คือทางญาติที่ ตจว ชนบท มีที่ดินอยู่ผืนนึง 20 กว่าไร่ อยู่ในเขตหมู่บ้านใหญ่ มีพันกว่าหลังคาเรือน
อยู่กันมาเป็นน่าจะ 200 กว่าปี ตั้งแต่สมัยทวด ของทวด สมัยก่อนมีไม่กี่ครัวเรือน จนปัจจุบัน
มีความเจริญ ที่ดินอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไปในซอยสาธารณะจนเกือบสุดซอย บ้านชาวบ้านจะอยู่ต้นซอยเยอะ
พอหลังๆเกือบสุดซอย ก็จะเป็นที่นา สวน ของชาวบ้าน ไม่มีสภาพเป็นป่าอะไร
ที่ดินของญาติ ไม่ใช่ที่ภูเขาแต่ไกล้ๆภูเขา เป็นผืนใหญ่ผืนเดียวกัน คือซื้อต่อๆกันเป็นแปลงๆ ซื้อ
มาได้ 20 กว่าปีเป็นที่ดินดั้งเดิมที่ของชาวบ้าน ที่สมัยก่อนที่ใครขยันก็ถาง เอาทำมาหากิน ทำนา สวน ปลูกบ้าน ญาติซึ่งก็เกิดที่นี่
จึงซื้อเก็บไว้จากชาวบ้านด้วยกันเอง สมัยก่อนไม่กี่บาท ร้อย หลักพัน ต่อมาคือหมื่นต้นๆต่อไร่
ชาวบ้านที่มีที่ดินแถวนี้ ซื้อขายกันมาตลอดโดยไม่มีใบ หรือโฉนดอะไรทั้งนั้น สมัยนั้น ญาติได้ซื้อที่ดินมาเป็น 20 กว่าปี ก็
ยังไม่มีโฉนด หรือ ภบท อะไร เพียงแต่ทุกคนในหมู่บ้านรับรู้ว่าเป็นที่ดินของใคร ที่ดินแถวๆนี้ก็มีการซื้อขาย
ถ่ายมือกันไปมาตลอด
จนเมื่อสมัยนายกชวนทางการได้มาสำรวจที่ดิน และประกาศพื้นที่บนดอยภูเขาที่ไกล้ๆ
ที่ดินชาวบ้านเหล่านี้ขึ้นไปเป็นป่าสงวน เพราะจะอนุรักษ์ไว้ ซึ่งคงกันไม่ให้ชาวบ้านบุกรุกในอนาคต
ซึ่งจริงๆชาวบ้านไม่ได้รุกที่ดอยเลยครับ ดอย ภูเขายังสมบูรณ์ ชาวบ้านหวงแหนมาก
สมัยก่อน เขาเอาที่แนวราบทำนา ตั้งแต่สมัยก่อนเท่านั้น
พอประกาศเป็นป่าสงวน ซึ่งอาจทำให้ที่ดิน และบ้านที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน น่าจะร้อยกว่าหลังคาเรือน
และที่ดินแนวราบบริเวณข้างเคียงของชาวบ้าน
เป็นเขตของกรมป่าไม้ไปด้วย
จนมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่ดินได้มาสำรวจ ว่าที่ดินตรงไหนออกโฉนดได้บ้าง
อย่างที่ดินติดบริเวณหัวนา หรือพื้นที่ที่เกษตรกรรมแล้วเขาก็สำรวจ
และได้ออกโฉนดหลังแดงให้ ซึ่งญาติก็ได้โฉนดมา 8 ไร่ 3 งาน จาก 20 กว่า ไร่
เพราะเขาให้คนละไม่เกิน 9 ไร่ชาวบ้านที่มีที่ดินแถวนี้ที่เขาสามารถออกโฉนดให้ได้ และที่ดินเห็นว่าสมควรออกโฉนด
ก็ไปออกโฉนดกันเยอะพอสมควร ซึ่งปีหน้าจะครบ 10 ปี ฉโนดจะเป็นหลังดำ
(ทางการสำนักงานที่ดินเขาออกโฉนดให้ชาวบ้านเอง เป็นนโยบาย ออกให้โดยสุจริต ชาวบ้านมิได้ร้องขอ
หรือทุจริตใดๆทั้งสิ้น)
ตอนนี้ล่าสุดไม่กี่วันมีสำรวจและบอกว่า ที่ดิน เป็นเขตของป่าไม้
ทางการที่ดิน ป่าไม้มาสำรวจ รังวัด ทุกแปลง และ ให้เจ้าของมาลงรายชื่อแสดงสิทธิ์
ในที่ดินไว้ ว่าของใครๆ แปลงไหน เขาจดรายละเอียดไว้
พอสำรวจเสร็จเขาก็ประกาศ
ใครอยากจะให้ เป็น สปก
เขาจะออก สปก ให้ ลงชื่อไว้ที่ผู้ใหญ่
ใครไม่ต้องการ สปก เขาก็ไม่ว่าอะไร
ก็ทำกินกันต่อไป เขาไม่เอาคืน
ยังเป็นเจ้าของที่ดิน นั้นๆต่อไป ชั่วลูกชั่วหลาน
ซื้อขายกันเองได้ เหมือนเดิม รัฐไม่เกี่ยว
เพราะเป็นที่ดั้งเดิม มาเป็นร้อยๆปี
จึงอยากจะถามว่า ญาติควรทำที่ดินให้เป็น สปก ดีหรือไม่ครับ
หรือปล่อยไว้แบบนี้ คือไม่มีใบอะไร เพราะถ้าเป็น สปก จะซื้อขายไม่ได้ตลอดไป
หรืออาจจะรอ อนาคต ถ้ารัฐบาลมีนโยบายการ รังวัดออกโฉนดเหมือนที่ผ่านมา
จะดีกว่า เพราะถ้าทำเป็น สปก แล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้
ซื้อขายแบบถูกต้องก็ไม่ได้
รึป่าไม้จะประกาศยกเลิกเป็นพื้นที่ป่า อาจจะขอโฉนดได้ เพราะมันไม่มีสภาพป่าอะไรมานมนานแล้ว
สอบถามเกี่ยวกับที่ดินที่ไม่มีโฉนดหน่อยครับ ว่าจะทำ สปก ดีไหม
อยู่กันมาเป็นน่าจะ 200 กว่าปี ตั้งแต่สมัยทวด ของทวด สมัยก่อนมีไม่กี่ครัวเรือน จนปัจจุบัน
มีความเจริญ ที่ดินอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไปในซอยสาธารณะจนเกือบสุดซอย บ้านชาวบ้านจะอยู่ต้นซอยเยอะ
พอหลังๆเกือบสุดซอย ก็จะเป็นที่นา สวน ของชาวบ้าน ไม่มีสภาพเป็นป่าอะไร
ที่ดินของญาติ ไม่ใช่ที่ภูเขาแต่ไกล้ๆภูเขา เป็นผืนใหญ่ผืนเดียวกัน คือซื้อต่อๆกันเป็นแปลงๆ ซื้อ
มาได้ 20 กว่าปีเป็นที่ดินดั้งเดิมที่ของชาวบ้าน ที่สมัยก่อนที่ใครขยันก็ถาง เอาทำมาหากิน ทำนา สวน ปลูกบ้าน ญาติซึ่งก็เกิดที่นี่
จึงซื้อเก็บไว้จากชาวบ้านด้วยกันเอง สมัยก่อนไม่กี่บาท ร้อย หลักพัน ต่อมาคือหมื่นต้นๆต่อไร่
ชาวบ้านที่มีที่ดินแถวนี้ ซื้อขายกันมาตลอดโดยไม่มีใบ หรือโฉนดอะไรทั้งนั้น สมัยนั้น ญาติได้ซื้อที่ดินมาเป็น 20 กว่าปี ก็
ยังไม่มีโฉนด หรือ ภบท อะไร เพียงแต่ทุกคนในหมู่บ้านรับรู้ว่าเป็นที่ดินของใคร ที่ดินแถวๆนี้ก็มีการซื้อขาย
ถ่ายมือกันไปมาตลอด
จนเมื่อสมัยนายกชวนทางการได้มาสำรวจที่ดิน และประกาศพื้นที่บนดอยภูเขาที่ไกล้ๆ
ที่ดินชาวบ้านเหล่านี้ขึ้นไปเป็นป่าสงวน เพราะจะอนุรักษ์ไว้ ซึ่งคงกันไม่ให้ชาวบ้านบุกรุกในอนาคต
ซึ่งจริงๆชาวบ้านไม่ได้รุกที่ดอยเลยครับ ดอย ภูเขายังสมบูรณ์ ชาวบ้านหวงแหนมาก
สมัยก่อน เขาเอาที่แนวราบทำนา ตั้งแต่สมัยก่อนเท่านั้น
พอประกาศเป็นป่าสงวน ซึ่งอาจทำให้ที่ดิน และบ้านที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน น่าจะร้อยกว่าหลังคาเรือน
และที่ดินแนวราบบริเวณข้างเคียงของชาวบ้าน
เป็นเขตของกรมป่าไม้ไปด้วย
จนมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่ดินได้มาสำรวจ ว่าที่ดินตรงไหนออกโฉนดได้บ้าง
อย่างที่ดินติดบริเวณหัวนา หรือพื้นที่ที่เกษตรกรรมแล้วเขาก็สำรวจ
และได้ออกโฉนดหลังแดงให้ ซึ่งญาติก็ได้โฉนดมา 8 ไร่ 3 งาน จาก 20 กว่า ไร่
เพราะเขาให้คนละไม่เกิน 9 ไร่ชาวบ้านที่มีที่ดินแถวนี้ที่เขาสามารถออกโฉนดให้ได้ และที่ดินเห็นว่าสมควรออกโฉนด
ก็ไปออกโฉนดกันเยอะพอสมควร ซึ่งปีหน้าจะครบ 10 ปี ฉโนดจะเป็นหลังดำ
(ทางการสำนักงานที่ดินเขาออกโฉนดให้ชาวบ้านเอง เป็นนโยบาย ออกให้โดยสุจริต ชาวบ้านมิได้ร้องขอ
หรือทุจริตใดๆทั้งสิ้น)
ตอนนี้ล่าสุดไม่กี่วันมีสำรวจและบอกว่า ที่ดิน เป็นเขตของป่าไม้
ทางการที่ดิน ป่าไม้มาสำรวจ รังวัด ทุกแปลง และ ให้เจ้าของมาลงรายชื่อแสดงสิทธิ์
ในที่ดินไว้ ว่าของใครๆ แปลงไหน เขาจดรายละเอียดไว้
พอสำรวจเสร็จเขาก็ประกาศ
ใครอยากจะให้ เป็น สปก
เขาจะออก สปก ให้ ลงชื่อไว้ที่ผู้ใหญ่
ใครไม่ต้องการ สปก เขาก็ไม่ว่าอะไร
ก็ทำกินกันต่อไป เขาไม่เอาคืน
ยังเป็นเจ้าของที่ดิน นั้นๆต่อไป ชั่วลูกชั่วหลาน
ซื้อขายกันเองได้ เหมือนเดิม รัฐไม่เกี่ยว
เพราะเป็นที่ดั้งเดิม มาเป็นร้อยๆปี
จึงอยากจะถามว่า ญาติควรทำที่ดินให้เป็น สปก ดีหรือไม่ครับ
หรือปล่อยไว้แบบนี้ คือไม่มีใบอะไร เพราะถ้าเป็น สปก จะซื้อขายไม่ได้ตลอดไป
หรืออาจจะรอ อนาคต ถ้ารัฐบาลมีนโยบายการ รังวัดออกโฉนดเหมือนที่ผ่านมา
จะดีกว่า เพราะถ้าทำเป็น สปก แล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโฉนดได้
ซื้อขายแบบถูกต้องก็ไม่ได้
รึป่าไม้จะประกาศยกเลิกเป็นพื้นที่ป่า อาจจะขอโฉนดได้ เพราะมันไม่มีสภาพป่าอะไรมานมนานแล้ว