~มาลาริน~** เช้านี้บรรยากาศการเมืองก็ยังสดใสในสายตามาลาริน..โพลล่าสุด ประชาชนก็ยังสนับสนุนลุงตู่ ลองอ่านดูค่ะ...

ผลโพลล์สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล และคสช. ระบุชัดยังไม่ถึงเวลาที่จะปลดล็อกพรรคการเมืองให้ผู้แทนทำกิจกรรม ควรรอไปอีกปี ในขณะที่รัฐบาลยันเลือกตั้งตามโรดแมป ศอกกลับนักเลือกตั้งทำเป็นไม่เข้าใจ ถึงเวลาเหมาะสมก็จะปลดล็อคให้เอง ด้านพรรคเพื่อไทย ออกอาการท้า “ประยุทธ์” ลงสมัคร สส.หากมั่นใจคะแนนนิยมดี


เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงความชัดเจนในคำแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลไทยและสหรัฐฯข้อที่ 8 ที่ระบุชัดเจนว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งที่มีอิสระและยุติธรรมในปี 2561 แน่นอน และผู้นำทั้งสองประเทศเห็นความสำคัญในการส่งเสริมสทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานว่า นายกฯชี้แจงมาโดยตลอดว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ที่ระบุไว้ และตรงกับที่พูดคุยกับผู้นำสหรัฐฯไม่เห็นมีอะไรที่ไม่ตรงกันตรงไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยหยิบยกแถลงการณ์ร่วมขึ้นมาอ้างว่าสิ่งที่นายกฯชี้แจงว่าปลายปี 2561 เป็นการประกาศเลือกตั้งและหลังจากนั้นจะนับไปอีก 150 วัน เพื่อทำการจัดเลือกตั้งซึ่งไม่ตรงกับข้อแถลงการณ์ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของพรรคการเมืองจะคิดอย่างไรก็ได้ วันนี้คสช.และรัฐบาลมีหน้าที่อย่างเดียวคือบริหารประเทศแล้วเดินไปตามโรดแมป ส่วนการเมืองจากวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็เป็นเรื่องของการเมือง เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ

‘ไก่อู’เชื่อประชาชนไม่สับสนลต.

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสนหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีท่าทีอะไรเพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมือง จะคิดอย่างไรก็ว่าไป และเชื่อว่าจะไม่เกิดความสับสน รวมทั้งและประชาชนก็จะไม่สับสน หากพรรคการเมืองจะสับสนก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวถึงข้อเรียกร้องของฝ่ายการเมืองให้ปลดล็อกคำสั่งหัวหน้า คสช.หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มีผลใช้บังคับ เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมือง เตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งว่าเรื่องนี้คสช.พิจารณาอยู่แล้ว อย่าเรียกร้องกันนักเลย เพราะคสช.ก็ไม่ได้ต้องการอยู่ในตำแหน่งอะไรนานๆ เพราะต้องทำตามโรดแมปเช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะพิจารณาปล่อยให้พรรคการเมืองดำเนินการตามกรรมวิธีได้ วันนี้เราทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองเพื่อให้ประเทศเดินหน้าขับเคลื่อนไปได้ และการจะเดินหน้าไปได้นั้นประกอบด้วยหลายอย่าง ไม่เถียงว่าการเมืองก็เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน แต่หากทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด ก็จะเดินหน้าไปไม่ได้เหมือนที่นายกฯเคยพูดมาตลอด

ยันทุกอย่างเดินตามโรดแมป

พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่าถึงประเด็นความสับสนว่า จะมีการเลือกตั้งในปี 2561 หรือ ปี 2562 ว่า การเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมป ซึ่งเริ่มตั้งแต่การมีรัฐธรรรมนูญ จากนั้นก็ต้องมีกฎหมายลูก เมื่อกฎหมายลูกแล้วเสร็จครบทุกฉบับก็ต้องบวกเวลาไปอีก 150วัน เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แบบนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และเดินตามกรอบระยะเวลา ซึ่งยืนยันว่า ไม่ใช่การขยับวันเลือกตั้งออก แต่ทุกอย่างเป็นไปตามตารางเวลาที่เดินตามกรอบกฎหมาย

“ตอนนี้กฎหมายลูกยังเสร็จไม่หมด คาดว่าจะน่าเสร็จครบได้ทั้งหมดช่วงปลายปี จากนั้นต้องบวกไปอีก150 วันจึงจะกำหนดวันเลือกตั้งได้ ที่ผ่านมา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมพรรคการเมืองยังนำประเด็นนี้ขึ้นมาพูดอีก เรื่องการเลือกตั้งยืนยันว่า ไม่ใช่การเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายและกรอบระยะเวลาที่ถูกบังคับเอาไว้” พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว

พท.ท้า’บิ๊กตู่’ลงเลือกตั้งส.ส.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพท.กรณีที่มีกระแสข่าวสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะคว่ำพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ2 ฉบับสุดท้าย เพื่อยืดวันเลือกตั้งออกไปอีกว่า วันนี้รัฐบาล คสช.และเครือข่ายแม่น้ำ5สายอาจจะกุมความได้เปรียบทางการเมืองเอาไว้ สามารถเล่นตามกติกาที่ได้เปรียบ วันนี้ไม่มีใครรู้ว่าคะแนนนิยมของคสช.จริงๆเป็นอย่างไร อย่าไปคิดหรือตัดสินใจแทนประชาชนทุกเรื่อง ถ้ามั่นใจในคะแนนนิยม นโยบายและผลงานตลอด3-4ปีของตนเองก็ขอให้ลงแข่งขันตามกติกาแล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสิน

ปชป.คาด’คสช.’จ่อผ่อนปรน

นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ว่า ว่าเนื้อหาของ พ.ร.ป. ดังกล่าวนั้นได้มีการบัญญัติไว้ชัดเจนว่าให้กฎหมายฉบับนี้มีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่มีการหน่วงเวลาไว้ อีกทั้งในกฎหมายฉบับนี้ยังระบุถึงสิ่งที่พรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตาม โดยมีการกำหนดเวลาไว้ชัดเจนเช่นการจัดทำข้อบังคับพรรค การยืนยันสมาชิกพรรค การจัดทำไพรมารี่โหวต เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังมีคำสั่งคสช. ที่ห้ามให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองมีผลบังคับใช้อยู่ ดังนั้นเมื่อ พ.ร.ป. ดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ก็จะส่งผลทำให้เกิดความลักลั่นในการใช้กฎหมายได้ ดังนั้น ตนเชื่อว่าทางฝ่ายกฎหมายของ คสช.โดยเฉพาะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีน่าจะรู้ถึงปัญหานี้แล้วก็แก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปิดให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้เท่าที่ พ.ร.ป.ฯ ได้บัญญัติไว้เท่านั้น แต่บางเรื่อง อาทิการจัดปราศรัยในทางการเมือง คาดว่าเขาคงยังไม่เปิดโอกาสให้ทำ

เมื่อถามต่อถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ฉบับอื่นๆที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่าจะสามารถลัดคิวได้หรือไม่นั้น นายนิพิฎฐ์กล่าวว่าตนเชื่อว่าเขาสามารถลัดคิวได้ โดยเอาร่าง พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งฉบับที่เหลือมาเข้าสู่การพิจารณาก่อน แล้วจึงค่อยพิจารณา ซึ่งหลังจาก พ.ร.ป.ทั้ง 4 ฉบับที่มีผลกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว ผ่านไปอีก 150 วันก็ให้ประกาศการเลือกตั้งได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้ พ.ร.ป.มีผลบังคับใช้ถึง 10 ฉบับ แต่อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทาง คสช.อาจจะไม่เอาร่าง พ.ร.ป.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมาเข้าสู่การพิจารณาก่อน แต่จะเอาไปพิจารณาเป็นฉบับหลังๆแทน

โพลล์ยังอึ้ง’ยิ่งลักษณ์’หนีคดี

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย “ซูเปอร์โพล” มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนจำนวน 1,225 ตัวอย่าง เรื่อง “โพลการเมืองที่สุดทึ่งและอึ้ง” ซึ่งดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 7 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อถามถึงประเด็นร้อนทางการเมือง และสังคมที่สุดอึ้งจนพูดไม่ออกของประชาชน พบว่า ร้อยละ 41.2 อึ้งเมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หนีคดีออกนอกประเทศไปได้ รองลงมาคือ ร้อยละ 35.2 ระบุพูดไม่ออก เมื่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นแพะรับโทษในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 32.7ระบุอึ้งกับราคาอาหาร ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ร้อยละ 29.8 พูดไม่ออกเมื่อเห็นยาเสพติดระบาดหนักบริเวณชุมชนที่พักอาศัย ร้อยละ 25.6 อึ้งเมื่อรัฐบาลและหน่วยงานรัฐปล่อยให้ร้านสะดวกซื้อมีเครื่องกดเบียร์ขายง่ายต่อล่อใจชักจูงเด็กและเยาวชนเข้าถึงน้ำเมาได้ง่าย นอกจากนี้ร้อยละ 18.1 อึ้งเมื่อหน่วยงานรัฐ ค้างชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และร้อยละ 27.1 อึ้งด้านอื่นๆ ได้แก่ เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินแม่นักกีฬา ยุคบิ๊กตู่รับใต้โต๊ะยาก คุมราคาหวยไม่อยู่ ปัญหารถแว้นแต่งซิ่ง และอึ้งที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคมถอนตัวจากกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เป็นต้น

ประชาชนมีความสุขยุคบิ๊กตู่

เมื่อถามประชาชนถึงผลงานรัฐบาลที่สุดทึ่งของแต่ละกระทรวง ทำให้ประชาชนมีความสุข พบว่า อันดับแรกร้อยละ 46.0 ระบุ ฝ่ายความมั่นคง ทำบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีม็อบรุนแรงบานปลาย อันดับสองร้อยละ 36.0 ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผู้มีรายได้น้อย อันดับสามร้อยละ 32.1ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติจัดเก็บรายได้เพิ่มจากยุคนักการเมืองในอดีตที่ได้เฉลี่ยปีละ 500 ล้านเพิ่มขึ้นเป็น 2,400 ล้านบาทในยุครัฐบาลนี้ อันดับที่สี่ร้อยละ 27.3 ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา และอันดับรองลงไปได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ โครงการปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาเข้าทุ่ง กระทรวงคมนาคม รถไฟรางคู่ เพิ่มเส้นทางด่วน กระทรวงมหาดไทย เงินตำบลละ 5 ล้าน กระทรวงต่างประเทศ ต่างชาติยอมรับประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงคือ 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20 ระบุไม่มีกระทรวงใดเลยที่มีผลงานน่าทึ่งในการสำรวจครั้งนี้

ต้องปฏิรูปตำรวจอันดับแรก

เมื่อถามถึงหน่วยงานรัฐที่ควรถูกปฏิรูปแก้ไขกฎหมายของหน่วยงานให้ดีขึ้น พบว่า อันดับแรกร้อยละ 33.5 ระบุ ตำรวจ รองลงมาคือ ร้อยละ 12.0 ระบุกระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 10.0 ระบุ กระทรวงด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 9.3 ระบุ กระทรวงคมนาคม เป็นเจ้าภาพดูแลความปลอดภัยทางถนน ร้อยละ7.1 ระบุ หน่วยงานความมั่นคง ความสงบสุขใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 5.9 ระบุ กระทรวงท่องเที่ยว ส่งเสริมการอนุรักษ์ ท่องเที่ยวยั่งยืน ร้อยละ 3.2 ระบุ กระทรวงสาธารณสุข บริการสุขภาพโรงพยาบาลที่เร็วไม่รอนาน มีคุณภาพดีเข้าได้ทั่วถึง และร้อยละ 19.0 ระบุอื่นๆ อาทิ กระทรวงเกษตรฯ ลดต้นทุนภาคการผลิตของเกษตรกร กระทรวงพลังงาน ส่งเสริมการใช้โซล่าเซลล์ พลังงานทางเลือก และกระทรวงแรงงาน คนไทยต้องมีงานทำ ขจัดปัญหาแย่งอาชีพคนไทย และกระทรวงยุติธรรม ช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์เป็นแพะรับโทษ เป็นต้น

อย่าเพิ่งให้นักการเมืองเคลื่อนไหว

เมื่อถามถึงนักกฎหมายของรัฐบาลที่ประชาชนเชื่อถือในการแก้ปัญหาประเทศ พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.1 ระบุ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในขณะที่ร้อยละ 46.9ระบุนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อสอบถามระยะเวลาที่รัฐบาลควรอนุญาตให้พรรคการเมือง และนักการเมืองออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 44.5 ระบุ มากกว่า 1 ปี ขึ้นไป หรือช่วงก่อนเลือกตั้ง ในขณะที่ร้อยละ 27.7 ระบุ 6 เดือนถึง 1 ปี และร้อยละ27.8 ระบุไม่เกิน 6 เดือนนี้เท่านั้น


http://www.naewna.com/politic/296496

เช้าที่สดชื่นอีกวัน..อ่านโพลแล้วก็ยิ้ม
ตอนนี้ลุงตู่ทั้ง smart and strong  


ฟังเพลงกันดีกว่า..เพลงนี้ชอบเพราะดูละครค่ะ
เสือมืดพระเอกของเรื่อง ทำให้มาลารินชอบมาก
ตอนนี้ก็เฉยๆไปแล้วค่ะ..55