50วัน ฉันไม่ลืม Aiesec in Mongolia

ไม่รู้นะว่าเรามาถึง ณ ที่แห่งนี้ได้ยังไง แต่รู้ตัวอีกทีเราก็อยู่ที่นี่แล้ว ที่ๆเรียกว่า "ประเทศมองโกเลีย" หลายคนอาจจะไม่รู้จักประเทศนี้ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อประเทศนี้มาบ้าง หลายคนอาจจะรู้ปวศ.ของประเทศนี้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปประมาณต้นปี2017 เราได้สมัครโครงการ Global volunteer ผ่านชมรมในมหาลัย ที่มีชื่อว่า "Aiesec" เป็นชมรมเล็กๆในมหาลัยเรา หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ บางมหาลัยชมรมนี้อาจจะมีชื่อเสียง รู้จักกันเป็นอย่างดี เราขอแนะนำ Aiesecก่อนละกัน

Aiesec เป็นองค์กรแบบnon-profit มีโครงการจิตอาสา ที่ไปทำต่างประเทศ ที่ดูแลโดยนิสิตทั้งหมด ให้นิสิตแบ่งเป็นหลายๆฝ่าย เหมือนทำงานจริงเลย และก็มีกิจกรรมอื่นอีก แต่เราจะขอพูดส่วนที่เป็นจิตอาสาต่างประเทศอย่างเดียวนะ เพราะเรารู้จักแค่อันนี้55555

ตอนนี้Aiesec มีอยู่ใน มหาลัย คือ TU CU AU KU BU TNI SU TCC
ส่วนคนที่อยู่มหาลัยอื่น ก็สามารถสมัครของมหาลัยที่มีAiesecได้ ติดต่อผ่านหน้าเพจFBได้เลย

How to join
หลังจากศึกษาหาข้อมูลซักพักเราก็ตัดสินใจสมัคร เราสมัครกับชมรมAiesecของมหาลัยเรา เริ่มแรกคือสมัครลิ้งในfacebook Aiesec
https://th-th.facebook.com/AIESECKaset/ อันนี้เป็นของมหาลัยเรา ติดตามหน้าเพจได้ เค้าจะมีเปิดเป็นรอบๆ มหาลัยอื่นก็สมัครได้นะ หรือทำงานแล้วก็สมัครได้ ขอแค่อายุไม่เกิน30ก็พอ

พอเราสมัครไป เค้าก็จะมีมานัดสัมภาษณ์ เป็นภาษาอังกฤษ ก็จะถามทั่วๆไปให้แนะนำตัว ข้อดี ข้อเสียของเรา อยากไปประเทศไหน ทำอะไรแล้วก้คำถามattitudeนิดหน่อย อันนี้สัมกับนิสิตด้วยกัน ไม่ยากๆส่วนใหญ่ก็ติดหมด(แต่ถ้าเป็นของCU TU เค้าจะมีคัดคนออกด้วย ค่อนข้างจริงจัง แบบคนสมัครเยอะไรงี้ อันนี้ได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟังอีกทีนะ ต้องเสียค่าสัมภาษณ์ด้วย500 แต่ของมอเราไม่เสีย) พอเราผ่านสัมภาษณ์เสร็จ เราก็ต้องจ่ายค่าโครงการครึ่งแรก5500ก่อน แล้วก็เซ็นสัญญา หลังจากนั้นเราก็เลือกโปรเจคที่เราอยากไปเลย

Time to choose
มีโปรเจคเยอะมาก แทบจะทั่วประเทศ แรกๆเราก็สมัครไปแบบหว่านเลย55555 เพราะเราก็ยังไม่มีประเทศในใจ สมัครไปประมาณ3-4อัน มีตอบกลับมาอันนึง คือประเทศคีร์กีซสถาน คำถามแรกของเราคือ มันคือประเทศอะไร55555 ตอนสมัครก้ไม่คิด เอาจริงๆคือเราแค่อยากลองสัมภาษณ์เฉยๆ ไม่ได้คิดจะเอาอยู่แล้ว บอกก่อนเลยนะว่าเราไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษอะไร เรียนโรงเรียนรัฐมาตลอด ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยด้วย เราก็เลยอยากลองสัมภาษณ์ดูเชิงก่อน55555 แล้วเค้าก้นัดเราสัมภาษณ์ทางskype เราก็เตรียมตัวไปบ้าง สรุปเลยนะ เราไม่ผ่าน เรารู้เลยว่าเป็นเพราะภาษาอังกฤษเรา หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวมากขึ้น แล้วก็สัมกับโรมาเนียก้ไม่ผ่านเพราะคนมันเต็มแล้ว แต่อันนี้เราว่าเราตอบดีนะ(คิดไปเองป่าววะ55555) จริงๆคีร์กีซสถาน ไม่มีสถานทูตในไทยนะจะไปก็ลำบากนิดนึง ส่วนโรมาเนียมีสถานทูตในไทยแต่แผนกทำวีซ่าปิด ต้องไปทำเวียดนาม และสุดท้ายเราก็สัมภาษณ์กับประเทศมองโกเลีย เราสัมไป2โปรเจค ผ่านทั้ง2อัน (เค้าจะเมลมาบอกผล) แล้วเราก็เลือกโปรเจคที่สอง เป็นโปรเจคเกี่ยวกับสอนหนังสือเด็ก แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไรงี้ ที่บ้านเด็กกำพร้า จริงๆแล้วเรามีสมัครอินเดียไปด้วยเค้ากดรับเราเลยทั้งๆที่ยังไม่ได้สัมเลย เหมือนเค้าอยากได้คนแถบบ้านเรา แต่มีพี่หลายคนไม่แนะนำไรงี้ สรุปแล้วก้คือ เราไปมองโกเลีย!!!

Preparing
หลังจากนี้เราก็ต้องเตรียมเอกสาร จองตั๋ว ซื้อประกัน และก้มีไปค่ายOPS ที่Aiesecจัดขึ้น เหมือนแนะนำก่อนไปไรงี้ เราพยายามหาว่ามีใครที่ไปมองโกเลียเหมือนเราบ้างมั้ย จนเรามาเจอว่ามี2คนที่ไปมองโกเลียเหมือนกัน พอถึงวันที่เราจะจองตั๋ว พ่อเราก็พูดเหมือนจะไม่ให้เราไป จะให้เราเปลี่ยนประเทศมาใกล้ๆแทน แบบไม่ให้เราไปคนเดียว เราไม่เคยไปต่างประเทศคนเดียวเลย เคยก็แต่ไปเที่ยวกับครอบครัว จนสุดท้ายเราไปขอทางนู่นเลื่อนโปรเจคให้ตรงกับพี่คนไทยอีกคน จะได้ไปพร้อมกัน ทางนู่นเค้าก็ยอมให้(เรานี่แบบดีใจสุดๆอะ) แล้วเราก้จองตั๋วไปพร้อมพี่เค้า แต่เรากลับก่อน เพราะพี่เค้าเปิดเทอมช้ากว่า แล้วเราก็ซื้อประกันเดินทาง(อันนี้เราอ่านรีวิวเอา) แล้วก็จัดการพวกเอกสาร หาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้ เตรียมว่าเราจะสอนไรบ้าง ปกติวีซ่ามองโกเลียจะฟรี30วัน แต่ในกรณีนี้เราไปอยู่เกิน30วัน ก็ต้องไปทำเรื่องยื่นที่นู่นภายใน7วันที่เราไปถึง (เราก็แอบหวั่นๆนะว่ากลัวจะมีปัญหา แต่ทางนู่นเค้าก็บอกว่าจะเตรียมเอกสารให้พร้อมไม่ต้องห่วง ก็มารอดูกัน!!) หลังจากนี้เราก็ได้แต่เฝ้ารอให้ถึงวันนั้น คอยติดต่อกับAiesecฝั่งนู่นว่าเราจะไปวันไหน มารับเราได้มั้ย

Let's go (12.06.2017-31.07.2017)
Beginning of journey
และแล้วก็มาถึงวันนี้สักที เราตื่นเต้นมากกกก เป็นครั้งแรกที่เราไปต่างประเทศโดยไม่มีพ่อแม่ หรือญาติไปด้วย มีแค่เรากับพี่ที่ไปประเทศเดียวกันอีกคน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี เรานั่งCatheyจากไทยไปฮ่องกง ถือว่าเป็นสายการบินที่ดีเลยทีเดียว มีบริการช่วยเหลือในเรื่องTransferด้วย จะมีแอร์โฮสเตดช่วยเราด้วย(แนะนำสำหรับคนขึ้นเครื่องบินคนเดียวครั้งแรกเลยจ้า) ถึงแม้ว่าเครื่องบินจะดีเลย์บ้าง ทำให้เรามีเวลาtransferที่ฮ่องกงแค่1ชม.นิดๆ พอถึงสนามบินฮ่องกงเค้ามีรถกอล์ฟมารอรับเลยจ้า เพราะมันใกล้เวลาบินแล้ว แต่พอมาถึงจริงๆ เครื่องบินสายการบินMIATที่จะไปมองโกเลียก็ดีเลย์(จะรีบเพื่อ??555) เราถึงมองโกเลีย ประมาณตี1 พอเดินออกมาก็มีAiesecerมารับด้วยจ้า แล้วก็พาเราไปบ้านเป็นบ้านของหนึ่งในAiesecer(คนที่ทำงานในAiesec)เนี่ยแหละ เค้ารับเป็นโฮสเรากับพี่คนไทยที่ไปด้วยกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Time to Work
ช่วงแรกๆเราก็คุยกันเรื่องงาน เพราะงานยังไม่ลงตัวกัน สรุปคือaiesecerบอกว่าเราได้สอนทำอาหารที่.สถานเด็กกำพร้า ส่วนพี่อีกคนได้สอนหนังสือเด็กในเมือง ตอนแรกพี่เค้าจะมีโฮสด้วย แต่มีปัญหานิดหน่อย เรามาก่อนเริ่มโปรเจคประมาณเกือบอาทิตย์นึง ก็ว่างๆไป เที่ยวในเมือง ทำนู่นทำนี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีep จากมาเลเซียมาทำงานก่อนแล้วทำงานในเมือง มีคนไทยมาก่อนแล้วด้วยคนนึงแต่ไปทำงานที่แคมป์ แล้วก็มีepจาก ฮ่องกง มาเก๊า แคนาดา อิตาลี่ พอมาตอนหลังงานเรามีปัญหานิดหน่อย เราก็ว่างๆไปอีก1อาทิตย์ สรุปแล้วคืองานเราเป็นงานสอนทำอาหารในคาเฟ่ หลังจาก2อาทิตย์ผ่านไปอย่างคนว่างงาน เราก็เริ่มงานของเราในคาเฟ่ในเมือง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ซึ่งคาเฟ่นี้เป็นของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า คือไว้ให้สำหรับเด็กที่โตจากบ้านเด็กกำพร้า มาทำงานที่คาเฟ่ได้ เป็นคาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่ งานของเราก็คือ คิดสูตรอาหารแล้วก็ทำ แล้วก็สอนเด็กจากorphaned ที่ทำงานที่คาเฟ่ เด็กพวกนี้เรียนกันสูงนะ บางคนก็เรียนมหาลัย มัธยมบ้าง แต่เป็นช่วงซัมเมอร์เค้า ก็เลยมาทำงานที่นี่ ทุกคนสามารถฟัง พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะ ที่สุานเด็กกำพร้าจะมีอาสาสมัครชาวต่างชาติมาสอนหนังสือตลอด และเจ้าของก็เป็นชาวอเมริกัน ตอนเรามาแรกๆก็มีอาสาสมัครของorphanedอยู่ก่อนสองคนแล้ว เป็นผู้หญิงมองโกเลียคนนึง อีกคนมาจากมาเลเซีย ทั้งคู่มีอายุทั้งคู่ แล้วพอประมาณอาทิตย์นึงหลังจากที่เรามาผู้หญิงมาเลเซียก็ไป ขอเล่าความรู้สึกนิดนึง วันแรกที่เรามาทำเลยเราตื่นเต้นมาก จนทำมีดบาดเลยอมยิ้ม08

เมนูแรกที่เราทำคือซุปฟักทอง

ขายได้ด้วย ตอนนั้นเราดีใจมากเลย แต่ที่ดีใจกว่านั้นคือพอมาอีกวัน เด็กที่ทำงานในคาเฟ่สามารถทำสิ่งที่เราสอนได้ แล้วก็ขายได้ด้วย ตอนนั้นเราแฮปปี้มาก พราวมาก55555

TravelingIsTheBest!!!
แล้วหลังจากนั้นก็มีหยุดประมาณอาทิตย์นึงเป็นช่วงเทศกาลNadammของที่นู่น เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของที่นู่น เรากับเพื่อนคนไทยอีกคน(คนที่ไปทำงานที่แคมป์) ก็ตัดสินใจไปเที่ยวทะเลทรายโกบีกัน โดยซื้อทัวร์ไปวันละ$60 เราไปกัน7วัน ไปjoinกับคนอื่น ตอนแรกเราไปjoin กับอีก3คนเป็นหนุ่มแคนาดาคนนึง ออสเตรเลียคนนึง แล้วก็สาวอังกฤษแต่ไปทำงานที่ฮ่องกง ทุกคนล้วนเดินทางมาแล้วไปต่ำกว่า20ประเทศ ชั้นละยอมใจ5555 อย่างหนุ่มแคนาดาคือนางลาออกมาเพื่อมาเดินทางเลย พอนางเดินทางเสร็จนางบอกนางก็หางานใหม่ ไม่ก็กลับไปทำงานเดิมได้ เค้ารับอยู่แล้ว นางเป็นวิศวะคอม พออีกวันนึงเค้าให้เราเปลี่ยนไปjoinกับ อีกกลุ่มนึง เป็นคู่สามีภรรยา สามีเป็นชาวออสเตรเลีย ส่วนเมียเป็นคนฝรั่งเศส แต่ทำงานที่US นางจะเจอกันก็ต่อเมื่อมาเที่ยวด้วยกัน คบกันมาจะ10ปีแล้ว เราจะขอข้ามเรื่องทริปไปนะ ไว้จะมาเขียนรีวิวให้ เอารูปมาให้ดูไว้หน่อยละกัน


บอกเลยว่าเราแฮปปี้มากกกกกกช่วงนั้น พอกลับจากเที่ยว ก็เหมือนมีepบางคน(คนที่มาทำอาสาจากต่างประเทศ) จะมีปัญหากับAiesecer บรรยากาศก็ดูตึงๆไป มีepจาก Scotland โดนขโมยกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ด้วยในช่วงงานเทศกาล แต่ก็ไม่ได้คืนนะ  (มีต่อนะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่