ผมกำลังจะมีเมีย เพราะหนังเรื่องเพื่อนสนิท

6 ต.ค. 2548 เป็นวันแรกที่หนังเรื่องเพื่อนสนิทเข้าฉายในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศ สร้างความประทับใจให้กับผู้ได้ชมอย่างมากมาย  ผมเชื่อว่าคนที่ชอบดูหนังต้องไม่พลาดเรื่องนี้แน่นอน และยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังในดวงใจเช่นเดียวกับผม  
      หนังเรื่องนี้เป็นการแยกออกมาทำงานเดี่ยวของหนังในผู้กำกับแฟนฉัน เอส คมกฤษ ตรีวิมล เขาได้รับแรงบัดดาลใจมาจากหนังสือกล่องไปรษณีย์สีแดง เขียนโดย อภิชาติ เพชรลีลา (เป็นหนังสื่อที่อ่านสนุกครับแนะนำ ถ้าดูหนังและอ่านเรื่องนี้จะเข้าใจอะไรในเรื่องมากขึ้น หนังสือออกแบบมาดีมาก มีโปสเตอร์ที่ ไข่ย้อยเขียนถึงดากานดาด้วย ล่าสุดไปเดินมามีหนังสือภาคต่อด้วย แต่ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านเลย)
    เรื่องย่อของหนังก็คือหมู(ไข่ย้อย)สอบติดศิลปกรรมมหาลัยที่เชียงใหม่ จากโรงเรียนชายล้วนก็มาเรียนที่รวมชายหญิงแล้วก็ได้รู้จักเพื่อนที่ชื่อดากานดา ไข่ย้อยแอบรักดากานดาแต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะหายไปจนดากานดามีแฟน ไข่ย้อยก็ดูเปลี่ยนไป จนวันสอบวันสุดท้ายไข่ย้อยสารภาพรักกับดากานดา แต่ดากานดาพูดในประโยคที่ทุกคนจำได้ก็คือ “แกมาทำอะไรเอาตอนนี้”  ไข่ย้อยอกหัก ชีวิตพัง เลยหนีไปเกาะพะงัน แล้วก็เกิดอุบัติเหตุตกจากเรือ ขาหักเข้าโรงพยาบาลก็เลยได้เจอกับนุ้ย พยาบาลสาวใต้แสนสวย มาดูแล นุ้ยยิ้มสวยพูดเก่ง แต่บาดแผลของไข่ย้อยทำให้หมูลืมคิดอะไรบางอย่างไป ความสัมพันธ์ของหมูและนุ้ยเป็นไปด้วยดีจนช่วงเวลาหนึ่งหมูลืมดากานดาไป แต่นุ้ยตกหลุมรักหมู โดยที่หมูไม่รู้ตัว จนถึงวันที่จิ๋วตาย นุ้ย สารภาพรักกับหมู  หมูเข้าใจความรู้สึกของดากานดาที่โดนตัวเองบอกรัก  
  ในหนังจะเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่าง อดีตกับปัจจุบัน เป็นการตัดต่อที่ดูแล้วเข้าใจเนื้อเรื่องไม่ยาก  รู้สึกว่าหนังจะได้รางวัลตัดต่อยอดเยี่ยมด้วย
   อันที่จริงผมได้ชมหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนซึ่งเป็นรอบสื่อมวลชนจัดที่เมเจอร์สาขารัชโยธิน  หลังจากที่ดูจบก็รู้สึกอึนๆ จุกๆ แน่นอก บอกไม่ถูกว่าอาการที่เกิดขึ้นคืออะไร รู้แต่ว่าหนังดีและทำให้เรามีความสุข และเราก็หลงรักดากานดา  หลังจากนั้นก็มีเพื่อนชวนไปดูอีกรอบ ก็เข้าใจความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น   แล้วช่วงปีนั้นทางเมเจอร์ก็จัดโปรโมชั่น ดูหนังบุฟเฟต์ขึ้น ก็เลยได้ดูอีกเรา  ผมประทับใจหลายส่วนในตัวหนัง ผมหลงรักดากานดา หลงรักรอยยิ้มของนุ้ย หลงรักความซ่าของพี่แตน  ผมหลงรักบรรยากาศสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้  ช่วงปีนั้นเฟสบุ๊คยังไม่ถือกำเนิดขึ้นสิ่งที่ทำให้คนรักหนังเรื่องนี้มาพูดคุยกับก็คือ เวปบอรด์ของหนังเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ในเวปไซส์ของหนัง เป็นห้องที่ทุกคนเข้ามาพูดคุยเล่าเรื่องความประทับใจของหนังเรื่องนี้ แต่ล่ะคนก็จะตั้งชื่อของตัวเองแบบสนุก อย่างเช่น ไข่ยาน ดาดาดา เจ้าชายรัตติกาล เจ้าชายใหญ่ ฯลฯ
             หนังช่วงนั้นเรียกได้ว่าทำเงิน และกระแสให้กับวงการหนังไทยพอสมควร เอาเป็นว่าเวลาเข้าโรงหนังจะได้ยินเพลงช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยของบอยพีชเมคเกอร์กล่อมแน่นอน ช่วงนั้นเรียกได้ว่า ใครไม่ได้ดูก็เรียกว่าเชยพอสมควร  สมาชิกในเวปบอรด์พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนวันหนึ่งผมก็คิดว่า เฮยเรารักหนังเรื่องเดียวกันทำไมเราไม่นัดมาเจอกันวะ ชวนนักแสดงมามีตติ้งด้วยเลย มีคนเห็นด้วยกับความคิดนี้พอสมควร  แล้วก็เกิดเป็นงานรวมพลคนรักหนังเพื่อนสนิทขึ้น งานจัดที่มาบุญครอง เราเหมาโรงภาพยนต์เพื่อดูหนังกันอีกรอบแล้วหลังจากดูหนังเสร็จก็มีมีตติ้งพบปะกับนักแสดงในเรื่องนั้น ทุกคนดูเป็นกันเอง พวกเราพูดคุยและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่