[SR] ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม ปี๒๕๖๐


สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้เราจะพาไปชมเทศกาลไหลเรือไฟกันค่า
เมื่อวันพฤหัสที่แล้วซึ่งตรงกับวันออกพรรษา ที่จังหวัดนครพนม
เราได้มีโอกาสได้ไปล่องเรือสำราญชมงานเทศกาลประเพณีไหลเรือไฟมาค่ะ

หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินหรือรู้จักประเพณีนี้
และบางคนก้อาจจะสับสนงานนี้กับงานบุญบั้งไฟพญานาค
ซึ่งจะต้องบอกตรงนี้เลยนะคะว่าคนละอย่างกันค่ะไม่เหมือนกันนะจ๊ะ

งานไหลเรือไฟนั้นเป็นของจังหวัดนครพนม
ส่วนงานบั้งไฟพญานาคนั้นเป็นของจังหวัดหนองคาย
ซึ่งทั้งสองงานจะจัดหรือเกิดขึ้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงเหมือนกันเท่านั้นเองค่ะ

เราขอเล่าประวัติคล่าวๆนิดนึงละกันเนอะ
ประเพณีไหลเรือไฟ หรือ เฮือไฟ ภาษาท้องถิ่นนั้น
ถือกำเนิดขึ้นมานานแล้ว ในวันออกพรรษา หรือ ขึ้น15 ค่ำ เดือน11
เพื่อเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่ทรงประทับไว้
ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที ตามคำขอขององค์พญานาค
และเป็นการขอขมาเจ้าแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงสู่แม่น้ำ
และเป็นการเอาไฟเผาความทุกข์ต่างๆให้ลอยไปกับสายน้ำอีกด้วยค่ะ

ส่วนเรือไฟนั้นจะประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นทุ่นลอยน้ำ
คือใช้ไม้มาผูกติดกันเป็นแพลอยน้ำ และส่วนที่สองจะใช้ไม้ไผ่ใหญ่เล็ก
มาทำเป็นเสาและแผลงผูกยึดติดกันเป็นโครงจากนั้นก้ดัดไม้ไผ่เล็ก
และลวดให้เป็นลายตามที่ออกแบบไว้ แล้วจึงนำตะเกียงไฟ
ที่สร้างจากกระป๋องกาแฟหรือกระป๋องนมข้นมาใส่น้ำมันโซล่าจุดไฟ
ขึ้นไปประดับไว้ตามแบบที่ดัดเอาไว้ค่ะ

หากใครอยากอ่านประวัติแบบเต็มๆก้หาอ่านกันได้นะคะ
เราเอาข้อมูลบางส่วนมาจากกูเกิ้ลค่ะต้องขอบคุณมาณที่นี้ด้วยค่ะ

และปีนี้พิเศษมากสำหรับเราคือ เราได้มีโอกาสได้ล่องเรือสำราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซด้วย
ซึ่งเป็นเรือสำราญลำใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และลุ่มแม่น้ำโขงนี้ค่ะ ลิ้งก์เพจค่ะ https://www.facebook.com/MekongParadiseCruise/
รายละเอียดโปรโมชั่นตามโบรชัวด่านล่างนี้เลยค่ะ




เราไปเชคอินขึ้นเรือกันตั้งแต่บ่ายค่ะ ท่าขึ้นเรือหาไม่ยากค่ะ อยู่เยี้องๆกับตลาดอินโดจีน
จอดรถได้ในซอยข้างตลาดอินโดจีนและเดินมาที่ท่าเรือค่ะ หรือถ้าหลงจริงจริ๊งนะ ถามคนแถวนั้นได้เลย รู้จักแน่นอนจ้า



ขึ้นเรือแล้วก้เดินสำรวจกันสักหน่อยเนอะ เรือลำนี้มีสามชั้นค่ะ แต่ละชั้นจะมีเวทีคาราโอเกะไว้บริการด้วยนะ
ชั้นบนสุดจะเป็นชั้นดาดฟ้า open air ค่ะ เห็นวิวฝั่งไทยและลาวได้ 360องศากันเลย
มีห้องน้ำสะอาดแยกชายหญิง วันนี้อาหารจะเป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะรวมอยู่ในค่าบริการแล้ว เมนูตามด้านล่างนี้เลยค่า


เดินเล่นถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆกันหน่อยเนอะ



จากบนเรือนี่มองเห็นฝั่งลาวมีพื้นที่สีเขียวมากมายกับเบื้องหลังเป็นภูเขา
มองแล้วสบายตาสบายใจผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกเลยค่า



ส่วนด้านฝั่งไทยของเราผู้คนเริ่มทยอยกันมาจับจองพื้นที่ริมฝั่งโขงกันแล้ว
ถนนหน้าริมโขงนี่เค้าปิดให้เป็นถนนคนเดินค่ะ มีของพื้นเมืองและอาหารขายเพียบ
เดินเพลินเลยทีเดียว กลิ่นไก่ย่าง กับ เมี่ยงปลาเผานี่หอมยั่วยวนมากๆค่า



และพอหันกลับมาดูฝั่งลาวอีกครั้งก้ได้เห็นพระอาทิตย์กำลังจะตกดินด้วยค่า




ส่วนที่แม่น้ำเค้าเริ่มจุดและปล่อยกระทงสายหรือไข่พญานาคกันแล้วด้วยค่า
ไข่พญานาคนี่เค้าจะปล่อยเยอะมากๆ ให้ไหลไปตามแม่น้ำ ตอนกลางคืนจะสวยงามมากค่า


ด้วยวันนี้อากาศออกจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาตั้งแต่เช้า
พอเราเดินถ่ายรูปไปได้สักหน่อยฝนก้ตกลงมาเลยค่ะ แอบหวั่นๆว่าจะหยุดทันงานมั้ย
แต่ของเค้าศักดิ์สิทธิ์จริงๆค่ะ..ฝนหยุดก่อนงานเริ่มพอดิบพอดีเลยจริงๆ
พอฝนหยุดปุ้บพนักงานก้รีบกุลีกุจอไปเช็ดโต๊ะเก้าอี้บนชั้นสามกันเลย
เตรียมต้อนรับลูกค้า พอทุกคนขึ้นเรือกันครบแล้ว เรือก้ถอนสมอออกจากท่า
เรือจะล่องสวนกับเรือไฟในช่วงแรก ล่องวนจากน่านน้ำฝั่งไทย
และวกกลับไปเรียบไปทางน่านน้ำฝั่งลาว และกลับมาฝั่งไทยอีกครั้งเพื่อทอดสมอ
เราจะได้เห็นบรรยากาศงานทั้งหมด ตั้งแต่ตอนที่เค้าเริ่มจุดไฟ
และปล่อยเรือไฟทีละลำ แต่ช่วงแรกเราจะเห็นด้านหลังของตัวเรือไฟ
รูปบางรูปเราต้องเอามากลับซ้ายขวาเองเพื่อให้อ่านตัวอักษรได้นะคะ
รูปที่เราถ่ายมาอาจจะไม่คมชัดเท่าไหร่นะคะ ไม่มีขาตั้งกล้องอ่ะลืมจริงๆแอบเสียใจ
มือสั่นบ้างไรบ้าง ยิงไป 10 รูป ใช้ได้สักรูปนึงไรงี้..แห่ะๆ



งานใกล้จะเริ่มละค่ะเค้าจุดไฟกันแล้ว ท้องฟ้าก้มืดแล้วสวยงามมากค่า


ลำดับพิธีการคือเค้าจะเริ่มปล่อยเรือไฟทีละลำ ห่างกันทุก 10 นาที
ตั้งแต่ 1ทุ่มตรง ไปจน 4ทุ่มค่ะ จะมีเรือที่เข้าร่วมทั้งหมด 13 ลำจาก 12 อำเภอ
และ อีก 1 ลำ จากมหาวิทยาลัยนครพนม แต่ละลำก้จะมีลวดลายแตกต่างกันค่ะ
ต่อไปจะเป็นรูปเรือไฟรัวๆนะคะ ลำดับอาจจะไม่เรียงนะคะเพราะบางลำจุดไม่ติด
เนื่องจากฝนที่ตกมาก่อนงานพิธีค่ะ น่าเสียดายมากๆค่ะ บางลำก้ปล่อยมาทีหลังค่ะ

ผู้ที่คอยดูแลเรื่องเรือไฟทั้งหมดเค้าจะเรียกว่า "ศิลปินเรือไฟ" ค่ะ
จะดูแลตั้งแต่การก่อสร้างออกแบบ และจุดตะเกียงไฟ ควบคุมไฟให้สว่างอยู่เสมอ
เรือไฟนี้เค้าจะมีการประกวดกันด้วยนะคะ ทั้งประเภทสวยงามและความคิดค่ะ



เรือไฟลำดับที่ 1 จากอำเภอธาตุพนม



เรือไฟลำดับที่ 2 จากอำเภอเรณูนคร



เรือไฟลำดับที่ 3 จากอำเภอนาแก
ส่วนตัวเราชอบเรือไฟลำนี้ที่สุดเลยค่ะสวยงามมากจริงๆ



เรือไฟลำดับที่ 4 จากอำเภอเมืองนครพนม



เรือไฟลำดับที่ 8 จากอำเภอบ้านแพง
เรือไฟลำดับที่ 5-7 ยังติดปัญหาจุดไฟได้ไม่หมดอยู่เลยยังไม่ออกค่ะ
เรือไฟลำดับที่ 5 จากอำเภอวังยาง
เรือไฟลำดับที่ 6 จากอำเภอท่าอุเทน
เรือไฟลำดับที่ 7 จากอำเภอปลาปาก



เบื้องหลังของเรือไฟจะมีคนลากเรือและคอยเติมเชื้อเพลิงค่ะ



เรือไฟลำดับที่ 11 จากอำเภอศรีสงคราม
ลำดับที่ 9-10 ก้ยังไม่ออกค่ะ



และเรือสำราญของเราก้วนกลับมาน่านน้ำฝั่งไทยผ่านแลนด์มาร์กอันศักดิ์สิทธิ์
ของเมืองนครพนม นั่นก้คือ "พญาศรีสัตตนาคราช" หรือ พญานาค 7 เศียร
งดงามมากค่ะ ท่านพ่นน้ำ และมีไฟสีๆส่องให้ยิ่งดูสวยงามค่ะประทับใจมาก



เรือไฟลำดับที่ 10 จากอำเภอโพนสวรรค์ มาแล้วค่ะ
รูปที่มีดาวนั้นเราเอามาแต่งเพิ่มเองนะคะ จริงๆไม่เห็นดาวเท่าไหร่ค่ะ..อิอิ



เรือไฟลำดับที่ 9 จากอำเภอนาทม



เรือไฟลำดับที่ 13 จากมหาวิทยาลัยนครพนม



เรือไฟลำดับที่ 6 จากอำเภอท่าอุเทน



ส่วนลำสุดท้ายนี้เราไม่แน่ใจจริงๆว่ามาจากอำเภอไหน..อ่านไม่ออกอ่ะค่ะ


งานในปีนี้เค้าจะงดจุดพลุและประทัด ไม่มีการแสดงแสงสีเสียงนะคะ
เนื่องจากเป็นช่วงไว้อาลัยแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชค่ะ
แต่ฝั่งสปป.ลาว นั้นเค้าก้จัดงานพร้อมกับเราค่ะมีไหลเรือไฟเช่นกันแต่น่าจะลำเล็กกว่า
และน้อยกว่าค่ะส่องมาได้เท่านี้เป็นของแถมนะคะ..อิอิ (รูปในคอมเม้นต์นะคะ)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ฝากกด + เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ[
ชื่อสินค้า:   ไหลเรือไฟ
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่