ทรายกำจัดลูกน้ำยุง


ทรายกําจัดลูกน้ํายุง ( Larvicidal Sand Granule )  
ทรายกําจัดลูกน้ําหรือที่รู้จักกันในชื่อทรายอะเบท (Abate?) ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ทราย กําจัดลูกน้ํา
ทํามาจากเม็ดทรายขนาดประมาณ 1,250 ไมโครเมตร เคลือบด้วยสารทีมีฟอส บางครั้งใช้ ซีโอไลต์
ซึ่งเป็นวัตถุมีรูพรุนนํามาใช้แทนทราย สารทีมีฟอสเป็นสารเคมีกําจัดแมลงชนิดออร์กาโนฟอสเฟต มีกลิ่นเหม็น
สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกแดดหรือความร้อน มีความเป็นพิษต่ําต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่มีความเป็นพิษสูง
ต่อลูกน้ํายุง ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดํา เหา และสัตว์ปีก ดังนั้นจึงมีการนําสารทีมีฟอส
ไปเคลือบบนผิวของเม็ดทรายผลิตเป็น ผลิตภัณฑ์ทรายกําจัดลูกน้ํา ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็น
ทรายเม็ดละเอียดสีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีน้ําตาลหรือ เม็ดซีโอไลต์เคลือบด้วยสารทีมีฟอส ดังแสดงในภาพ  
  
ผลิตภัณฑ์ทรายกําจัดลูกน้ํา เป็นวัตถุ อันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
ต้องขึ้นทะเบียนที่สํานักงานคณะกรรมการ อาหารและยา  

การควบคุมทางกฎหมาย  
สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาโดยกลุ่มควบคุมวัตถุอันตราย สํานักควบคุมเครื่องสําอาง และ วัตถุอันตราย
เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบในการรับขึ้นทะเบียน สูตรตํารับที่ขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ทาง สาธารณสุข มี 2 ตํารับ
คือ สูตรที่มีสารทีมีฟอส 1 % w/w และสูตรที่มีสารทีมีฟอส 2% w/w  
ผลิตภัณฑ์ทรายกําจัดลูกน้ำ จะต้องแสดงฉลากดังต่อไปนี้
1. ชื่อผลิตภัณฑ์  
2. ชื่อและที่อยู่ บริษัทผู้ผลิต  
3. ชื่อและที่อยู่ จำหน่าย
4. ชื่อปริมาณสารสําคัญ  
5. เลขทะเบียน  
6. เลขที่ผลิต  
7. วันที่ผลิต
8. วิธีใช้
9. ข้อควรระวัง  
การใช้ประโยชน์    
- องค์การอนามัยโลก แนะนําให้ใช้ทรายกําจัดลูกน้ําใส่ในแหล่งน้ํา เพื่อกําจัดลูกน้ํายุง เป็นการป้องกัน
  ไม่ให้ยุงที่เป็นพาหะนําโรคหลายชนิดแพร่พันธุ์ได้ แต่จะต้องใช้ใน อัตราส่วนที่ถูกต้อง จึงจะกําจัดลูกน้ํายุงได้
  คือ เมื่อใส่ในแหล่งน้ําแล้วจะต้องมีความ เข้มข้นที่ 1 ส่วนในล้านส่วน ( ppm ) โดยจะออกฤทธิ์ทําลายระบบ
  ประสาทและการหาย ใจของลูกน้ํายุงภายใน 1 ชั่วโมง และคงฤทธิ์อยู่ได้นาน 3 เดือน    
- ผลิตภัณฑ์ทรายกําจัดลูกน้ําสูตรที่มีสารทีมีฟอส 1% โดยน้ําหนักใช้ในอัตรา ส่วน 1 กรัม ต่อน้ํา 10 ลิตร
  ซึ่งสารทีมีฟอสนี้จะค่อยๆละลายในน้ํา ได้ความเข้มข้น ประมาณ 1 ppm หรือถ้าใช้สูตรที่มีสารทีมีฟอส 2 %
  โดยน้ําหนักก็ให้ใช้ในอัตรา ส่วน 0.5 กรัมต่อน้ํา 10 ลิตร ซึ่งจะได้ความเข้มข้นประมาณ 1 ppm เช่นกัน
  การแก้ไขอาการเมื่อได้รับพิษจากสารทีมีฟอส์  
- การหายใจเข้าไปจะทําให้เกิดการระคายเคือง ไอ หายใจติดขัด หายใจถี่รั่ว ปวดศีรษะ
  คลื่นไส้ อาเจียน การปฐมพยาบาลให้ย้ายผู้ป่วยไปในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์
- การสัมผัสทางผิวหนังจะทําให้เกิดการระคายเคือง สารนี้สามารถดูดซึมผ่าน
   ผิวหนัง ได้ง่าย ในกรณีสัมผัส ผิวหนังให้ล้างออกด้วยน้ําปริมาณมากๆประมาณ 15 นาที    
- การสัมผัสถูกตาจะทําให้เกิดการระคายเคือง น้ําตาไหล
  ตาแดง สายตาพร่ามัว ในกรณีที่เข้าตา ให้ ล้างด้วยน้ําปริมาณมากๆ ประมาณ 15 นาที    
- การกลืนหรือกินเข้าไปจะทําให้เกิดการระคายเคือง คลื่นไส้
  อาเจียน ไอ หาย ใจติดขัด ท้องร่วง อ่อนเพลีย หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตต่ํา สูญเสียการควบคุม หมดสติ    
- ในกรณีที่ผู้ป่วยยังมีสติอยู่ให้ใช้น้ําบ้วนปากและไปพบแพทย์ทันที  
ที่มา  http://www.oknation.net
ขอบคุณภาพประกอบ กลุ่มผาทอง กรุ๊ป http://www.phathong.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่