ซาปา-เวียดนาม #เวียดนามพังพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ทำไมเวียดนามถึงพัง  ก็พวกกุนี่หละทำพัง  อย่าคาดหวังอะไรจากกระทู้นี้สาระไม่มีให้ รูปสวยๆก็ไม่มี  ฮ่าๆๆ  มีแค่เรื่องราวบ้าบอของพวกเราที่อยากแบ่งปันเท่านั้นเอง ^^

#เวียดนามพังพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม  #มากับอังพังทุกงาน  #มากับเดียร์เบียร์ไม่ขาด

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะมีเพื่อนมาถามกันบ่อยว่าเมิงไปซาปามาแล้วมันมีไรมั่งอ่ะกุว่าจะไป  เอ๊??มันมีอะไรบ้างหว่าตอบไม่ถูกเอารูปไปดูละกัน  ก็ส่งรูปที่มีให้มันไปพร้อมกับบอกว่ากุจะไม่บอกควรไปหรือไม่เพราะความชอบของแต่ละคนมีไม่เท่ากันความประทับใจต่างกัน  แต่ที่ไหนที่เมิงไม่เคยไปมันมักมีอะไรให้ได้ตื่นเต้นตลอดเวลาแหละ  นั่นคือจุดเริ่มต้นของการอยากเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา  นั่งดูรูปเรากับชาวแก๊งค์ที่ไปบุกซาปามาเมื่อตอนต้นปี(2560)  แค่เห็นรูปยิ้มก็ยิ้มได้แล้วภาพทุกภาพมันมีคาวมหมายและมีเรื่องราวของตัวมันเอง  ทริปนี้มันสุขและสุดจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าเรามันเป็นสายแฮงค์เอ๊าท์เน้อ  ความตั้งใจแน่วแน่ของทริปก็คือเวียดนามเบียร์ถูกและอาจเจอหิมะที่ซาปาก็เป็นได้  พร้อมจะฟังเรื่องราวการเดินทางแบบพังพังของพวกเรารึยัง(อย่าเพิ่งปิดหนีอ่านต่อก๊อนน ^^)  ทริปบ้าๆที่มีผู้ร่วมชะตากรรมถึง 14 ชีวิต  มีทั้งคนที่รู้จักกันมาก่อนและเพิ่งรู้จักกันก็มี  พวกเราต้องอยู่ด้วยกัน  6 วัน 5 คืน  ก็คงจะมีตีบ้างหละนะทำใจไว้ก่อน!!  พวกเราไม่เคยมีใครไปซาปามาก่อน  ไปกันแบบไม่รู้อะไรเลยเนี่ยโคตรสนุกเลย

มันเริ่มจากการที่เราได้ตั๋วโปร ไป-กลับ ฮานอย ในราคา 2,800 บาท  จองล่วงหน้าตั้งแต่กันยายน 2559   เพื่อจะเดินทางกันในวันที่ 13-18 มกราคม 2560  รวมตัวคนกล้าได้  6 คน  พวกเราจะไปจิบเบียร์และดูหิมะที่เวียดนามเว๊ยเฮ้ย  ด้วยระยะเวลาที่เราจองล่วงหน้านานๆ  เวลาเจอหน้าใครก็ชวนเขาไปทั่ว เฮ้ย!! ไปซาปากับพวกกุป่าววว  แล้วหลังจากนั้นก็มีคนหลงผิดมาทีละคนสองคน  จนรวมตัวกันได้ 14 ชีวิต แบ่งกันเป็น  2 สายการบิน
นกแอร์  :  อัง  เบญ  เดีย  เบญ  เบนซ์  ปาร์ค   ตามมาด้วย   ใหม่  แชมป์  บูล  ติม  เปิ้ล
แอร์เอเชีย  :  ปอ  โบว์  โอม


ความตั้งใจของเราคือ “จิบเบียร์ชมหิมะ ณ ซาปา” ทำตัวชิคๆบนรถไฟนอน  แต่สมาชิกเราเยอะและบินไฟล์เย็นซึ่งจะลำบากเรื่องการเข้าเมืองเพื่อไปต่อรถไฟ การจองตั๋วล่วงหน้าคงจะดีที่สุดกันพลาด!!  และเราก็เลือกใช้เอเจนซี่ชื่อดัง ที่แนะนำกันมาใน pantip เนี่ยหละคือ คุณหงา คาราวานน  เฮ้ยย มะช่ายย  มิสหงา  Bui Thi THanh Nga  ขอยืนยันอีกเสียงว่านางน่ารักมากตอบคำถามเราทุกข้อสงสัย  ถามตอบกันเป็นเดือนกว่าจะจองไม่มีหงุดหงิด(หรือหงุดหงิดแต่เราไม่รู้ ฮ่าๆๆ)ร่ายมาซะยาวว  เริ่มต้นเดินทางไปกับพวกเราดีกว่า  นี่คือแพลนของเรา มีแค่นี้จริงๆ ที่เหลือเจอกันหน้างานฮะ
13 ม.ค 60    เจอกันสนามบิน ถึงฮานอย  นอนบนรถไฟ ไปซาปา (จองแล้ว)
14 ม.ค 60    นอนบซาปา (จองแล้ว)
15 ม.ค 60    นอนซาปา  (จองแล้ว)
16 ม.ค 60    นอนซาปา  (ยังไม่ได้จอง)
17 ม.ค 60    นอนฮานอย  (ยังไม่ได้จอง)
18 ม.ค 60    หมดเวลาสนุก คอตกกลับประเทศไทย

สิ่งที่ได้จากการจองตั๋วล่วงหน้า  (ประมาณคนละ 1,700 บาท)  กับมิสหงา   https://www.facebook.com/Ngabeauty79  
รถรับส่งสนามบิน - รถไฟ - รถจากลาวไกไปซาปา  และขากลับ รถบัสจากซาปา - ฮานอย - รถจากฮานอยไปสนามบิน  
ส่วนที่พักเราหาเองแบบงงๆ ใน agoda กับ booking เนี่ยหละ  เห็นวิวสวยดีจองที่นี่ละกัน ^^ (จำชื่อที่พักไม่ได้แฮะ)

Day 1   เวลาที่พวกเรารอคอยมาถึงแล้วพวกเรานัดรวมตัวกันที่สนามบินดอนเมืองในเวลาห้าโมงเย็น  
#เวียดนามพังพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม   let’s  goooo


ความพังแรกเริ่มจากสมาชิกของเราตกเครื่อง 2 คนจร้า  หนึ่งในนั้นก็คือข้าพเจ้าเองสาเหตุของการตกเราจะไม่พูดถึงมันให้ช้ำใจTT  เดินหน้าเศร้าไปหาเพื่อนและบอกว่า พวกเมิงกุตกเครื่องเขาไม่ให้กุเชคอินอ่ะ(มาเหรดไป 5 นาที) ทุกคนคิดว่าเราอำแต่เปล่าเลยกุตกเครื่องจิงๆไม่ได้โม้  ยังไงหละทีนี้บ๊ายบายกันตรงนี้เลยไหม>.<   ไม่ได้โว๊ยยยกูอยากไป Dakเบียร์ดูหิมะตกที่เวียดนามกับพวกเมิงงง  มันเหลือสายการบินไหนไปฮานอยมั่งวะเนี่ยแล้วก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า เฮ้ยยมีของหางแดงอยู่ไปไหม??  เอ้ารอไรหละวิ่งดิวิ่งไปจองอย่างรวดเร็วววว(รู้สึกรักหางแดงขึ้นมาทันที) Now everyone can Fly #airasia  (นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนะ แค่อยากขอบคุณที่ทำให้เราได้ไปพังเวียดนาม)  เมิงได้ไปต่อแล้วเดี๋ยวเจอกันนะฮานอยไปนอนชิวต่อบนรถไฟไปซาปากัน


    ประมาณสองทุ่มกว่าๆเราก็มาถึงสนามบินฮานอย  เพื่อนกลุ่มแรกได้เดินทางมาถึงก่อนประมาณ 15 นาที  หลังจากผ่าน ตม. ลงไปมองหาป้ายที่เขาบอกว่าจะมารับแต่ก็ไม่เจอวิ่งวนไปมาเกือบครึ่งชั่วโมง เฮ้ยเพื่อนกุหายไปไหนหมดว๊ะ  รีบไปซื้อซิมเน็ตเพื่อติดต่อเอเจนที่ดีลไว้  ปรากฏว่าเราสื่อสารกันผิดพลาดเรื่องเวลาและเขากลัวจะไปไม่ทันรถไฟเลยพาเพื่อนเราไปก่อน  ทิ้งพวกกุอีก 5 ชีวิตไว้ที่สนามบินและส่งรถคันใหม่มารับแทน  และแล้วกุก็ตกรถไฟอีกครั้งTT  มันคือความพังที่สองของวันนี้  ที่วาดฝันไว้ว่าจะได้นอนชิวๆบนรถไฟสลายหายวับไปกับตา แงงง >.<   แต่มิสหงาเขาก็น่ารักรีบติดต่อจองรถบัสนอนให้เราแทน  ไปถึงซาปาเหมือนกันแต่มันไม่คูลเหมือนรถไฟอ่ะแกร  แต่ก็ต้องไปเดี๋ยวตามเพื่อนไม่ทัน งือออ

ชิวกันบนรถไฟไม่เกรงใจคนจองอย่างกุเลยนะ


รถบัสพาเรามาถึงซาปาประมาณตีห้าซึ่งเขาจะจอดให้เรานอนต่อได้ถึง 6 โมงเช้าก่อนจะไล่เราลงจากรถ  แต่เราตื่นเร็วเพราะรู้สึกเมื่อยมากขอลงไปสำรวจแถวนี้หน่อยละกันมันมีอะไรบ้าง  พอลงจากรถมาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้  แถมรอบรถยังมีสายตาจ้องมองมาที่เราพร้อมกับพูดว่า@$%^&&%#^ ฟังไม่รู้เรื่องเว้ยยย  แต่เดาว่าเขาน่าจะเป็นพวกแท๊คซี่รอรับคนไปส่งที่พักอะไรประมาณนี้  แต่เราไม่สนทำตัวเก๋าเดินเหมือนกูมาบ่อยอ่ะแต่จริงๆคือกูงงอยู่ ฮ่าๆๆๆ  มองไปข้างหน้าเห็นร้านกาแฟห้องแถวก็รีบถลาเข้าไปเลย  มีไฟให้ผิงด้วยนะเออรีบพุ่งตัวไปอย่างไวสั่งกาแฟอุ่นๆ นั่งผิงไฟทำตัวชิคๆรอเพื่อนดีกว่า


พอฟ้าสางเพื่อนที่เหลืออีก 4  ชีวิตก็ตื่นลงมาจากรถด้วยความหิวโหย  สั่งอะไรดื่มแก้หนาวพร้อมกับอาหารเช้ามื้อแรกในเวียดนาม  



ฟ้าสางกับหมอกบางๆและอาหารมื้อแรก  เรื่องเริ่มสวยทริปกุไม่พังละเว้ยยย  กินอิ่มหนำสำราญทีนี้ก็ถึงคราวที่เราจะต้องเดินทางเข้าที่พัก  เพื่อนกลุ่มแรกได้รอเราอยู่ที่นั่นเพราะพวกมันมีรถไปส่งถึงหน้าที่พักเลย กุจองเองกับมือจร้า    ตัดภาพกลับมาที่เรา มีเนวิเกเดียร์ผู้เชี่ยวชาญด้าน  googlemap  จะเป็นผู้นำทางเราไปยังที่พักพร้อมกับบอกว่าเฮ้ยแค่นี้เองเดินไปไม่ไกลหรอก  โอเครเดินก็เดินลุยเว้ย


และนี่คือทางที่ googlemap  พาเรามา ยืนอึ้งไปนิดพร้อมกับเสียงที่ว่า นี่มันทางลัดเว้ยไปๆๆๆ


ถึงแล้วเว้ยยย  ในที่สุดก็อยู่กันครบ 14  คนซักกะที  ความสนุกกำลังจะเกิดขึ้นแล้วววว
การจองที่พักของเราก็เหมือนซื้อหวยอ่ะ เพราะทุกคนไม่เคยมาไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ดีหรือไม่ดีใกล้หรือไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวรึเปล่าไม่อาจทราบได้  ในส่วนของเราเลือกที่นี่เพราะวิวจากที่พักในรีวิวมันสวย  และหวยของเราก็ออกมาเป็นแบบนี้จร้า


แต่พอหมอกจางลงก็จะเป็นแบบนี้


ถือว่าถูกหวยรางวัลเล็กๆโดยรวมคือดีย์  เราชอบนะวิวดีและไม่ได้อยู่ในชุมชนที่วุ่นวายพนักงานน่ารักบริการเป็นกันเอง  ที่พักในซาปาจะไม่มีแอร์แต่จะมีแผ่นฮีตเตอร์ให้บนเตียงเพราะอากาศเย็นตลอดทั้งปี  ตอนแรกโง่ไง(คือโง่ตั้งแต่ตกเครื่องละ ><) นอนเล่นอยู่ละแบบทำไมมันร้อนๆวะเด้งตัวออกจากเตียง  จนเพื่อนบอกว่ามันมีที่แผ่นฮีตเตอร์วางอยู่ใต้ผ้าปูที่นอนมีปุ่มปรับอุณหภูมิเวลานอนจะได้อุ่นๆๆ  อ๋ออออ มันเป็นแบบนี้นี่เอง

เก็บสัมภาระกันเรียบร้อยก็พร้อมที่จะไปสำรวจเมืองกันแล้ว ถือกล้องคนละตัวสองตัวจะไปถ่ายรูปกับวิวสวยๆๆ  
ฉันมาทำอะไรที่นี่?? ไปไหนต่อดี มาที่นี่เขาต้องไปไหนกันหรอ??  นั่นน่ะซิเดินไปเรื่อยๆละกันเนอะ มาๆๆ  ไปลุยเมืองซาปากันดีกว่า  ตามมาโลด  
เป็นที่รู้กันว่าเวียดนามเบียร์ถูกและความตั้งใจของพวกเราคือกุจะกินมันทุกยี่ห้อเลย  โฮ๊ะๆๆๆ

ฮิปสะเตอร์บนกองอิฐ


ที่เห็นในภาพคือวิธีการสูบยาเส้นของที่นี่เจ้ากระบอกอันนี้มีเกลื่อนเมืองเลยนะ  จอมซนอย่างพวกเราจะพลาดได้ไง



ฝนก็ตกหมอกก็หนา วิวสวยๆกุอยู่หนายยยย ฮ่าๆๆ


มาซาปาหน้าหนาวหมอกก็จะเยอะแบบนี้หละ ภาพที่ได้ก็จะคูลๆๆ ไปอีกแบบ



นี่คือต้นซากุระ(มั้ง) เราเห็นบางคนก็แบก บางคนก็ขนใส่มอเตอร์ไซด์ แต่เอาไปไหนไม่ร็




เดินไปสักพักก็เริ่มหิว  เจอขนมอันนี้ขายข้างทางเรียกอะไรไม่รู้แต่โคตรอร่อย อันละ 20 บาทไทย




ร้านมินิมาร์ทที่มีเบียร์ราคาถูกรอเราอยู่ รีบบุกเข้าไปคว้ามันมา




เดินลัดเลาะกันไปเรื่อยแบบไม่มีจุดหมาย  และก็ได้เจอร้านปิ้งย่างข้างทาง (หิวอีกแล้ว)



ซาปาก็คล้ายกับภาคเหนือบ้านเรา จะมีเด็กชาวเขามาเดินขายของเต็มไปหมดเลย  ด้วยความที่ช่วงนั้นเป็นช่วงวันเด็กก็เลยใจดีมานี่มาพี่อุดหนุดทุกคนจร้า


หลังจากอุดหนุดกันไปคนละ 1 ชิ้น  ความซวยก็บังเกิดอีกล้าว คือเราเลือกมาคนละอย่าง มีพวกกุญแจกับเชือกผูกข้อมือ  
ทีนี้เจ้าเด็กจอมตื๊อมันจะให้เราซื้ออีกชิ้นนึงแต่คือกุไม่เอาแล้วเว้ยย เด็กมันก็ตามเหมือนเป็นวิญญานสิงกุเลยตามไปทุกที่ TT
เข้าห้องน้ำก็ตาม จะถ่ายรูปก็มายืนเฝ้า  กว่าจะสลัดออกจากชีวิตได้ต้องเป็นนางมารร้ายมาก ผลักกระเด็นเลย ><


อยากเตือนทุกคนไว้นิดเนิงไม่ต้องใจดี ให้เดินหนีไปเลยเขาจะหายไปเองแต่เด็กน่ารักก็มีนะเลือกดูละกัน

หมดไปครึ่งวันแล้ว ขอกลับไปงีบแป๊บน๊า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่