[CR] +++ลุยเดี่ยวเที่ยว Uganda-Rwanda-DR Congo “Permit & Visa ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้”+++


สวัสดีค่ะทุกคน เราขอกลับมารีวิวอีกครั้งกับทริปที่เพิ่งกลับมาสดๆ ร้อนๆ ในต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทริปนี้เราเที่ยวทั้งหมด 13 วันค่ะ ก่อนที่จะไปก็พยายามหาข้อมูลใน Pantip แต่ก็มีน้อยมาก ที่พอเห็นก็จะไปกับ Local ทัวร์ ซึ่งเราก็พยายามติดต่อ Local ทัวร์นะ แต่ราคานี่ต้องบอกว่าไม่สามารถจะจ่ายจริงๆ (เป็นคนงบเที่ยวน้อย แล้วบานปลายกับงบกินเป็นหลัก) เราเลยอยากจะรีวิว และแชร์ข้อมูลบางอย่างของการเที่ยวใน 3 ประเทศนี้ ข้อมูลบางอย่างอาจไม่ละเอียดมาก หรือบางอย่างถ้ามีใครไม่เห็นด้วยเรามาแชร์กันได้เลยนะคะ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่กำลังมีแผนจะไปประเทศในแถบนี้

สำหรับกระทู้นี้เราจะมาว่าด้วยเรื่อง Permit และ Visa ที่เกี่ยวข้องล้วนๆ….

เหตุผลของการเดินทาง

จริงๆ แล้วอ๊ายอายที่จะบอกเหตุผลที่เราไปเที่ยวในครั้งนี้ คือเราไปเที่ยวครั้งนี้เพราะเราอยากเป็น “นางเอก” หนังเรื่อง Gorilla in the Mist มันคือความฝันตอนเด็กๆ ตั้งแต่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดว่า สักวัน....ชั้นจะเป็นนางเอก! ไปอยู่ในป่ากับ Gorilla! จะปกป้อง Gorilla! จนวันหนึ่งวันที่ตั๋วเครื่องบินไป Uganda ลดราคา.....มันคือวันที่บอกว่าโอกาสมาถึงแล้ว!!! จะรออะไรคะ? ซื้อตั๋วเลยสิคะ! ส่วนข้อมูลน่ะเหรอ...ช่างมัน ไว้ค่อยหาเอาที่หลัง!!!


กดซื้อตั๋วเสร็จก็วางแผนจอง Permit เลย

Gorilla Permit in Uganda
Gorilla Permit ใน Uganda ราคา USD600 สำหรับ High season และ USD350 สำหรับ Low season (Nov เป็นต้นไป)
เราเข้าไปในเวปของอุทยานใน Uganda เพื่อจอง Permit http://www.bwindiforestnationalpark.com/ พยายามหาข้อมูลและติดต่อ แต่......เงียบกริบ! พออ่านรีวิวต่างชาติ หลายๆ คนก็บอกว่าอย่าเสียเวลาติดต่อเลย อุทยานไม่ขาย Permit เองจ้า....ติดต่อผ่าน Agency ด่วนๆ พอเราลองถาม Agency ส่วนใหญ่ก็ขายเป็นทัวร์ ไม่มีใครขาย Permit เลย แม้กระทั่ง Agency ที่เคยมีคนรีวิวเมื่อปีที่แล้วว่าขายแต่ Permit มาปีนี้ก็ขายแต่ทัวร์ แล้วราคาทัวร์ก็ช่างสั่นคลอนเงินในบัญชีเป็นยิ่งนัก ราคาที่เสนอมาไม่ต่ำกว่า USD1,250 สำหรับ 3 วัน 2 คืน
Day1: เดินทางจาก Kampala (เมืองหลวง) ไปเมืองที่อยู่ใกล้ๆ อุทยาน
Day2: ไปตามล่าหา Gorilla แล้วกลับมาพักผ่อน
Day3: เดินทางกลับ

ซึ่งหมายความว่าการเที่เราจ่ายเพิ่มมากกว่า USD600 เพื่อที่พักและรถสำหรับเดินทางเท่านั้น!!! ปกตินั่งรถบัสรถเมล์ได้ นอน Dorm นอนดินได้ ถ้าต้องจ่ายแพงขนาดนี้ก็ไม่สามารถจริงๆ เลยคิดว่าต้องหาหนทางใหม่

บางคนบอกว่าเช่ารถขับเองสิจ๊ะ บริษัทรถจะช่วยจอง Permit ให้คุณได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย!!! มันดูเยี่ยมยอดมากกับตัวเลือกนี้ แต่ค่าเช่ารถวันละ USD100 ไม่รวมน้ำมัน สำหรับคนที่ไปคนเดียวอย่างเราต้องโบกมืออำลาตัวเลือกนี้อยู่ดี
คราวนี้เอายังไงดีนะ? ในเมื่อ Uganda มันแพงนัก งั้นลองมองประเทศอื่นก็ได้.....

***หลังจากที่ไปเที่ยวมาเรามีวิธีจอง Permit ที่ Uganda โดยที่ไม่ต้องซื้อทัวร์แล้ว!!!! เราพักที่ Red chilli Kampala แล้วฝรั่งที่นอนห้องเดียวกับเราบอกว่าให้ที่ Red chilli นี่แหละจองให้ แต่ไม่ได้จองล่วงหน้านะ แบบมาถึงแล้วให้เค้าจอง ได้วันไหนก็ไปวันนั้นเลย เราไม่ได้ถามว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเท่าไหร่ แต่เดาว่าไม่เยอะ เพราะฝรั่งคนนี้ไม่ยอมซื้อทัวร์เลยซะทัวร์ (อารมณ์เที่ยวประหยัดๆ) ยังไงถ้าใครอยากไปเองแบบไม่ง้อทัวร์ ลองจองที่พักกับ Redchili แล้วให้เค้าช่วยจองให้ดูนะคะ (ไม่แน่ใจว่าจะรับจองล่วงหน้ามั๊ย)

Gorilla Permit in Rwanda
ในเวปของอุทยาน Bwindi บอกว่านอกจากที่ Uganda แล้วยังมี Rwanda กับ DR Congo ที่มี Gorilla ให้ดู แต่ DR Congo มันไม่อยู่ในกลุ่ม East Africa ถ้าจะไปต้องขอ Visa ต่างหากอีก เราเลยเลือก Rwanda แรกๆ เห็นค่า Permit แล้วชื้นใจ ราคาอยู่ที่ USD750 และดูจองไม่ยากมากมายเท่ากับที่ Uganda แต่ช้าก่อน!!! ราคาที่ว่านี้มันไม่มีอีกแล้ว อุทยานเพิ่งปรับขึ้นราคา Permit เป็น USD1,500 เห็นราคาแล้วจะเป็นลม แพงกว่าทัวร์ ที่ Uganda อีก
จุดนี้อย่าถามหาข้อมูลเชิงลึกของ Gorilla Permit ใน Rwanda ค่ะ เพราะเห็นแค่ค่า Permit ก็โบกมือบ๊ายบาย......

Gorilla Permit in DR Congo
มาถึงตัวเลือกสุดท้ายที่ไม่อยากเลือก เพราะมันต้องขอวีซ่าต่างหากเพิ่มอีก แต่ไหนๆ ไม่มีทางเลือกเลยลองหาข้อมูลดู https://visitvirunga.org/treks/ พอเข้าไปดู เฮ้ยๆๆๆ ค่า Permit ถูกกว่าทุกประเทศในแถบนี้ ราคาน่ารักๆ อยู่ที่ USD400 ต่อให้บวกค่า Visa อีก USD100 มันก็แค่ USD500 เอาล่ะ!!! ไปดู Gorilla ที่ DR Congo ดีกว่า

แต่...เดี๋ยวๆ ทำไมมันมี Transportation booking คืออะไรคะ? พอลองเข้าไปดู อู้วววว....จากเมือง Goma ไปดู Gorilla ต้องเสียค่ารถไปกลับเกือบ USD200 ค่ะ!!! รถที่ Goma เติมน้ำมันแบบไหนคะ? ทำไมราคาค่ารถมันแพงอย่างงี้!!! กำลังจะถอดใจ แต่เราไปอ่านรีวิวแล้วมีคนบอกว่านั่งมอเตอร์ไซค์ไปก็ได้ ไปกลับแค่ USD60 รวมๆ แล้วทั้งหมดมันน่าจะประมาณ USD560 ราคานี้สู้ค่ะ.....กดจองไปเลยรัวๆ (ถ้าหามอเตอร์ไซค์ไม่ได้จะทำไง? อันนี้ไปแก้ปัญหาเอาข้างหน้า)

Gorilla online permit (DR Congo)
1.    เข้า Web ของอุทยาน https://visitvirunga.org/treks/
2.    เลือก Book Now ในส่วนของ International

3.    จากนั้นเลือกวันว่าจะวันไหน แล้วราคาสุทธิจะขึ้นมา และช่วงนี้เป็นช่วง Low Season ราคาเลยเหลือแค่ครึ่งเดียว!!! หลังจากดีใจกับราคาที่ลดมาเหลือแค่ USD200 แล้วเราก็กด Add to cart

4.    ด้านขวาจะปรากฎรายการที่เราสั่งซื้อ ซึ่งถ้าไม่ซื้ออะไรแล้วก็เลือก Checkout ได้เลย แต่ถ้าอยากทำกิจกรรมอื่นๆ หรือจองที่พักก็กลับไปเพิ่มการจองได้

5.    จากนั้นกรอกชื่อ ที่อยู่ และจ่ายเงิน

6.    จะมีอีเมล์ส่งมาว่าเราได้จองแล้ว แล้วอีกไม่นานก็จะมีอีเมล์คอนเฟิร์มการจองของเราพร้อม Order Number เราสามารถนำ Order Number นั้นไปยื่นขอ Online Visa ได้เลย


พอเราได้ข้อสรุปของ Permit แล้วเราก็มาต่อกันที่ Visa ดีกว่าค่ะ
แรกเริ่มเดิมทีเราตั้งใจจะไป Uganda – Rwanda – DR Congo – Rwanda – Burundi – Rwanda
Uganda Single Entry: USD50
Rwanda Single Entry: USD30
DR Congo Single Entry: USD100
Burundi Transit Visa: USD40

เราเริ่มจาก DR Congo ก่อน เพราะมันเกี่ยวพันกับ Permit ที่เราได้มา พูดง่ายๆ คือถ้าจะยื่น DR Congo โดยผ่าน Virunga จะทำได้ใน 3 กรณีคือ จอง Gorilla Trek / จอง Volcano Trek / จองที่พักใน Mikeno Lodge ซึ่งแต่ละรายการราคาไม่ต่ำกว่า USD300 แน่นอนว่าวีซ่าจะผูกพันกับการจอง 3 อย่างนี้ ดังนั้นถ้าเรายกเลิกทริป Trekking หรือ Mikeno Lodge มันจะส่งผลให้ Visa เราถูกยกเลิกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าต้องทำอะไรบ้าง

1.    เข้า https://visitvirunga.org/visa/ แล้วเลื่อนลงไปด้านล่างสุดแล้วกด “Apply Now”

2.    หน้านี้เป็นหน้าที่เราต้องกรอกข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อจ่ายเงิน เลข Reference Number ที่เราได้มาจากการจอง Gorilla Trek ให้เอามาใส่ในช่องแรกได้เลย ที่เหลือก็กรอกข้อมูลส่วนตัว

3.    พอกด Submit แล้วเราก็รอ E-Visa ได้เลย เวลาทำการของการขอวีซ่าคือ 14 วัน แต่ตอนนั้น 15 วันแล้ว Visa เราก็ยังไม่ออก!!! แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะเจ้าหน้าที่ Visa ของ Virunga จะเป็นคนที่ตามวีซ่าให้เราเอง เราแค่บอกเค้าว่า Reference ของเราเบอร์อะไร เดี๋ยวเค้าจะไปจัดการล่าเอาวีซ่ามาให้เรา

จากแพลนด้านบนจะเห็นว่าเราจะเข้าออก Rwanda หลายรอบ แล้วตอน Apply เห็นมี East Africa Multiple Entry Visa: USD100 ด้วยความงก และต้องการความคุ้มค่าเป็นทุนเดิมถามว่าเราทำยังไง? แน่นอนค่ะว่ายื่นขอ Multiple ของ East Africa Visa อย่างด่วนๆ (และไม่อ่านให้ละเอียด)

East Africa Multiple Visa
เราชื่นชอบประเทศในแถบแอฟริกาตรงที่ Online Visa มีเกือบทุกประเทศ (ที่เราอยากจะไป) วิธียื่นก็ไม่ยากอะไร กรอกๆ แล้วก็ upload เอกสาร จากนั้น Submit แล้วก็นั่งไขว่ห้างรอเวลา 3 วันแล้วเปิดอีเมล์รอรับ Visa จากทางประเทศปลายทาง ครั้งนี้เรายื่นกับ Website ของ Uganda เพราะเราจะบินเข้าที่ประเทศนี้เป็นประเทศแรก

1.    เข้าไปที่ https://visas.immigration.go.ug จากนั้นเลือก Start a new application

2.    จากนั้นจะขึ้นหน้าของ Disclaimer ขึ้นมา ถามว่าอ่านมั๊ย? ไม่อ่าน! เรากด Accept เลย (โปรดใช้วิจารณญาณและอย่าทำตาม เสียเวลาอ่านบ้างก็จะดี)

3.    ต่อมาจะต้องเลือกว่าเราจะขอ Visa แบบไหน ถ้าเราจะไปหลายประเทศ (Kenya/Uganda/Rwanda) ก็ให้เลือก East Africa Multiple แต่ถ้าไปแค่บางประเทศก็คำนวณดูว่ายื่นทีละประเทศจะคุ้มกว่ามั๊ย สำหรับคนที่อ่านหนังสือน้อยๆ แบบเราเลือก East Africa Multiple ไปแบบไม่ได้รู้เลยว่าจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต

4.    หน้านี้เป็นหน้ากรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา รวมถึงข้อมูลการเดินทาง เมื่อกรอกเสร็จแล้วก็ต้อง check ในช่องที่ว่า I’m not a robot แล้วกด “Next Step”

5.    หน้าต่อไปนี้จะต้อง Upload เอกสารตามหัวข้อที่กำหนด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กด “Next Step”

6.    หน้านี้เป็นหน้าสุดท้ายที่เราจะตรวจข้อมูลทั้งหมดที่เรากรอกลงไป เมื่อทุกอย่างถูกต้องและเรียบร้อยแล้วก็กด “Submit” แล้วข้อมูลนี้จะถูกส่งไปยัง Uganda เพื่อตรวจสอบ แล้วเราจะได้เลข Reference มา

7.    หน้านี้เป็นหน้าแจ้ง Reference เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ Uganda ว่าเราไปแน่ๆ ก็กด Pay จ่ายเงินไปเลย แต่ตรงนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 3%

8.    พอเราจ่ายเงินเรียบร้อยก็จะมีเมล์จาก Uganda แจ้งตามรูปด้านล่าง จากนั้นก็ใจร่มๆ รอไป 3 วัน

9.    หลังจาก 3 วันเราก็จะได้เมล์อีกฉบับพร้อมใบแนบ E-Visa ตามรูปด้านล่าง เราก็แค่ปริ้นท์เอกสารใบนี้ไปยื่นที่ตม. ตอนเข้า Uganda พร้อมรอวีซ่าตัวจริงแปะลงบนพาสปอร์ตของเรา
ชื่อสินค้า:   Gorilla Trekking
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่