ทริปลาก่อนเฟรชชี่ สะพายเป้กระโดดขึ้นรถไฟไปสิงคโปร์ 8วัน กับเพื่อนอีก 11คน

กระทู้สนทนา

รถไฟ เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง Backpack

รีวิวนี้เราตั้งใจจะแบ่งปันข้อมูลการเดินทางและก็เก็บเป็นเหมือนสมุดบันทึกการเดินทางสั้นๆของทริปโดยการเดินทางครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นเล็กๆจากเราที่อยากนั่งรถไฟมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เคยนั่งซักทีเลยนึกแผนขึ้นมาว่าจะมีเส้นทางไหนเจ๋งๆที่พอไปได้บ้าง...เราเลยนึกถึงประเทศสิงคโปร์เพราะเป็นประเทศใกล้ๆถ้านั่งรถไฟไปก็คงไม่นานมากแล้วมันก็ผ่านหาดใหญ่กับกัวลาลัมเปอร์ด้วยดูแล้วก็น่าลองออกเดินทางซักครั้งพอหาข้อมูลคร่าวๆได้เราลองชวนเพื่อนๆในแก๊งค์ดูตอนแรกก็คิดว่าคงไม่มีใครไปด้วย...สุดท้ายมีตามไปด้วย5คน แถมอีกบินตามไปเจอที่สิงคโปร์อีก5คน วันที่26กรกฎาที่ผ่านมาเลยเกิดทริปนี้ขึ้น...#1939KMawayfromhome
ทริปนี้พวกเราตั้งใจให้เป็นทริปชิวๆไม่ประหยัดมากเน้นกินเที่ยวช็อปในเมืองรวมทั้งหมด 8 วัน แบ่งเป็น
วันแรก - กทม.
วันที่2 - หาดใหญ่
วันที่3,4,5 -มาเลเซีย
วันที่ 5,6,7,8 - สิงคโปร์
รวมระยะทางแล้วก็ราวๆ1939กม.จากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) ถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองวู้ดแลนด์ ประเทศสิงคโปร์

วันแรกของการเดินทาง(26/7/2560)
- กทม. -

    บ่าย2โมง45นาที รถไฟด่วนขบวนพิเศษ ทักษิณารัถย์ ขบวนที่31 กทม. - หาดใหญ่ ออกตรงเวลาเป๊ะเป็นรถไฟรุ่นใหม่ของรฟท.ที่ขึ้นไปแล้วรู้สึกได้เลยว่าสะดวกสะบายมากกเก้าอี้นั่งสบาย แอร์เย็น มีตู้สะเบียงทำให้การนั่งรถไฟ16ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ลบภาพความรู้สึกต่อรถไฟไทยไปได้เลย
ส่วนค่าโดยสารอยู่ที่ 1,105บาท(เตียงล่าง), 1,005บาท (เตียงบน)
สำหรับราคาค่าโดยสารชั้น1 เป็นแบบห้องส่วนตัวราคาเตียงล่าง อยู่ที่ 1,794บาท และ เตียงบน 1,594บาท หรือถ้าจะเหมาห้องเลยก็2,594บาท
*ราคาใหม่พึ่งปรับขึ้น*
        สาเหตุที่เตียงล่างแพงกว่าเพราะว่าตอนนอนเตียงล่างจะสบายกว่าและมีกระจกให้ตื่นมานั่งดูวิวในตอนเช้าได้ แต่ตอนกลางวันคนที่นอนเตียงบนและเตียงล่างก็จะนั่งหันหน้าเข้าหากันบนที่นั่งที่กว้างมากแต่เสียอย่างนึงคือมันเอนหลังไม่ได้ต้องนั่งหลังตรงไปอีกยาวเลยกว่าจะถึงเวลานอน
        ระหว่างทางที่รถไฟจอดก็มีป้าๆขายอาหารมาดักรอตรงประตูรถไฟก็จะมีให้เห็นทั้งหมด3ครั้งที่อยากแนะนำมากคือ ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่สถานีราชบุรี ที่ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ในราคากล่องละ10บาท ที่เหลือก็จะมี ขนมหม้อแกงที่สถานีเพชรบุรี และก็กระเพราะปลา กับข้าวต้มกุ้งที่สถานีหัวหิน ก็นั่งๆกินชมวิว2ข้างทางไปเรื่อยๆจนถึงเวลา2ทุ่มจะมีเจ้าหน้าที่มาปูผ้าปูที่นอนให้ก็แยกย้ายกันนอนหรือใครยังไม่อยากนอนก็ไปนั่งเล่นที่ตู้เสบียงได้ ส่วนพวกเราเลือกที่จะยังไม่นอนและนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ การคุยกันในครั้งนี้อาจจะเป็นบทสนทนาที่ธรรมดาๆเหมือนในทุกๆครั้งที่เราคุยกัน มีการแชร์เรื่องราวต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของแต่ล่ะคน แต่ในความธรรมดาก็ยังมีความพิเศษซ่อนอยู่ คือตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในการเดินทางที่เราฝันกันมาเมื่อ5 เดือนที่แล้ว และตอนนี้เรากำลังอยู่ในความเป็นจริงที่อิงจากความฝันของพวกเราทุกคน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายแทนกันไม่ได้นอกจากต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง