สวัสดีค่ะ จขกท กลับมาอัพ Part II กันต่อ หลังจากฝากกระทู้แรกของนิราศแอฟริกาไว้ในส่วนของ Victoria Fall และ Devil’s Pool เมื่อสองอาทิตย์ก่อน สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่
https://pantip.com/topic/36921403
จขกทได้เดินทางต่อมาที่ Cape Town ค่ะ เมื่อเท้าเหยียบถึงผืนแผ่นดินเคปทาวน์คือแบบความรู้สึกแรกคือ เฮ้ยย อากาศดีมาก เป็นช่วง Spring พอดี มีดอกไม้บ้าน ฟ้าใส แดดจัด แต่อากาศหนาว แต่ จขกทเองก็ประมาทเรื่องอากาศของที่นี่เกินไปคือ จขกท ขนไปแต่เสื้อผ้า summer ทั้งนั้นเลย แต่ดีว่าพกแจ๊คเก็ตมาด้วย เมื่อเครื่องลง จขกทแอบปรับตัวไม่ทัน และประทับใจเคปทาวน์มากตั้งแต่เหยียบสนามบินเพราะระบบการจัดการสนามบินถือว่าดีมาก รวดเร็วไม่ต้องเขียนใบ ตม. ขาเข้าด้วยปั๊มให้เลยรวดเร็วที่สุด
ก่อนเครื่องลงนี่คือวิวที่เห็นค่ะ Table Mountain ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ
พอมาถึงทางออก มี tourist information เราสามารถหยิบ brochure ที่ชื่อ 2017 Official Guide to Capetown มีเล่มนี้เล่มเดียวรอด!!! เป็นปริ้นสี พ็อคเก็ตบุ๊คอย่างดี ฟรีอีกตะหาก บอกหมดเลยค่ะว่า attraction มีอะไรที่ไหนควรจะไป แล้วเดินทางอย่างไร การเดินทางครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ จขกท ไม่ใช้ guidebook และเห็นว่ามีเล่มนี้เล่มเดียวจบค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำให้หยิบติดมือไปนะคะ
สิ่งที่จขกท หยิบติดออกมาสามสิ่ง เล่มที่อยู่สุดท้ายคือเล่มที่ต้องหยิบค่ะ
การเดินทางเข้าตัวเมือง เราเดินตามป้าย public transportation ในสนามบินค่ะ ไปจนถึง Ticket counter ของ myciti สามารถซื้อตั๋วแบบขาเดียวและไปกลับได้ จขกท ซื้อแค่ขาเดียวราคา 100 ZAR ได้มาเป็นบัตรแข็งสีฟ้าอย่างสวยจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่บัตรนี้ใช้ได้ครั้งเดียวไม่สามารถ top up ได้ รถจะวิ่งจาก Airport ไปที่ Civic Center ซึ่งจะเป็น hub สำหรับการเปลี่ยนรถไปที่ต่างๆ จขกท ประทับใจบ้านเมืองเค้าอีกแล้ว รถบัสทันสมัยมาก ตรงเวลามากด้วย platform ทำได้ดีผู้โดยสารเข้าใจง่าย ถึงจุดนี้จขกทซื้อตั๋วแบบ top-up ซึ่งสามารถใช้ได้ถึง 3 ปี ไว้เพราะต้องใช้รถบัสเดินทางด้วยเหมือนกัน สนนราคาค่าออกตั๋ว 35 ZAR และเค้า top-up ไว้ 50 ZAR ค่ะ
สถานี MyCitiBus นี่อยู่ตรงข้ามทางออกสนามบินเลยค่ะ
บัตร single trip เข้าสนามบินค่ะ
บัตร MyCiTi Bus valid 3 ปีค่ะ สีแดงๆยังกะบัตร ATM
เมื่อมาลง Civic Center จขกทจะต้องไป Green Point เพราะที่พักอยู่ที่นั่น จขกทดูแผนที่แล้วต้องขึ้น bus 105 ไม่ก็ 107 พอขึ้นรถบัส จขกทเองไม่แน่ใจว่าเค้าจอดทุกป้ายหรือต้องกดลงในที่สุดก็เลยลืมกดและนั่งเลยมาป้ายนึงซึ่งถ้าจะลงเหมือนเมืองไทยค่ะ กดไว้ก่อน พอลงมาหลงสักแป้ปก็เข้าที่พักได้
แผนผัง Platform เปิดประกอบดูคู่กับแผนที่ว่ารถผ่านทางไหนบ้าง
อีกหนึ่งทางเลือกคือ Uber ค่ะ ที่ Capetown ใช้ Uber กันอย่างแพร่หลาย ถ้าใครมี app อยู่แล้วและเดินทางมากกว่าสองคนแนะนำ Uber ค่ะ เพราะจขกท ใช้บริการขากลับ สองคนกับเพื่อนคนละ 100ZAR เช่นกันรวดเร็วทันใจ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
จขกทพักที่ Green Point Backpacker ค่ะ ที่พักน่ารักมากได้ห้องชื่อห้อง sailor การตกแต่งสวย สุนัขรับแขกสองตัวก็น่ารัก ใน area ของ Green Point นั้นเป็นที่พักของคนมีสตางค์ ดูจากบ้านพักแถวนั้นได้ ที่พักตั้งแต่ Green Point, Sea Point, Clifton Beaches, และ Camp Bays ราคาจะค่อนข้างสูงแต่วิวโลเกชั่นกินขาดมากค่ะ สรุปรักที่พักที่นี่จัง
ด้านนอก
ภายใน
หลังจากเก็บของจขกทก็ไปสำรวจเมืองกันค่ะ จากแผนที่และ google map บอกเดินประมาณ 10 นาที แต่ในความเป็นจริงคือ แบบคุณหลอกดาว เพราะใช้เวลาเดินร่วม 30 นาทีในการเดินไปถึง V&A waterfront ซึ่งเป็น area ที่สนุกสนานมากค่ะ ตัว V ย่อมาจาก Victoria ส่วน A ย่อมาจาก Alfred บริเวณนี้ มีความมีชีวิตชีวา คนร้องเพลงนั่งชิว นั่งดูแมวน้ำ (แมวน้ำที่นี่แอบมีกลิ่นแรงไม่แน่ใจว่ากลิ่นทะเลหรือกลื่นเค้าเองนะคะ 555) ดูนกนางนวล นั่งทาน fish&chip หรืออยากจะไปล่อง cruise ก็มีให้เลือกหลากหลายบริษัทมีบริการรอบสุดท้ายราว 5 โมงเย็น ถึงจุดนี้ จขกทหิวมากเลยขอไปทานอาหารก่อนสำรวจเมือง สรุปไปนั่งที่ร้าน quay 4 ซึ่งอยากชิวเลยไปนั่งข้างนอกแต่จริงๆแล้วหนาวมาก มา Capetown ทั้งทีต้องจัด seafood สถานเดียวค่ะเพราะสดและราคาถูก ค่าเสียหายมื้อนี้ คือ 200 ZAR รวมค่า VAT 14% ด้วย (กระอัก) หลังจากนั้นเดินชมวิวถ่ายรูปไปรอจนค่ำเพื่อถ่ายรูป cape wheel ซึ่งสามารถนั่งชมเมืองได้ด้วย ที่ V&A waterfront มี shopping mall ชื่อ Victoria Wharf ถือว่าห้างใหญ่มากค่ะ ขายแบรนด์ธรรมดาจนถึง brand ระดับนึงเลย มีร้านคาเฟ่ บาร์สำหรับนักดื่มอีกด้วย ที่สังเกตุได้คือของแบรนด์ที่นี่จะขายถูกกว่าเมืองไทยพอสมควร
ปล. จขกท ขอแยกเรื่องอาหารและพิกัดร้านไว้อีกกระทู้นึงต่างหากนะคะ อดใจรอนิดนึงน้าา
ความมีชีวิตชีวาของ V&A waterfront
Quay Four ร้านแรกที่ประเดิม
วิว Table Mountain จากแถวๆ Nobel Square
V&A Clock Tower สีชมพูหวาน สะพานนี่เปิดปิดให้เรือโดยสารด้วยนะคะ ต้องฟังประกาศดีๆ
ที่ดูแมวน้ำใกล้กับ V&A Clock Tower แต่อย่างที่บอกกลิ่นแรงทีเดียว
วิวกลางคืน ร้านรวงเรื่มเปิดไฟ
ภาพถ่าย Cape Wheel จาก ชั้นสองของห้าง Victoria Wharf ค่ะ
[CR] นิราศแอฟริกา Part II My Capetown เคปทาวน์ในแบบของฉัน by Poonie On the Road
สวัสดีค่ะ จขกท กลับมาอัพ Part II กันต่อ หลังจากฝากกระทู้แรกของนิราศแอฟริกาไว้ในส่วนของ Victoria Fall และ Devil’s Pool เมื่อสองอาทิตย์ก่อน สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่
https://pantip.com/topic/36921403
จขกทได้เดินทางต่อมาที่ Cape Town ค่ะ เมื่อเท้าเหยียบถึงผืนแผ่นดินเคปทาวน์คือแบบความรู้สึกแรกคือ เฮ้ยย อากาศดีมาก เป็นช่วง Spring พอดี มีดอกไม้บ้าน ฟ้าใส แดดจัด แต่อากาศหนาว แต่ จขกทเองก็ประมาทเรื่องอากาศของที่นี่เกินไปคือ จขกท ขนไปแต่เสื้อผ้า summer ทั้งนั้นเลย แต่ดีว่าพกแจ๊คเก็ตมาด้วย เมื่อเครื่องลง จขกทแอบปรับตัวไม่ทัน และประทับใจเคปทาวน์มากตั้งแต่เหยียบสนามบินเพราะระบบการจัดการสนามบินถือว่าดีมาก รวดเร็วไม่ต้องเขียนใบ ตม. ขาเข้าด้วยปั๊มให้เลยรวดเร็วที่สุด
ก่อนเครื่องลงนี่คือวิวที่เห็นค่ะ Table Mountain ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ
พอมาถึงทางออก มี tourist information เราสามารถหยิบ brochure ที่ชื่อ 2017 Official Guide to Capetown มีเล่มนี้เล่มเดียวรอด!!! เป็นปริ้นสี พ็อคเก็ตบุ๊คอย่างดี ฟรีอีกตะหาก บอกหมดเลยค่ะว่า attraction มีอะไรที่ไหนควรจะไป แล้วเดินทางอย่างไร การเดินทางครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ จขกท ไม่ใช้ guidebook และเห็นว่ามีเล่มนี้เล่มเดียวจบค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำให้หยิบติดมือไปนะคะ
สิ่งที่จขกท หยิบติดออกมาสามสิ่ง เล่มที่อยู่สุดท้ายคือเล่มที่ต้องหยิบค่ะ
การเดินทางเข้าตัวเมือง เราเดินตามป้าย public transportation ในสนามบินค่ะ ไปจนถึง Ticket counter ของ myciti สามารถซื้อตั๋วแบบขาเดียวและไปกลับได้ จขกท ซื้อแค่ขาเดียวราคา 100 ZAR ได้มาเป็นบัตรแข็งสีฟ้าอย่างสวยจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่บัตรนี้ใช้ได้ครั้งเดียวไม่สามารถ top up ได้ รถจะวิ่งจาก Airport ไปที่ Civic Center ซึ่งจะเป็น hub สำหรับการเปลี่ยนรถไปที่ต่างๆ จขกท ประทับใจบ้านเมืองเค้าอีกแล้ว รถบัสทันสมัยมาก ตรงเวลามากด้วย platform ทำได้ดีผู้โดยสารเข้าใจง่าย ถึงจุดนี้จขกทซื้อตั๋วแบบ top-up ซึ่งสามารถใช้ได้ถึง 3 ปี ไว้เพราะต้องใช้รถบัสเดินทางด้วยเหมือนกัน สนนราคาค่าออกตั๋ว 35 ZAR และเค้า top-up ไว้ 50 ZAR ค่ะ
สถานี MyCitiBus นี่อยู่ตรงข้ามทางออกสนามบินเลยค่ะ
บัตร single trip เข้าสนามบินค่ะ
บัตร MyCiTi Bus valid 3 ปีค่ะ สีแดงๆยังกะบัตร ATM
เมื่อมาลง Civic Center จขกทจะต้องไป Green Point เพราะที่พักอยู่ที่นั่น จขกทดูแผนที่แล้วต้องขึ้น bus 105 ไม่ก็ 107 พอขึ้นรถบัส จขกทเองไม่แน่ใจว่าเค้าจอดทุกป้ายหรือต้องกดลงในที่สุดก็เลยลืมกดและนั่งเลยมาป้ายนึงซึ่งถ้าจะลงเหมือนเมืองไทยค่ะ กดไว้ก่อน พอลงมาหลงสักแป้ปก็เข้าที่พักได้
แผนผัง Platform เปิดประกอบดูคู่กับแผนที่ว่ารถผ่านทางไหนบ้าง
อีกหนึ่งทางเลือกคือ Uber ค่ะ ที่ Capetown ใช้ Uber กันอย่างแพร่หลาย ถ้าใครมี app อยู่แล้วและเดินทางมากกว่าสองคนแนะนำ Uber ค่ะ เพราะจขกท ใช้บริการขากลับ สองคนกับเพื่อนคนละ 100ZAR เช่นกันรวดเร็วทันใจ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
จขกทพักที่ Green Point Backpacker ค่ะ ที่พักน่ารักมากได้ห้องชื่อห้อง sailor การตกแต่งสวย สุนัขรับแขกสองตัวก็น่ารัก ใน area ของ Green Point นั้นเป็นที่พักของคนมีสตางค์ ดูจากบ้านพักแถวนั้นได้ ที่พักตั้งแต่ Green Point, Sea Point, Clifton Beaches, และ Camp Bays ราคาจะค่อนข้างสูงแต่วิวโลเกชั่นกินขาดมากค่ะ สรุปรักที่พักที่นี่จัง
ด้านนอก
ภายใน
หลังจากเก็บของจขกทก็ไปสำรวจเมืองกันค่ะ จากแผนที่และ google map บอกเดินประมาณ 10 นาที แต่ในความเป็นจริงคือ แบบคุณหลอกดาว เพราะใช้เวลาเดินร่วม 30 นาทีในการเดินไปถึง V&A waterfront ซึ่งเป็น area ที่สนุกสนานมากค่ะ ตัว V ย่อมาจาก Victoria ส่วน A ย่อมาจาก Alfred บริเวณนี้ มีความมีชีวิตชีวา คนร้องเพลงนั่งชิว นั่งดูแมวน้ำ (แมวน้ำที่นี่แอบมีกลิ่นแรงไม่แน่ใจว่ากลิ่นทะเลหรือกลื่นเค้าเองนะคะ 555) ดูนกนางนวล นั่งทาน fish&chip หรืออยากจะไปล่อง cruise ก็มีให้เลือกหลากหลายบริษัทมีบริการรอบสุดท้ายราว 5 โมงเย็น ถึงจุดนี้ จขกทหิวมากเลยขอไปทานอาหารก่อนสำรวจเมือง สรุปไปนั่งที่ร้าน quay 4 ซึ่งอยากชิวเลยไปนั่งข้างนอกแต่จริงๆแล้วหนาวมาก มา Capetown ทั้งทีต้องจัด seafood สถานเดียวค่ะเพราะสดและราคาถูก ค่าเสียหายมื้อนี้ คือ 200 ZAR รวมค่า VAT 14% ด้วย (กระอัก) หลังจากนั้นเดินชมวิวถ่ายรูปไปรอจนค่ำเพื่อถ่ายรูป cape wheel ซึ่งสามารถนั่งชมเมืองได้ด้วย ที่ V&A waterfront มี shopping mall ชื่อ Victoria Wharf ถือว่าห้างใหญ่มากค่ะ ขายแบรนด์ธรรมดาจนถึง brand ระดับนึงเลย มีร้านคาเฟ่ บาร์สำหรับนักดื่มอีกด้วย ที่สังเกตุได้คือของแบรนด์ที่นี่จะขายถูกกว่าเมืองไทยพอสมควร
ปล. จขกท ขอแยกเรื่องอาหารและพิกัดร้านไว้อีกกระทู้นึงต่างหากนะคะ อดใจรอนิดนึงน้าา
ความมีชีวิตชีวาของ V&A waterfront
Quay Four ร้านแรกที่ประเดิม
วิว Table Mountain จากแถวๆ Nobel Square
V&A Clock Tower สีชมพูหวาน สะพานนี่เปิดปิดให้เรือโดยสารด้วยนะคะ ต้องฟังประกาศดีๆ
ที่ดูแมวน้ำใกล้กับ V&A Clock Tower แต่อย่างที่บอกกลิ่นแรงทีเดียว
วิวกลางคืน ร้านรวงเรื่มเปิดไฟ
ภาพถ่าย Cape Wheel จาก ชั้นสองของห้าง Victoria Wharf ค่ะ