[CR] Blade Runner 2049 (9.8/10) - หนังไซไฟที่กล้าที่สุดในรอบทศวรรษ

Blade Runner 2049 - (9.8/10)
__________________________________
.
"นี่อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน แต่ที่แน่ๆมันคือหนังไซไฟที่กล้าที่สุดในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา"
.
ผ่านไปกว่า 30 ปี Blade Runner หนังไซไฟสุดคัลท์ในตำนานก็กลับมาโลดแล่นบนหน้าจออีกครั้งหนึ่ง กับเนื้อเรื่องที่ขยายไปมากกว่าเดิม ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันคือหนังภาคต่ออย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกมาอาจจะไม่อินกับตัวละครก็ได้ อยากให้คนที่จะไปดูภาคใหม่นี้ ได้ดูภาคแรกก่อนเพราะมันอาจจะทำให้คุณไม่ได้เดินออกจากโรงมาแล้วบ่นว่า หนังง่วงนอน น่าเบื่อ อะไรแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวเองแล้วหนังทั้ง 2 ภาคก็ถือว่าเป็นหนังที่มีความสุดโต่งในตัว คนดูอาจจะไม่ได้ชอบกันหมดทุกคน
.
แต่สำหรับตัวผมเองที่ได้ดู Blade Runner 2049 แล้ว คิดว่ามันยังคงความคลาสสิคที่หนังต้นฉบับได้สร้างเอาไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้วได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่โจทย์ง่ายๆเลยที่จะนำเอาหนังคลาสสิคมาทำภาคต่อได้ ซึ่งผู้กำกับก็ตีโจทย์มันออกมาได้อย่างวิจิตรและงดงาม การดำเนินเรื่องที่ไม่รีบเร่ง น่าจับตามองทุกๆซีน เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้ หนังมีการวางประโยคบทพูดที่น่าสนใจ ประกอบกับการถ่ายภาพขั้นเยี่ยม (ใครว่าดันเคิร์กภาพสวยแล้ว อยากให้มาเจอเรื่องนี้) ในยุคสมัยนี้คนมักจะชอบที่จะดูหนังไซไฟแบบแอคชั่นมากกว่า ทำให้หนังไซไฟเชิงปรัชญาแบบนี้หาดูได้ยากยิ่ง เพราะไม่กล้สที่จะทำออกมา ด้วยเรื่องการตอบรับหรือกำไรอะไรต่างๆ แต่ Blade Runner 2049 ก็ยังได้รับกระแสแบบเดิมที่ได้รับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว อย่างการที่คนดูแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ไม่ชอบสุดๆไปเลยก็บ่นสุดๆ ไปเลย
.
กลับมาที่ตัวหนัง Blade Runner 2049 นั้นว่าด้วยเรื่องราวต่อจากภาคแรก โดยมีตัวดำเนินเรื่องหลักคือ K (Ryan Gosling) ที่ได้รับภารกิจออกตามเก็บมนุษย์เทียมรุ่นเก่าที่แฝงตัวอยู่ในโลกนี้ หลังจากการล่มสลายของ Tyrell Co. จนได้ไปพบเข้ากับความลับบางอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขาเอง หนังเริ่มด้วยฉากภาพสุดวิจิตร จนบางครั้งก็คิดว่าเหมือนได้ดู 2001:Space Odyssey อีกรอบนึง การดำเนินเรื่องอย่างนิ่งๆค่อยเป็นค่อยไป ราวกับว่าเรื่องราวในหนังเป็นเรื่องจริงเลยก็ว่าได้ ตัวละครไม่ได้มีชีวิตที่หวือหวา ฮีโร่อะไรขนาดนั้น ดูอาภัพซะด้วยซ้ำ การสะท้อนมุมมองชีวิตที่มีต่อมนุษย์เทียมและมนุษย์แท้ที่ดูมีมิติ การผนวกเทคโนโลยีในการเล่าเรื่อง อย่างโฮโลแกรมในฉบับอนาคตที่น่าสนใจมากๆว่าอาจจะสามารถเกิดขึ้นจริงได้ หลักการอะไรต่างๆมันดูสมจริงซะเหลือเกิน ผนวกกับสภาพสังคมและชีวิตของผู้คนในโลกอนาคตที่หดหู่
.
การสื่อสารผ่านสัญลักษณ์ต่างๆในหนังที่คมคาย อย่างการโชว์ถึง origami รูปแกะที่สื่อถึงการเคารพต้นฉบับนิยาย Do Androids Dream of Electric Sheeps การใช้สี เพลง ต่างๆที่สะท้อนระหว่างวัฒนธรรมยุคเก่าและวัฒนธรรมยุคใหม่ที่เข้ามาร่วมผสานกัน หนังยังตั้งคำถามย้อนกลับไปยังมนุษย์เทียมอีกว่า สิ่งที่เราฝัน คิดนั้น มันเป็นความจริงหรือเพียงแค่ความแม่นยำทางคณิตศาสตร์ที่ผู้สร้างคิดมาหรือไม่ สร้างให้เราตระหนักถึงการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง เมื่อเส้นกั้นบางๆระหว่างจริงและปลอมมันแทบจะเป็นเส้นเดียวกัน คำถามคือ อะไรคือสิ่งที่ควรค่าแก่การเป็นมนุษย์ การมีตัวตน ความรัก ความฝัน หรืออุดมการณ์
โดยหนังสะท้อนให้เห็นว่าการไร้ตัวตน ถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดสุดเลยก็ว่าได้ การที่สิ่งที่เรายึดถือเชื่อมาตลอดนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา อย่างความรัก เป็นต้น หรือว่าการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และได้ตายเพื่อมันจะเป็นจุดสูงสุดของการเป็นมนุษย์ หนังได้ตั้งคำถามที่ทำให้เราได้ชุกคิดประเด็นเหล่านี้อย่างลึกซึ้งและชัดเจน
.
นับได้ว่าเป็นการสร้างภาคต่อที่ดีเยี่ยมที่สุดเรื่องนึงเลย แต่ติดใจเรื่องตอนจบที่รู้สึกว่าแอบห้วนไปนิด อาจจะต้องรอ Director's cut ออกมา อาจจะจบสมบูรณ์กว่านี้ก็เป็นได้ เพราะหนังก็ปาเข้าไป 2 ชั่วโมง 40 นาทีแล้ว (โรงสกาล่าจะให้บรรยากาศที่เหมาะแก่หนังเรื่องนี้มากๆ)

สามารถคิดคามต่อได้ที่เพจ facebook : https://www.facebook.com/TheDraftingTable/posts/514047295624529
ชื่อสินค้า:   Blade Runner 2049
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่