ผมขับรถไปธุระที่ กทม.พร้อมกับแฟนและแม่แฟน และพักกินข้าวที่สมุทรสาคร ในเวลานั้นฝนตกหนักมาก มีน้ำขังบริเวณทางออกพอสมควร ผมคิดว่าน้ำคงไม่สูงมากเลยขับรถฝ่าน้ำไปและรถก็ดับ ผมพยายามสตาร์ท 1 ครั้ง ก็ไม่ติด เลยหยุดสตาร์ท เผอิญมีพี่ใจดีช่วยลากรถขึ้นมาจากบริเวณที่น้ำขังให้ แล้วผมก็ลองสตาร์ท 2 ครั้ง รถก็ติดแต่มีสัญลักษณ์ไฟเตือนห้องเครื่องโชว์ขึ้น ณ ตอนนั้นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งแฟน ผม และแม่แฟน มีอาชีพเป็นครู วันจันทร์ก็มีสอนตอนเช้าและส่งผลคะแนนสอบตอนเช้า ผมจึงขับรถกลับมาที่จังหวัดชุมพร และขับย้อนกลับมาจอดรถในบ้านพักครูที่อำเภอบางสะพาน จากนั้นผมก็ไม่ได้ใช้รถอีกเลย ผ่านไปประมาณ 2 วันไฟเตือนดับลง ผมเลยขับรถไปรับแฟน ซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนที่ผมสอนมากนัก ประมาณ 20 กม. ในจังหวะที่ผมกำลังเร่งเครื่องแซงรถกระบะ ผมขับประมาณ 90 กม./ชม. ก็ได้เกิดเหตุเครื่องยนต์รถแตก น้ำมันเครื่องไหลเต็มทาง ผมเลยจอดข้างทางและแจ้งประกันให้รถยกมายกไปที่โชว์รูมที่จังหวัดชุมพร จอดแช่ไว้อย่างนั้นผ่านไป 2 อาทิตย์ ประกัน วรย. โทรมาบอกว่าจ่ายคนละครึ่ง เพราะคุณได้ฝืนขับรถไม่ยอมแจ้งประกันตอนที่รถดับในน้ำ (เอ้าผมฝืนยังไง ไฟแจ้งเตือนดับแล้ว) ผมอยากทราบว่าผมฝืนหรือครับในเมื่อไฟเตือนห้องเครื่องดับแล้ว จากนั้นเครื่องยนต์ก็มาแตก นี่ถ้าไม่ได้มีเหตุการณ์น้ำท่วม ไม่มีไฟแจ้งเตือนโชว์ขึ้น ผมขับรถแล้วอยู่ๆ เครื่องยนต์เกิดแตกขึ้น ผมจะโดนบิดเงื่อนไขว่าฝืนใช้รถหรือเปล่าครับ
ทำประกันชั้น 1 ของ วรย. ใช้รถแค่ 3 เดือน เครื่องพัง จ่ายคนละครึ่ง ? บิดเงื่อนไขคนขับฝืน ช่วยผมด้วยครับ