รากนครา บทไม่ปัง พังเป็นเเถบๆ

รากนครา : บทไม่ปัง พังเป็นแถบ ๆ

รากนครา บทประพันธ์ของปิยะพร ศักดิ์เกษม เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคมและการรวมสยามกับล้านนาในสมัยรัชกาลที่ 5 ในครั้งแรกลงเป็นตอนในนิตยสารสกุลไทย และได้รับการตีพิมพ์แบบรวมเล่มใน พ.ศ. 2540 นอกจากนี้ยังได้รับการถ่ายทอดเป็นละครโทรทัศน์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2543 โดยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และในปี 2560 ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำมาผลิตใหม่ ซึ่งเพิ่งนำเสนอตอนสุดท้ายจบไปเมื่อวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2560

ในฐานะที่เป็นแฟนรากนครา ทั้งในรูปบทประพันธ์ต้นฉบับหนังสือ ที่อ่านหลายครั้งจนเนื้อหาบางส่วนได้รับกล่าวถึงในวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก (Femininity in Lanna Architecture) ในฐานะที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นถึง มายาคติและความชอบธรรมในการรวมดินแดนล้านนาเป็นส่วนหนึ่งของสยาม (internal colonization) ที่ส่งผ่านผู้ประพันธ์ ผู้ที่มิได้เป็นคนล้านนา ส่วนในฐานะแฟนละครเอง ได้ติดตามผลงานของทั้ง 2 สถานีตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อดูความงามงดเรื่องความรักชาติของผู้หญิงและความขัดแย้งในมิติต่าง ๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสธารแห่งความเปลี่ยนแปลงในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเป็นแก่นแกนของเรื่อง ที่ละครต้องสะท้อนให้เห็นพัฒนาการของตัวละครและดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้ซึมซับความขัดแย้งและเอาใจช่วยตัวละครหลัก อันจะพัฒนาไปสู่จุดจบแห่งโศกนาฏกรรมได้อย่างประทับใจ

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับรากนคราในพ.ศ. 2560 กลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ เนื่องจากบทละคร (ยิ่งยศ ปัญญา) ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับเนื้อหาให้มีความทันสมัยและเข้าใจง่าย โดยการเพิ่มโทนเรื่องให้มีการชิงรักหักสวาทต่อตัวละครหลักไม่ว่าจะเป็น เจ้าแม้นเมืองกับเจ้านางละอองคำ เจ้านางข่ายคำกับนางบุญมา แต่น่าเสียดายที่บทละครดังกล่าวนอกจากจะลดทอนคุณค่าและความสำคัญของแก่นแกนเรื่อง ยังแสดงให้เห็นถึงความละเลยต่อการสร้างพล็อตเรื่องนิยายอิงประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในเรื่องแนวคิด “ผัวเดียว เมียเดียว” (monogamy)

การสร้างให้ตัวละครมีปมขัดแย้งแบบ “ผัวเดียว เมียเดียว” แสดงให้เห็นถึงการหลงยุค เพราะตามความเป็นจริงแล้ว แนวคิดดังกล่าว เป็นแนวคิดสมัยใหม่ที่เพิ่งเข้ามามีอิทธิพลในสังคมไทยภายใต้การขับเคลื่อนจากรัชกาลที่ 6 ในรูปของพระราชนิพนธ์และบทละครต่าง ๆ และพระองค์เองก็พยายามทำตัวเป็นแบบอย่างในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ทว่าเจ้าน้อยศุขวงศ์ที่เพิ่งไปเรียนเมืองนอกมา จะได้รับอิทธิพล “ความคิดสมัยใหม่”ขนาดนั้นเชียวหรือ ในเมื่อสภาพแวดล้อม (ขณะนั้น) เต็มไปด้วยการมีภรรยาหลายคน (polygamy) ทั้งในราชสำนักสยามและล้านนา ความคิดดังกล่าวยังส่งผลต่ออัตลักษณ์ตัวละครสำคัญอย่างเจ้าแม้นเมือง ที่ควรมีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว รักชาติและมีความขัดแย้งในตัวเองสูงระหว่างการเปลี่ยนและไม่เปลี่ยน กลับกลายเป็นเจ้าแม้นเมืองที่เป็นคนขี้น้อยใจ ชอบประชดประชัน และขาดความมั่นคงทางอารมณ์จนจะเป็นโรคซึมเศร้า ทั้ง ๆ ที่โดยบุคลิกตัวละครแล้ว เจ้าแม้นเมืองไม่น่าจะรับรู้ความคิดสมัยใหม่จนสามารถปรับตัวเองให้มีความคิดได้เร็วมากขนาดนั้น ยิ่งเป็นเจ้านางข่ายคำ ยิ่งทำให้เห็นว่า การใส่ความคิด “ผัวเดียว เมียเดียว” ลงไป ยิ่งทำให้ตัวละครดูแบน ขาดมิติและตรรกะอย่างสิ้นเชิง เพราะบทละครมีการปูพื้นมาบ้างว่าเจ้าแสนอินทะมีภรรยาแล้ว แต่มาตาย เหตุใดเจ้านางข่ายคำจึงจะมาจะเป็นจะตายกับการที่เจ้าแสนอินทะมีบุญมาอีกคน  

นอกจากบทละครจะเพิ่มปมขัดแย้งแบบหลงยุค อันมีผลทำให้แก่นแกนสำคัญขาดการขับเน้น ในทางกลับกันบทละครกลับละเลยหรือขาดรายละเอียดความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าแม้นเมืองและเจ้ามิ่งหล้า เพื่อทำให้เห็นสาเหตุที่แม้นเมืองยอมสละตัวเองไปเชียงพระคำและคำสาบานที่หลอกหลอนแม้นเมืองตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของเจ้าแม้นเมืองและเจ้าศุขวงศ์ที่ขาดการปูพื้น อันจะแสดงให้เห็นความรัก ความผูกพันของคนทั้งสอง จนมาสู่ความเสียสละของเจ้าแม้นเมืองต่อเจ้าศุขวงศ์และแผ่นดินอันเป็นที่รัก และท้ายที่สุดผลการเสียสละของเจ้าแม้นเมืองดูเหมือนสูญเปล่า เพราะบทละครมิได้ส่งเสริม ยกย่องเจ้าแม้นเมืองในฐานะผู้ดำเนินการอันเป็นรูปธรรมที่ทำให้อังกฤษเข้าใจสยามได้ดีขึ้นแต่อย่างใด

การสร้างบทละครมิจำเป็นต้องอิงกับเนื้อหาต้นฉบับทั้งหมด แต่ต้องอย่าละทิ้งแก่นแกนสำคัญของเรื่อง ดังนั้นรากนครา 2560 จึงถูกลดคุณค่าไปโดยปริยาย จากบทละครที่ขาดความกลมกล่อม ทั้ง ๆ ที่องค์ประกอบด้านนักแสดง (โดยเฉพาะณฐพร เตมีย์รักษ์ และพัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์) มีความสามารถสูงมาก เสื้อผ้าที่แสดงถึงวัฒนธรรมชาติพันธุ์อย่างชัดเจนและความพยายามในการแทรกเนื้อหาประวัติศาสตร์ทำได้ดี โดยเฉพาะฉากกษัตริย์เมืองมัณฑ์และนางปัทมสุดาถูกอังกฤษเนรเทศ ทำให้เห็นภาพในประวัติศาสตร์ที่กษัตริย์สีป้อแห่งราชวงศ์คองบองของพม่าและพระนางศุภยลัตถูกจับกุมตัวเพื่อขึ้นเรือไปยังเมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย การใช้คำพูดระหว่างกษัตริย์และพระนางปัทมสุดา ที่เก็บความมาจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ (หม่อง หม่อง/ซูซู) ละครใส่รายละเอียดได้ดีมาก

หากเปรียบเทียบกับรากนครา 2543 แล้วจะพบว่า บทละคร เป็นปัจจัยสำคัญอย่างแท้จริง เพราะรากนคราในพ.ศ.นั้น ไม่ได้มีนักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างที่ รากนครา 2560 มี  เนื่องจากพัชราภา ไชยเชื้อ กับ วรนุช (วงษ์สวรรค์) ภิรมย์ภักดี ในขณะนั้น เกือบเรียกได้ว่าเป็นนักแสดง หน้าใหม่ก็ว่าได้ ยังไม่นับรวมถึง ดนุพร ปุณณกันต์ที่แสดงได้แข็งทื่อ เสื้อผ้าขาดความประณีตเท่าที่ควร มุมกล้องทื่อ ๆ แต่องค์ประกอบเหล่านี้กลับถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิงเพราะดูเหมือนผู้ชมจะเลือกใส่ใจสาระสำคัญของเรื่องมากกว่า เพราะความสำคัญของบทละคร “เอา (ผู้ชม)อยู่”(เขียนโดย “ศัลยา”) ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในความทุกข์และพร้อมจะเอาใจช่วยตัวละครอย่างเจ้าแม้นเมืองที่เต็มไปด้วยความเสียสละ ความรักและความขัดแย้งจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้อย่างลงตัว โดยเจ้าแม้นเมืองไม่จำเป็นต้องกล่าวคำว่า “รัก” ต่อเจ้าศุขวงศ์ในตอนจบด้วยซ้ำไป อันเป็นการตอกย้ำความเด็ดเดี่ยวของตัวละครและสร้างความสะเทือนใจต่อผู้ชมอย่างยิ่ง

ท้ายที่สุด ขอตั้งเป็นคำถามต่อไปว่า เรื่อง รากนครา ช่วงเมืองมัณฑ์ ได้รับอิทธิพลทางประวัติศาสตร์จาก ชีวิตกษัตริย์สีป้อและพระนางศุภยาลัต แต่เหตุใด การนำเสนอในเรื่อง รากนครา จึงไม่ถูกนำมาเป็นข้อพิพาทหรือประเด็นในการถกเถียงเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์เหมือนเรื่อง "เพลิงพระนาง" แต่อย่างใด

ฝากไว้ให้คิด

แม้นเมือง 2560

Cr. ผู้ใช้เฟสบุ๊ค....
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
เรามีโอกาสได้อ่านบทความนี้ก่อนที่จะมีกระทู้นี้ เราเห็นด้วยแทบทั้งหมดนะคะ
และเราว่าน่าเสียดายที่คนเอาแต่ทะเลาะกันเรื่องช่อง 3 ช่อง 7
เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเลขช่องมันมีความหมายอะไรขนาดนั้น ลองมองประเด็นที่คนเขียนบทความนำเสนอ
และมองส่วนที่คิดว่าละครควรจะต้องปรับปรุงกันดีกว่า (โดยพยายามมองข้ามคำแรงๆที่ทำให้โกรธไปถึงสิ่งที่เค้าสื่อสาร)

รากนครา 2560 สอนให้เรารู้จักคำว่าเพราะหวังมาก จึงผิดหวังมากที่แท้จริง
ในฐานะคนที่ดูสดทุกตอน (ไม่นับตอนที่ปิดทีวีด้วยความเสียใจ) เรื่องนี้ไม่ได้แย่แบบดิ่งธรณีหรอกค่ะ
แต่เรา (และอีกหลายคน) แค่มั่นใจมากว่ามันควรจะออกมาดีกว่านี้ คือเต็ม 100 ควรได้ 99 แต่สุดท้ายยังไม่ใช่
แม้หลายคนจะพูดถึงแก่นเรื่องที่แท้จริง หรือพยายามเอาคำพูดของผู้ประพันธ์มาแปะแทบทุกกระทู้
แต่สำหรับเรา เราคิดว่ารากนคราเวอร์ชั่นก็ตีโจทย์ไม่แตกจริงๆนั่นแหละ
จึงไม่สามารถขึ้นหิ้งเป็นละครในดวงใจใครหลายคนได้ ทั้งที่คนเหล่านั้นที่เว้นที่ในใจให้แล้ว
เราคิดถึงขนาดว่าถ้าออก box set เราซื้อเก็บแน่นอน ตอนช่วงดู ep1 แต่ตอนนี้เราแค่ย้อนไปดูบางฉากที่ตราตรึงใจ

แก่นเรื่องของรากนคราคือความเปลี่ยนแปลงก็จริง แต่มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใต้สถานการณ์บีบคั้นทางการเมือง
ไม่ใช่แค่ความเปลี่ยนแปลงทั่วไป เราลองคิดกลับไป เราก็ไม่เห็นว่าพาร์ทที่เพิ่มเข้านอกเหนือจากนิยาย
จะจำเป็นต่อธีมเรื่องความเปลี่ยนแปลงตรงไหนเลย คือมันแทบไม่ส่งผลอะไรต่อปมหลักที่นิยายวางไว้แล้ว
มันจึงกลายเป็นส่วนเกินสำหรับคนดูหลายคน โดยเฉพาะเรา
(แต่พอถึงบทสรุปก็ยังคงเดินเรื่องตามนิยาย จึงกลายเป็นเหตุผลอ่อนไปหมด เพราะเอาเวลาไปเล่าเรื่องอื่นหมดแล้ว)
ถ้าบอกว่าทำเพื่อให้พาร์ทเชียงพระคำสนุก เรายิ่งผิดหวังหนักกว่า เพราะเหมือนทีมบทไม่สามารถดึงส่วนดีอื่นจากนิยายออกมาได้แล้ว
(เช่น การทำงานของเจ้าน้อยเพื่อบ้านเมือง การแสดงให้เห็นว่าสยามมีนโยบายที่เฉียบคมอย่างไร เชียงพระคำจึงยอมอยู่ใต้อาณัติ และอื่นๆ)
จึงต้องยัดเอานางร้ายที่ไม่วางตัวสมกับเป็นสาวเหนือโบราณใส่เข้ามา เปลี่ยนคาแรกเตอร์เจ้าย่าให้กลายเป็นคนที่คิดแต่จะยัดเยียดเมียให้หลาน
และเรื่องที่ผู้เขียนบทความยกมานั้นก็น่าสนใจมาก คือเจ้าน้อยศรัทธาในรัชกาลที่ 5  และถ้ามองกลับไปจริงๆ
รัชกาลที่ 5 นี่ทรงมีสนมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยแล้ว เรื่องผัวเดียวเมียเดียวไม่ได้เกิดขึ้นในยุครัชกาลที่ 5 จริงๆนั่นแหละค่ะ
อีกอย่างเจ้าน้อยก็ไปร่ำเรียนที่สิงคโปร์มา ไม่ใช่อังกฤษหรือเมืองยุโรป จะไปเอาความคิดความเชื่อขนาดนั้นมาจากไหน มันไม่สอดรับกันเลย
สรุปรวมแล้วเราก็ได้ความว่าการที่เจ้าน้อยไม่มีใครอื่น เป็นเพราะเจ้าน้อยรักแม้นเมืองมาก จนไม่อยากมีใครอีกก็เท่านั้น
คืออิมแพ็คของการกระทำ มันไม่ใหญ่พอที่จะตีขลุมรวมว่านี่คือประเด็นที่จะนำเสนอ คือมันไม่เฉียบคม
เพราะก็ไม่ได้ปูให้เห็นสภาพสังคมชัดขนาดนั้น คนดูต้องใช้ตรรกะเชื่อมโยงเองหมด
เหมือนอย่างเจ้าย่ากับละอองคำที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของคนยุคก่อน
(การปลดผ้าต่อหน้าผู้ชายอย่างที่ละอองคำทำนั้น สมควรเกิดขึ้นกับเชื้อเจ้าทางเหนือหรือคะ ไม่ควรเลยค่ะ)

นี่เรากำลังพูดเรื่องเดิมซ้ำอยู่ใช่มั้ย คำตอบคือใช่ค่ะ เราอยากให้ทีมงาน โดยเฉพาะทีมบทที่ได้ผ่านมาอ่าน
ลองเก็บเอาคำวิจารณ์ที่วิพากย์กันด้วยเนื้องานกลับไปพิจารณานะคะ คุณทำส่วนอื่นได้ดีมาก จนเราเสียดายค่ะ
เราอยากชวนทุกคนให้มาดูเรื่องนี้ เราอยากพูดอย่างเต็มปากกับใครว่าเฮ้ยมันดีมากแก งานศิลป์ก็ดี แคสติ้งยิ่งโคตรดี
แต่พอเราเจอบทกับความไม่สมเหตุสมผลเข้าไป เราชวนใครไม่ออกเลยค่ะ

มีหลายกระทู้และแม้แต่เมนท์ของเราเองในกระทู้อื่น ที่ยกเหตุการ์ภายในเรื่องขึ้นมาเป็นฉากๆ
แล้วเขียนเจาะลงไปเป็นซีนว่าตรงไหนขาดความสมเหตุผลอย่างไรบ้าง ถ้าทีมงานได้ตามเก็บทั้งหมดน่าจะเห็น
(มีกระทู้นึงที่พูดถึงฉากที่เจ้าน้อยไปลักพาตัวมิ่งหล้ากลับมา เราคิดว่ามุมมองของ จขกท เป็นประโยชน์มากค่ะ)

และอีกอย่างเลยที่เราคิดว่าน่าเสียดายคือการลดทอนคุณค่าตัวละคร เจ้าย่านี่เราจะไม่พูดถึงแล้ว เพราะพูดไปเยอะ
แต่กับแม้นเมือง เรามีมุมมองว่าน่าเสียดายจริงๆ เราไม่เห็นด้วยกับการพยายามเอาความเป็นคนธรรมดามาใส่ให้ตัวละครตัวนี้
สิ่งที่ทีมงานพยายามอธิบายผ่านไอจีเกี่ยวกับความขี้มโน น้อยอก น้อยใจ ของตัวละครแม้นเมืองที่เราได้เห็นในเวอร์ชั่นนี้นั้น
ไม่มีอะไรผิดเลยค่ะ หากจะตีความว่าแม้นเมืองเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่คุณอุตส่าห์ได้ตัวละครที่มีความเหนือจริงขนาดนี้ไปแล้ว
คุณจะลดทอนคุณค่าตัวละครลงมาเป็นแค่คนธรรมดาทำไมคะ คือคุณสามารถใช้แม้นเมืองเป็นเหมือนตัวแทนในการปลุกใจให้คนคิดได้ว่า
ตัวละครโดนกดดันขนาดนี้ ยังอดทนขนาดนี้ เข้มแข็งขนาดนี้ และเด็ดเดี่ยวมากเหลือเกิน
เพื่อให้คนอยากยึดแม้นเมืองเป็นแบบอย่างในเรื่องความเสียสละ
แต่คุณกลับลดทอนคุณค่าที่บทประพันธ์ปูทางไว้ให้จนหมด เพราะบทของคุณเอง
ละครไม่ควรจะทำได้แค่สะท้อนความจริงนะคะ แต่ควรจะเป็นเครื่องมือในการชักนำความคิดคนดูให้อยากเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย

ทั้งหมดที่เราพิมพ์ไป เราไม่ได้หวังอะไรเลยนอกจากอยากให้แอคอาร์ตเป็นที่จดจำในฐานะค่ายที่ทำงานเพอร์เฟคในทุกด้าน
และได้ขึ้นรับรางวัลทุกปีไป เหมือนที่เคยทำได้ตอนนาคี โดยไม่ต้องมีคนที่รักมากกกก หรือเกลียดมาก มาคอยปกป้องหรือด่าทอเกินเหตุ
แค่ให้คนทั่วไปผ่านมามองงานแล้วพยักหน้าให้กันว่าเออทำดีจริงว่ะ ถ้าวันไหนถึงจุดนั้นได้ คือคุณสบายแล้วค่ะ

เราคิดว่าลึกๆค่ายก็คงเจออุปสรรคหลายอย่าง เช่น เวลาออกอากาศ เพลงประกอบ และการกดดันจากช่อง
ขอให้เรื่องรากนคราเป็นบทเรียนอีกชิ้นที่จะทำให้พี่อ๊อฟ พี่แดง และทีมงานทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้นนะคะ
ถ้ามีโอกาสก็จะดูงานชิ้นต่อไปของค่ายนี้อีก หวังว่าจุดบกพร่องทั้งหมดที่ทีมงานเห็นพ้องกับคนติว่าต้องปรับจะหายไป
ความคิดเห็นที่ 14
2543 ก็ไม่ได้วิเศษอะไร มีดีแค่ทำมาก่อน มีแต่พวกยึดติดของเก่า ชอบเปรียบเทียบ
ความคิดเห็นที่ 5
แนะนำคนเขียนให้หาอ่านเม้นท์ต่างๆในพันทิปนะคะ
มีครบทุกสิ่งและน่าอ่านมากมาย กระทู้แนะนำก็หลายอยู่
ดิสเครดิตช้าไปนะคะ ของดีมันดีด้วยตัวมันเอง ใครจะพยายาม
สะกดจิตอย่างไร ก็ไม่มีผลสำหรับแฟนละครเวอร์ชั่น 2560
ความคิดเห็นที่ 13
กล้าเอาไปเทียบกับเวอร์ชั่นเก่า เอาจริงๆ ถ้าช่อง3ไม่ทำ เราก็ไม่รู้จักเวอร์ชั่นช่อง7
แล้วงานพี่อ๊อฟอาจจะขาดๆไปบ้าง แต่มันขาดแบบทิ้งปมทำให้คนคิดต่อ เรียกว่ามีชั้นเชิงในการนำเสนอ ไม่ต้องบอกรายละเอียดเยอะแยะจุกจิก แบบละครสมัยโบราณ มันเชยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
เอาจริงๆ รากนครา เวอร์ชั่นก่อน ไม่ได้ดังอะไรไปกว่าเวอร์ชั่นนี้เลยนะ

ถ้าจำไม่ผิดเวอร์ชั่นก่อน ชนกับ "ผู้กองยอดรัก" ศรราม ติ๊ก กัญญารัตน์ รึเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่