สวัสดีค่ะ
สืบเนื่องจากเดือนหน้า เราจะมีแพลนไปเที่ยวคันไซช่วงใบไม้เปลี่ยนสีปลายเดือน พ.ย. โดยมีแพลนเที่ยว USJ เต็มวัน 1 วัน
เมื่อวานเพิ่งทำการซื้อตั๋ว USJ + EXPRESS PASS 7 ผ่านเว็บ usj.co.jp โดยตรงไปหมาดๆ เนื่องจาก USJ เพิ่งปล่อย EXPRESS PASS LOT ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 6/11/17 – 8/1/18 ออกมา เลยอยากจะมาแชร์วิธีการซื้อตั๋วเองฉบับอัพเดท 2017 ให้เพื่อนๆที่สนใจกำลังจะไปในช่วงนี้และมีแพลนจะไปในปีหน้าเอาไปลองทำกันดูค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆมีรีวิวที่เป็น YouTube ทำไว้ดีและละเอียดมากๆอยู่อันนึง เราก็ศึกษาจากอันนี้แหละ ยกเครดิตให้เลย >>> https://www.ilovetogo.com/shop/Blog/Detail/universal-studio-japan-osaka-booking-ticket
สำหรับกระทู้เรา เราจะรีวิวทุกขั้นตอนที่เราทำจริงอย่างละเอียด และข้อมูลบางอย่างที่ใน YouTube อาจจะไม่ได้บอกไว้ด้วย
ก่อนจะไปลงรายละเอียด อาจมีเพื่อนๆบางคนที่อาจสงสัยว่า....
ซื้อบัตรเองผ่านเว็บโดยตรง VS ซื้อผ่าน Agency มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร? ขออธิบายคร่าวๆตามข้อมูลที่หามาได้ ดังนี้ค่ะ
>>> ชนิดของบัตรที่มีให้เลือก <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: มีชนิดบัตรให้เลือกครบถ้วน เช่น บัตรพิเศษตามช่วงเวลา, บัตร EXPRESS ก็มีให้เลือกหลายแบบครบถ้วน
ซื้อผ่าน Agency: มีชนิดของบัตรให้เลือกน้อยกว่า เช่น บางเว็บอาจมีแค่ EXPRESS 4 , บางเว็บมี EXPRESS 7 ขาย แต่ไม่ได้มีทุกแบบ เช่น อาจจะมีแค่ 2 แบบจาก 4 แบบเป็นต้น และมักไม่มีบัตรพิเศษขาย
>>> ราคา <<<
ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยซื้อผ่านเว็บโดยตรงจะถูกกว่าหลักร้อยต้นๆ เพราะเราไม่แน่ใจว่าซื้อผ่าน Agency เค้า FIX ราคามั้ย บางเว็บเราก็เห็นว่า FIX ราคาขายเลยเป็นหน่วยบาท ไม่ว่าค่าเงินจะขึ้นหรือลงก็ไม่มีการจ่ายส่วนต่างเพิ่ม บางเว็บก็กำหนดราคาเป็นเงินเยน เวลาซื้อราคาก็คงขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้นๆ **** ช่วงนี้ที่ค่าเงินเยนอ่อน เราซื้อได้มาในราคาที่ถูกกว่าที่ตั้งงบไว้พอสมควร (1 DAY PASS + EXPRESS PASS 7 = 5,000 บาทโดยประมาณ)
>>> การเลือกช่วงเวลาสำหรับ EXPRESS <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: สามารถเลือกช่วงเวลาที่จะเข้าโซนแฮรี่ และเล่นเครื่องเล่นพีคๆได้เอง โดยในเว็บจะมีตารางให้ดูมีหลายตัวเลือก หลายช่วงเวลามาก (จะมีให้เลือกในข้นตอนการสั่งซื้อและจ่ายเงินเลยทันที)
ซื้อผ่าน Agency: เท่าที่สอบถามข้อมูลมา 2-3 ที่ ส่วนมากจะเป็น EXPRESS แบบกำหนดเวลาเข้าโซน Harry มาให้เลยเราจะเลือกเองไม่ได้ กับแบบที่ต้องซื้อและรอคอนเฟิร์มตั๋วก่อนถึงจะเลือกช่วงเวลาได้ ซึ่งเรามองว่ามันจะเสียเวลา ทำให้อาจพลาดช่วงเวลาที่อยากเข้าก็ได้
ยกตัวอย่าง เราอยากเข้าโซน Harry ตอนเย็นๆ ตอนที่เราซื้อผ่านเว็บ บางช่วงเวลาก็ไม่มีให้เลือกแล้ว แสดงว่าเค้าจำกัดจำนวนไว้ และมีคนที่ซื้อ express เลือกช่วงเวลาบางช่วงเวลาไปหมดโควตาแล้ว เป็นต้น
>>> การรับบัตร <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: จะได้เป็น QR CODE มา ทั้ง 1 DAY PASS และ EXPRESS PASS โดยจะมีลิงค์ให้ด้วย สามารถแชร์ลิงค์ผ่านไลน์เก็บไว้ได้ เวลาใช้งานก็เปิดลิงค์สแกนได้เลย หรือไม่ก็ปริ้นเป็นกระดาษ A4 ไปได้
ซื้อผ่าน Agency: บริษัทอาจส่งเป็นตั๋วจริงมาให้ หรือ อาจเป็น Voucher/E-voucher ไปแลกหน้างาน หรือ เป็น E-ticket มาให้ใช้ได้เลย เหมือนซื้อโดยตรงผ่านเว็บก็ได้ค่ะ
สำหรับเราแล้วเราว่าการซื้อตั๋วด้วยตัวเองไม่ได้มีความยุ่งยากเลย ทำไม่ถึง ชม. ก็เสร็จ เพียงแค่ศึกษาทำการบ้านหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งเราก็กำลังจะเขียนให้ลอกแล้วในกระทู้นี้ แต่ถ้าใครขี้เกียจจริงๆก็ซื้อผ่าน agency โลดค่ะ
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย !!
--------------------------------------------
หมายเหตุ: ทุกขั้นตอนใช้ Browser Chrome และ google translate จากภาษาญี่ปุ่น เป็น ภาษาอังกฤษ (ใครจะแปลเป็นไทยก็ได้ แต่เราว่ามันแปลเป็นไทยภาษาแปลกๆ เป็นอังกฤษอ่านเข้าใจง่ายกว่า)
[CR] รีวิวขั้นตอนการซื้อตั๋ว USJ + EXPRESS PASS ด้วยตัวเองผ่านเว็บ usj.co.jp อย่างละเอียด [ฉบับอัพเดท ต.ค. 2017]
สืบเนื่องจากเดือนหน้า เราจะมีแพลนไปเที่ยวคันไซช่วงใบไม้เปลี่ยนสีปลายเดือน พ.ย. โดยมีแพลนเที่ยว USJ เต็มวัน 1 วัน
เมื่อวานเพิ่งทำการซื้อตั๋ว USJ + EXPRESS PASS 7 ผ่านเว็บ usj.co.jp โดยตรงไปหมาดๆ เนื่องจาก USJ เพิ่งปล่อย EXPRESS PASS LOT ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 6/11/17 – 8/1/18 ออกมา เลยอยากจะมาแชร์วิธีการซื้อตั๋วเองฉบับอัพเดท 2017 ให้เพื่อนๆที่สนใจกำลังจะไปในช่วงนี้และมีแพลนจะไปในปีหน้าเอาไปลองทำกันดูค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับกระทู้เรา เราจะรีวิวทุกขั้นตอนที่เราทำจริงอย่างละเอียด และข้อมูลบางอย่างที่ใน YouTube อาจจะไม่ได้บอกไว้ด้วย
ก่อนจะไปลงรายละเอียด อาจมีเพื่อนๆบางคนที่อาจสงสัยว่า....
ซื้อบัตรเองผ่านเว็บโดยตรง VS ซื้อผ่าน Agency มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร? ขออธิบายคร่าวๆตามข้อมูลที่หามาได้ ดังนี้ค่ะ
>>> ชนิดของบัตรที่มีให้เลือก <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: มีชนิดบัตรให้เลือกครบถ้วน เช่น บัตรพิเศษตามช่วงเวลา, บัตร EXPRESS ก็มีให้เลือกหลายแบบครบถ้วน
ซื้อผ่าน Agency: มีชนิดของบัตรให้เลือกน้อยกว่า เช่น บางเว็บอาจมีแค่ EXPRESS 4 , บางเว็บมี EXPRESS 7 ขาย แต่ไม่ได้มีทุกแบบ เช่น อาจจะมีแค่ 2 แบบจาก 4 แบบเป็นต้น และมักไม่มีบัตรพิเศษขาย
>>> ราคา <<<
ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยซื้อผ่านเว็บโดยตรงจะถูกกว่าหลักร้อยต้นๆ เพราะเราไม่แน่ใจว่าซื้อผ่าน Agency เค้า FIX ราคามั้ย บางเว็บเราก็เห็นว่า FIX ราคาขายเลยเป็นหน่วยบาท ไม่ว่าค่าเงินจะขึ้นหรือลงก็ไม่มีการจ่ายส่วนต่างเพิ่ม บางเว็บก็กำหนดราคาเป็นเงินเยน เวลาซื้อราคาก็คงขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้นๆ **** ช่วงนี้ที่ค่าเงินเยนอ่อน เราซื้อได้มาในราคาที่ถูกกว่าที่ตั้งงบไว้พอสมควร (1 DAY PASS + EXPRESS PASS 7 = 5,000 บาทโดยประมาณ)
>>> การเลือกช่วงเวลาสำหรับ EXPRESS <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: สามารถเลือกช่วงเวลาที่จะเข้าโซนแฮรี่ และเล่นเครื่องเล่นพีคๆได้เอง โดยในเว็บจะมีตารางให้ดูมีหลายตัวเลือก หลายช่วงเวลามาก (จะมีให้เลือกในข้นตอนการสั่งซื้อและจ่ายเงินเลยทันที)
ซื้อผ่าน Agency: เท่าที่สอบถามข้อมูลมา 2-3 ที่ ส่วนมากจะเป็น EXPRESS แบบกำหนดเวลาเข้าโซน Harry มาให้เลยเราจะเลือกเองไม่ได้ กับแบบที่ต้องซื้อและรอคอนเฟิร์มตั๋วก่อนถึงจะเลือกช่วงเวลาได้ ซึ่งเรามองว่ามันจะเสียเวลา ทำให้อาจพลาดช่วงเวลาที่อยากเข้าก็ได้
ยกตัวอย่าง เราอยากเข้าโซน Harry ตอนเย็นๆ ตอนที่เราซื้อผ่านเว็บ บางช่วงเวลาก็ไม่มีให้เลือกแล้ว แสดงว่าเค้าจำกัดจำนวนไว้ และมีคนที่ซื้อ express เลือกช่วงเวลาบางช่วงเวลาไปหมดโควตาแล้ว เป็นต้น
>>> การรับบัตร <<<
ซื้อผ่านเว็บเอง: จะได้เป็น QR CODE มา ทั้ง 1 DAY PASS และ EXPRESS PASS โดยจะมีลิงค์ให้ด้วย สามารถแชร์ลิงค์ผ่านไลน์เก็บไว้ได้ เวลาใช้งานก็เปิดลิงค์สแกนได้เลย หรือไม่ก็ปริ้นเป็นกระดาษ A4 ไปได้
ซื้อผ่าน Agency: บริษัทอาจส่งเป็นตั๋วจริงมาให้ หรือ อาจเป็น Voucher/E-voucher ไปแลกหน้างาน หรือ เป็น E-ticket มาให้ใช้ได้เลย เหมือนซื้อโดยตรงผ่านเว็บก็ได้ค่ะ
สำหรับเราแล้วเราว่าการซื้อตั๋วด้วยตัวเองไม่ได้มีความยุ่งยากเลย ทำไม่ถึง ชม. ก็เสร็จ เพียงแค่ศึกษาทำการบ้านหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งเราก็กำลังจะเขียนให้ลอกแล้วในกระทู้นี้ แต่ถ้าใครขี้เกียจจริงๆก็ซื้อผ่าน agency โลดค่ะ
หมายเหตุ: ทุกขั้นตอนใช้ Browser Chrome และ google translate จากภาษาญี่ปุ่น เป็น ภาษาอังกฤษ (ใครจะแปลเป็นไทยก็ได้ แต่เราว่ามันแปลเป็นไทยภาษาแปลกๆ เป็นอังกฤษอ่านเข้าใจง่ายกว่า)