"รวยไม่รู้เรื่อง" กะ “รวยเละเทะ” นี่มันดีจริงเหรอคะ
เดือนที่แล้วมีเพื่อนที่ทำงานมาชวนเรา บอกเราว่ามีโอกาสการลงทุนมาแนะนำ แล้วเค้าพูดถึง ODFX กับ OD Market เราฟังๆไปมีแต่เรื่องสวยหรูที่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นจริงได้ และเรารู้สึกเหมือนว่ามันน่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ที่มาในรูปแบบใหม่ ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดแบบเราบ้างมั้ย และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็น่ากลัวคนจะติดแหกันเยอะนะคะ เพราะมันดูเย้ายวนมากเลยเรื่องผลตอบแทน
สำหรับเราเราคิดว่าคนที่เข้า network ของแชร์ลูกโซ่นี่น่าจะมีสองประเภท
ประเภทแรกคือ ... รวยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คือ “รวยไม่รู้เรื่อง” น่ะแหละค่ะ ไม่ได้รู้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอย่างทั่วถ้วน เค้าชวนลงก็ลงเพราะเห็นผลตอบแทนดี และโชคดีที่อยู่ต้นน้ำแชร์ยังไม่ล่ม ก็เลยรวย เลยได้ใจรีบไป"บอกบุญ"ชวนคนอื่นมากันใหญ่ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ (เราหวังว่าเพื่อนที่มาชวนเรานี่เค้าอยู่ในประเภทนี้นะ คือเค้าดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจว่าระบบจริงๆแล้วมันคืออะไรแต่ว่าเค้าตื่นตาตื่นใจเพราะเค้าได้ผลตอบแทนดี – สำหรับตอนนี้นะ แต่ต่อไปอาจจะไม่ดีถ้าหากว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่จริงและแชร์ล่มซะก่อนๆที่เค้าจะได้ทุนคืนหมด ลองอ่านต่อๆไปจะเห็นภาพเองค่ะ)
ประเภทที่สองคือ ... รู้ทั้งรู้ว่านี่คือแชร์ลูกโซ่ และรู้อีกว่าในทุกแชร์ลูกโซ่คนมาก่อนได้เปรียบ เพราะเงินผลตอบแทนรายเดือนที่เค้าได้ๆกันน่ะมันก็คือเงินที่ผู้จัดตั้งวงแชร์ดึงเอามาจาก"เงินลงทุน"ของรายต่อๆมานี่แหละ แต่ก็ยังชวนคนอื่นๆมาต่อท้ายน้ำเพราะว่าศีลธรรมเสื่อม เราคิดว่าอันเนี้ยคือ “รวยเละเทะ” แบบเละเทะจริงๆ
คุณๆคนไหนใครๆที่อยากเล่นก็ขอได้โปรดคิดดูให้ดีนะคะ ดาไลลามะเคยกล่าวไว้ว่า "เราควรตัดสินความสำเร็จของตัวเองจากสิ่งที่ต้องทิ้งไปเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จที่ว่านั่น" ... คนทุกคนสามารถบอกตัวเองได้ว่าเค้าเป็นคนอย่างไร รู้ๆกันอยู่แก่ใจน่ะแหละค่ะ จริงอยู่ที่เราทุกคนต้องเลี้ยงดูตนเอง, ลูกหลาน และบิดามารดา แต่คนที่คุณไปกล่อมเค้าให้มาเป็นเหยื่อคนถัดๆไป (จะมีคนเป็นเหยื่อแน่ๆในวันที่แชร์มันล่มอ่ะค่ะ) เค้าก็ต้องเลี้ยงดูตนเอง, ลูกหลาน และบิดามารดา เหมือนกันเป๊ะเลย จริงมั้ยคะ?
สิ่งที่เราประสบมาคืออย่างนี้นะคะ เพื่อนคนที่ว่านั่นบอกเราว่าให้ลงทุนใน "หุ้นกู้" อายุ 2 ปี และได้ผลตอบแทน ปีละ 30% รวม 2 ปีก็ 60% ... ว๊ายยย

คือถ้าเป็น venture capital ที่ลงทุนในของไฮเทค หรือเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปลี่ยนโลก หรือสร้าง platform ใหม่ๆก็อาจจะมีสิทธินะ แต่ต้องแบบโชคดีสุดสยิวด้วยนะคะ คือไม่ใช่ทุกตัวจะได้แบบนั้น
เปิดสไลด์ให้เราดู ว่ามี บ. ลูกตั้งหลายสิบแห่งในเครือ แต่เราดูๆแล้วไม่น่ามีกิจการไหนให้เงินปันผลได้ 30% ต่อปีอย่างที่เค้าว่า คือถ้าเป็น APPLE อ่ะได้นะ ราคาหุ้นขึ้นมาจาก USD 113 เมือเดือน October 2016 เป็น USD 154 วันเดียวกันปี2017 รวมปันผลอีก USD 2 โดยประมาณ คือได้มา 38% แต่ ... บ. ที่เพื่อนค้าเปิดให้เราดูว่าอยู่ในเครือนี่มันกิจการคนละประเภทกันเลยนะคะ มีโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์งี้ ร้านทองงี้
อย่างไรก็ดีพอเราขอสไลด์เพื่อจะมาวิเคราะห์กิจการ บ. ลูกต่างๆว่ามีอนาคตดีแค่ไหนเค้าบอกว่าเค้าให้เราไม่ได้ ค่ะนอกจากนี้ยังบอกอีกว่าต้องเอาเงินมาลงทุนก่อนถึงจะมีสิทธิเห็นภาพรวมของระบบ 555 ... คือเอาจริงๆนะคนเราถ้าจะขายหุ้นกู้หรือหุ้นอะไรก็แล้วแต่เค้าต้องมีหนังสือชี้ชวน (prospectus) มาให้ดูนะคะ แต่อันนี้ ช่วยลงมาก่อนถ้าไม่ชอบก็ ... ทิ้งเงินไว้ๆๆๆ แล้วค่อยรู้สึกโง่ทีหลัง (แบบที่เรียกว่า "เสียค่าโง่")
คนที่มาชวนบอกว่า มีสมาชิกใน network แล้วราวๆ 5 ล้านคน นี่ถ้าคิดกันแบบคร่าวๆ เราหักเอาจำนวนคนที่เค้ายากจนคนที่โชคไม่ดีเท่าคนอื่นในสังคมออกไป 10% (มีเว็บนึงบอกไว้ว่าสถิติเป็นเช่นนั้น) เอา 70 ล้านหักออก 7 ล้านเหลือ 63 ล้าน ... 5/63 ประมาณ 1:12 หมายความว่า ทุกๆ 12 คนมีคนอยู่ใน OD 1 คนแล้วนะเนี่ย วู๊!!
เรื่องผลตอบแทนที่สวยหรูนี่ หากดูตารางการตอบแทนของสิ่งที่เค้าเรียกว่า “หุ้นกู้” หรือจะเรียกให้เต็มยศคือ “หุ้นกู้จ่ายเงินปันผล” ซึ่งแลดูละม้ายคล้ายกะว่ามันเป็นนวัตกรรมใหม่ หรืออาจจะเป็นแค่ “ประดิษฐคำอำพราง” ถ้าเราจำไม่ผิดในระหว่าง 24 เดือนนั่นจะเห็นว่า เงินก้อนแรกๆต่ำกว่าก้อนหลังๆมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าคนจัดตั้งวงแชร์จำเป็นจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าจัดหาสมาชิกใหม่หรือเหยื่อใหม่ (ให้กับสมาชิกเดิมหรือเหยื่อเดิม) คือต้องหล่อเลี้ยงลูกโซ่ก่อน จะได้แลดูว่าใครมาเป็นสมาชิกก็มีแต่ได้กับได้ คือปั้น “ซักเซสสะตอรี่” มี success story เอาไว้ขาย แต่แน่นอน พอถึงเวลาที่แชร์มันจะล่มขึ้นมา คนที่อยู่ท้ายๆน้ำ(ที่จะกลายเป็นเหยื่อตัวสุดท้ายตัวจริงของระบบ)ก็จะไม่ได้เงินงวดใหญ่ๆนั่นคืนกลับมาแต่อย่างใด
(ต่อภาคสอง ในกะทู้ถัดไปนะคะ)
ODFX กับ OD Market นี่มันแลดูเป็นแชร์ลูกโซ่ใช่มั๊ยคะ?
เดือนที่แล้วมีเพื่อนที่ทำงานมาชวนเรา บอกเราว่ามีโอกาสการลงทุนมาแนะนำ แล้วเค้าพูดถึง ODFX กับ OD Market เราฟังๆไปมีแต่เรื่องสวยหรูที่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นจริงได้ และเรารู้สึกเหมือนว่ามันน่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ที่มาในรูปแบบใหม่ ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดแบบเราบ้างมั้ย และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็น่ากลัวคนจะติดแหกันเยอะนะคะ เพราะมันดูเย้ายวนมากเลยเรื่องผลตอบแทน
สำหรับเราเราคิดว่าคนที่เข้า network ของแชร์ลูกโซ่นี่น่าจะมีสองประเภท
ประเภทแรกคือ ... รวยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คือ “รวยไม่รู้เรื่อง” น่ะแหละค่ะ ไม่ได้รู้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอย่างทั่วถ้วน เค้าชวนลงก็ลงเพราะเห็นผลตอบแทนดี และโชคดีที่อยู่ต้นน้ำแชร์ยังไม่ล่ม ก็เลยรวย เลยได้ใจรีบไป"บอกบุญ"ชวนคนอื่นมากันใหญ่ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ (เราหวังว่าเพื่อนที่มาชวนเรานี่เค้าอยู่ในประเภทนี้นะ คือเค้าดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจว่าระบบจริงๆแล้วมันคืออะไรแต่ว่าเค้าตื่นตาตื่นใจเพราะเค้าได้ผลตอบแทนดี – สำหรับตอนนี้นะ แต่ต่อไปอาจจะไม่ดีถ้าหากว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่จริงและแชร์ล่มซะก่อนๆที่เค้าจะได้ทุนคืนหมด ลองอ่านต่อๆไปจะเห็นภาพเองค่ะ)
ประเภทที่สองคือ ... รู้ทั้งรู้ว่านี่คือแชร์ลูกโซ่ และรู้อีกว่าในทุกแชร์ลูกโซ่คนมาก่อนได้เปรียบ เพราะเงินผลตอบแทนรายเดือนที่เค้าได้ๆกันน่ะมันก็คือเงินที่ผู้จัดตั้งวงแชร์ดึงเอามาจาก"เงินลงทุน"ของรายต่อๆมานี่แหละ แต่ก็ยังชวนคนอื่นๆมาต่อท้ายน้ำเพราะว่าศีลธรรมเสื่อม เราคิดว่าอันเนี้ยคือ “รวยเละเทะ” แบบเละเทะจริงๆ
คุณๆคนไหนใครๆที่อยากเล่นก็ขอได้โปรดคิดดูให้ดีนะคะ ดาไลลามะเคยกล่าวไว้ว่า "เราควรตัดสินความสำเร็จของตัวเองจากสิ่งที่ต้องทิ้งไปเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จที่ว่านั่น" ... คนทุกคนสามารถบอกตัวเองได้ว่าเค้าเป็นคนอย่างไร รู้ๆกันอยู่แก่ใจน่ะแหละค่ะ จริงอยู่ที่เราทุกคนต้องเลี้ยงดูตนเอง, ลูกหลาน และบิดามารดา แต่คนที่คุณไปกล่อมเค้าให้มาเป็นเหยื่อคนถัดๆไป (จะมีคนเป็นเหยื่อแน่ๆในวันที่แชร์มันล่มอ่ะค่ะ) เค้าก็ต้องเลี้ยงดูตนเอง, ลูกหลาน และบิดามารดา เหมือนกันเป๊ะเลย จริงมั้ยคะ?
สิ่งที่เราประสบมาคืออย่างนี้นะคะ เพื่อนคนที่ว่านั่นบอกเราว่าให้ลงทุนใน "หุ้นกู้" อายุ 2 ปี และได้ผลตอบแทน ปีละ 30% รวม 2 ปีก็ 60% ... ว๊ายยย
เปิดสไลด์ให้เราดู ว่ามี บ. ลูกตั้งหลายสิบแห่งในเครือ แต่เราดูๆแล้วไม่น่ามีกิจการไหนให้เงินปันผลได้ 30% ต่อปีอย่างที่เค้าว่า คือถ้าเป็น APPLE อ่ะได้นะ ราคาหุ้นขึ้นมาจาก USD 113 เมือเดือน October 2016 เป็น USD 154 วันเดียวกันปี2017 รวมปันผลอีก USD 2 โดยประมาณ คือได้มา 38% แต่ ... บ. ที่เพื่อนค้าเปิดให้เราดูว่าอยู่ในเครือนี่มันกิจการคนละประเภทกันเลยนะคะ มีโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์งี้ ร้านทองงี้
อย่างไรก็ดีพอเราขอสไลด์เพื่อจะมาวิเคราะห์กิจการ บ. ลูกต่างๆว่ามีอนาคตดีแค่ไหนเค้าบอกว่าเค้าให้เราไม่ได้ ค่ะนอกจากนี้ยังบอกอีกว่าต้องเอาเงินมาลงทุนก่อนถึงจะมีสิทธิเห็นภาพรวมของระบบ 555 ... คือเอาจริงๆนะคนเราถ้าจะขายหุ้นกู้หรือหุ้นอะไรก็แล้วแต่เค้าต้องมีหนังสือชี้ชวน (prospectus) มาให้ดูนะคะ แต่อันนี้ ช่วยลงมาก่อนถ้าไม่ชอบก็ ... ทิ้งเงินไว้ๆๆๆ แล้วค่อยรู้สึกโง่ทีหลัง (แบบที่เรียกว่า "เสียค่าโง่")
คนที่มาชวนบอกว่า มีสมาชิกใน network แล้วราวๆ 5 ล้านคน นี่ถ้าคิดกันแบบคร่าวๆ เราหักเอาจำนวนคนที่เค้ายากจนคนที่โชคไม่ดีเท่าคนอื่นในสังคมออกไป 10% (มีเว็บนึงบอกไว้ว่าสถิติเป็นเช่นนั้น) เอา 70 ล้านหักออก 7 ล้านเหลือ 63 ล้าน ... 5/63 ประมาณ 1:12 หมายความว่า ทุกๆ 12 คนมีคนอยู่ใน OD 1 คนแล้วนะเนี่ย วู๊!!
เรื่องผลตอบแทนที่สวยหรูนี่ หากดูตารางการตอบแทนของสิ่งที่เค้าเรียกว่า “หุ้นกู้” หรือจะเรียกให้เต็มยศคือ “หุ้นกู้จ่ายเงินปันผล” ซึ่งแลดูละม้ายคล้ายกะว่ามันเป็นนวัตกรรมใหม่ หรืออาจจะเป็นแค่ “ประดิษฐคำอำพราง” ถ้าเราจำไม่ผิดในระหว่าง 24 เดือนนั่นจะเห็นว่า เงินก้อนแรกๆต่ำกว่าก้อนหลังๆมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าคนจัดตั้งวงแชร์จำเป็นจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าจัดหาสมาชิกใหม่หรือเหยื่อใหม่ (ให้กับสมาชิกเดิมหรือเหยื่อเดิม) คือต้องหล่อเลี้ยงลูกโซ่ก่อน จะได้แลดูว่าใครมาเป็นสมาชิกก็มีแต่ได้กับได้ คือปั้น “ซักเซสสะตอรี่” มี success story เอาไว้ขาย แต่แน่นอน พอถึงเวลาที่แชร์มันจะล่มขึ้นมา คนที่อยู่ท้ายๆน้ำ(ที่จะกลายเป็นเหยื่อตัวสุดท้ายตัวจริงของระบบ)ก็จะไม่ได้เงินงวดใหญ่ๆนั่นคืนกลับมาแต่อย่างใด
(ต่อภาคสอง ในกะทู้ถัดไปนะคะ)