
อำเภอชินเชโร่อยู่ในจังหวัดอูรูบัมบ้า (Urubamba) ซึ่งไม่ไกลจากกุสโก้ (Cusco) นั่งรถประมาณ 30-50 นาทีจากกุสโก้เองค่ะ เนื่องจากชินเชโร่สูงกว่ากุสโก้เล็กน้อยคือสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,762 เมตร (ของกุสโกจะสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,399 เมตรค่ะ) บางคนจึงอาจมีอาการแพ้ความสูงได้ (เราไม่มีอาการแพ้ความสูงเลยตลอดการเดินทางค่ะ เลยไม่มีปัญหาที่ชินเชโร่เลย) ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังพูดภาษาเกชัวกันอยู่นะคะ ตลาดวันอาทิตย์ยังมีระบบแลกของแทนการจ่ายเงินกันอยู่เลย พูดภาษาชาวบ้านคือ ชินเชโร่ก็บ้านนอกนี่แหละค่ะ
ในเวลาห้าสัปดาห์ (ไม่รวมวันเดินทางไป-กลับจากไทย) ที่เปรูและโบลิเวียนั้น ชินเชโร่เป็นไฮไลท์เบา ๆ ของเราในเปรูเพราะเราสนใจเรื่องหินของชาวอินคามาก ๆ ตอนประถม แล้วก็ลืม ๆ ไป (เพราะมาเจอการ์ตูนญี่ปุ่น ฮ่า ๆ) เลยได้มีโอกาสมาฟื้นใหม่ตอนก่อนไปเที่ยว ความตื่นเต้นตอนเด็กน้อยก็กลับมาอีก แล้วเมืองนี้ก็มีหินก้อนนึงที่เราอยากเห็นด้วยตาตัวเอง เราเลยเลือกมานอนที่นี่คืนนึงค่ะ ก่อนมาเราไม่คาดหวังอะไรมากกับเมืองนี้ ขอแค่เห็นการตัดหินในยุคอินคาแรก ๆ เราก็พอใจแล้ว แต่พอได้ไปชินเชโร่จริง ๆ นี่ฟินมากเลย คนชินเชโร่ตั้ลล้าคมากกกเลยทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และตำนานเมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองเล็กน่ารักในใจเราเลย
เราออกจากกุสโก้เพื่อไปชินเชโร่ตอนสาย ๆ ค่ะ เดินไปศูนย์รถตู้ แล้วนั่งรถตู้อูรูบัมบ้าไปเพื่อลงระหว่างทาง หากจำไม่ผิดราคา 6 โซเลสนะคะ รถตู้จะแพงหน่อย ขากลับนี่กลับกับรถทัวร์ราคา 3 โซเลสค่ะ คือปกติแถวนี้ฝนก็ไม่ค่อยตกอยู่แล้ว เราไปตอนหน้าแล้ง ทุกสิ่งจึงดูแห้งมาก (และน้าวหนาวเช่นกัน)
การจราจรติดขัดในกุสโก้

ออกมาเจอชนบทอย่างแท้ทรูแล้วจ้า

รถจอดตรงจุดที่มีร้านรวงริมถนนเยอะค่ะ ที่พักที่เราจองไว้อยู่ใกล้กับตลาดค่ะ เดินหาไม่ยาก (ที่ชินเชโร่ไม่มีโรงแรมนะคะ มีแต่เกสเฮาส์และที่พักเล็ก ๆ)
วันที่เราไปเป็นวันดีค่ะ จะไม่ดีได้ยังไง เจองานแต่งงานหลายงานเลยค่ะ ออกนอกที่พักปุ๊ปเจอหนึ่งงาน เดินมามีดนตรีประหนึ่งขันหมากเลยค่ะ ตื่นเต้น ฮ่า ๆ

พอเดินไปใกล้โบสถ์ก็เจออีกงานนึง อันนี้เพื่อนเจ้าสาวแต่งสีฟ้ากันมา เราขอถ่ายรูปกับเจ้าสาวด้วยค่ะ ใจดีมากเลยค่ะ ให้ถ่ายอย่างยิ้มแย้มเลย

เดินออกอีกทางก็เจออีกคู่นึง เราขอถ่ายรูปเค้าสักหน่อยว่าชุดแต่งงานบ่าวสาวงานโบสถ์ก็เหมือนที่อื่นนั่นแหละ เจ้าสาวจะเขิน ๆ หน่อยค่ะ ส่วนเจ้าบ่าวดูดี๊ด๊ามากค่ะ เราเสียดายนิดหน่อยที่ไม่เอากล้องดี ๆ มา แต่เราถือคติการเดินทางครั้งนี้ว่า มีวันที่ลั้นลา (และตัวเบา) ย่อมดีกว่ามีรูปสวย ๆ เลยเสียดายแค่นิดเดียวจริง ๆ อิอิ

ถ้าจะเข้าไปดูซากอินคาต้องมี Cusco Tourist Ticket ค่ะ มีทั้งแบบ partial และ full เราซื้อแบบ full เลยค่ะเพราะมีอายุ 10 วันและไปได้ 16 ที่เลย ราคา 130 โซเลสค่ะ สำหรับเราถือว่าคุ้มมาก (เราไป 10 ที่ค่ะ) ถ้าไปแบบชิล ๆ นี่เดินทางไปเองได้ทุกที่เลยค่ะ แถม Sacsayhuaman กับ Qenqo เดินไปไม่ไกลจากกุสโก้ด้วยค่ะ (เป็นสองซากที่เราชอบมาก ๆ ถัดจาก Qenqo มี Temple of the Moon ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ซึ่งงดงามมาก ดูขลังสุด ๆ เลย) แต่หากอยู่กุสโก้ไม่กี่วัน ซื้อแบบ partial ก็ได้ค่ะ มีแบบ 1 และ 2 วันตามสถานที่ ราคา 70 โซเลสค่ะ ไปซื้อที่สถานที่ที่เราอยากไปได้เลยค่ะ ของเราก็ซื้อที่ชินเชโร่นี่แหละ ซื้อแล้วเค้าจะทำเครื่องหมายไว้ เพราะเข้าได้แค่ที่ละครั้งค่ะ (เราชอบที่เจาะที่ Qenqo มากเลยค่ะ เป็นรูปปลาโลมา ตั้ลล้าค)
[CR] ตากหัวมัน ฟินซากอินคา ทาลิปสติกแมลง ชิลที่ต้นกำเนิดสายรุ้ง และชมตลาดวันอาทิตย์ที่ชินเชโร่ (Chinchero) ก็สนุกดีนะ
อำเภอชินเชโร่อยู่ในจังหวัดอูรูบัมบ้า (Urubamba) ซึ่งไม่ไกลจากกุสโก้ (Cusco) นั่งรถประมาณ 30-50 นาทีจากกุสโก้เองค่ะ เนื่องจากชินเชโร่สูงกว่ากุสโก้เล็กน้อยคือสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,762 เมตร (ของกุสโกจะสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,399 เมตรค่ะ) บางคนจึงอาจมีอาการแพ้ความสูงได้ (เราไม่มีอาการแพ้ความสูงเลยตลอดการเดินทางค่ะ เลยไม่มีปัญหาที่ชินเชโร่เลย) ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังพูดภาษาเกชัวกันอยู่นะคะ ตลาดวันอาทิตย์ยังมีระบบแลกของแทนการจ่ายเงินกันอยู่เลย พูดภาษาชาวบ้านคือ ชินเชโร่ก็บ้านนอกนี่แหละค่ะ
ในเวลาห้าสัปดาห์ (ไม่รวมวันเดินทางไป-กลับจากไทย) ที่เปรูและโบลิเวียนั้น ชินเชโร่เป็นไฮไลท์เบา ๆ ของเราในเปรูเพราะเราสนใจเรื่องหินของชาวอินคามาก ๆ ตอนประถม แล้วก็ลืม ๆ ไป (เพราะมาเจอการ์ตูนญี่ปุ่น ฮ่า ๆ) เลยได้มีโอกาสมาฟื้นใหม่ตอนก่อนไปเที่ยว ความตื่นเต้นตอนเด็กน้อยก็กลับมาอีก แล้วเมืองนี้ก็มีหินก้อนนึงที่เราอยากเห็นด้วยตาตัวเอง เราเลยเลือกมานอนที่นี่คืนนึงค่ะ ก่อนมาเราไม่คาดหวังอะไรมากกับเมืองนี้ ขอแค่เห็นการตัดหินในยุคอินคาแรก ๆ เราก็พอใจแล้ว แต่พอได้ไปชินเชโร่จริง ๆ นี่ฟินมากเลย คนชินเชโร่ตั้ลล้าคมากกกเลยทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และตำนานเมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองเล็กน่ารักในใจเราเลย
เราออกจากกุสโก้เพื่อไปชินเชโร่ตอนสาย ๆ ค่ะ เดินไปศูนย์รถตู้ แล้วนั่งรถตู้อูรูบัมบ้าไปเพื่อลงระหว่างทาง หากจำไม่ผิดราคา 6 โซเลสนะคะ รถตู้จะแพงหน่อย ขากลับนี่กลับกับรถทัวร์ราคา 3 โซเลสค่ะ คือปกติแถวนี้ฝนก็ไม่ค่อยตกอยู่แล้ว เราไปตอนหน้าแล้ง ทุกสิ่งจึงดูแห้งมาก (และน้าวหนาวเช่นกัน)
การจราจรติดขัดในกุสโก้
ออกมาเจอชนบทอย่างแท้ทรูแล้วจ้า
รถจอดตรงจุดที่มีร้านรวงริมถนนเยอะค่ะ ที่พักที่เราจองไว้อยู่ใกล้กับตลาดค่ะ เดินหาไม่ยาก (ที่ชินเชโร่ไม่มีโรงแรมนะคะ มีแต่เกสเฮาส์และที่พักเล็ก ๆ)
วันที่เราไปเป็นวันดีค่ะ จะไม่ดีได้ยังไง เจองานแต่งงานหลายงานเลยค่ะ ออกนอกที่พักปุ๊ปเจอหนึ่งงาน เดินมามีดนตรีประหนึ่งขันหมากเลยค่ะ ตื่นเต้น ฮ่า ๆ
พอเดินไปใกล้โบสถ์ก็เจออีกงานนึง อันนี้เพื่อนเจ้าสาวแต่งสีฟ้ากันมา เราขอถ่ายรูปกับเจ้าสาวด้วยค่ะ ใจดีมากเลยค่ะ ให้ถ่ายอย่างยิ้มแย้มเลย
เดินออกอีกทางก็เจออีกคู่นึง เราขอถ่ายรูปเค้าสักหน่อยว่าชุดแต่งงานบ่าวสาวงานโบสถ์ก็เหมือนที่อื่นนั่นแหละ เจ้าสาวจะเขิน ๆ หน่อยค่ะ ส่วนเจ้าบ่าวดูดี๊ด๊ามากค่ะ เราเสียดายนิดหน่อยที่ไม่เอากล้องดี ๆ มา แต่เราถือคติการเดินทางครั้งนี้ว่า มีวันที่ลั้นลา (และตัวเบา) ย่อมดีกว่ามีรูปสวย ๆ เลยเสียดายแค่นิดเดียวจริง ๆ อิอิ
ถ้าจะเข้าไปดูซากอินคาต้องมี Cusco Tourist Ticket ค่ะ มีทั้งแบบ partial และ full เราซื้อแบบ full เลยค่ะเพราะมีอายุ 10 วันและไปได้ 16 ที่เลย ราคา 130 โซเลสค่ะ สำหรับเราถือว่าคุ้มมาก (เราไป 10 ที่ค่ะ) ถ้าไปแบบชิล ๆ นี่เดินทางไปเองได้ทุกที่เลยค่ะ แถม Sacsayhuaman กับ Qenqo เดินไปไม่ไกลจากกุสโก้ด้วยค่ะ (เป็นสองซากที่เราชอบมาก ๆ ถัดจาก Qenqo มี Temple of the Moon ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ซึ่งงดงามมาก ดูขลังสุด ๆ เลย) แต่หากอยู่กุสโก้ไม่กี่วัน ซื้อแบบ partial ก็ได้ค่ะ มีแบบ 1 และ 2 วันตามสถานที่ ราคา 70 โซเลสค่ะ ไปซื้อที่สถานที่ที่เราอยากไปได้เลยค่ะ ของเราก็ซื้อที่ชินเชโร่นี่แหละ ซื้อแล้วเค้าจะทำเครื่องหมายไว้ เพราะเข้าได้แค่ที่ละครั้งค่ะ (เราชอบที่เจาะที่ Qenqo มากเลยค่ะ เป็นรูปปลาโลมา ตั้ลล้าค)