หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
“น่านไง....หนาวนี้ไปน่านกัน”
กระทู้สนทนา
เที่ยวไทย
ภาพถ่าย
ดอยเสมอดาว
จังหวัดน่าน
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สวัสดีค่ะ.... ตอนนี้ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว โปรแกรมเที่ยวก็โผล่ปุ๊บขึ้นมา นึกขึ้นได้อีกทีก็แพ็กของใส่กระเป๋าล้อลากมุ่งตรงไปสนามบินแล้ว 555+ ถ้าพูดถึงหน้าหนาวหลายๆ คนอาจนึกถึงภูเขา ทะเลหมอก หรืออยากสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ ให้มันสบายปอด ก็คงต้องมุ่งไปทางภาคเหนือตอนบนอย่างเชียงใหม่ เชียงราย เป็นส่วนใหญ่ แต่ใครจะรู้บ้างละทางตอนเหนือใกล้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวจะมีธรรมชาติบริสุทธิ์ ซ่อนอยู่ ต้องขอยกให้เมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออกจังหวัด “น่าน” เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ความเป็นอยู่เรียบง่าย มีเสน่ห์ในวัดวาอาราม และเด็ดสุด คือ มีสถานที่ให้ถ่ายรูปหลากหลายแนว .... เราคนหนึ่งแหละที่ชอบถ่ายรูป ไปมา 3 รอบก็ยังติดใจและรอบล่าสุดก็ไปแบบครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เอาเป็นว่าไปอ่านรีวิวกันเลยนะคะ เผื่อเพื่อนๆ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้
******************************************************************
มาเริ่มกันเลย...ช่วงที่เราไปตอนนั้นประมาณต้นปีจองไปตอนโปรถูก ยังไงก็ขอขอบคุณพี่หางแดงที่พาพวกเราร่อนไปถึง จ.น่าน วางแผนไปกัน 4 วัน 3 คืน และเหมารถตู้วิ่งยาวตลอดการเดินทาง กว่าจะถึงน่านก็ช่วงเย็นๆ
คืนแรกสำหรับพวกเราพักกันที่ “คุ้มเมืองมินทร์” บอกเลยว่าสวยมาก 555+ ไปมากี่ทีก็มาพักที่นี่ เพราะใกล้สถานที่สำคัญหลายๆ อย่าง เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองก็ว่าได้ ส่วนมื้อเย็นฝากท้องไว้ “ร้านเฮือนภูคา” ร้านนี้อาหารเหนืออร่อยมากค่ะ (ไม่แน่ใจว่าหิวรึเปล่า >_<) ว่าแล้วก็จัดกันเลย แถมตบท้ายด้วย มื้อดึก “ขนมหวานป้านิ่ม” ใครมาน่านไม่ได้มาชิมฝีมือป้าแกนะ มาไม่ถึงแน่นอนแถม ชิลๆ บรรยากาศกลางคืนเย็นๆ ด้วย เสียดายวันที่เราไปวัดศรีพันต้นไม่เปิดไฟ ไม่งั้นนะได้ถ่ายรูปมาอวดแล้ว และล่าสุดป้านิ่มย้านร้านไปอยู่แถวบ้านมงคลนิมิต ทางไปวัดสวนตาล ถ.ทางเข้าสนามกีฬา อบจ.น่าน แล้วนะใครไปไม่ถูกลองโทรถามป้าเค้าได้ที่ 085 036 6108 ป้าใจดีจร้า 😊 เอาเป็นว่าคืนนี้พวกเราขอพักผ่อนเก็บแรงไปขึ้นดอยพรุ่งนี้กันนะคะ
(บัวลอยไอติม 😊)
**************************
วันที่สองของการเดินทาง เราจะไป “ดอยภูคา” กันค่ะ บอกแล้วแผนการเดินทางเราเที่ยวให้ครอบคลุม ไหนๆ มาทั้งทีต้องจัดให้เต็ม ก่อนขึ้นดอยก็ต้องเติมพลังที่คุ้งเมืองก่อน เล่นจัดแบบนี้ เอาซิไม่อิ่มให้มันรู้ไป
จากนั้นก็ปั่นสองล้อรอบเมืองไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดที่มีชื่อเสียงอย่าง “วัดภูมินทร์”
“วัดภูมินทร์” หากเข้าเมืองน่านไม่ได้แวะถือว่าไม่ถึงแน่ๆ... ข้างในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันหลังชนกัน หันหน้าออกไปทั้ง 4 ทิศด้วยค่ะ และอีกสิ่งที่โดดเด่นจนใครต่อหลายคนที่มาที่นี้ต้องอัพภาพขึ้น Status Facebook ส่วนตัวว่ามาถึงแล้วนะจ๊ะ คือ ภาพจิตรกรรม “ปู่ม่านย่าม่าน” เด่นสง่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองน่านเลย และต่อมาใกล้ๆ กันก็ “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร”
และไม่ห่างกันมากเดินข้ามฝั่งไปจะเจอ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับโบราณคดีด้านวัตถุและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และมุมเด็ดเป็นต้องแชะภาพส่งท้ายคือบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ มีต้นลีลาวดีขนาดใหญ่จัดเป็นซุ้มปลูกเรียงกันเป็นทอดยาว เป็นไฮไลท์ถ่ายรูปกันมาก ว่าแล้วก็แชะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก.....
แป๊ปๆ ก็มื้อเที่ยงละค่ะ 555+ คุณลุงขับรถตู้ของพวกเราเป็นไกด์นำทางพาพวกเราไปชิมอาหารเมืองเหนืออย่าง ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ข้าวกั้นจิ้น ที่ “ร้านอาหารวันดา” ตบท้ายด้วยขนมหวานน้ำแข็งใส
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่ออิ่มจากร้านป้าวันดา ก็พุ่งตรงไปอำเภอปัวกันเลยค่ะ แวะ “ร้านกาแฟไทลื้อ” ร้านกาแฟกลางท้องทุ่ง ไม่เชื่อต้องมาดูด้วยตัวเอง
จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ @ บ่อเกลือ ซึ่งเป็นเส้นผ่านทางไปอุทยานดอยภูคา-บ่อเกลือ เส้นทางสะดวกแม้โค้งเยอะหน่อยๆ ก็ตาม 555+ “บ่อเกลือ” ชื่อก็บอกแล้วว่ามีเกลือ ที่มีสารพัดประโยชน์ทั้งขัดผิว แช่เท้า และนำมาประกอบอาหาร และไม่ใช่แค่เกลืออย่างเดียว ที่นี่พวกเราได้ชิม “ขนมเหนียวจิ้มคลุกงาขี้ม่อน” อยากบอกอร่อยอ่ะ เราคิดว่าเป็นตัวแป้งที่คลุกงาแถมจิ้มน้ำตาลหน่อย พูดก็น้ำลายสอเลยทีเดียว
เดินไม่ไกลมากก็มีวิวสวนดอกไม้ สะพานข้ามธารน้ำ พร้อมตบท้าย ฝากท้องร้านกลิ่นไอดิน (อาหารอร่อย*สมราคา)
พวกเราเข้าที่พักในอุทยานดอยภูคาก็ค่ำแล้ว (เกือบไม่ทัน >_<) บรรกาศยามค่ำ ชิกๆ คลูๆ ตรงระเบียงบ้าน ก็แค่ 8-9 องศาเอง เน้น “เองงงงง” เย็นเยือกมากกว่าแทบจะนอนกอดกันเลย!!! 555+ เอาเป็นว่าคืนนี้จบกันก่อนแยกย้ายพักผ่อนค่ะ
*****************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
“น่านไง....หนาวนี้ไปน่านกัน”
สวัสดีค่ะ.... ตอนนี้ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว โปรแกรมเที่ยวก็โผล่ปุ๊บขึ้นมา นึกขึ้นได้อีกทีก็แพ็กของใส่กระเป๋าล้อลากมุ่งตรงไปสนามบินแล้ว 555+ ถ้าพูดถึงหน้าหนาวหลายๆ คนอาจนึกถึงภูเขา ทะเลหมอก หรืออยากสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ ให้มันสบายปอด ก็คงต้องมุ่งไปทางภาคเหนือตอนบนอย่างเชียงใหม่ เชียงราย เป็นส่วนใหญ่ แต่ใครจะรู้บ้างละทางตอนเหนือใกล้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวจะมีธรรมชาติบริสุทธิ์ ซ่อนอยู่ ต้องขอยกให้เมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออกจังหวัด “น่าน” เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ความเป็นอยู่เรียบง่าย มีเสน่ห์ในวัดวาอาราม และเด็ดสุด คือ มีสถานที่ให้ถ่ายรูปหลากหลายแนว .... เราคนหนึ่งแหละที่ชอบถ่ายรูป ไปมา 3 รอบก็ยังติดใจและรอบล่าสุดก็ไปแบบครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เอาเป็นว่าไปอ่านรีวิวกันเลยนะคะ เผื่อเพื่อนๆ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้
******************************************************************
มาเริ่มกันเลย...ช่วงที่เราไปตอนนั้นประมาณต้นปีจองไปตอนโปรถูก ยังไงก็ขอขอบคุณพี่หางแดงที่พาพวกเราร่อนไปถึง จ.น่าน วางแผนไปกัน 4 วัน 3 คืน และเหมารถตู้วิ่งยาวตลอดการเดินทาง กว่าจะถึงน่านก็ช่วงเย็นๆ
คืนแรกสำหรับพวกเราพักกันที่ “คุ้มเมืองมินทร์” บอกเลยว่าสวยมาก 555+ ไปมากี่ทีก็มาพักที่นี่ เพราะใกล้สถานที่สำคัญหลายๆ อย่าง เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองก็ว่าได้ ส่วนมื้อเย็นฝากท้องไว้ “ร้านเฮือนภูคา” ร้านนี้อาหารเหนืออร่อยมากค่ะ (ไม่แน่ใจว่าหิวรึเปล่า >_<) ว่าแล้วก็จัดกันเลย แถมตบท้ายด้วย มื้อดึก “ขนมหวานป้านิ่ม” ใครมาน่านไม่ได้มาชิมฝีมือป้าแกนะ มาไม่ถึงแน่นอนแถม ชิลๆ บรรยากาศกลางคืนเย็นๆ ด้วย เสียดายวันที่เราไปวัดศรีพันต้นไม่เปิดไฟ ไม่งั้นนะได้ถ่ายรูปมาอวดแล้ว และล่าสุดป้านิ่มย้านร้านไปอยู่แถวบ้านมงคลนิมิต ทางไปวัดสวนตาล ถ.ทางเข้าสนามกีฬา อบจ.น่าน แล้วนะใครไปไม่ถูกลองโทรถามป้าเค้าได้ที่ 085 036 6108 ป้าใจดีจร้า 😊 เอาเป็นว่าคืนนี้พวกเราขอพักผ่อนเก็บแรงไปขึ้นดอยพรุ่งนี้กันนะคะ
**************************
วันที่สองของการเดินทาง เราจะไป “ดอยภูคา” กันค่ะ บอกแล้วแผนการเดินทางเราเที่ยวให้ครอบคลุม ไหนๆ มาทั้งทีต้องจัดให้เต็ม ก่อนขึ้นดอยก็ต้องเติมพลังที่คุ้งเมืองก่อน เล่นจัดแบบนี้ เอาซิไม่อิ่มให้มันรู้ไป
จากนั้นก็ปั่นสองล้อรอบเมืองไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดที่มีชื่อเสียงอย่าง “วัดภูมินทร์”
“วัดภูมินทร์” หากเข้าเมืองน่านไม่ได้แวะถือว่าไม่ถึงแน่ๆ... ข้างในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันหลังชนกัน หันหน้าออกไปทั้ง 4 ทิศด้วยค่ะ และอีกสิ่งที่โดดเด่นจนใครต่อหลายคนที่มาที่นี้ต้องอัพภาพขึ้น Status Facebook ส่วนตัวว่ามาถึงแล้วนะจ๊ะ คือ ภาพจิตรกรรม “ปู่ม่านย่าม่าน” เด่นสง่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองน่านเลย และต่อมาใกล้ๆ กันก็ “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร”
และไม่ห่างกันมากเดินข้ามฝั่งไปจะเจอ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับโบราณคดีด้านวัตถุและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และมุมเด็ดเป็นต้องแชะภาพส่งท้ายคือบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ มีต้นลีลาวดีขนาดใหญ่จัดเป็นซุ้มปลูกเรียงกันเป็นทอดยาว เป็นไฮไลท์ถ่ายรูปกันมาก ว่าแล้วก็แชะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก.....
แป๊ปๆ ก็มื้อเที่ยงละค่ะ 555+ คุณลุงขับรถตู้ของพวกเราเป็นไกด์นำทางพาพวกเราไปชิมอาหารเมืองเหนืออย่าง ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ข้าวกั้นจิ้น ที่ “ร้านอาหารวันดา” ตบท้ายด้วยขนมหวานน้ำแข็งใส
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่ออิ่มจากร้านป้าวันดา ก็พุ่งตรงไปอำเภอปัวกันเลยค่ะ แวะ “ร้านกาแฟไทลื้อ” ร้านกาแฟกลางท้องทุ่ง ไม่เชื่อต้องมาดูด้วยตัวเอง
จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ @ บ่อเกลือ ซึ่งเป็นเส้นผ่านทางไปอุทยานดอยภูคา-บ่อเกลือ เส้นทางสะดวกแม้โค้งเยอะหน่อยๆ ก็ตาม 555+ “บ่อเกลือ” ชื่อก็บอกแล้วว่ามีเกลือ ที่มีสารพัดประโยชน์ทั้งขัดผิว แช่เท้า และนำมาประกอบอาหาร และไม่ใช่แค่เกลืออย่างเดียว ที่นี่พวกเราได้ชิม “ขนมเหนียวจิ้มคลุกงาขี้ม่อน” อยากบอกอร่อยอ่ะ เราคิดว่าเป็นตัวแป้งที่คลุกงาแถมจิ้มน้ำตาลหน่อย พูดก็น้ำลายสอเลยทีเดียว
เดินไม่ไกลมากก็มีวิวสวนดอกไม้ สะพานข้ามธารน้ำ พร้อมตบท้าย ฝากท้องร้านกลิ่นไอดิน (อาหารอร่อย*สมราคา)
พวกเราเข้าที่พักในอุทยานดอยภูคาก็ค่ำแล้ว (เกือบไม่ทัน >_<) บรรกาศยามค่ำ ชิกๆ คลูๆ ตรงระเบียงบ้าน ก็แค่ 8-9 องศาเอง เน้น “เองงงงง” เย็นเยือกมากกว่าแทบจะนอนกอดกันเลย!!! 555+ เอาเป็นว่าคืนนี้จบกันก่อนแยกย้ายพักผ่อนค่ะ
*****************************