ดาวคะนอง ทำไมถึงถูกห้ามฉาย หรือพวกเราเป็นลูกแหง่

วันนี้ผมจะมาพูดถึงหนังเรื่อง ดาวคะนอง ที่ล่าสุดได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
สาขาหนังภาพยนต์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

ผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าตนเองนั้นไม่ใช่มืออาชีพในการรีวิวภาพยนต์ แต่อย่างใด
แต่จะมาพูดถึงในส่วนเชิง ว่าเหตุใดทำไมถึงต้องห้ามฉาย และ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์หนังในเมื่อช่วงที่ผ่านมา

ขอเริ่มเลยนะครับ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ สำหรับตัวผมแล้ว หนังเรื่องนี้ ต้องใช้เซลล์ประสาทและรอยยักในสมองในการดูอย่างมาก
เพราะว่า ดาวคะนอง สำหรับผมนั้นมันเป็นหนังที่ต้องใช้การวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา

ในส่วนของหนังจะมี เนื้อเรื่อง 3 เส้นใหญ่ๆครับ คือ

1.เส้นของผู้กำกับผู้หญิงที่อยากจะทำหนังภาพยนต์ขึ้นมา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนักเขียนท่านหนึ่ง ซึ่งมีชีวิตผ่านการต่อสู้มาในช่วง 6 ตุลา

ซึ่งใจความสำคัญที่เป็นคีย์เวิร์ด สำหรับผมคือ นักเขียนเค้าพูดว่า
"ดิฉันไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตค่ะ แต่ดิฉันคือผู้รอดชีวิต"

2.เส้นที่เกี่ยวกับดารานักแสดง คุณเป้ อารักษ์ และ คุณสายป่าน

3.เส้นนี้เกี่ยวกับเด็กเสิร์ฟคนหนึ่งที่เปลี่ยนงานมาเรื่อยๆ

ซึ่งทั้ง 3 เส้นนี้จะมีจุดเชื่อมกันแบบ หลวมๆเน้นนะครับ แบบหลวมๆ หลวมจนแบบ บางทีก็ไม่เข้าใจ ซึ่งผมคิดว่ามันคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ครับ

ที่ว่าให้คนดู 100 คน ก็อาจตีความหมายได้ถึง 100 แบบ โดยผ่านประสบการณ์ในชีวิตต่างๆของตัวผู้ชมเอง

หนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางเชิงสัญลักษณ์ในการสื่อสารต่างๆ

ทั้งการชูมือขึ้น เห็ด หรือ โลเคชั่น องค์ประกอบภาพ ในการนำเสนอ

โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ สำหรับผมนั้นได้ให้แง่คิดที่ดีมากๆ ทั้ง ความสำคัญของการเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ ว่าเราเรียนมันเพื่ออะไร?

การมีสติ ในการดำเนินชีวิต ซึ่งสามารถมาปรับใช้ได้จริงในตัว เยาวชน และ บุคคลทั่วไป

-ทีนี้เราจะมาพูดถึง ว่าที่ผ่านมานั้น ทำไมถึงถูกหน่วยงานต่างๆร่วมมือกันสั่ง ห้ามฉาย และ วิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่หนังเรื่องนี้ ก็ผ่านการฉายในโรงหนังมาแล้วพอสมควร

ในส่วนของผมจะแตกประเด็นสำคัญมา คือ

หนังเรืองนี้ มีเชิงสัญลักษณ์ที่พอจะเข้าใจง่ายๆ คือช่วงนาทีที่ 3-5
ตั้งแต่เริ่มหนัง ซึ่งตอนนี้จะเป็นฉากที่ ผู้กำกับสั่งให้ตำรวจทำหน้าดุๆ แล้วมีเหล่าเด็กๆนักศึกษานอนอยู่

ซึ่งสำหรับผมนั้นมันเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่เข้าใจง่ายที่สุด ว่าแน่นอนมันต้องเกี่ยวกับ 6 ตุลา

และ มันก็เป็นช่วงเดียวด้วย ในหนังที่ทั้งหมดมีความยาว 100 นาที

แต่ที่สำคัญฉากนี้มีอยู่ใน ไตเติ้ลของหนัง ประมาณ 5 วินาที ครับ

และพอได้ดูหนังจนจบแล้ว หลังจากนาทีที่ 5 ไป แทบจะไม่มีฉากรุนแรงและสื่อความหมายที่ชัดๆเข้าใจง่ายๆแบบนี้อีกเลยทั้งเรื่อง



*นั่นหมายความว่า ผู้ที่ออกมาสั่งกำชับบอกว่าห้ามฉายหนัง พวกท่านอาจจะคงจะได้ดูเพียงแค่ ไตเติ้ลของหนัง เท่านั้นใช่หรือไม่ ?
แล้วก็สรุปรวมเลยว่า ไม่โอเค มันอันตราย และสุ่มเสี่ยงต่อช่วงเวลาในขณะนี้  งด ห้าม เด็ดขาด!

แต่จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ มันไม่ได้มีอันตรายอะไรเลยครับ ผมรับประกัน
แถม ให้แง่คิดที่ดีด้วยซ้ำ

แต่สำหรับผู้ที่มีอำนาจสั่งการห้ามฉายหนัง ห้ามวิจารณ์นั้น มันคงเป็นผลงานที่ดีมิใช่น้อย
ใช่หรือไม่ครับ ?

ทีนี้ มันส่งผลให้เราคิดยังไงกับการกระทำตรงนี้ มันคือ
การที่ใช้อำนาจที่ไม่สมเหตุสมผลครับ

การใช้อำนาจที่ถูกต้อง สำหรับผมคือ จำเป็นอย่างมากที่ต้องศึกษาในสิ่งๆนั้นอย่างละเอียดรอบครอบ ถึงแก่นแท้ แล้วก็ค่อยบอกไปว่า มันไม่ได้ตรงไหน อันตรายอย่างไร ควรปรับปรุงเช่นใด

นี้แหละครับคือการใช้อำนาจที่ถูกต้อง เข้าใจ>ศึกษาจนถึงแก่น>บังคับใช้>หาทางออก>เริ่มต้นใหม่

ที่ผ่านมาก็มีประเด่นแบบนี้หลายๆครั้งครับ
ทั้ง อาบัติ นาคปรก MVทศกัณฐ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยก็จะต่างกันออกไป

แต่อยากจะบอกว่าท่านผู้ใหญ่ที่มีอำนาจที่ยังไม่เข้าใจถึงคำว่า แก่นแท้ คืออะไร ?
โปรดอย่า มองว่าพวกเราเป็น "ลูกแหง่" ที่คิดเองไม่ได้ หาทางออกเองไม่เจอ ท่านต้องคอยปกป้องตลอด
จริงๆแล้วพวกเรานั้น มีความสามารถในหลายๆด้านที่จะพัฒนาตามความถนัดในแบบของตนเอง
เพราะฉะนั้นได้โปรด หากจะห้ามปรามสิ่งใด ท่านเหล่านั้นโปรดจงศึกษาให้ถึงแก่นแท้ แล้วมาสอนพวกผม พวกเราคนยุคใหม่ รับฟังเสมอ

และผมอยากจะบอกว่าอุตสาหกรรมบันเทิงนั้นมันมีมิติที่สำคัญของมัน ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้ง
เศรษฐกิจ และจิตใต้สำนึกของมนุษย์ได้

หากท่านผู้นำ หรือผู้มีอำนาจ ไม่เข้าใจในแก่นแท้ของ อุตสาหกรรมบันเทิง ก็อย่าพึ่งห้ามปราบ ได้โปรดมาทำความเข้าใจมันก่อนให้ถึงแก่น มันจะมีประโยชน์ต่อประเทศในอนาคตที่เกี่ยวข้อง กับ 4.0 มากๆ

และหากผู้มีอำนาจเข้าใจอย่างลึกซึ้งในส่วนของอุตสาหกรรมบันเทิงแล้ว

ท่านจะตาสว่างในหลายๆมุมมอง ทั้งการพัฒนาจิตใต้สำนึก และเศรษฐกิจในอนาคตของพวกเรา

ได้โปรด

"ตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสอน"

ปูอัด ไชยามพวาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่