสิ

ว่าแต่คนที่มาถามเซ้าซี้ซ้ำซาก จะให้บริษัทผิดให้ได้นี่
เอาสมองส่วนไหนคิด ?
คนอ่านเขาระอากันแทบตายแล้ว
ความคิดเห็นที่ 1
อาจจะน้อยกว่าเหตุด้วยซ้ำ เงินตั้งสามแสน สารภาพเพราะกลัวถูกจับได้ แล้วคิดว่าจะพ้นผิดหรือไง เงินสามแสน ไม่ใช่สามร้อย สามพัน ถ้าผมไปขโมยรถคุณ แล้วผมสารภาพกับคุณ ว่าขายรถไปแล้ว ตังก็ใช้หมดแล้ว สารภาพเพราะกลัวโดนตำรวจจับ คุณจะยอมผมมั้ยล่ะ? ถ้ายอม ก็แสดงว่าบริษัทนั้นอาจทำเกินไป
ความคิดเห็นที่ 29
อุต๊ะ !

แล้วทั้ง แฟน จขกท ที่โกงเงินบริษัท สามแสนหก โดนไล่ออก ไปขาย ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ
กับ ผัวเมีย ลูกจ้าง ที่โกงเงิน ร้านมอไซ ของ จขกท สี่แสนแปด โดนไล่ออก ไปขายก๋วยเตี่ยว ส้มตำ เหมือนกัน

ทั้ง 2 ร้าน ไม่ตบตีกันแย่งลูกค้าง่วนเหรอ
อำเภอที่อยู่ ไม่น่าจะกว้างใหญ่สักเท่าไรนะ
จำเลยคดี ฉ้อโกง หลักแสน ตั้งหลายคนนี่ ช่างมีฝีมือทำอาหารจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่